สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 1282 หญิงรับใช้ของคุณชายเย่ 1182

บทที่ 1282 หญิงรับใช้ของคุณชายเย่ 1182
“ฉันไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น!” จู่ๆเซี่ยชีหรั่นก็กุมเข้าที่ใบหูและกระโดดถอยห่างออกไป เซวียเหวินยูนมองเซี่ยชีหรั่นอย่างแปลกใจ “คุณเป็นอะไรไปหรือ”
“ไม่มีอะไร ไม่มีอะไรค่ะ” เซี่ยชีหรั่นกุมใบหูตัวเองเอาไว้ไม่ปล่อย เซวียเหวินยูนยิ้มเจื่อน “ไม่ยินยอมที่จะแตะต้องผมขนาดนี้เลยหรือ”
เซี่ยชีหรั่นก้มหน้าไม่พูดอะไร เพราะว่าไม่มีอะไรจะพูด เบื้องหน้าปรากฏรองเท้าหนังชั้นดีคู่หนึ่งขึ้นมากะทันหัน เซวียเหวินยูนโค้งตัวลงมาเล็กน้อย จูบที่ศีรษะเซี่ยชีหรั่น
“อรุณสวัสดิ์ เจ้าหญิงของผม” เซวียเหวินยูนเอ่ยยิ้มๆให้กับเซี่ยชีหรั่นที่เงยหน้าขึ้นมาด้วยความประหลาดใจ
เซี่ยชีหรั่นสามารถจินตนาการภาพเย่เชินหลินที่เต็มไปด้วยโทสะออกมาได้เลยทีเดียว เซี่ยชีหรั่นก้าวเท้าคิดจะมุ่งหน้าเข้าไปในห้อง รู้สึกโมโหอยู่บ้างที่เซวียเหวินยูนจูบตัวเอง
“คุณพ่อของหยวนหยวนคือลูกชายที่หม่าลี่รักและทะนุถนอมมากที่สุด” เซวียเหวินยูนเอ่ย ประสบความสำเร็จในการที่เห็นเซี่ยชีหรั่นหยุดเดิน
“ก่อนที่จะเกิดเรื่องขึ้นกับหยวนหยวนหนึ่งอาทิตย์ กลับถูกหม่าลี่ส่งไปที่โรงพยาบาลบ้านั้นเองกับมือ” เซี่ยชีหรั่นหันหน้ามา เริ่มที่จะเดินมาทางเซวียเหวินยูน
“ส่วนผม ก็สามารถพาคุณไปได้” เซวียเหวินยูนเอ่ยประโยคสุดท้ายจบอย่างเชื่องช้า หมุนกุญแจมือที่อยู่บนมือของเซี่ยชีหรั่น
จนกระทั่งยืนอยู่หน้าประตูโรงพยาบาลบ้าที่คุ้นเคยอีกครั้ง เซี่ยชีหรั่นถึงได้เข้าใจขึ้นมา ที่แห่งนี้มีเสี่ยวเทียนที่ช่วยเหลือเรื่องความทรงจำของตัวเอง มีโยวเล่อ และยังมีผู้คนอีกมากมาย
“ทำไมหรือ” เซวียเหวินยูนคิดจะดึงเซี่ยชีหรั่น แต่เซี่ยชีหรั่นกลับหลบไป พลางส่ายหน้า “ไม่มีอะไร”
เซวียเหวินยูนมองมือตัวเองที่ถูกปฏิเสธแล้วก็ยิ้มเจื่อนๆ ตามเซี่ยชีหรั่นที่จงใจหลบเลี่ยงตัวเองไป
“ทำไมถึงได้เป็นคุณอีก!” คุณหมอที่เคยถูกเย่เชินหลินจัดการมาก่อนมองเซี่ยชีหรั่นด้วยความตกใจกลัว เซี่ยชีหรั่นปลอบประโลมว่า “ฉันแค่ต้องการมาหาคนคนหนึ่งค่ะ เขาชื่อว่าเจี้ยนกั๋ว”
คุณหมอมองเซวียเหวินยูน รู้สึกสงสัยอยู่บ้างว่าทำไมเย่เชินหลินถึงไม่ได้มาด้วย แต่ก็พาเซี่ยชีหรั่นเดินไปทางห้องพักผู้ป่วยนอกอย่างไม่ต้องการจะล่วงเกินด้วยความชำนาญ
ท่ามกลางแสงอาทิตย์ คนคนหนึ่งนั่งอาบแดดอยู่บนเก้าอี้รถเข็น เพียงแต่ว่าอายุวัยกลางคนก็มีผมขาวเต็มศีรษะเสียแล้ว แต่ว่าผิวพรรณดีมาก มองออกเลยว่าเกิดในตระกูลมั่งคั่งร่ำรวย
นางพยาบาลป้อนน้ำเข้าปากชายหนุ่ม แต่น้ำกลับไหลออกไปตามมุมปาก “เฮ้อ คุณเป็นแบบนี้ทุกวัน พวกเราล้วนจัดการได้ยากนะคะ” นางพยาบาลถอนหายใจ เก็บของเรียบร้อยแล้ว ถึงได้จากไป
เมื่อเห็นเซี่ยชีหรั่น นัยน์ตาไร้แววของชายหนุ่มก็มีประกายระยิบระยับขึ้นมา “หยวนหยวน!”
เซี่ยชีหรั่นชี้นิ้วมาทางตัวเอง พลางเอ่ยถามว่า “คุณยังจำหยวนหยวนได้ไหมคะ” ชายหนุ่มพยักหน้า ทำท่าทางต่างๆบนเก้าอี้รถเข็นด้วยความระมัดระวัง และจู่ๆก็ลบมันทิ้งไป
“พวกคุณเป็นใครกัน” นางพยาบาลมองเซี่ยชีหรั่นอย่างระแวดระวัง เซวียเหวินยูนขวางอยู่หน้าเก้าอี้รถเข็นของชายหนุ่มเงียบๆ ชายหนุ่มรีบใช้คราบน้ำที่อยู่บนเก้าอี้รถเข็นเขียนตัวอักษร “เอ” ออกมาอย่างรวดเร็ว
และถูกนางพยาบาลเข็นจากไปอย่างเร่งรีบ เซี่ยชีหรั่นและเซวียเหวินยูนจึงทำได้เพียงแค่กลับไปยังบ้านตระกูลหวาอีกครั้ง “คุณหนูคะ เจ้านายเรียกหาคุณค่ะ”
ข่าเอ๋อเห็นเซี่ยชีหรั่นแล้วก็เอ่ยขึ้นมา หน้าเตียงของหม่าลี่ไม่ได้มีเพียงแค่อ้ายหลอน แต่ยังมีกว๋อเหาด้วย เมื่อเห็นกว๋อเหาแล้ว เซี่ยชีหรั่นก็อดที่จะนึกถึงภาพหญิงสาวที่แต่งหน้าเข้มคนนั้นขึ้นมาไม่ได้
“คุณแม่ หยวนหยวนมาแล้ว คุณแม่มีเรื่องอะไร ก็รีบพูดเถอะค่ะ” อ้ายหลอนเร่งหม่าลี่ หม่าลี่เห็นเซี่ยชีหรั่นแล้วก็ส่ายหน้าน้อยๆ เหมือนกำลังรออะไรอยู่
ประตูถูกผลักเข้ามา เย่เชินหลินที่เดินเข้ามามองไปรอบด้าน สุดท้ายแล้วก็หยุดสายตาเอาไว้บนร่างของเซี่ยชีหรั่น “คุณคือเย่เชินหลินจากบริษัทเย่ซื่อใช่หรือไม่ คุณมาทำอะไรที่นี่กัน”
“ครั้งนี้พวกเรามายืนยันเรื่องพินัยกรรมอย่างเป็นทางการอีกครั้ง” จางเฟิงอี้หยิบสัญญาออกมาหนึ่งฉบับ อ้ายหลอนยิ้มเยาะ “มรดกหรือ ถ้าหากว่าฉันจำไม่ผิดล่ะก็ คุณเป็นผู้ช่วยของบริษัทเย่ซื่อใช่ไหมคะ ทำไมกระทั่งทนายความก็ยังเชิญมาไม่ได้กัน”
จางเฟิงอี้พยักหน้า หยิบใบอนุญาตทนายความออกมาจากกระเป๋า “ขอโทษด้วยครับ ผมก็มีใบอนุญาตทนายความเช่นกัน”
อ้ายหลอนสีหน้าเย็นชา ข่าเอ๋อเอ่ยว่า “ตอนนี้จะมีทนายจางเป็นผู้รับผิดชอบประกาศเรื่องพินัยกรรม” จางเฟิงอี้หยิบซองกระดาษสีน้ำตาลที่ปิดผนึกอยู่ออกมา ส่งให้อ้ายหลอนและกว๋อเหาอ่านลายเซ็นที่อยู่บนซองเป็นพิเศษ
อ้ายหลอนหน้าซีดเผือด กระทั่งกว๋อเหาที่มักจะหัวเราะชอบใจก็ยังมีแววประหลาดใจในนัยน์ตา จางเฟิงอี้มองถากถางผู้คนที่อยู่ในเหตุการณ์เหล่านี้ เอ่ยเสียงชัดเจนว่า “ตามที่คุณหญิงหม่าลี่จัดสรรในพินัยกรรม ได้มอบสิทธิในการถือครองที่ดินจำนวน 80% ให้กับคุณเย่เชินหลิน ส่วนที่เหลืออีก 20% มอบให้เจี้ยนกั๋วผู้เป็นลูกชายคนโต”
“เป็นไปไม่ได้! ไม่มีทางที่คุณแม่ของฉันจะไม่เหลืออะไรให้ฉันเลยแม้แต่น้อย!” อ้ายหลอนพุ่งเข้ามา คิดจะแย่งพินัยกรรมไป จางเฟิงอี้หลบได้อย่างสบายๆ จับแขนของอ้ายหลอนเอาไว้ ไม่ให้เธอเคลื่อนไหว
“คุณมีอะไรจะพูดหรือไม่” สายตาของเย่เชินหลินตกลงบนร่างของกว๋อเหา กว๋อเหายิ้ม แต่ก็ไม่ได้สงบนิ่งเหมือนกับเมื่อก่อนอีกแล้ว เขาพุ่งไปที่เตียง คุกเข่าให้กับหม่าลี่ “แม่ครับ! ผมผิดไปแล้ว คุณแม่อย่าเอาสิ่งที่เป็นของผมทั้งหมดไปเลยนะครับ”
แววตาขุ่นมัวของหม่าลี่เพียงแค่มองผ่านร่างของกว๋อเหาไป หลังจากนั้นก็ตกลงบนร่างของเซี่ยชีหรั่น “ในเมื่อจัดการเรื่องราวทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว พวกเราก็ขอตัวก่อนนะครับ” จางเฟิงอี้เอ่ย
เซี่ยชีหรั่นเฝ้ามองไปทางเย่เชินหลิน แต่ตั้งแต่ต้นจนจบ เย่เชินหลินไม่ได้มองมาที่เซี่ยชีหรั่นเลย และจากไปอย่างสบายอกสบายใจ
เซี่ยชีหรั่นมองเงาทางด้านหลังที่จากไปของเย่เชินหลินอย่างตะลึงค้างเล็กน้อย ความเฉยชาของเย่เชินหลินไม่ได้ปรากฏขึ้นมานานมากแล้ว เธอกัดฟันตามไป
“รอก่อนค่ะ!” เซี่ยชีหรั่นไล่ตามเย่เชินหลินที่กำลังจะออกจากประตูไปทันตอนที่อยู่ในสวนดอกไม้ จางเฟิงอี้เหลือพื้นที่เอาไว้ให้ทั้งสองคนอย่างรู้ความ
“ทำไมถึงเดินออกมาโดยไม่คลุมเสื้อกัน” เย่เชินหลินขมวดคิ้ว น้ำเสียงก็ไม่ได้เย็นชาเหมือนตอนที่อยู่ในห้องแล้ว
“วันนี้ฉันไปเยี่ยมคุณพ่อของหยวนหยวนกับเซวียเหวินยูนมาค่ะ รู้สึกราวกับว่าเขากลัวพยาบาลที่ดูแลเขามาตลอดมาก” เซี่ยชีหรั่นพูดเจื้อยแจ้วไม่หยุด
“พอแล้ว ผมไม่อยากฟังคุณพูดเรื่องพวกนี้” สายตาของเย่เชินหลินกวาดมองมุมหนึ่งที่อยู่ตรงระเบียงชั้นสองแล้ว ก็เอ่ยหยุดคำพูดเซี่ยชีหรั่นด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด
เซี่ยชีหรั่นสะดุ้งตกใจ มองเย่เชินหลินอย่างทำอะไรไม่ถูก เห็นเซี่ยชีหรั่นที่มีท่าทางเหมือนกับกระต่ายตัวน้อยแล้ว เย่เชินหลินก็เม้มริมฝีปาก เอ่ยเสียงเย็นชาว่า “ผมไม่ใช่ถังขยะของคุณ หลังจากนี้ ถ้าเป็นเรื่องพวกนี้ก็ไม่ต้องมารบกวนผมอีก”
“ฉัน……..เปล่า” เสียงของเซี่ยชีหรั่นเบาลงเรื่อยๆตามเย่เชินหลินที่เดินจากไปอย่างไร้เยื่อใย ผืนฟ้ามืดสลัวเริ่มมีฝนเม็ดเล็กร่วงหล่นลงมาอีกครั้ง
เซี่ยชีหรั่นก้มหน้า จิตใจสับสน ตัวเองทำอะไรผิดไปหรือ หรือว่าหลายวันมานี้ เย่เชินหลินล้วนกล้ำกลืนฝืนทนต่อนิสัยขี้หงุดหงิดเหล่านั้นของตัวเองกัน อีกทั้งเรื่องของบ้านตระกูลหวาก็ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับเขาเลยแม้แต่น้อย
ร่มคันหนึ่งกางอยู่เหนือศีรษะเซี่ยชีหรั่น เซี่ยชีหรั่นเงยหน้าด้วยความยินดี พลางเอ่ยว่า “เย่……….”
“หยวนหยวน เธอทะเลาะกับเย่เชินหลินหรือ” อ้ายหลอนเห็นใบหน้าไร้สีเลือดในเสี้ยววินาทีของเซี่ยชีหรั่นแล้วก็ลองสืบดู นัยน์ตามีแววค้นหา มองเซี่ยชีหรั่นโดยไม่ปล่อยรายละเอียดเล็กน้อยให้หลุดรอดไป
“ไม่ เป็นฉันเองที่รบกวนเขา” เซี่ยชีหรั่นยิ้มเจื่อนๆ
“ก่อนหน้านี้ความสัมพันธ์ของพวกเธอดีมากสินะ ไม่เป็นไร งอนง้อเขาให้มากหน่อย ผู้ชายล้วนเป็นแบบนี้” อ้ายหลอนคอยชี้แนะอย่างจริงใจ ตบไหล่เซี่ยชีหรั่นแล้วเดินจากไป
เม็ดฝนนอกบานหน้าต่างกระทบเข้ากับกระจกหน้าต่างไม่หยุด Cupidพาดตัวอยู่บนน่องของเซี่ยชีหรั่น ลำคอมีเสียงอู้อี้ดังขึ้น เซี่ยชีหรั่นหยิบโทรศัพท์ลุกขึ้นมานั่งกะทันหัน “เมี๊ยว!” Cupidร้องเสียงแหลมออกมา ช่วยชีวิตหางของตัวเองออกมาจากน่องขาด้านในของเซี่ยชีหรั่น
“Cupid แกว่า ฉันจะโทรศัพท์หาเขาดีไหม” เซี่ยชีหรั่นที่นอนตะแคงอยู่เอ่ยถาม Cupid
“เมี๊ยวๆ………” Cupid เลียกรงเล็บของตัวเอง
“แกบอกว่าไม่ต้องโทรหรือ” เซี่ยชีหรั่นวางโทรศัพท์ในมือลงอย่างเศร้าซึม
“เมี๊ยวๆๆ” Cupid เริ่มค้นหาท่าทางที่สบายตัวอีกครั้ง
“แกให้ฉันรุกไปข้างหน้าอย่างกล้าหาญหรือ” นิ้วเซี่ยชีหรั่นที่วางอยู่บนแป้นคีย์บอร์ดนั้นเริ่มเคลื่อนไหวเล็กน้อย
Cupidเหล่ตามองเซี่ยชีหรั่น ขึ้นไปนั่งทับอยู่บนโทรศัพท์ ตอนที่เซี่ยชีหรั่นดึงออกมานั้นก็เห็นว่าโทรศัพท์ถูกโทรออกไปแล้ว
เสียงลมหายใจคุ้นเคยจากในสายโทรศัพท์ เย่เชินหลินไม่ได้พูดอะไร เซี่ยชีหรั่นกลับสามารถรู้สึกได้ว่าฝ่ายตรงข้ามกำลังฟังตัวเองพูดอยู่
“ไม่ใช่ฉันนะ เป็นCupid มันนั่งอยู่บนโทรศัพท์!” เซี่ยชีหรั่นอยากจะอธิบาย แต่ยังไม่ทันจะเอ่ยจบ ฝ่ายตรงข้ามก็ตัดสายไป เสียงสัญญาณไม่ว่างทำให้เซี่ยชีหรั่น วางโทรศัพท์ในมือลงอย่างตะลึงงัน
ผู้ที่แนบหูอยู่นอกประตูเดินไปจากประตูห้องเซี่ยชีหรั่นอย่างเงียบงัน พร้อมกับกลอุบายเต็มท้อง เช้าตรู่ เซี่ยชีหรั่นเห็นดอกกุหลาบบานแล้ว คนใช้วางนมเสร็จเรียบร้อยแล้วก็จากไปอย่างรวดเร็ว สำหรับเซี่ยชีหรั่นแล้ว นอกจากหม่าลี่ ใครก็ล้วนรู้ว่าเซี่ยชีหรั่นไม่ใช่หยวนหยวน ความสัมพันธ์จึงไม่ค่อยดีเท่าไร
เสื้อคลุมตัวหนึ่งวางคลุมลงบนไหล่เซี่ยชีหรั่น “เพียงแค่เย็นเล็กน้อย ไม่ถึงกับต้องการเสื้อคลุมหรอกค่ะ” เซี่ยชีหรั่นยิ้มเจื่อนๆให้กับเซวียเหวินยูน
“นั่นก็ไม่ได้อยู่ดี คลุมให้ดีๆ!” เซวียเหวินยูนคลุมเสื้อคลุมให้กับเซี่ยชีหรั่นอย่างไม่ยอมให้เกิดความสงสัย เมื่อเห็นสีหน้าที่ไม่ค่อยดีของเซี่ยชีหรั่นแล้ว ก็เอ่ยถามอย่างเป็นห่วงอยู่บ้างว่า “เป็นอะไรไปหรือ”
เซี่ยชีหรั่นส่ายหน้า ด้านข้างมีเสียงของอ้ายหลอนลอยมา “หยวนหยวน เธอกับเย่เชินหลินยังไม่ได้คืนดีกันหรอกหรือ”
เซี่ยชีหรั่นพยักหน้าอย่างกระอักกระอ่วน เซวียเหวินยูนที่อยู่ด้านข้างเย็นชาลง “เป็นไปได้อย่างไรกัน!”
“นายยังไม่รู้หรือ วันก่อนเขามาที่บ้าน หยิบพินัยกรรมแล้วก็จากไป กระทั่งผู้หญิงที่ตัวเองรักมากที่สุดก็ไม่มองเลยแม้แต่แวบเดียว ไม่เคยเห็นผู้ชายประเภทนี้มาก่อนจริงๆ” อ้ายหลอนที่อยู่อีกด้านเอ่ยด้วยความเคียดแค้นและรู้สึกไม่เป็นธรรม
เซวียเหวินยูนเบนสายตาไปทางเซี่ยชีหรั่น เอ่ยถามด้วยสีหน้าเคร่งขรึมว่า “สิ่งที่เธอพูดเป็นความจริงหรือ”
เซี่ยชีหรั่นแลบลิ้นเลียริมฝีปากด้วยความลำบาก “อาจจะเป็นเพราะระยะนี้เขามีเรื่องที่ต้องทำค่อนข้างมาก ค่อนข้างยุ่ง อารมณ์ก็อาจจะไม่ค่อยดี……….”
“พอได้แล้ว!” เซวียเหวินยูนตัดบทเซี่ยชีหรั่น จับแขนของเซี่ยชีหรั่นเอาไว้ พลางเอ่ยว่า “ผมจะไปถามเขาให้ชัดเจนเป็นเพื่อนคุณ”
ด้านนอกตึกสูงบริษัทเย่ซื่อ เซี่ยชีหรั่นพยายามดิ้นให้หลุดออกจากมือของเซวียเหวินยูน “คุณปล่อยมือเถอะ ตอนนี้เป็นเวลาเลิกงาน มีเรื่องอะไร พวกเรากลับไปค่อยคุยกันเถอะ”
เซวียเหวินยูนหน้าตึง ปล่อยให้เซี่ยชีหรั่นดิ้นรนไป มีผู้คนเดินออกมาจากด้านในตึกไม่หยุดหย่อน หลังจากนั้นก็มองไปทางเซี่ยชีหรั่นและเซวียเหวินยูนที่จับเซี่ยชีหรั่นเอาไว้ด้วยความประหลาดใจ
“ประธานเย่ คุณผู้หญิงอยู่ที่ด้านล่าง ต้องการที่จะเลี่ยงไปหรือไม่ครับ” จางเฟิงอี้ยืนอยู่ข้างกายเย่เชินหลิน ตั้งแต่ต้นจนจบ สายตาของเย่เชินหลินไม่ได้ละไปจากเซี่ยชีหรั่นเลย เมื่อเห็นเซวียเหวินยูนเหวี่ยงมือของเซี่ยชีหรั่นแล้ว สีหน้าก็ทะมึนยิ่งกว่าเดิม
“คนเป็นอย่างไรบ้าง!” เย่เชินหลินถาม
จางเฟิงอี้หยิบอุปกรณ์กำหนดตำแหน่งออกมา ชี้ไปบนจุดที่เป็นแสงสีแดงๆสองสามจุด พลางเอ่ยว่า “ครั้งนี้คนที่พวกเขาเชิญมานั้นภูมิหลังสูงส่ง ตอนนี้ล้วนจับจ้องอยู่รอบด้านครับ”

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset