สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 1277 หญิงรับใช้ของคุณชายเย่1177

บทที่1277 หญิงรับใช้ของคุณชายเย่ 1177
“ใช่ค่ะ” เซี่ยชีหรั่นพยักหน้า ต่อให้ไม่เต็มใจสักเท่าไหร่ก็ต้องฝืนยิ้มออกไป
“สวัสดีครับ ผมชื่อวิลเลี่ยม เป็นคนสวีเดน ที่บ้านทำธุรกิจผลิตนาฬิการายใหญ่ที่สุดในสวีเดน ผมอยากบอกคุณเซี่ยว่าคุณหน้าตาดีจนฟ้าโกรธามนุษย์มนาโกรธเกลียดเลยครับ!” วิลเลี่ยมพูดภาษาจีนอย่างติดๆขัดๆ
ฟ้าโกรธามนุษย์มนาโกรธเกลียด? เซี่ยชีหรั่นนิ่งอึ้งไป จากนั้นก็ตระหนักได้ว่าคนตรงหน้าคือชาวต่างชาติอาจมีบ้างที่ใช้หลักภาษาผิดไป เธอจึงพูดยิ้มๆว่า “คุณรู้ไหมว่าฟ้าโกรธามนุษย์มนาโกรธเกลียดหมายถึงอะไร?”
รอยยิ้มของเซี่ยชีหรั่นทำให้วิลเลี่ยมนิ่งไปชั่วครู่ ใบหน้าพลันปรากฏริ้วแดงขึ้นมา จากนั้นก็มองมาที่เซี่ยชีหรั่นแล้วพูดขึ้นมาอย่างจริงจังว่า “รู้ครับ!ความหมายก็คือสวยจนทำให้พระเจ้าโมโห ทำให้คนอื่นโมโหด้วย!”
เซี่ยชีหรั่นมองคนต่างชาติตรงหน้าอธิบายอย่างหมดคำจะพูด เธอหัวเราะแล้วพูดขึ้นมาว่า “วันนี้คุณก็มาดูตัวเหรอ”
วิลเลี่ยมฟังประโยคนี้รู้เรื่อง จึงพยักหน้า เซี่ยชีหรั่นลุกขึ้นยืนเพื่อโชว์ท้องของตัวเองให้วิลเลี่ยมได้เห็นอย่างชัดเจน พร้อมทั้งส่งสายตาบอกว่าตัวเองมีลูกแล้ว
วิลเลี่ยมที่นั่งอยู่ตรงข้ามก็ลุกขึ้นตาม พร้อมกับมองมาที่เซี่ยชีหรั่นอย่างนึกสงสัย “วิลเลี่ยม ฉันมีลูกแล้วค่ะ” เซี่ยชีหรั่นถอนหายใจออกมาพร้อมกับชี้มาที่ท้องของตัวเอง
“ยินดีด้วยนะครับ!” วิลเลี่ยมพูดออกมาอย่างจริงใจ
เซี่ยชีหรั่นเคาะหัวตัวเองอย่างปวดหัว จากนั้นก็นวดหน้าผากแล้วพูดออกมาให้เคลียร์กว่าเดิม “แต่ฉันมีลูกแล้วถ้าต้องคบกัน คุณไม่รู้สึกแปลกๆเหรอคะ?”
วิลเลี่ยมส่ายหน้าอย่างแปลกใจ “ก็ไม่นะ” เมื่อต้องมาเผชิญหน้ากับคนซื่ออย่างวิลเลี่ยม เซี่ยชีหรั่นจึงทำได้แค่พูดขึ้นมาว่า “วิลเลี่ยม ฉันมีคนที่ชอบแล้ว”
วิลเลี่ยมเงียบไป เซี่ยชีหรั่นมองมาที่เขาด้วยความรู้สึกผิด แต่วิลเลี่ยมกลับยิ้มออกมา แล้วจับมือของเซี่ยชีหรั่นขึ้นมากดจูบเบาๆ พร้อมกับมองมาที่เซี่ยชีหรั่นด้วยสายตาลึกซึ้ง “OK ถ้านี่คือเหตุผลจริงๆ ผมก็ขอยอมแพ้แต่โดยดี”
หลังจากที่วิลเลี่ยมจากไป เซี่ยชีหรั่นรู้สึกคอแห้งจึงดื่มน้ำเข้าไป ยังไม่ทันได้พักหายใจ ก็ต้องเผชิญหน้ากับผู้ชายในชุดสูทรองเท้าหนังอีกคน
“คุณเซี่ยชีหรั่น?” ชายหนุ่มมองนาฬิกา แล้วเอ่ยพูดกับเซี่ยชีหรั่นอย่างหนักแน่น
“คุณคือผู้ก่อตั้งบริษัทธุรกิจออนไลน์รายใหญ่นี่นา!” เซี่ยชีหรั่นอุทานออกมาเมื่อเห็นผู้ชายที่มาปรากฏตัวตรงหน้า
ชายหนุ่มพยักหน้าแล้วนั่งลง หลังจากตั้งนาฬิกาไว้สิบห้านาที ก็มองมาที่เซี่ยชีหรั่นแล้วพูดว่า “หลังจากที่ผมทำการวิเคราะห์ภาพรวมแล้ว การพูดคุยกับคุณเซี่ยชีหรั่นควรที่จะเสร็จสิ้นภายในเวลาสิบห้านาที ตอนนี้เรามาเริ่มกันเลยดีกว่าครับ”
เมื่อเซี่ยชีหรั่นเห็นชายหนุ่มตรงหน้ามองมาที่ตัวเองอย่างเคร่งขรึม ก็พูดยิ้มๆขึ้นมาว่า “ถ้าคุณมีธุระคุณกลับไปก่อนก็ได้นะคะ”
ชายหนุ่มขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “ผ่านไปแล้วสามนาที”
เมื่อเห็นอีกฝ่ายมีสีหน้าเคร่งขรึมเพราะไม่อยากเสียเวลา เซี่ยชีหรั่นจึงต้องเอ่ยถามขึ้นมาว่า “ได้ยินมาว่าสมาร์ทโฟนกับสมาร์ทวอทช์ของบริษัทคุณที่เพิ่งปล่อยออกมาตีตลาดต่างประเทศแล้วใช่ไหมคะ? แล้วเมื่อไหร่จะมีขายในประเทศล่ะ?”
ชายหนุ่มเลิกคิ้ว จากนั้นก็เริ่มแนะนำฟังก์ชันต่างๆของโทรศัพท์และนาฬิกาให้เซี่ยชีหรั่นฟังด้วยท่าทางจริงจัง ……สิบห้านาทีผ่านไป ชายหนุ่มก็ลุกขึ้นยืนอย่างพึงพอใจ แววตาที่มองมาที่เซี่ยชีหรั่นก็เต็มไปด้วยรอยยิ้ม “คุณเซี่ยชีหรั่น ผมดีใจมากที่ได้มานัดเจอคุณ”
เมื่อเซี่ยชีหรั่นดื่มกาแฟจนหมดแก้ว ก็ยกมือเรียกพนักงาน “ไม่ทราบว่าต้องการกาแฟเพิ่มหรือคะ?” พนักงานมองมาที่เซี่ยชีหรั่นอย่างอ่อนหวาน
เมื่อเห็นคราบกาแฟสีเข้มที่เหลือติดอยู่ตรงก้นแก้ว จู่ๆเซี่ยชีหรั่นก็นึกถึงใบหน้าเคร่งขรึมของเย่เชินหลินขึ้นมา เพราะไม่อยากให้เธอแอบดื่มกาแฟบ่อยๆเขาจึงบอกให้พ่อบ้านเอากาแฟไปซ่อนทั้งหมด
“ขอนมแก้วหนึ่งค่ะ ขอบคุณ” เธอเหมือนหลุดจากภวังค์ เซี่ยชีหรั่นได้สติกลับมาก็ยิ้มให้พนักงาน จากนั้นบริเวณท้องก็เกิดแรงสั่นขึ้นมาเบาๆ เซี่ยชีหรั่นเจ็บแปลบๆ จึงวางมือลงบนหน้าท้องแล้วลูบเบาๆ พูดเสียงอ่อนโยนขึ้นมาว่า “เด็กดีไม่งอแงนะ หม่ามี๊ไม่ดื่มกาแฟแล้ว เดี๋ยวหม่ามี๊ดื่มนมแทนนะ!”
เมื่อเก้าอี้ตรงข้ามโดนลากออก เซี่ยชีหรั่นก็เงยหน้าขึ้นไปพร้อมกับยิ้มออกมา “สวัสดีค่ะ ฉันคือเซี่ย…..เย่เชินหลิน!”
เย่เชินหลินมองมาที่เซี่ยชีหรั่นอย่างไม่ละสายตาไปไหน ราวกับไม่อยากพลาดแม้แต่รายละเอียดเล็กๆน้อยๆทางสีหน้าของเธอ หลังจากที่เซี่ยชีหรั่นนิ่งไปชั่วครู่เธอก็ลุกขึ้นยืน แล้วหยิบกระเป๋าเดินออกไป
เดินไปถึงหน้าประตู บอดี้การ์ดก็ผงกหัวให้เซี่ยชีหรั่นอย่างสุภาพ ไม่ยอมปล่อยให้เธอออกไป เซี่ยชีหรั่นจึงสะบัดหน้าเดินกลับมาที่เดิมอย่างโกรธๆ เย่เชินหลินวางก้าวนมที่ร้อนกำลังดีไว้ตรงหน้าเธอ แล้วพูดเสียงเข้มว่า “นี่ต้องเป็นครั้งสุดท้ายที่คุณดื่มกาแฟ”
เซี่ยชีหรั่นมองมาที่เย่เชินหลินอย่างเย็นชา แล้วพูดเสียงเย็นว่า “ฉันว่าแทนที่จะพูดเรื่องกาแฟ คุณยังมีเรื่องต้องอธิบายกับฉันนะ”
เย่เชินหลินลุกขึ้นมาหยุดยืนหลังเก้าอี้ของเซี่ยชีหรั่น แล้วค่อยๆก้มลงโอบกอดแผ่นหลังของเธอ ใช้มือทั้งสองข้างกุมมือของเซี่ยชีหรั่นมาไว้บนหน้าท้อง แล้วพูดขึ้นมาแผ่วเบาว่า “บอกผมมา ตอนนี้คุณเกลียดผมหรือเปล่า?”
เซี่ยชีหรั่นชะงัก เกลียด? วินาทีที่ได้เห็นเย่เชินหลินเธอรู้สึกทั้งดีใจทั้งโกรธ แต่ว่าเกลียดไหมงั้นเหรอ? “ไม่”เซี่ยชีหรั่นยอมรับออกไปอย่างชัดถ้อยชัดคำ
เย่เชินหลินจูบใบหูของเซี่ยชีหรั่นเป็นรางวัล จากนั้นก็พูดกลั้วยิ้มขึ้นมาว่า “เชื่อใจผมนะ ไม่ต้องถามอะไรทั้งนั้น ตั้งใจทำเรื่องที่คุณอยากทำต่อไป”
“เชื่อใจคุณ? คุณได้หุ้น80%ของหม่าลี่ไป แปลว่าคุณจะทิ้งฉันงั้นเหรอ?” เซี่ยชีหรั่นคิดอะไรไม่ออก จึงเอ่ยถามขึ้นมา
เย่เชินหลินพยักหน้าอย่างไม่สามารถปฏิเสธอะไรได้ “ผมตอบตกลงจริงๆ”
“ฉันกับคุณไม่มีอะไรต้องพูดกันแล้ว” เซี่ยชีหรั่นเสียใจจนไม่อยากอยู่ที่นี่แม้แต่วินาทีเดียว เย่เชินหลินกลับมานั่งที่ของตัวเอง พร้อมกับยกกาแฟขึ้นมาดื่ม จากนั้นก็เอ่ยเสียงเย็นขึ้นมาว่า “อย่าเพิ่งไป”
เซี่ยชีหรั่นกำลังจะก้าวเดินออกไปจากห้อง แต่กลับหยุดฝีเท้าลงแต่โดยดี เย่เชินหลินพูดเสียงแผ่วเบาขึ้นมาว่า “กำลังนัดบอดอยู่ไม่ใช่เหรอ? อย่าปล่อยเวลาให้สิ้นเปลืองสิ!”
เซี่ยชีหรั่นหันกลับมานั่งที่เดิม จากนั้นก็เลิกคิ้วขึ้นเลียนแบบเย่เชินหลินแล้วพูดว่า “โอเค งั้นเราไปเดทกัน”
ณ บริเวณหน้าโรงหนัง เมื่อเย่เชินหลินเห็นเซี่ยชีหรั่นถือตั๋วหนังอยู่สองใบจึงพูดขึ้นมานิ่งๆว่า “ชีวิตของฝูงแกะ?”
เซี่ยชีหรั่นมองมาที่เย่เชินหลินพร้อมกับพูดอย่างตรงไปตรงมาว่า “ก็มาเดทไม่ใช่เหรอ? ช่วงนี้เขาฮิตดูการ์ตูนกันนะ!”
เซี่ยชีหรั่นรอให้เย่เชินหลินโกรธจนเดินหนีไป แต่เขากลับยื่นมือออกมาขยี้ผมของเธอจนยุ่งไปหมด พร้อมกับดึงตั๋วหนังมาถือเอง แล้วเดินจูงมือเซี่ยชีหรั่นไปยังบริเวณทางเข้าโรงหนัง “งั้นไปกัน”
พนักงานเก็บบัตรมองมาที่เย่เชินหลินอย่างแปลกใจ ในโรงหนังแห่งนี้มีแต่เด็กเล็กๆ เซี่ยชีหรั่นมองเด็กๆที่ส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าวอย่างรู้สึกทำตัวไม่ถูก จากนั้นก็มีเสียงหัวเราะดังขึ้นมาจากข้างกาย
“เป็นอะไรไป?” ดวงตาแจ่มแจ๋วของเย่เชินหลินพราวระยับภายใต้ความมืดสลัว เซี่ยชีหรั่นจึงนั่งลงแก้เก้อ จากนั้นก็หยิบป๊อบคอร์นเข้าปาก
เสียงสนุกสนานของการ์ตูนดังขึ้นมา เซี่ยชีหรั่นพยายามตั้งสมาธิจดจ่ออยู่กับหน้าจอ ทว่ากลับเอาแต่คิดเรื่องของคนที่อยู่ข้างกาย ด้านเย่เชินหลินก็นั่งดูหน้าจออย่างจดจ่อ เซี่ยชีหรั่นแอบหันไปมองใบหน้าด้านข้างของเขาบ้างเป็นบางครั้ง
“ฮัดชิ้ว!” อากาศหนาวๆภายในโรงหนังทำให้เซี่ยชีหรั่นจามออกมา เธอยกมือขึ้นมาขยี้จมูก จากนั้นก็มีมือคู่หนึ่งยื่นมาจับนิ้วมือของเซี่ยชีหรั่นเอาไว้จนนิ้วทั้งสิบประสานเข้าหากัน เย่เชินหลินนำมือของเซี่ยชีหรั่นสอดเข้ามาในกระเป๋าของตัวเอง ขณะที่ยังไม่ละสายตาจากหน้าจอ
เซี่ยชีหรั่นจะชักมือกลับ อีกฝ่ายก็ยิ่งกุมแน่นกว่าเดิม เธอไม่ยินยอมให้อีกฝ่ายชักจูง จึงกัดฟันดึงมือออกมา
หน้าจอมืดลง เนื่องจากแกะสามตัวในการ์ตูนกำลังลอดถ้ำ ทั่วทั้งโรงหนังจึงมืดสนิท มือใหญ่ของเขายื่นออกไปคว้าจับกรามของเซี่ยชีหรั่นเอาไว้ แล้วหันตัวไปจูบเซี่ยชีหรั่น
ริมฝีปากบางของเย่เชินหลินนำพาความร้อนชื้นเข้ามาเล็กน้อย เย่เชินหลินพลิกตัวหันข้างกดทับเซี่ยชีหรั่นเอาไว้เบาๆ พร้อมกับออกแรงบดริมฝีปาก เพื่อเป็นการลงโทษเซี่ยชีหรั่นที่ไม่เชื่อฟัง
หน้าจอสว่างขึ้น เนื่องจากลูกแกะสามตัวลอดถ้ำออกมาเจอกับทุ่งหญ้าเขียวขจีอันโอชะจึงส่งเสียงออกมาว่า “อร่อย” ใบหน้าของเซี่ยชีหรั่นพลันแดงซ่าน ราวกับบทพูดในการ์ตูนแฝงไปด้วยความหมายบางอย่าง
เย่เชินหลินผละตัวออกมาก่อนที่หน้าจอจะสว่าง เมื่อได้ยินคำพูดในการ์ตูนเขาก็หันไปมองเซี่ยชีหรั่นอย่างมีความหมาย เซี่ยชีหรั่นจึงรู้สึกว่าใบหน้าของตัวเองแดงยิ่งกว่าเดิม
เซี่ยชีหรั่นสะดุ้งตื่นขึ้นมา ดวงตางัวเงียมองไปรอบๆ มีลมถ่ายเทเข้ามาในรถที่เปิดประทุน เย่เชินหลินนั่งอยู่อีกด้าน ปลายนิ้วอาบไล้ไปด้วยแสงสีนวลของดวงอาทิตย์
“ฉันหลับเหรอ? หนังจบแล้ว?” เซี่ยชีหรั่นเอ่ยถามขึ้นมาอย่างสะลึมสะลือ
“ยัง แต่เพราะคุณหลับ แล้วก็กรน” เมื่อเย่เชินหลินเห็นใบหน้าซีดๆของเซี่ยชีหรั่นก็อารมณ์ดีขึ้นมาแปลกๆ จึงพูดต่อว่า “แถมยังเลือกกรนช่วงที่หนังไม่มีบทพูดด้วย”
เซี่ยชีหรั่นอายจนแทบอยากจะย้อนเวลากลับไป จึงพูดอย่างอับอายว่า “ขอโทษนะ รบกวนเวลาดูหนังของคุณเลย”
เย่เชินหลินเลิกคิ้ว “คุณคิดว่าผมชอบหนังแบบนั้นเหรอ?” เมื่อนึกถึงลูกแกะสามตัวที่ทั้งเรื่องเอาแต่วิ่งหนีหมาป่าสีเทา ใบหน้าของเย่เชินหลินก็บิดเบี้ยวอย่างแปลกประหลาด
“กลับกันเถอะ” เมื่อเห็นดวงสะลึมสะลือของเซี่ยชีหรั่น เย่เชินหลินก็บี้บุหรี่ทิ้งแล้วสตาร์ทรถ
เซี่ยชีหรั่นรวบรวมความกล้าแล้วพูดออกมาว่า “มาเดทไม่ใช่เหรอ! ไปต่อสิ!”
เย่เชินหลินมองมาที่เซี่ยชีหรั่นอย่างสนใจ จากนั้นก็ขับรถมาถึงร้านอาหารฝรั่งเศสตามคำสั่งของเซี่ยชีหรั่น
“ฉันเอาอันนี้ อันนี้ แล้วก็อันนี้!” เซี่ยชีหรั่นสั่งอาหารบนเมนูไปทั่ว จนพนักงานต้องเอ่ยเตือนอย่างหวังดีว่า “คุณลูกค้าของที่คุณสั่งมาเป็นเมนูเรียกน้ำย่อยหมดเลยนะคะ ไม่ลองสั่งอย่างอื่นดูเหรอคะ?”
เซี่ยชีหรั่นมองมาที่เย่เชินหลิน พร้อมกับส่ายหน้าอย่างถือดี บนใบหน้าปรากฏแววอิ่มเอมใจหลังจากใช้กลอุบายสำเร็จ เย่เชินหลินพยักหน้าให้พนักงาน ปล่อยให้เซี่ยชีหรั่นเล่นซนได้ตามใจ
ซุปถ้วยแล้วถ้วยเล่าถูกนำมาเสิร์ฟจนเต็มโต๊ะ ลูกค้าโต๊ะอื่นต่างมองมาที่เซี่ยชีหรั่นอย่างนึกสงสัย เซี่ยชีหรั่นตักซุปบีทรูทขึ้นมาพร้อมกับมองมาที่เย่เชินหลิน ก็พบว่าอีกฝ่ายมีสีหน้าเรียบนิ่ง
“ไม่โกรธเหรอ?” เซี่ยชีหรั่นเอ่ยถามอย่างสงสัย
เย่เชินหลินยื่นมือออกไปหยิบต้มยำทะเลมาวางตรงหน้าตัวเอง จากนั้นก็โรยต้นหอมลงไปแล้วส่งกลับไปให้เซี่ยชีหรั่น เมื่อเห็นเซี่ยชีหรั่นมีใบหน้างุนงงเขาก็พุดออกมานิ่งๆว่า “กินต่อสิ”
บริเวณหาดทรายที่เงียบสงบ เซี่ยชีหรั่นเดินลูบท้องอย่างระมัดระวัง วันนี้ทั้งวันไม่ว่าเธอจะทำอะไรเย่เชินหลินก็ไม่สะทกสะท้านเลยตลอด เหมือนกำลังใช้หมัดต่อยปุยนุ่น

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset