สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 1281 หญิงรับใช้ของคุณชายเย่ 1181

บทที่ 1281 หญิงรับใช้ของคุณชายเย่ 1181
“สวัสดีค่ะ” เซี่ยชีหรั่นนั่งตัวตรงด้วยความระมัดระวัง กว๋อเหาโบกมือยิ้มๆ เขยิบเข้ามาใกล้เซี่ยชีหรั่น พลางยื่นมือออกมาพลิกหนังสือในมือของเซี่ยชีหรั่น “บ้านเก่าของห้องเพดานชีเจี่ยวบ้านเก่าหรือครับ หนังสือเล่มนี้น่าสนใจดี”
กลิ่นหอมเฉพาะตัวแผ่ออกมาจากร่างของกว๋อเหา เซี่ยชีหรั่นพิจารณาดมแล้ว ก็นึกขึ้นมาได้กะทันหันว่า นี่คือกลิ่นบลัชออนแบบที่อยู่บนร่างของCupidเมื่อวานนี้
“คุณเป็นอะไรไปหรือ” กว๋อเหาเอ่ยถามอย่างเป็นห่วง เซี่ยชีหรั่นที่ได้สติกลับมาก็ส่ายหน้า เอ่ยยิ้มๆว่า “ไม่มีอะไรค่ะ”
กว๋อเหายิ้ม หมุนตัว พลางเอ่ยอย่างลึกซึ้งว่า “เหมือนกับห้องเพดานชีเจี่ยวบ้านตระกูลหวาหลังนี้ก็เต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งความเสื่อมโทรม”
ภายในห้องพักผู้ป่วย นางพยาบาลและผู้ช่วยพยาบาลล้วนเอ่ยกับเซวียเหวินยูนอย่างตะกุกตะกักว่า “ฉันชื่อเสี่ยวเหมิง ฉันสามารถทำความรู้จักคุณได้ไหมคะ”
นางพยาบาลพวงแก้มแดงระเรื่อมองไปที่เซวียเหวินยูน เซวียเหวินยูนยิ้มเรียบๆ ชี้นิ้วไปทางเซี่ยชีหรั่นที่อยู่นอกประตู “ขอโทษด้วยครับ ผมไม่หวังให้คนรักของผมเข้าใจผิด”
“ขอโทษด้วยค่ะ ฉันไม่ทราบ…….” นางพยาบาลวิ่งผ่านร่างเซี่ยชีหรั่นไปด้วยใบหน้าแดงก่ำ เซี่ยชีหรั่นทอดถอนใจ “ฉันกลายเป็นอาวุธเฉพาะทางอันยอดเยี่ยมที่คุณใช้หลบหลีกบรรดาสาวๆเสียแล้ว”
เซวียเหวินยูนมองเซี่ยชีหรั่น มุมปากน่ามองยกยิ้ม ชี้ไปยังน้ำแกงที่อยู่บนโต๊ะ พลางเอ่ยว่า “ในฐานะผู้มีพระคุณของคุณ จะสามารถรบกวนคุณป้อนน้ำแกงได้ไหม ผมใกล้จะหิวตายแล้ว”
“ก๊อกๆ!” เสียงเคาะประตูดังขึ้น จางเฟิงอี้เดินหัวเราะชอบใจเข้ามา ส่งโทรศัพท์ให้กับเซวียเหวินยูนอย่างมีนัยยะ เสียงเย่เชินหลินในสายโทรศัพท์นั้นเย็นยะเยือก “ถ้าหากว่าไม่อยากให้มือทั้งสองข้างต้องมีจุดจบเหมือนกับศีรษะล่ะก็ ยกขึ้นมาดื่มเองซะ”
เซวียเหวินยูนถือโทรศัพท์มือถือ ถามอย่างตกตะลึงว่า “เขารู้ได้อย่างไรกัน!” เซี่ยชีหรั่นลูบต่างหูมรกตที่แกว่งไปมาอยู่ข้างหูตัวเอง พลางยิ้มอย่างกระอักกระอ่วน
เมื่อกลับไปถึงบ้านตระกูลหวา เซี่ยชีหรั่นก็เดินตรงขึ้นไปชั้นบน ตอนที่ก้าวข้ามขั้นบันไดนั้น พื้นที่ลื่นอยู่ก็ทำให้เซี่ยชีหรั่นลื่นไถลพุ่งตัวไปด้านหน้า เซี่ยชีหรั่นรีบคว้าราวบันไดทันที เพื่อเลี่ยงไม่ให้ตัวเองหกล้มลงไป
มองไปที่บันไดด้วยอาการตื่นตระหนก บนนั้นเต็มไปด้วยน้ำมัน “คุณหนูคะ” คนรับใช้คนหนึ่งคล้ายกับว่าเดินออกมาจากบ้านตระกูลหวาด้วยความเร่งรีบ เมื่อเห็นเซี่ยชีหรั่นแล้วก็ก้าวเข้ามาประคองอย่างรวดเร็ว
คนรับใช้เห็นขั้นบันไดที่เต็มไปด้วยน้ำมันก็ตกใจเช่นกัน “อาจจะเป็นพวกเราที่เลินเล่อเองค่ะ” คนรับใช้รีบเช็ดพื้น แผ่นหลังเซี่ยชีหรั่นกลับมีเหงื่อเย็นๆไหลซึม เป็นการประมาทเลินเล่อจริงๆ หรือว่ามีคนต้องการจะทำแบบนี้กันแน่
“ทำไมพวกเธอถึงได้รีบร้อนแบบนี้กันล่ะ” เซี่ยชีหรั่นถามคนรับใช้ คนรับใช้ตอบว่า “พวกเราก็ไม่ทราบค่ะ เป็นคำสั่งของท่านผู้หญิง พวกเราเพียงแค่ปฏิบัติตามเท่านั้นค่ะ”
คนรับใช้รีบเดินจากไป สายตาของเซี่ยชีหรั่นตกลงที่หน้าทางเดินบันได ก็นึกขึ้นได้ว่าผู้หญิงที่ปรากฏตัวขึ้นมาสองครั้งคนนั้น คล้ายกับว่าล้วนหายตัวไปที่หัวบันได
เดินย่องไปถึงหัวบันได รอบด้านไม่มีอะไรที่ไม่เข้าพวก มีเพียงแค่ประตูบานหนึ่งที่สามารถเลื่อนได้ เซี่ยชีหรั่นเปิดประตู ด้านในเต็มไปด้วยไม้กวาดและยังมีเครื่องดูดฝุ่น อุปกรณ์เบ็ดเตล็ดต่างๆ ตอนที่คิดจะหมุนตัวกลับ โทรศัพท์มือถือก็แผดเสียงดังขึ้นมากะทันหัน
เซี่ยชีหรั่นสะดุ้งตกใจ ถอยหลังก้าวหนึ่งตามสัญชาตญาณ เสียงที่ดังขึ้นในพื้นที่ว่างเปล่าทำให้เซี่ยชีหรั่นประหลาดใจ ในเวลาเดียวกันกับที่กดรับโทรศัพท์มือถือนั้น เซี่ยชีหรั่นก็ย่อตัวลงยกแผ่นไม้ข้างใต้ออกด้วยมือ มีช่องว่างช่องหนึ่งปรากฏขึ้นเบื้องหน้าเซี่ยชีหรั่น
“กลับไป” เสียงของเย่เชินหลินเจือไปด้วยความวิตกกังวล เขาไม่อยากให้เซี่ยชีหรั่นเสี่ยงอันตราย
“เมื่อครู่นี้ฉันเกือบจะลื่นล้มแล้ว ฉันรู้สึกได้ว่ามีคนจงใจทำแบบนี้ ฉันอยากจะรู้ว่าเป็นใครกันแน่” เซี่ยชีหรั่นปรึกษากับเย่เชินหลินเสียงเบา ผ่านไปอยู่นาน ในสายโทรศัพท์ถึงได้มีเสียงเย่เชินหลินลอยออกมา “รักษาการติดต่อเอาไว้ตลอด”
เซี่ยชีหรั่นรับคำ ก้าวลงไปด้านล่างด้วยความระมัดระวัง พื้นด้านล่างถูกติดเชิงเทียนเอาไว้ทุกสองสามเมตร เพื่อคงสภาพอากาศในห้องใต้ดินไม่ให้เบาบาง
“หันกลับมามองดูว่ามีเครื่องหมายอะไรหรือไม่” เสียงของเย่เชินหลินดังขึ้นกะทันหัน เซี่ยชีหรั่นหันกลับไปมอง ทุกขั้นบันไดมีเส้นสีแดงเล็กๆอย่างที่คิดเอาไว้เลย ถ้าหากว่าเหยียบโดนเส้นสีแดง เส้นสีแดงนั้นก็จะเลอะเทอะ
หลังจากทำความสะอาดเส้นสีแดงนั้นเรียบร้อยแล้ว เซี่ยชีหรั่นก็เดินหน้าต่อไป เสียงลมหายใจเบาๆในสายโทรศัพท์ ทำให้เธอรู้สึกใจสงบ จนกระทั่งเดินไปถึงปลายทาง ลูบถูกกำแพง
“ดูเหมือนว่าจะไม่มีเส้นทางให้เดินแล้ว” เซี่ยชีหรั่นเอ่ยกับอีกฝ่ายที่อยู่ในสายโทรศัพท์
เย่เชินหลินที่อยู่ในสายโทรศัพท์ชะงักไปเล็กน้อย ค่อยเอ่ยว่า “ตอนนี้คุณก็กลับไปที่ห้องอย่างเชื่อฟังนะ”
เซี่ยชีหรั่นถอนหายใจเล็กน้อย หมุนตัวอย่างคิดจะจากไป โทรศัพท์มือถือก็ถูโดนฝุ่นที่เกาะอยู่บนกำแพงจนร่วงกราว เผยให้เห็นสีน้ำตาลที่แท้จริงของแผ่นไม้
“ข้างหลังนี้คือกำแพงกั้นอันหนึ่ง!” เซี่ยชีหรั่นร้องออกมา
ในสายโทรศัพท์มีเสียงลมพัดผ่าน ท่ามกลางความมืดมิดนั้นชัดเจนจนสามารถเห็นได้ เย่เชินหลินเอ่ยว่า “ยืนอยู่ที่เดิมแล้วหลับตาลง นับไป 60 วินาที”
แม้ว่าเซี่ยชีหรั่นจะสงสัย แต่ก็หลับตาลงอย่างเชื่อฟัง ท่องตัวเลขในใจเงียบๆ มือเรียวยาวของเย่เชินหลินจับแขนเซี่ยชีหรั่น ฝ่ามือนั้นทาบทับอยู่บนดวงตาของเซี่ยชีหรั่นเล็กน้อย
เซี่ยชีหรั่นดึงมือของเย่เชินหลินออก หันหน้าไปถามด้วยความประหลาดใจว่า “คุณมาได้อย่างไรกันคะ” เย่เชินหลินยักคิ้วมองเซี่ยชีหรั่นอย่างหมดคำบรรยาย
เมื่อเห็นว่าใบหน้ารูปไข่ของเซี่ยชีหรั่นแดงก่ำเพราะอากาศร้อนชื้นแล้ว เย่เชินหลินก็ลูบติ่งหูเซี่ยชีหรั่นแผ่วเบา เบนสายตาไปมองกำแพงไม้ที่แท้จริงที่เผยออกมา หลังจากเคาะแล้วก็ผลักประตูเข้าไป
เสียงแอ๊ดดังขึ้น หลังพื้นไม้นั้นเชื่อมโยงกับห้องห้องหนึ่ง ภายในห้องนั้นมีของใช้ของผู้หญิงวางอยู่ เสื้อผ้านับไม่ถ้วน เครื่องประดับศีรษะ และยังมีเครื่องสำอาง เย่เชินหลินใช้นิ้วสำรวจบนโต๊ะ เอ่ยอย่างครุ่นคิดว่า “บนโต๊ะไม่มีฝุ่นเลยแม้แต่น้อย นี่แสดงให้เห็นว่าระยะนี้มีคนมาที่นี่”
หน้าประตูมีเสียงฝีเท้าลอยเข้ามา เย่เชินหลินอุ้มเซี่ยชีหรั่นเอาไว้ในอ้อมแขน ก้าวเข้าไปในตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ด้วยกัน เซี่ยชีหรั่นอยู่ใกล้กับเย่เชินหลินมาก ขอเพียงแค่เงยหน้าขึ้นก็สามารถหายใจร่วมกับฝ่ายตรงข้ามได้
เซี่ยชีหรั่นคิดถึงเรื่องใกล้ชิดที่ทั้งสองคนเคยทำด้วยกันมาก่อนแล้ว หน้าก็แดงระเรื่อเล็กน้อย เย่เชินหลินที่สังเกตมองเซี่ยชีหรั่นอยู่ ก็เอ่ยถามว่า “คิดอะไรอยู่หรือ”
“ไม่ได้คิดอะไรค่ะ!” เซี่ยชีหรั่นตอบโต้ตามสัญชาตญาณ ขึ้นเสียงสูง เย่เชินหลินรีบอุดปากเซี่ยชีหรั่นทันที เซี่ยชีหรั่นแลบลิ้นออกมาแตะโดนใจกลางฝ่ามือของเย่เชินหลินโดยไม่ทันได้ระวัง
นัยน์ตาเย่เชินหลินเปลี่ยนเป็นลุ่มลึกช้าๆ สีหน้าก็คล้ายกับว่าเต็มไปด้วยความปรารถนาอย่างเห็นได้ชัด คล้ายกับนักล่าจ้องเขม็งมาที่เซี่ยชีหรั่น เซี่ยชีหรั่นและเย่เชินหลินสบตาโดยไม่ละสายตาออกจากกัน จนกระทั่งมีเสียงแอ๊ดดังขึ้นมา
กว๋อเหาหรือ เขามาทำอะไรที่นี่กัน
เซี่ยชีหรั่นสบตากับเย่เชินหลิน มองกว๋อเหาที่อยู่ในห้องผ่านรอยแยกเล็กๆของตู้เสื้อผ้าอย่างใจจดใจจ่อ คนที่อยู่ในห้องล็อคประตู และเริ่มถอดเสื้อผ้า เซี่ยชีหรั่นยังอยากจะดูต่อ แต่กลับถูกมือใหญ่ปิดเอาไว้อย่างแน่นหนา จึงทำได้เพียงแค่อยู่นิ่งๆ
เมื่อเห็นชายที่อยู่ในห้องเดินเข้าไปในห้องอาบน้ำแล้ว เย่เชินหลินที่เพิ่งคิดจะปล่อยมือ ก็มองไปทางชายหนุ่มที่สวมชุดกระโปรงตัวใหญ่สีขาวชุดหนึ่ง ยกทรง และยังมีวิกผม เดินออกมาจากห้องอาบน้ำด้วยความประหลาดใจ
“เสร็จรึยังคะ” เซี่ยชีหรั่นถามด้วยความระมัดระวัง เย่เชินหลินเบนหน้าไปเลียติ่งหูเซี่ยชีหรั่น มองฝ่ายตรงข้ามที่สงบลงในเสี้ยววินาทีด้วยความพอใจ พลางขมวดคิ้วมองสิ่งของภายในห้องทั้งหมดต่อไป
ชายหนุ่มสวมเสื้อผ้าเสร็จแล้ว สวมวิกผม และนั่งลง เริ่มแต่งหน้าภายในห้อง เย่เชินหลินปล่อยมือจากปากของเซี่ยชีหรั่น เซี่ยชีหรั่นเห็นใบหน้าครึ่งชาย และอีกครึ่งหนึ่งที่แต่งหน้าเรียบร้อยแล้วก็กรีดร้องออกมา เย่เชินหลินนั้นคาดการณ์ได้ตั้งแต่แรกแล้ว ขณะที่เซี่ยชีหรั่นอ้าปากก็เอียงศีรษะจูบลงไป
เซี่ยชีหรั่นนัยน์ตาเบิกโต เบื้องหน้ามีเพียงแค่ขนตายาวงอนที่สั่นไหวของเย่เชินหลิน และจมูกโด่งเป็นสันที่ทอดยาวเป็นเงา
จูบจนกระทั่งเซี่ยชีหรั่นใกล้จะขาดอากาศหายใจ เย่เชินหลินถึงได้ปล่อยเซี่ยชีหรั่น นิ้วมือลูบไปบนริมฝีปากมีประกายวาวของเซี่ยชีหรั่น เสียงประตูดัง “ปัง” กว๋อเหาออกไปแล้ว
“เขาจะไปที่ไหนคะ” เซี่ยชีหรั่นถามเย่เชินหลินเสียงเบา
เย่เชินหลินเลิกคิ้ว “ตามไป!”
ทั้งสองคนตามอยู่ด้านหลังกว๋อเหาด้วยความระมัดระวัง เห็นชายคนนี้เดินโงนเงนออกมาจากประตู หลังจากนั้นก็ตรงขึ้นไปชั้นบน
“นั่นคือห้องของฉัน!” เซี่ยชีหรั่นคิดจะกรีดร้องอีกครั้ง แต่หลังจากเห็นอารมณ์ค้างบนใบหน้าของเย่เชินหลินแล้ว ก็รีบปิดปากตัวเองทันที
หลังจากที่กว๋อเหาเดินเข้าไปในห้องเซี่ยชีหรั่นแล้ว ก็มีเสียงค้นหาดังออกมา เย่เชินหลินโยนไฟแช็คลงไปที่ชั้นล่าง เสียงแกร๊กดังขึ้น ชายหนุ่มตกใจ รีบออกจากห้องเซี่ยชีหรั่นไปอย่างรวดเร็ว
“ฉันคิดว่าเขากำลังหารูปภาพใบนี้ เขาอาจจะไม่ต้องการให้คนอื่นค้นพบงานอดิเรกของเขา” เซี่ยชีหรั่นยื่นรูปภาพในมือให้เย่เชินหลิน เย่เชินหลินมองชายหนุ่มที่เซลฟี่ตัวเองในรูปภาพแล้ว ก็ชี้ไปที่มุมหนึ่ง พลางเอ่ยว่า “เขาอาจจะไม่ได้เป็นกังวลว่ารูปภาพใบนี้จะถูกเปิดเผยออกไป แต่เป็นกังวลว่าคนคนนี้จะถูกพบเจอ”
เซี่ยชีหรั่นเขยิบไปดู ที่มุมหนึ่งในกระจกปรากฏคนที่มีสีหน้าตื่นตะลึงคนหนึ่ง นั่นก็คือหยวนหยวน
“ตอนที่ถ่ายรูปใบนี้เป็นช่วงที่หยวนหยวนเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์!” เซี่ยชีหรั่นร้องเสียงหลง
ปริศนาทั้งหมดนี้ทำให้เซี่ยชีหรั่นรู้สึกเหลือเชื่อมาก คิดฟุ้งซ่าน พลิกตัวไปมา เย่เชินหลินเลิกคิ้ว จับมือเซี่ยชีหรั่นเคลื่อนไปมาบนร่างของตัวเองอย่างเป็นอิสระจนถึงจุดที่ร้อนผ่าว
“อยากนอนหรือว่า…..” เย่เชินหลินมองเซี่ยชีหรั่นอย่างหวังที่จะทำอะไรบางอย่างต่อ นัยน์ตาทอประกายที่ทำให้เซี่ยชีหรั่นขวยอาย
“นอนค่ะ นอน!” เซี่ยชีหรั่นดึงมือออก มุดตัวเข้าไปในผ้าห่ม คนที่อยู่นอกผ้าห่มไม่ได้มากวนตัวเองอีก บางครั้งก็ได้ยินเสียงพลิกหน้ากระดาษ จนกระทั่งเซี่ยชีหรั่นหลับไป
เช้าตรู่ ทั่วทั้งบ้านตระกูลหวาฟื้นคืนสู่สภาพที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังแห่งชีวิต เซี่ยชีหรั่นเห็นเซวียเหวินยูนที่กำลังเดินมาทางบ้านตระกูลหวาแล้วก็อยากอดโบกมือทักทายเซวียเหวินยูน เซวียเหวินยูนคล้ายกับรู้สึกได้ถึงการจับตามองของเซี่ยชีหรั่น ก็เงยหน้าขึ้นมาพอดี
อ้ายหลอนเดินเข้ามาพูดคุยกับเซวียเหวินยูนพอดี รอจนอ้ายหลอนจากไปแล้ว เซี่ยชีหรั่นถึงได้เขยิบเข้ามาข้างกายเซวียเหวินยูน “อ้ายหลอนมาหาคุณ มีเรื่องอะไรหรือคะ”
เซวียเหวินยูนเลิกคิ้ว พลางเอ่ยว่า “คนที่อยากแบ่งมรดกคนหนึ่งที่กำลังหาพันธมิตรไม่หยุดเท่านั้น”
เซี่ยชีหรั่นรู้สึกได้ว่าเซวียเหวินยูนเข้าใจในบ้านตระกูลหวามากกว่าตัวเองแน่นอน จึงคิดจะถามเซวียเหวินยูน “บ้านตระกูลหวานี้มีสถานการณ์ผิดปกติอะไรหรือเปล่าคะ”
“ผิดปกติหรือ ทุกตระกูลใหญ่ล้วนมีเรื่องผิดปกติเกิดขึ้นบ้างกันทั้งนั้น” เซวียเหวินยูนกำลังยิ้ม แต่นัยน์ตากลับเต็มไปการความเยาะเย้ย
“เล่าให้ฉันฟังได้ไหมคะ” เซี่ยชีหรั่นตาเป็นประกาย เต็มไปด้วยการขอร้อง
เซวียเหวินยูนสูดลมหายใจ มองไปทางเซี่ยชีหรั่นด้วยความโลภ แทบอยากจะให้เซี่ยชีหรั่นได้รู้ว่าตอนนี้เธอยั่วยวนใจมากแค่ไหน!
“จะให้บอกคุณก็ได้ เพียงแต่ว่าคุณต้องแสดงออกถึงอะไรบางอย่าง” เซวียเหวินยูนชี้ไปที่แก้มของตัวเองยิ้มๆ

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset