สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 1283 หญิงรับใช้ของคุณชายเย่ 1183

บทที่ 1283 หญิงรับใช้ของคุณชายเย่ 1183
“เรียกเอมี่มานี่” สายตาเย่เชินหลินผละออกจากร่างของเซี่ยชีหรั่นไปในที่สุด พร้อมกับเอ่ยเสียงเย็นชา
บานกระจกของอาคารถูกเปิดออก เย่เชินหลินก้าวเดินออกมาจากอาคารอย่างมั่นคง สายตาของเซี่ยชีหรั่นหลังจากได้เห็นเย่เชินหลินนั้นเริ่มจากยินดีเป็นตกตะลึง
ด้านหลังเย่เชินหลินมีหญิงสาวปรากฏตัวขึ้นมาคนหนึ่ง เธอสวมเสื้อผ้าตะวันตกงดงามประณีตก้าวขึ้นมาคล้องแขนของเย่เชินหลิน “เชินหลิน ฉันถูกใจกระเป๋าใบนั้น แต่ว่ามีแค่ที่สหรัฐเท่านั้น ตอนบ่ายไปเป็นเพื่อนฉันหน่อยได้ไหมคะ”
เย่เชินหลินยังคงสงบนิ่งเช่นเคย แต่ก็หันหน้าไปผงกศีรษะให้กับหญิงสาว การพยักหน้าในครั้งนี้มากพอที่จะดูดเรี่ยวแรงของเซี่ยชีหรั่นไปจนหมดสิ้น
“เย่เชินหลิน! ” เซวียเหวินยูนพุ่งเข้าไปอย่างมีโทสะ กระชากปกคอเสื้อเย่เชินหลินเอาไว้ นัยน์ตาสองข้างที่มองเย่เชินหลินเต็มไปด้วยเลือด “คุณรีบขอโทษเซี่ยชีหรั่นในตอนนี้ เดี๋ยวนี้”
เย่เชินหลินปล่อยให้เซวียเหวินยูนกระชากปกคอเสื้อตัวเอง สายตาเย็นยะเยือกคล้ายกับว่ากำลังมองคนตายคนหนึ่ง “พาเธอไปจากที่นี่”
“หลังจากนั้นก็ให้พวกคุณสองคนรักกันหวานชื่น โดยไม่ห่างกายกันน่ะหรือ คุณว่าเป็นไปได้หรือ” เซวียเหวินยูนยิ้มเย็น
มุมปากเย่เชินหลินโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มโหดเหี้ยม เพียงแค่หัวเราะเบาๆ พลิกมือโจมตีเข้าไปที่ช่วงเอวของเซวียเหวินยูน เซวียเหวินยูนเจ็บปวดจนต้องถอยหลังไปหลายก้าว
“ไสหัวไป” เย่เชินหลินหันหน้าไปเอ่ยกับเซี่ยชีหรั่น เซี่ยชีหรั่นตัวสั่น ถอยหลังไป เบื้องหน้ามีเงามืดปกคลุม เซวียเหวินยูนโอบกอดเซี่ยชีหรั่นเอาไว้ กดศีรษะของเซี่ยชีหรั่นเอาไว้ในอ้อมแขนตัวเองเบามือ “ไม่ต้องดู และก็ไม่ต้องฟังด้วย เซี่ยชีหรั่น” เซวียเหวินยูนเอ่ยเสียงเบา
เมื่อปล่อยเซี่ยชีหรั่นแล้ว เซวียเหวินยูนก็หมุนตัวไปชกแก้มข้างซ้ายของเย่เชินหลิน เย่เชินหลินไม่ขยับเขยื้อน ถูกต่อยจนหน้าหัน
เซวียเหวินยูนตะลึงค้าง เย่เชินหลินเช็ดรอยเลือดที่มุมปากของตัวเองทิ้งอย่างไม่ใส่ใจ หญิงสาวก็พุ่งตัวเข้าไป ใช้ผ้าเช็ดหน้า เช็ดรอยเลือดให้เย่เชินหลิน
“โอกาสครั้งสุดท้าย ไปเสีย” เย่เชินหลินขมวดคิ้ว มองเซวียเหวินยูน ฝ่ายตรงข้ามเหมือนกับว่าสูญเสียสติสัมปชัญญะไปแล้ว ตะคอกด้วยความโมโห ชกเข้าไปที่บริเวณท้องของเย่เชินหลิน
“รนหาที่ตาย! ” เย่เชินหลินเอ่ยเสียงเย็น และใช้หมัดง่ายๆ โจมตีไปทางเซวียเหวินยูนเช่นเดียวกัน “พอได้แล้ว! ” เซี่ยชีหรั่นพุ่งเข้ามาอยู่ตรงกลางระหว่างคนสองคนกะทันหัน
นัยน์ตาของเซวียเหวินยูนและเย่เชินหลินเบิกโตขึ้น เพราะตกตะลึง ทั้งสองล้วนหลบเลี่ยงเซี่ยชีหรั่น แต่เซี่ยชีหรั่นยังคงถูกทำให้โงนเงนอยู่ดี
“ชีหรั่น! ” เซวียเหวินยูนรีบพุ่งเข้าไปประคองเซี่ยชีหรั่นที่ล้มลงกับพื้นขึ้นมา มือของเย่เชินหลินนั้นยื่นออกไปแล้ว เท้าก็ก้าวไปทางเซี่ยชีหรั่น แต่ก็อดกลั้นเอาไว้ เอามือที่ยื่นออกไปโอบไปที่หญิงสาวที่อยู่ด้านข้างแทน
“เย่เชินหลิน! ” เซวียเหวินยูนคิดจะพุ่งเข้าไปอีกครั้งอย่างหมดความอดทน เซี่ยชีหรั่นคว้าแขนเสื้อเขาเอาไว้ พลางส่ายหน้า ท้องยังคงรู้สึกคล้ายกับว่าเจ็บอยู่บ้าง เซี่ยชีหรั่นอดกลั้น เดินไปถึงข้างกายเย่เชินหลิน “บอกฉันได้ไหมคะว่า ฉันทำผิดอะไร”
มือของเย่เชินหลินที่โอบหญิงสาวอยู่นั้นออกแรงมากขึ้น แต่น้ำเสียงยังคงเย็นชาไม่ใส่ใจเช่นเคย “คุณไม่ได้ทำอะไรผิด และผมก็ไม่จำเป็นต้องอธิบายถึงการกระทำของผมกับคุณเช่นกัน”
“เพี๊ยะ! ” มือที่ยื่นออกมาของเซี่ยชีหรั่นถูกเย่เชินหลินคว้าเอาไว้ในมือแน่น “เซี่ยชีหรั่น ทางที่ดีควรจะระมัดระวังเรื่องขอบเขตนะ” เย่เชินหลินเอ่ยพูดอย่างเย็นชา
เซี่ยชีหรั่นก้มหน้า ดึงเซวียเหวินยูนที่จะพุ่งเข้าไปเอาไว้ เอ่ยเสียงเบาว่า “พวกเราไปกันเถอะค่ะ”
“จะได้อย่างไร ชีหรั่น หรือว่าคุณจะปล่อยเขาไปทั้งแบบนี้! ” เซวียเหวินยูนมองเย่เชินหลินอย่างหวั่นวิตก
“พวกเราไปกันเถอะนะ” เซี่ยชีหรั่นเอ่ยซ้ำอีกครั้ง ตอนที่เงยหน้าขึ้นมามองเซวียเหวินยูน นัยน์ตาก็มีหยดน้ำตาเอ่อขึ้นมาอย่างควบคุมไม่อยู่แล้ว
เซวียเหวินยูนตะลึงค้าง มองเย่เชินหลินแวบหนึ่ง “คุณจะต้องเสียใจในภายหลังแน่นอน”
เย่เชินหลินมองเซวียเหวินยูนโอบไหล่เซี่ยชีหรั่น เปิดประตู คาดเข็มขัดนิรภัยให้เซี่ยชีหรั่นอย่างเบามือแล้ว หลังจากนั้นก็จากไป
เวลาผ่านไปนานแล้ว เอมี่ถึงได้เอ่ยเสียงเบาด้วยความเป็นห่วงว่า “ประธานเย่ คนล้วนจากไปหมดแล้วค่ะ คุณจะไปทำแผลสักหน่อยไหมคะ”
เย่เชินหลินปล่อยมือออกทันที มองไปยังสถานที่ที่เซี่ยชีหรั่นจากไป นัยน์ตาเต็มไปด้วยความรักลึกซึ้ง เอมี่ที่ยืนอยู่ด้านหลังเย่เชินหลิน เห็นผู้ชายที่ตัวเองเลื่อมใสศรัทธามาตลอด ทำถึงขนาดนี้เพื่อปกป้องผู้หญิงคนหนึ่งแล้วก็ถอนหายใจเสียงเบา
ระหว่างเย่เชินหลินและเซี่ยชีหรั่นนั้น ใครก็แทรกเข้าไปไม่ได้จริงๆ !
“อยากร้องไห้ก็ร้องออกมาเสีย” เซวียเหวินยูนขับรถ แต่สายตาก็ยังเฝ้าดูเซี่ยชีหรั่นตลอด
“ฉันไม่ได้ร้องไห้นะ! ” เซี่ยชีหรั่นเงยหน้าขึ้นมา ใช้ฝ่ามือพัดที่ตาตัวเอง หน่วยตาแดงระเรื่อราวกับกระต่าย!
เซวียเหวินยูนเงียบ ไม่พูดอะไร จู่ๆ ก็หักเลี้ยวรถ ขับไปยังอีกเส้นทางหนึ่ง “คุณจะไปไหนคะ” เซี่ยชีหรั่นถามด้วยความตื่นตะลึง หยดน้ำตาก็ไหลลงมา
รถขับด้วยความเร็วสูงมาตลอดทาง และจอดนิ่งบนหน้าผาสูงชันแห่งหนึ่ง เซวียเหวินยูนลากเซี่ยชีหรั่นลงมาจากรถ คว้าเสื้อสูทออกมาโยนใส่ศีรษะและหน้าของเซี่ยชีหรั่น เอ่ยด้วยใบหน้าเย็นชาว่า “ชูแขนขึ้นมา”
ความจริงจังของเซวียเหวินยูนทำให้เซี่ยชีหรั่นทำตามอย่างเชื่อฟัง เซวียเหวินยูนช่วยเซี่ยชีหรั่นกลัดกระดุมทีละเม็ดจนเรียบร้อย
“พวกเรามีทำอะไรที่นี่กัน” เซี่ยชีหรั่นถามอย่างแปลกใจ ลมทำให้อารมณ์และความคิดของเธอสดชื่นมีสติขึ้นเล็กน้อย
“มีเรื่องเล่าเรื่องหนึ่ง ตอนที่คนอารมณ์ไม่ดี ขอเพียงแค่ตะโกนออกมาในสถานที่โล่งกว้างก็จะรู้สึกสบายขึ้นมาก” เซวียเหวินยูนมองเซี่ยชีหรั่น ในแววตามีการให้กำลังใจ
เซี่ยชีหรั่นหัวเราะพรืดออกมา “ดูเหมือนว่าจะเป็นเรื่องที่จะอ่านให้เนี่ยนโม่ฟังตอนก่อนนอนนะ พระราชาหูลาเรื่องนั้นน่ะ”
รอยยิ้มของเซี่ยชีหรั่นทำให้เซวียเหวินยูนหน้าแดงอย่างหาได้ยาก ตั้งแต่เด็กแล้วที่เขาไม่ชื่นชอบสัมผัสผู้หญิง และก็ไม่รู้ว่าจะโอ๋เด็กผู้หญิงอย่างไรเช่นกัน นี่เป็นครั้งแรกที่คิดอยากจะทำเรื่องพวกนี้เพื่อเซี่ยชีหรั่น
“เย่เชินหลิน คุณมันคนชั่วร้าย ร้าย ร้าย! ” เสียงสะท้อนดังไปมาในหน้าผาโล่งกว้าง เซี่ยชีหรั่นสูดลมหายใจลึก เลิกคิ้วมองไปทางเซวียเหวินยูน “มาตะโกนด้วยกันไหมคะ”
เซวียเหวินยูนหันหน้าไปตะโกนใส่หุบเขาโล่งกว้าง “เซี่ยชีหรั่น ผมชอบคุณ คุณ คุณ! ” เสียงดังสะท้อนไม่หยุด เซวียเหวินยูนหันหน้าไปมองเซี่ยชีหรั่น
“ทำไมคุณถึงได้ต่อต้านผู้หญิงขนาดนั้นกัน” เซี่ยชีหรั่นไม่สามารถตอบกลับการสารภาพรักของเซวียเหวินยูนได้ จึงทำได้เพียงแค่เปลี่ยนหัวข้อสนทนา
เซวียเหวินยูนยักไหล่ “กลับมาบ้านหลังจากเลิกเรียนแล้วเห็น พ่อของตัวเองทำเรื่องน่าสะอิดสะเอียนกับผู้หญิงคนอื่น หลังจากนั้นก็รู้สึกต่อต้านสัมผัสจากผู้หญิง”
เซี่ยชีหรั่นยื่นมือออกไปจิ้มแขนเซวียเหวินยูนเบาๆ พลางเอ่ยถามว่า “ดังนั้นฉันถูกลอตเตอรี่แล้วหรือ กลายเป็นคนเพียงคนเดียวที่สามารถแตะตัวได้”
เซวียเหวินยูนเลิกคิ้ว มองเซี่ยชีหรั่น เซี่ยชีหรั่นยื่นมือออกมาจิ้มอีกครั้ง เซวียเหวินยูนจับนิ้วเซี่ยชีหรั่นเอาไว้ทันที เอ่ยเสียงอ่อนว่า “ถ้าหากว่าเขาทำให้คุณบาดเจ็บบ่อยๆ ทำไมคุณไม่เลือกเส้นทางที่ไร้ขวากหนามเส้นทางหนึ่งเสียล่ะ”
เซี่ยชีหรั่นดึงมือออก มองไปยังผืนฟ้าที่มืดสนิท ลูบต่างหูที่อยู่บนใบหูอย่างไม่รู้ตัว บางทีคนคนนั้นอาจจะนั่งฟังตัวเองพูดอยู่อย่างตั้งใจในสถานที่แห่งหนึ่ง
“ถ้าหากว่าฉันลืมเขาไม่ได้ชั่วคราวล่ะ” เซี่ยชีหรั่นเอ่ยถามเสียงเบา เหมือนกับว่าพูดให้เซวียเหวินยูนฟัง แต่ก็เหมือนกับว่าพูดให้ตัวเองฟังเช่นกัน
คำพูดของเซี่ยชีหรั่นทำให้ตาของเซวียเหวินยูนเป็นประกาย จึงเอ่ยออกมาโดยไม่ต้องคิดว่า “ผมจะรอคุณ! ”
“เพียงเพราะว่ามีแค่ฉันที่สามารถแตะตัวคุณได้หรือคะ” เซี่ยชีหรั่นมองเซวียเหวินยูนอย่างจริงจัง เซวียเหวินยูนคิดจะอธิบาย แต่เซี่ยชีหรั่นกลับหัวเราะพรืดออกมากะทันหัน
“ปึก! ” เสียงกระจกที่ถูกกระแทกอย่างแรงดังขึ้น เย่เชินหลินมองดูเหตุการณ์ทั้งหมดที่แสดงอยู่บนหน้าจอแสดงผลด้วยสีหน้าเคร่งขรึม บอกกับตัวเองว่าจะต้องอดทน เรื่องทั้งหมดที่ทำก็เพื่อปกป้องผู้หญิงคนนี้ ปกป้องรอยยิ้มบนใบหน้าเธอ
การปลอบใจของเซวียเหวินยูนทำให้เซี่ยชีหรั่นนอนหลับสนิทโดยไม่ฝันทั้งคืน เช้าตรู่หลังจากตื่นนอนแล้วก็เดินลงบันไดมา เซี่ยชีหรั่นได้กลิ่นของโจ๊ก อาหารเช้าของบ้านตระกูลหวาทั้งหมดล้วนเป็นสไตล์ตะวันตก ทำไมอาหารวันนี้ถึงได้เป็นโจ๊กกัน
เซวียเหวินยูนไม่เห็นว่าเซี่ยชีหรั่นที่ยืนอยู่บนบันไดมองมาที่ตัวเอง ด้านหนึ่งก็งึมงำ พลางหั่นผักจนเสร็จ อีกด้านหนึ่งก็ยุ่งวุ่นวายอยู่กับการหั่นเห็ดหอมที่แช่น้ำเป็นชิ้นๆ
“ต้องใส่เกลือเท่าไรหรือ” เซวียเหวินยูนหยิบขวดเกลือขึ้นมาด้วยความกลัดกลุ้ม รู้สึกเสียใจขึ้นมาที่ให้คนรับใช้ทั้งหมดออกไป “ใส่เพียงเล็กน้อยก็ได้แล้ว เพราะว่ารสชาติเดิมของเห็ดหอมก็หอมมากอยู่แล้ว” เซี่ยชีหรั่นที่ยืนอยู่อีกด้านเอ่ยยิ้มๆ
“เธอลงมาได้อย่างไรกัน ตอนนี้ยังเช้าอยู่เลยนะ! ” เซวียเหวินยูนเห็นเซี่ยชีหรั่นแล้วก็ไม่รู้จะทำอย่างไร คิดจะปลดผ้ากันเปื้อนออกด้วยความตื่นตระหนกอย่างคนทำอะไรไม่ถูก
“พวกเรามาทำอาหารเช้าด้วยกันเถอะ” เซี่ยชีหรั่นมองเซวียเหวินยูนอย่างซุกซน เป็นฝ่ายหยิบขวดเกลือขึ้นมาและเหยาะเกลือลงไปในโจ๊กเล็กน้อย
เซวียเหวินยูนมองแผ่นหลังที่ยุ่งวุ่นวายของเซี่ยชีหรั่นแล้วก็อบอุ่นเต็มตื้นขึ้นมาในใจ นึกว่าชั่วชีวิตนี้จะไม่มีผู้หญิงที่ยุ่งกับการเข้าครัวทำอาหารมื้อหนึ่งเป็นเพื่อนตัวเองแบบนี้เสียแล้ว และในที่สุดผู้หญิงคนนี้ก็ปรากฏตัวขึ้นแล้ว แต่ตัวเองกลับช้าไปหลายก้าว
เซี่ยชีหรั่นเทโจ๊กลงไปในกระติกอาหารอย่างระมัดระวัง และนำไปยังห้องของหม่าลี่ หม่าลี่ยิ้ม เป็นฝ่ายดึงหน้ากากออกซิเจนออก มองไปที่เซี่ยชีหรั่น
“ฉันให้เชฟชาวฝรั่งเศสหยุดพักร้อนหนึ่งวันค่ะ วันนี้คุณอาจจะต้องทานโจ๊กแล้วนะคะ” เซี่ยชีหรั่นหยิบโจ๊กออกมา
หม่าลี่ดึงมือเซี่ยชีหรั่นมาลูบ “เธอรู้ไหมว่า ทำไมฉันถึงไม่อนุญาตให้ใครก็ตามเข้าใกล้บ้านตระกูลหวาเมื่อถึงกลางดึก”
เซี่ยชีหรั่นส่ายหน้า หม่าลี่มองไปทางกรอบรูปที่อยู่อีกด้าน ด้านในกรอบรูปมีหญิงสาวคนหนึ่งและเด็กอีกสามคนที่หัวเราะกันอย่างสนุกสนาน “การที่กว๋อเหามีความสนใจในเรื่องนั้น ฉันก็รู้มาโดยตลอด ฉันก็รู้เช่นกันว่า แม้ว่าเขาจะออกจากบ้านตระกูลหวาทุกวัน แต่เมื่อถึงกลางดึกก็จะกลับมาเปลี่ยนเป็นชุดผู้หญิง”
หม่าลี่ล้วนรู้! เซี่ยชีหรั่นมองหม่าลี่อย่างตะลึงเล็กน้อย สีหน้าของหม่าลี่ไม่ได้ดูแตกต่างไปกว่าเดิมเพราะเครื่องสำอางราคาแพง แต่กลับเพิ่มความแก่ชรายิ่งขึ้น เธอเอ่ยกับเซี่ยชีหรั่นยิ้มๆ ว่า
“แม่ทุกคนล้วนเป็นแบบนี้ หวังว่าลูกของพวกเขาจะเดินบนเส้นทางที่ถูกต้อง นี่ก็คือเหตุผลที่ฉันไม่ได้ทิ้งมรดกเอาไว้ให้อ้ายหลอนกับกว๋อเหา สำหรับเธอ เด็กน้อย ฉันหวังอย่างที่สุดว่าคนที่จะมีความสุขก็คือเธอ! ”
“คุณรู้ว่าฉันไม่ใช่หยวนหยวนหรือคะ อย่างนั้นทำไม” เป็นครั้งแรกที่เซี่ยชีหรั่นค้นพบว่าตัวเองไม่เข้าใจหญิงชราที่มีสีหน้าเมตตาอ่อนโยนคนนี้เลย
หม่าลี่เอ่ยยิ้มๆ “บ้านตระกูลหวาแห่งนี้เหมือนกับเชือกเส้นหนึ่งบนหน้าผา มีสิ่งต่างๆ มากมายกดทับมันอยู่ เพื่อที่จะไม่ให้เชือกเส้นนี้คว่ำลำเรือ ฉันจึงต้องพยายามทำบางอย่าง เด็กน้อย ขอบคุณเธอมาก”
เซี่ยชีหรั่นไม่พูดอะไร แม้ว่าจะเป็นแบบนี้ เธอก็ไม่ได้รู้สึกเสียใจในภายหลังที่ให้ความช่วยเหลือหญิงชราน่าสงสารที่เผชิญหน้ากับมะเร็งในระยะสุดท้ายคนนี้ “เชื่อในตัวเย่เชินหลิน เชื่อมั่นในความรักของตัวเธอเอง” หม่าลี่สวมหน้ากากออกซิเจนใหม่และหลับตาลง
“หยวนหยวนหรือ” อ้ายหลอนรออยู่ที่หน้าประตู หลังจากเห็นเซี่ยชีหรั่นแล้วก็เอ่ยทักทาย ความโศกเศร้าบนใบหน้าของเซี่ยชีหรั่นยังคงไม่จางหายไป เมื่อเห็นอ้ายหลอนแล้ว อารมณ์ก็ไม่ดียิ่งกว่าเดิม

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset