สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 1273 หญิงรับใช้ของคุณชายเย่1173

ตอนที่ 1273 หญิงรับใช้ของคุณชายเย่1173
เซี่ยชีหรั่นสำรวจตัวเองอยู่สักครู่ ก็เอ่ยถามว่า “แย่ขนาดนั้นเลยเหรอ?”
เซวียเหวินยูนพยักหน้าพร้อมกับเอ่ยวิจารณ์อย่างไม่ไว้หน้า “ไม่หลงเหลือความสวยไว้เลยสักนิด”
“เหวินยูน เธอเป็นใครเหรอ?” หญิงสาววัยแรกแย้มลงมาจากรถ สูงยาวเข่าดีได้มาตรฐาน เซี่ยชีหรั่นจึงต้องเงยหน้ามองหญิงสาวเซ็กซี่ตรงหน้าอย่างยากลำบาก
เซวียเหวินยูนหลบหลีกมือของหญิงสาวที่กำลังจะคล้องแขนตัวเองอย่างแนบเนียน จากนั้นก็พูดเสียงนิ่งว่า “ฉันบอกแล้วไงว่าอย่าพยายามแตะตัวฉัน” หญิงสาวยิ้มออกมาอย่างเก้ๆกังๆ ตามมาด้วยน้ำเสียงออดอ้อน “ก็ฉันลืมตัวนี่นา บอกมาก่อนว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใคร แม่บ้านของคุณหรือเปล่า?” เซี่ยชีหรั่นหัวเราะออกมาแต่ไม่ได้โต้แย้งแต่อย่างใด กลับเป็นเซวียเหวินยูนที่แสยะยิ้มออกมาอย่างไม่พอใจ “ถ้าผู้หญิงคนนี้เป็นแม่บ้านเธอก็ไม่มีปัญญาจ้างผู้หญิงคนนี้ไปทำความสะอาดหรอก”
“นี่! เซวียเหวินยูนมันจะมากเกินไปแล้วนะ ฉันก็แค่อยากรู้ว่าเธอเป็นใครเท่านั้นเอง” หญิงสาวเบิกตากว้าง ดวงตาภายใต้เครื่องสำอางเริ่มแดงกกล่ำขึ้นมา
เหวินยูนขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่ทันใดคิ้วคมก็พลันขยายออกจากกันพร้อมกับพูดกับหญิงสาวว่า “อยากรู้ไหมว่าเธอเป็นใคร?” เขาพูดพร้อมกับดึงเซี่ยชีหรั่นเข้ามาหา แล้วหันไปพูดกับผู้หญิงที่กำลังเบิกตาอ้าปากค้างว่า “เธอคือผู้หญิงคนเดียวที่สามารถแตะต้องฉันได้”
หญิงสาวมองเซวียเหวินยูนโอบไหล่เซี่ยชีหรั่นอย่างตกใจ. จากนั้นก็มองการแต่งตัวของชีหรั่น อดพูดพึมพำขึ้นไม่ได้ว่า “ที่แท้ก็ชอบแบบนี้นี่เอง”
เมื่อผู้หญิงคนนั้นเดินจากไป เซวียเหวินยูนก็รีบปล่อยเซี่ยชีหรั่น เซี่ยชีหรั่นไม่รอให้เซวียเหวินยูนพูดอะไรก็ชิงพูดออกมาก่อนว่า “ไม่รับคำขอบคุณเป็นนมนะ”
เซวียเหวินยูนเลิกคิ้ว หัวเราะแล้วพูดว่า “ดูเหมือนคำขอบคุณในวันนี้คงต้องใช้เงินจ่ายแล้วล่ะ งั้นผมพอจะมีเกียรติได้เลี้ยงคุณสักมื้อไหม”
รถเฟอรารีคันสีแดงแล่นไปตามถนน จากนั้นก็เห็นรถสองสามคันขับตามมาเงียบๆ เซวียเหวินยูนมองกระจกหลังแล้วจู่ๆก็พูดว่า “แอบหนีออกมาสินะ”
เซี่ยชีหรั่นตกใจในทันที “คุณรู้ได้ยังไง?!”
เซวียเหวินยูนบุ้ยปากไปทางกระจกหลังแล้วพูดยิ้มๆว่า “จับดีๆนะ” เซี่ยชีหรั่นมองเซวียเหวินยูนอย่างแปลกใจแต่ก็ยอมจับประตูรถเอาไว้ตามที่เขาบอก
เซวียเหวินยูนหัวเราะออกมา จากนั้นก็เพิ่มความเร็วขับเบียดรถข้างหน้า จนรถทุกคนบนถนนต้องเปิดทางให้ แต่รถคันข้างหลังก็ขับตามมาอย่างไม่ถอดใจ
“เย่เชินหลินนี่ลงทุนจริงๆ” เซวียเหวินยูนมองรถที่ขับตามมาผ่านกระจกหลังด้วยความตื่นเต้น ขับมาได้ไม่นาน ข้างหน้าก็มีด่านตรวจ ซึ่งแต่ละคันช้ามากตรวจ
“แปลกจัง ปกติตรงนี้ไม่เคยมีด่านนี่นา” เซวียเหวินยูนลูบคาง จากนั้นก็นึกไปถึงผู้บงการอยู่เบื้องหลัง จึงหัวเราะออกมา มีแค่เย่เชินหลินเท่านั้นแหละที่ใหญ่ขนาดนี้
รถสปอร์ตสี่คันขับเรียงกัน มีรถมาเซราตีขับเข้ามาตรงกลาง จากนั้นผู้ชายในชุดสูทสีดำก็เดินลงมาจากรถ มองรถเฟอร์รารี่ที่ถูกล้อมเอาไว้ด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
“ดูเหมือนข้าวมื้อนี้คงต้องเอาไว้เลี้ยงคราวหน้าแล้วล่ะ” เซวียเหวินยูนมองผู้ชายเคร่งขรึมที่พกพารังสีไม่น่าเข้าใกล้ผ่านกระจกหลัง แล้วจึงพูดยิ้มๆออกมา
เซี่ยชีหรั่นถอนหายใจ ตอนแรกเธอคิดว่าจะหนีออกมาได้นานแล้วแท้ๆ เธอจึงบอกลากับเซวียเหวินยูน แล้วลงมาจากรถ
เมื่อเย่เชินหลินเห็นการแต่งกายของเซี่ยชีหรั่นสีหน้าก็เปลี่ยนไป เขาเข้าไปโอบเอวเซี่ยชีหรั่นแล้วกระซิบข้างหูเสียงเบาว่า “ครั้งนี้พัฒนาขึ้นนี่ รู้จักใช้มุกสลับตัวด้วย”
เซี่ยชีหรั่นก้มหน้าลงอย่างอายๆ “ชุดนี้ฉันขอเปลี่ยนกับคุณแม่คนอื่น”
เย่เชินหลินนิ่งไปเล็กน้อย โอบไหล่เซี่ยชีหรั่น แล้วจับยัดเข้าไปในรถ จากนั้นรถก็ขับพุ่งออกจากเส้นเหลือง
ณ ร้านขายเครื่องแต่งกาย เมื่อดีไซเนอร์เห็นเย่เชินหลินก็เอ่ยถามสารทุกข์สุขดิบอย่างนอบน้อม “คุณเย่” จากนั้นสายตาก็มาหยุดที่เซี่ยชีหรั่น มองสำรวจเซี่ยชีหรั่นอย่างสงสัยอยู่หลายรอบถึงได้ถามขึ้นมาว่า “คุณเซี่ย?”
“เสื้อผ้า” เย่เชินหลินพูดออกมาอย่างรวบรัด
ดีไซเนอร์เข้าใจในทันที จึงเดินนำเซี่ยชีหรั่นเข้ามาในห้องลองชุด ไม่นานหลังจากนั้นเซี่ยชีหรั่นก็ออกมาด้วยลุคใหม่
“คุณเซี่ย ครั้งหน้าไม่ต้องลองแต่งลุคแปลกๆแบบนั้นแล้วนะคะ” ดีไซเนอร์เอ่ยพูดออกมาอย่างฉะฉาน
เย่เชินหลินเหลือบมองดีไซเนอร์นิดๆ แล้วโอบไหล่ของเซี่ยชีหรั่นอย่างพึงพอใจ ข้างนอก แม่บ้านเดินถือโทรศัพท์เข้ามาพูดกับเซี่ยชีหรั่นและเย่เชินหลินว่า “เมื่อสักครู่หมอถังโทรมาบอกว่า ภรรยาที่อยู่อเมริกาจะคลอดก่อนกำหนดก็เลยต้องรีบกลับประเทศ คุณหมอเขาถามว่ารบกวนคุณนายไปอบรมก่อนคลอดกับหมอเฟ่ยเพื่อนของหมอถังแทนได้ไหม”
เย่เชินหลินขมวดคิ้ว หลังจากเกิดเรื่องของโยวจื๋อเขาก็ติดตามปัญหาทางด้านการแพทย์ของเซี่ยชีหรั่นเป็นอย่างมาก เขาจึงหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรบอกชื่อศูนย์อบรมกับชื่อคุณหมอให้จางเฟิงอี้ไปตรวจสอบ
เซี่ยชีหรั่นรู้ว่าเรื่องของโยวจื๋อทำให้เย่เชินหลินรู้สึกไม่ปลอดภัย และเธอก็รู้สึกขอบคุณที่เขาเป็นกังวลเรื่องเธอถึงขนาดนี้ ครึ่งชั่วโมงต่อมา ทั้งคู่ก็มาปรากฏตัวที่ศูนย์อบรม
เฟ่ยหลอมองท่าทางเคร่งขรึมของเย่เชินหลินอย่างขำๆ. จากนั้นก็พูดเสียงนุ่มขึ้นมาว่า “คุณเย่ ที่นี่ไม่ใช่สถานที่เจรจาธุรกิจ ข้างๆยังมีคนที่คุณรักแล้วไหนจะลูกของคุณอีก. คุณผ่อนคลายหน่อยก็ได้นะ”
สีหน้าของเย่เชินหลินเปลี่ยนเป็นไม่ชอบใจ เซี่ยชีหรั่นจึงรีบแก้ไขสถานการณ์ “งั้นเรามาเริ่มกันเลยดีกว่า”
เฟ่ยหลอ จึงเอ่ยออกมาอย่างรู้สึกผิด “วันนี้อาจจะขอรบกวนคุณทั้งสองด้วยนะครับ พอดีมีคุณแม่อีกสองสามคนก็จะเข้ามาที่นี่เหมือนกัน สามารถอบรมด้วยกันได้ไหมครับ”
เย่เชินหลินควักโทรศัพท์ออกมา เซี่ยชีหรั่นจึงจับมือของเย่เชินหลินเอาไว้พร้อมทำตาปริบๆ “จะมีหม่ามี๊หลายๆคนมาอบรมด้วยกันใช่ไหมคะ?”
เฟ่ยหลอพยักหน้า เมื่อเห็นเย่เชินหลินยอมเก็บโทรศัพท์เพราะเซี่ยชีหรั่นเป็นฝ่ายห้ามเอาไว้ จึงแอบทอดถอนหายใจออกมาเบาๆ บนโลกนี้ยังมีคนสามารถปราบเย่เชินหลินได้อยู่นี่เอง
ภายในห้องเรียนที่กว้างขวาง คุณแม่ทั้งหลายต่างชายตามองมาทางเย่เชินหลินบ่อยๆ ตบท้ายด้วยการหันมองสามีของตัวเองพร้อมกับโอดครวญออกมา “ดูเขาสิเป็นถึงมหาเศรษฐี! หน้าตาก็ดีอย่างกับลูกครึ่ง! ที่สำคัญคือดูรักเมียมาก ทำไมฉันมาแต่งงานกับคุณนะ”
ชายหนุ่มเห็นภรรยาวิจารณ์ตัวเองจึงบ่นพึมพำขึ้นมาเหมือนกัน “งั้นคุณก็ต้องดูภรรยาของเขาเหมือนกัน เป็นถึงดีไซเนอร์ชื่อดัง ท้องอยู่แต่หุ่นยังดีมากๆ หน้าตาก็สวยเกินมนุษย์มนา”
ทั้งสองโต้เถียงกันจนเสียงเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ เย่เชินหลินจึงตวัดตามอง ทุกคนจึงเงียบปากลงแต่โดยดี ไม่กล้าส่งสายตามาทางนี้อีกแล้ว
“เอาล่ะ คุณพ่อทั้งหลาย ตอนนี้รบกวนทุกท่านยกหัวของเด็กขึ้นมาครับ” เฟ่ยหลอจับตุ๊กตาปลอมขึ้นมาอธิบายให้ทุกคนฟัง
เย่เชินหลินแกะกระดุมข้อมือออก แล้วมองท่าทางการอุ้มของเฟ่ยหลออยู่สักพัก จากนั้นก็อุ้มลูกขึ้นมาอย่างถูกต้อง ผิดกับสามีคนอื่นที่ทำหัวลูกเบี้ยวบ้างบิดบ้างจนภรรยาเอือมระอา
“ทำไมคุณดูคล่องจัง?” เซี่ยชีหรั่นเอ่ยถามอย่างแปลกใจ
ใบหน้าของเย่เชินหลินก็ปรากฏริ้วแดงจางๆขึ้นมา เพราะว่าเมื่อวานก่อนนอนเขาอ่านเจอบทความนี้พอดี
เฟ่ยหลอพยักหน้าอย่างพึงพอใจ จากนั้นก็พูดว่า “เชิญคุณพ่อวางเด็กลงในกะละมังอาบน้ำได้เลยครับ ต้องระวังอย่าให้น้ำท่วมจมูกเด็กนะ ไม่อย่างนั้น…….”
“คุณพ่อ น้ำลวกหนูแล้ว…….” จู่ๆตุ๊กตาปลอมก็ส่งเสียงอัตโนมัติออกมา เฟ่ยหลอมองเย่เชินหลิน แล้วพูดยิ้มๆว่า “ไม่อย่างนั้นเด็กก็จะส่งเสียงออกมาในลักษณะนี้เหมือนอย่างกรณีของคุณเย่”
เย่เชินหลินจึงพุ่งสมาธิทั้งหมดมาที่การกระทำตรงหน้า เซี่ยชีหรั่นเบนสายตามองมือของเย่เชินหลิน ถึงได้พบว่านิ้วมือของเย่เชินหลินสั่นเล็กน้อย เธอจึงเอ่ยถามเสียงเบาว่า “คุณตื่นเต้นเหหรอ?”
เย่เชินหลินหยุดมือทันที แล้วหันมามองเซี่ยชีหรั่น ในดวงตาปรากฏแววข่มขู่ออกมาอย่างชัดเจน เซี่ยชีหรั่นจึงรีบหุบปากอยู่นิ่งๆแต่โดยดี
เมื่อเดินออกมาจากศูนย์ฝึก เย่เชินหลินก็ผ่อนคลายลงเล็กน้อย ฝ่ามือเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อ เซี่ยชีหรั่นขึ้นไปนั่งบนรถ จากนั้นก็ส่งเสียงอุทานออกมา
เย่เชินหลินยื่นมือออกไปเปิดประตูรถก่อนเป็นอันดับแรก บอดี้การ์ดสี่ห้าคนกำลังเล็งปืนใส่อะไรบางอย่างในอ้อมกอดของเซี่ยชีหรั่นสิ่งนั้นคือ….แมว!
เย่เชินหลินโบกมือ เหล่าบอดี้การ์ดจึงเก็บปืนแล้วสลายตัวไป เซี่ยชีหรั่นลูบขนแมวสีขาวแล้วพูดกลั้วยิ้ม “ฉันขึ้นรถมามันก็กระโจนเข้าใส่ฉันเลย ฉันตกใจแทบแย่”
แมวสีขาวตัวอ้วนกลมเลียมือของเซี่ยชีหรั่นอย่างอ้อยอิ่ง เย่เชินหลินขมวดคิ้ว เอื้อมมือออกไปกำลังจะจับดูว่าแมวมีป้ายหรือปอกคอติดตัวหรือไม่ แต่เหมือนเจ้าแมวจะความรู้สึกไว มันจึงใช้อุ้งมือข่วนมือของเย่เชินหลินจนได้เลือด
เมื่อเซี่ยชีหรั่นเห็นสีหน้านิ่งค้างของเย่เชินหลิน จึงรีบจับเจ้าแมวเข้ามาสั่งสอน “เป็นเด็กดีไม่ควรข่วนคนอื่นไปทั่วนะรู้ไหม” แมวขาวเหลือบมองเย่เชินหลินราวกับเข้าใจที่เธอพูด จากนั้นก็หันตูดใส่เขา แล้วไถหัวออดอ้อนบนแขนของเซี่ยชีหรั่น
เย่เชินหลินปิดประตูรถด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ เซี่ยชีหรั่นมองเย่เชินหลินอย่างนึกสงสาร “เราเลี้ยงมันได้ไหม ฉันดูแล้วก็เหมือนจะไม่มีอะไรติดตัวมันมา ไม่น่าจะมีเจ้าของนะ”
เย่เชินหลินเหลือบมองแมวขาวนิ่งๆ เป็นแมวพันธุ์ขาวมณีที่มีดวงตาสองข้างคนละสี ราคาซื้อขายส่วนใหญ่ไม่ต่ำกว่าสามพันดอลล่า
เจ้าแมวขาวเองก็เหมือนจะรู้ว่าเย่เชินหลินกำลังมองสำรวจมัน ดวงตาข้างหนึ่งสีเหลืองข้างหนึ่งสีฟ้าจึงจดจ้องมาที่เย่เชินหลินเหมือนกัน ภายในรถตกอยู่ในความเงียบชั่วคราว เย่เชินหลินมองแมวขาวตรงหน้าด้วยแววตาอ่านยาก
“เหมี๊ยว……” แมวขาวเป็นฝ่ายยอมถอย ปีนลงจากตัวของเซี่ยชีหรั่น แล้วส่งเสียงร้องออดอ้อนเย่เชินหลิน
“เลี้ยงได้ใช่ไหม?” เซี่ยชีหรั่นประกบมือทั้งสองข้างเข้าหากันพร้อมกับมองมาที่เย่เชินหลิน ด้านเย่เชินหลินก็ไม่ได้ปฏิเสธแต่อย่างใดทำเพียงออกคำสั่งว่า “ออกรถ” ไม่นานหลังจากนั้นภายในรถก็มีเสียงร้องเรียกแมวเหมียวของเซี่ยชีหรั่นดังขึ้นมาอย่างร่าเริง
ภายในห้อง เซี่ยชีหรั่นนั่งอยู่บนโซฟา แมวน้อยส่งเสียงร้องเดินเข้าไปหาเย่เชินหลินก่อน เมื่อเห็นว่ามนุษย์ตรงหน้าไม่สนใจกันมันจึงกระโดดขึ้นไปนั่งบนตักของเซี่ยชีหรั่นแทน พร้อมกับร้องเหมี๊ยวๆให้เซี่ยชีหรั่นลูบหัว
ทันใดนั้นเสียงสนั่นก็ดังขึ้นมา เซี่ยชีหรั่นจึงเงยหน้าขึ้นไปถามอย่างประหลาดใจ “เมื่อกี้มีอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า?”
เย่เชินหลินพลิกเปิดหนังสืออย่างสงบนิ่ง “ไม่มี”
เสียง “ปัง” ดังสนั่นขึ้นมาอีกหน เย่เชินหลินจึงลุกขึ้นยืนอย่างไม่พอใจ จากนั้นก็ก้มลงไปจูบใบหูของเซี่ยชีหรั่น พร้อมกับพูดเสียงอ่อนโยนว่า “อย่าออกไปไหน เดี๋ยวผมกลับมา”
เซี่ยชีหรั่นมองแผ่นหลังของเย่เชินหลินเดินออกไป ทันใดนั้นเจ้าแมวก็มองไปทางหน้าต่าง หลังจากที่มีเสียงการเคลื่อนไหวดังขึ้นเบาๆ จู่ๆหัวชี้ฟูเต็มไปด้วยใบไม้ของใครบางคนก็มุดเข้ามาในห้อง
“Cupidแกมาอยู่นี่นี่เอง” เด็กชายมีเขี้ยวเอ่ยเรียกเจ้าแมวที่อยู่บนตักของเซี่ยชีหรั่นอย่างดีใจ

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset