สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 1280 หญิงรับใช้ของคุณชายเย่ 1180

บทที่1280 หญิงรับใช้ของคุณชายเย่ 1180
ตลอดการทานข้าวมีแค่คุณนายพูดอยู่คนเดียว จนกระทั่งคนใช้มาเก็บโต๊ะ เซี่ยชีหรั่นจึงฝืนยิ้มออกมาแล้วพูดว่า “ขอบคุณที่ต้อนรับเป็นอย่างดีนะคะ วันนี้ฉันยังมีธุระ คงต้องขอตัวก่อน”
ไม่รอให้เซวียเหวินยูนพูดอะไร เซี่ยชีหรั่นก็ลุกขึ้นแล้วเดินออกไปข้างนอกอย่างรวดเร็ว ข้างนอกคฤหาสน์มีรถมาเซราตีคันสีดำจอดรออยู่ จากนั้นก็มีเสียงสดใสดังขึ้นมาจากในรถว่า “คุณนาย”
เมื่อเซวียเหวินยูนตามออกมาก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของเซี่ยชีหรั่นแล้ว “ลูกชาย ความชอบจะไปบังคับกันไม่ได้หรอกนะ ต้องปล่อยให้เป็นตามลำดับขั้นตอนไป” เมื่อเห็นท่าทางหงอยๆของเซวียเหวินยูน คนเป็นแม่ก็ถอนหายใจออกมา
“ทำไมพวกคุณรู้ว่าฉันอยู่ที่ไหน?” เซี่ยชีหรั่นเอ่ยถามอย่างแปลกใจ จางเฟิงอี้จึงพูดออกมาว่า “จากนิสัยขี้หวงของคุณชายแล้วคุณคิดว่าเขาจะยอมปล่อยให้คุณอยู่ในที่ที่ไม่คุ้นเคยคนเดียวเหรอครับ?”
เซี่ยชีหรั่นกำลังจะพูดออกมาอีก รถก็จอดลงตรงหน้าคลับชื่อดัง “สวัสดีครับ เชิญตามผมมา” พนักงานเดินนำเซี่ยชีหรั่นไปที่ลิฟต์อย่างสุภาพ ขณะที่เซี่ยชีหรั่นกำลังจะเดินเข้าไปในลิฟต์กลับถูกพนักงานห้ามเอาไว้
“คุณเป็นแขกVIP เชิญทางลิฟต์ส่วนตัวเลยครับ” เซี่ยชีหรั่นมาหยุดอยู่บนชั้นที่สูงที่สุด จากนั้นพนักงานก็โค้งตัวเล็กน้อย แล้วเดินจากไป
เมื่อเปิดประตู ไอน้ำก็ปะทะหน้าเข้ามา นึกไม่ถึงเลยว่าชั้นบนสุดจะเป็นบ่อน้ำพุร้อนขนาดใหญ่ กลางห้องมีหินก้อนใหญ่ที่เป็นจุดกำเนิดของน้ำพุกินพื้นที่ในห้องไปราวๆร้อยตารางเมตร ทั้งยังมีน้ำจากก๊อกที่ติดอยู่บนผนังไหลลงบ่อน้ำร้อนตรงหน้า
เซี่ยชีหรั่นหรี่ตาลง ในสระไม่มีคนอยู่ เมื่อก้าวเดินเท้าก็พลันลื่น เซี่ยชีหรั่นจึงเอนตัวไปข้างหน้า จากนั้นก็มีแขนคู่หนึ่งมารวบตัวเข้าไปในอ้อมกอดอบอุ่น
แผ่นอกสีแทนของเย่เชินหลินไหวกระเพื่อมตามแรงลมหายใจ วินาทีที่ใบหน้าสัมผัสกัน เซี่ยชีหรั่นก็หน้าร้อนผ่าว
“วันนี้ไปทำอะไรมา?” เสียงของเย่เชินหลินเรียบนิ่ง
“ไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้นแหละ ก็แค่ทานข้าว” เซี่ยชีหรั่นพยายามดันตัวออกห่างเย่เชินหลิน เพียงแค่ขยับเบาๆก็ถูกเขากอดรัดด้วยแรงที่มากกว่าเดิม ระยะห่างระหว่างทั้งสองก็ยิ่งใกล้กันมากขึ้น
เมื่อรับรู้ได้ถึงความร้อนรุ่มที่ถูกส่งต่อมาจากส่วนล่างของอีกฝ่าย ใบหน้าของเซี่ยชีหรั่นก็ยิ่งแดงหลายเท่า “เงยหน้ามามองผม” เย่เชินหลินกอดเซี่ยชีหรั่นแน่น น้ำเสียงเริ่มแหบพร่า ไม่สนร่างกายของตัวเองที่กำลังเปลี่ยนแปลงไป
เซี่ยชีหรั่นเงยหน้าขึ้นมา ก็เห็นแค่ลูกกระเดือกของอีกฝ่าย เย่เชินหลินถอยหลังเล็กน้อยเพื่อสบตากับเซี่ยชีหรั่น “บอกผมมาวันนี้เกิดอะไรขึ้น?”
เซี่ยชีหรั่นนิ่งไป เธอเห็นตัวเองกำลังลังเลผ่านเงาสะท้อนในดวงตาของเย่เชินหลิน จึงส่ายหน้าแล้วพูดว่า “ไม่มีอะไร”
“จริงเหรอ?” มุมปากของเย่เชินหลินยกเป็นมุมโค้ง นิ้วมือที่เดิมทีวางอยู่บนแขนของเซี่ยชีหรั่นค่อยๆขยับไล้ขึ้นมา จับกุมบริเวณลำคอของเซี่ยหรั่นเอาไว้แล้วพูดเสียงเบาว่า “ตรงนี้ใช่ไหม?”
เซี่ยชีหรั่นตัวแข็งทื่อ มองมาที่เย่เชินหลินอย่างไม่อยากจะเชื่อ มือของเย่เชินหลินรุกคืบขึ้นไปอย่างต่อเนื่อง จนมาหยุดอยู่ที่มุมปากของเธอแล้วลูบไล้เบาๆ “ตรงนี้ก็น่าจะใช่”
ริ้วแดงบนใบหน้าของเซี่ยชีหรั่นพลันหดหายไป คำพูดของเย่เชินหลินเหมือนลูกระเบิดขนาดใหญ่ รู้สึกว่าร่างกายของเซี่ยชีหรั่นแข็งทื่อไปในชั่ววินาที เย่เชินหลินถอนหายใจออกมา แล้วอุ้มเซี่ยชีหรั่นขึ้นมาอย่างสบายๆ
จากนั้นก็วางเธอลงไปในน้ำเบาๆ เซี่ยชีหรั่นดิ้นอย่างไม่สามารถอดทนได้ จุดไวสัมผัสถูกเย่เชินหลินจับกดเอาไว้ เซี่ยชีหรั่นสูดลมหายใจเข้าเบาๆ เย่เชินหลินจึงพูดเสียงอ่อนโยนกว่าปกติว่า “คนดีอยู่นิ่งๆ”
ความอ่อนโยนของเย่เชินหลินเหมือนความสงบก่อนพายุจะมา เซี่ยชีหรั่นพยายามไม่ให้ตัวสั่น ปล่อยให้สองมือของเย่เชินหลินกวักน้ำทำความสะอาดบริเวณลำคอให้
ผิวของเธอกายเป็นสีแดงระเรื่อเนื่องจากแรงขยี้และไอร้อนจากน้ำ เซี่ยชีหรั่นส่งเสียงออกมาเล็กน้อย “เจ็บ!”
มือของอีกฝ่ายจึงเบาแรงลง เย่เชินหลินวางคางไว้บนไหล่ของเซี่ยชีหรั่น แล้วพูดเสียงแผ่วเบาว่า “การที่ผมปล่อยให้ความหึงหวงครอบงำ คุณรู้ไหมว่าผมต้องพยายามเท่าไหร่ ถึงจะสามารถควบคุมตัวเองไม่ให้จับคุณขัง”
“ฉันปฏิเสธไปแล้ว ฉันไม่รู้ว่าทำไมวันนี้เขาถึงสติหลุดแบบนี้” เซี่ยชีหรั่นวางมือลงบนหลังของเย่เชินหลินอย่างลังเล
ร่างกายของเย่เชินหลินสั่นสะท้าน จากนั้นสีหน้าก็เยือกเย็น พร้อมกับพูดออกมาว่า “ผมรู้ ไม่งั้นวันนี้เขาคงได้ไปรายตัวที่อื่นแล้ว”
เย่เชินหลินจับต่างหูสีเขียวมรกตของเซี่ยชีหรั่น เซี่ยชีหรั่นจึงเอ่ยถามอย่างสงสัยว่า “คุณดูชอบต่างหูคู่นี้นะ”
“เหอะๆ เพราะมันคือสิ่งยืนยันว่าผมจะหาคุณเจอไง” เย่เชินหลินถอดต่างหูออกมา มือเรียวยาวกดบีบเบาๆ เครื่องติดตามขนาดจิ๋วก็ปรากฏออกมาตรงหน้าของเซี่ยชีหรั่น
“มิน่าล่ะฉันทำอะไรคุณถึงรู้หมด!” เซี่ยชีหรั่นไม่รู้ว่าควรจะโกรธหรือหัวเราะดี เย่เชินหลินกอดเซี่ยชีหรั่นแน่นๆอีกครั้ง จากนั้นก็พูดว่า “คุณจะโทษผมก็ได้ แต่ผมไม่สามารถปล่อยคุณห่างจากสายตาได้จริงๆ”
ร่างกายของเซี่ยชีหรั่นกระตุกเบาๆ เธอจึงกุมท้องเอาไว้ สีหน้าของเย่เชินหลินพลันเปลี่ยนไป เขาเตรียมลุกขึ้นไปตามคนมา แต่เซี่ยชีหรั่นกลับจับมือของเย่เชินหลิน แล้วพูดออกมาด้วยใบหน้าแดงๆว่า “ไม่มีอะไร ลูกแค่ดิ้นน่ะ”
จนเมื่อเย่เชินหลินเห็นสีหน้าของเซี่ยชีหรั่นกลับมาเป็นปกติถึงได้สบายใจ แต่เมื่อเห็นใบหน้าของเซี่ยชีหรั่นแดงขึ้นมาอีกครั้ง เย่เชินหลินก็ถามเสียงเข้มว่า “ลูกถีบอีกแล้วเหรอ?”
เซี่ยชีหรั่นสายหน้า จากนั้นก็ชี้ไปยังส่วนที่ตื่นตัวขึ้นมาของเย่เชินหลินอย่างเขินอาย แล้วพูดเสียงเล็กว่า “ตรงนี้ไม่อึดอัดเหรอ?”
เย่เชินหลินยิ้มอบอุ่นออกมา มือร้อนชื้นชักนำเซี่ยชีหรั่น แล้วพูดเสียงแหบพร่าว่า “คุณลองสัมผัสเองดูสิ”
เมื่อกลับมาถึงบ้านตระกูลหวา เซี่ยชีหรั่นก็จัดเสื้อผ้าอย่างไม่สบายตัว เธออยากปกปิดร่องรอยที่เย่เชินหลินจงใจทิ้งเอาไว้ แต่ทันใดนั้นบริเวณชั้นบนก็มีเสียงดังขึ้นเบาๆ เซี่ยชีหรั่นเงยหน้าไปมอง ก็พลันเบิกตากว้าง เพราะกระถางดอกไม้กำลังตกจากข้างบนมาทางเซี่ยชีหรั่น
“ชีหรั่นระวัง!” เซวียเหวินยูนพลิกตัวกอดเซี่ยชีหรั่นเอาไว้ กระถางดอกไม้จึงหล่นลงบนแผ่นหลังของเซวียเหวินยูน เขาส่งเสียงอื้ออึงออกมา เขามองมาที่เซี่ยชีหรั่นแล้วถามขึ้นมาว่า “เมื่อวานไปไหนมา”
สองแขนของเซี่ยชีหรั่นที่โอบเซวียเหวินยูนไว้เหนียวหนืดไปเลือด เมื่อเธอกางมือออกก็พบว่ามีเลือดไหลออกมาจากบริเวณท้ายทอยของเซวียเหวินยูน ณ โรงพยาบาล เซวียเหวินยูนยิ้มให้เซี่ยชีหรั่นที่อยู่ในสภาพตาแดงๆ “ผมไม่เป็นอะไรจริงๆ คุณเป็นแบบนี้ลูกเกิดมาจะขี้แงเอานะ”
แค่นึกถึงเรื่องที่คุณหมอเย็บให้เซวียเหวินยูนตั้งหลายเข็มน้ำตาของเซี่ยชีหรั่นก็พลันไหลออกมา “คุณก็รีบหายเร็วๆสิ”
“ถ้าอยากให้ผมหายไวๆก็ต้องคอยอยู่กับผมสิ” เซวียเหวินยูนมองดวงตาของเซี่ยชีหรั่นแล้วพูดออกมาอย่างจริงจัง เซี่ยชีหรั่นก้มหน้าลงอย่างอึดอัด แต่จู่ๆเซวียเหวินยูนก็หัวเราะแล้วขยี้ผมของเซี่ยชีหรั่น พร้อมกับพูดว่า “ผมไม่อยากเห็นคุณลำบากใจ ผมรอได้ คงมีสักวันที่แสงอาทิตย์ที่ชื่อว่าเซี่ยชีหรั่นจะส่องเข้ามาในหัวใจของผม”
เซี่ยชีหรั่นสูดน้ำมูก แล้วพูดขอโทษออกมาอย่าสะอึกสะอื้น “เรื่องนี้ฉันผิดเอง ถ้าฉันไม่เดินไปตรงนั้นก็คงไม่เป็นแบบนี้”
นอกหน้าต่างพลันมีเสียงฟ้าร้อง ไม่นานฝนก็ค่อยๆลงเม็ด เซวียเหวินยูนพูดออกมาอย่างดุดันว่า “เรื่องนี้ไม่ใช่แค่อุบัติเหตุ”
คำพูดของเซวียเหวินยูนทำให้เซี่ยชีหรั่นรู้สึกตกใจ ตลอดทางที่กลับมาบ้านตระกูลหวา สถานที่ที่เต็มไปด้วยความลึกลับแห่งนี้เมื่ออยู่ท่ามกลางสายฝนก็ยิ่งดูมืดทึม เซี่ยชีหรั่นตรงมาห้องของหม่าลี่ด้วยความเคยชิน จากนั้นก็เอ่ยถามข่าเอ๋อว่า “คุณย่าดีขึ้นหรือยัง?”
ข่าเอ๋อส่ายหน้า เอ่ยพูดขึ้นมาอย่างกังวลว่า “ยังคงหมดสติอยู่ ไม่รู้ว่าจะทนได้นานอีกเท่าไหร่”
เมื่อกลับมาที่ห้อง เซี่ยชีหรั่นก็ตะลึงงันเมื่อพบว่าห้องของตัวเองมีร่องรอยถูกรื้อค้น คนๆนั้นต้องการอะไรกันแน่? เซี่ยชีหรั่นเริ่มสำรวจห้อง ก็พบว่าเป็นห้องของผู้หญิงทั่วไป ทั้งห้องมีแต่สีชมพู เซี่ยชีหรั่นเดินไปเรื่อยๆ สายตาก็พลันไปหยุดอยู่ที่รูปผู้หญิงใส่แว่น
ถึงแม้เซวียเหวินยูนจะบอกว่าหยวนหยวนศัลยกรรมหน้าตาตามเซี่ยชีหรั่น แต่ระหว่างคิ้วของหยวนหยวนก็ยังคงแสดงให้เห็นว่าเป็นผู้หญิงสดใส เซี่ยชีหรั่นถอนหายใจออกมาเบาๆ
“เหมี๊ยว!” ร่างสีขาวพุ่งเข้าใส่เซี่ยชีหรั่น จนกรอบรูปที่ถืออยู่ร่วงลงพื้น
“Cupid! ไปไหนมา!” เซี่ยชีหรั่นมองผงสีชมพูที่ติดมาตามตัวของCupid อย่างพินิจ “บลัชออน? ที่นี่ไม่น่าจะมีใครใช้บลัชออนนะ ของใครกัน? “Cupidทำให้เซี่ยชีหรั่นรู้สึกเคลือบแคลง
เมื่อเห็นCupidกำลังจะกระโดดลงพื้น เซี่ยชีหรั่นก็รีบห้ามเอาไว้ “Cupidรอให้ฉันเก็บแก้วก่อน!”
เสียงของเซี่ยชีหรั่นพลันเงียบลงเมื่อสายตาเหลือบไปเห็นรูปอีกใบหล่นออกมาหลังจากที่รูปของหยวนหยวนแตก เซี่ยชีหรั่นเก็บรูปนั้นขึ้นมา ก็เห็นเป็นรูปของผู้หญิงคนหนึ่ง ผมของเธอหยักศก เธอสวมใส่ชุดคลุมสีขาว แววตาดุดันของเธอเปี่ยมไปด้วยเหน็บหนาว
นี่มันผู้หญิงที่เซี่ยชีหรั่นเห็นตรงบันไดนี่ “ที่นี่มีแค่ฉันหม่าลี่ แล้วก็ข่าเอ๋อ แล้วผู้หญิงคนนั้นเป็นใครกันแน่? ทำไมมาอยู่ที่นี่ได้?” เซี่ยชีหรั่นพูดกับปลายสายอย่างไม่เข้าใจ
“รูปที่คุณถืออยู่อาจจะเป็นหลักฐานที่คนๆนั้นต้องการมาตลอดก็ได้” เสียงของเย่เชินหลินเรียบนิ่ง มีเสียงเคาะแป้นพิมพ์ดังขึ้นมาบ้างเป็นบางครั้ง
“แต่ผู้หญิงคนนั้นดูคุ้นเคยกับตึกนี้มากเลยนะ ทำไมคนทั้งคนถึงไม่มีใครเคยเจอเลยล่ะ อีกอย่างจุดประสงค์ของเธอคืออะไรกันแน่?” เซี่ยชีหรั่นมองรูปภาพพร้อมกับบ่นงึมงำ
“สี่ทุ่มสิบนาที เซี่ยชีหรั่นไปนอนได้แล้ว” เสียงเคาะแป้นพิมพ์หยุดลง ตามมาด้วยเสียงของเย่เชินหลิน
เซี่ยชีหรั่นจึงงึมงำว่า “งั้นฉันนอนแล้วนะ” เมื่อวางสาย เซี่ยชีหรั่นก็เสียบหูฟังเข้าไปในหู แล้วเริ่มฮึมฮัมตามเพลงออกมา
จู่ๆเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมา เมื่อกดรับเย่เชินหลินก็พูดว่า “ห้ามเปิดหูฟังเสียงดัง แล้วก็วางโทรศัพท์ให้ห่างจากหมอนด้วย”
ออกคำสั่งเสร็จเย่เชินหลินก็ตัดสายไปทันที เซี่ยชีหรั่นเอาตุ๊กตาทับต่างหูเอาไว้ แล้วแลบลิ้นใส่จากนั้นถึงได้นอนหลับไป
“หยวนหยวน นึกครื้นอะไรมาอ่านหนังสืออยู่ตรงนี้?” เสียงของกว๋อเหาดังขึ้นมาข้างๆ เซี่ยชีหรั่นถอดแว่นดำออก การที่ผู้ชายคนนี้ยอมรับตัวตนของเธอได้อย่างสบายๆก็ยิ่งทำให้เซี่ยชีหรั่นรู้สึกว่าอีกฝ่ายเดาใจได้ยาก

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset