สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 1288 หญิงรับใช้ของคุณชายเย่ 1188

บทที่ 1288 หญิงรับใช้ของคุณชายเย่ 1188
“เจ็บแล้วทำไมไม่บอกฉัน!” เสียงหอบหายใจดังมาจากปากทางบันได เซี่ยชีหรั่นเดินมาถึงข้างกายเซวียเหวินยูน แย่งเบียร์ในมือเซวียเหวินยูนมาดื่มอย่างไม่สนใจอะไรอึกหนึ่ง
เซวียเหวินยูนเผยท่าทางตะลึงค้างออกมาอย่างพบได้ยากในเวลาปกติ ประสานสายตากับเซี่ยชีหรั่นอย่างตะลึงอยู่นานสองนานแล้วเอ่ยขึ้นว่า “ผู้หญิงมีครรภ์ไม่สามารถดื่มเบียร์ได้”
เซี่ยชีหรั่นหัวเราะพรืดออกมา พลางเอ่ยว่า “ฉันวิ่งมาตั้งไกลเพื่อมาหาคุณ คุณกลับพูดประโยคนี้กับฉันหรือ” เซี่ยชีหรั่นนั่งลงบนพื้นอย่างยากลำบาก
“อย่างนั้น เย่เชินหลิน….” สายตาของเซวียเหวินยูนเป็นประกายมากยิ่งขึ้น เซี่ยชีหรั่นถึงขั้นเป็นฝ่ายจากเย่เชินหลินมาหาตัวเอง
“คุณกำลังคิดอะไรน่ะ ยิ้มเสียเจิดจ้าขนาดนี้!” เซี่ยชีหรั่นแก้มแดงระเรื่อเล็กน้อย
เซวียเหวินยูนส่ายหน้า แต่รอยยิ้มมุมปากยังคงไม่จางหายไป “ไปเถอะ พวกเรากลับกันเถอะ”
“กลับไปหรือ คุณมาหาโยวจื๋อไม่ใช่หรือคะ” เซี่ยชีหรั่นเอ่ย พร้อมกับจับมือเซวียเหวินยูนเพื่อลุกขึ้นยืนอย่างไม่เกรงใจ
เซวียเหวินยูนจับมือเซี่ยชีหรั่นเอาไว้แน่นโดยไม่ยอมปล่อย แววตาก็มีความพึงพอใจที่ไม่เคยมีมาก่อน “ตอนนี้ไม่จำเป็นแล้ว”
เซี่ยชีหรั่นที่วิ่งเต้นมาทั้งวัน มองตัวเองในกระจกด้วยความเหนื่อยอ่อน กล่องใส่เครื่องประดับข้างมือถูกปัดร่วง ต่างหูหยกสีเขียวมรกตหล่นลงไปบนพื้น
เซี่ยชีหรั่นมองต่างหูด้วยอารมณ์ที่ซับซ้อน นี่คือสิ่งของที่เชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเย่เชินหลินให้แน่นแฟ้นที่สุดในตอนนี้ วางต่างหูไว้ในส่วนลึกที่สุดอย่างแฝงไปด้วยความรู้สึกที่ปล่อยวางเล็กน้อย
เซี่ยชีหรั่นที่ถูกเสียงหนวกหูของฝนปลุกให้ตื่น ก็โงนเงนลุกขึ้นมา เสียงทะเลาะกันอย่างรุนแรงทำให้เธอมีสติทันที
“ฉันเตือนนายแล้วว่าอย่ามากินอะไรในบ้านหลังนี้” อ้ายหลอนแผดเสียงดังโวยวายใส่กว๋อเหา
“เหอะๆ เธอก็แค่กังวลว่าฉันจะพูดเรื่องนั้นออกมาไม่ใช่หรือ ตอนนี้พวกเราเป็นตั๊กแตนที่อยู่บนเรือลำเดียวกันแล้ว” เสียงของกว๋อเหานั้นเต็มไปด้วยการเยาะเย้ยเย็นชาอย่างเห็นได้ชัด ต่อมาก็เอ่ยว่า “ดูท่าทางที่ทนไม่ไหวของเธอสิ หลักฐานความผิดทั้งหมดล้วนอยู่ที่อู่ซ่อมแซมแล้ว เธอจะร้อนรนอะไรอีก”
เสียงของทั้งสองคนเบาลงเรื่อยๆ เซี่ยชีหรั่นแอบจำชื่อที่กว๋อเหาเอ่ยพูดถึงเอาไว้ “คุณหนู คุณจะออกไปข้างนอกหรือคะ” ข่าเอ๋อเห็นเซี่ยชีหรั่นถือกุญแจรถอยู่ ก็เอ่ยถาม
“ผู้ดูแลบ้าน คุณรู้ไหมว่าอู่ซ่อมแซมคือสถานที่แบบไหนคะ”
“อู่ซ่อมแซม ดูเหมือนว่าจะเป็นแหล่งรวบรวมรถเก่าที่ไม่ใช้แล้วนะคะ” ข่าเอ๋อมองเซี่ยชีหรั่นด้วยความประหลาดใจ “คุณหนูจะไปทำอะไรที่นั่นคะ”
“ไม่มีอะไรหรอก ฉันก็แค่ถามไปอย่างนั้นเอง” เซี่ยชีหรั่นมองท้องฟ้าที่มืดสนิทแล้วก็รีบออกไป ข่าเอ๋อเห็นท่าทางรีบร้อนของเซี่ยชีหรั่นแล้วก็ยกโทรศัพท์ที่อยู่ในมือขึ้นมา
เซี่ยชีหรั่นขับรถไปจนถึงจุดหมาย เป็นสถานที่จัดการรถเก่าใช้การไม่ได้ที่ถูกทิ้งเอาไว้จริงๆด้วย เซี่ยชีหรั่นหยิบกุญแจรถที่กำเอาไว้ในมือมาตลอดไล่กดไปตามรถแต่ละคัน
เธอหากุญแจนี้พบในห้องหยวนหยวน จนกระทั่งได้ยินการโต้เถียงกันของพวกอ้ายหลอน เซี่ยชีหรั่นถึงได้คิดเชื่อมโยงกุญแจกับรถที่หยวนหยวนเกิดเรื่องในวันนั้นขึ้นมา
เซี่ยชีหรั่นค้นหาอย่างละเอียด กดกุญแจรถครั้งแล้วครั้งเล่า จนกระทั่งมีเสียงเบาๆลอยมาจากในมุมหนึ่ง เซี่ยชีหรั่นถอนหายใจยาว และเดินไปจนถึงรถปอร์เช่คันเก่าบุโรทั่งคันนั้น
ประตูรถยังอยู่ในสภาพดี ไม่เสียหาย หน้ารถนั้นบุบอย่างหนัก สามารถมองออกได้เลยว่าตอนที่ชนนั้นรุนแรงมากแค่ไหน เซี่ยชีหรั่นเปิดประตูรถแล้วเข้าไปนั่งอย่างระมัดระวัง
บนรถยังมีคราบเลือดสีน้ำตาล เซี่ยชีหรั่นอดทนต่อความไม่สบายตัวแล้วหยิบปากกาบันทึกเสียงออกมาจากใต้เบาะรองนั่ง
เสียงซ่าๆลอยออกมาจากปากกาบันทึกเสียง หลังจากนั้นก็มีน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความกลัวของหญิงสาวคนหนึ่ง “หนูไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เบรกรถขัดข้องไปแล้ว เธอยังตามอยู่ด้านหลังหนู หนูกลัวมากเลย คุณย่า หนูไม่อาจดูแลคุณย่าได้แล้ว ช่วยหนูดูแลพ่อหนูด้วยนะคะ”
เสียงกระแทกอย่างรุนแรงและเสียงระเบิดดังขึ้น เซี่ยชีหรั่นนั่งนิ่ง ฟังเสียงบันทึกจากปากกาบันทึกเสียง คนที่ไล่ตามหยวนหยวนอยู่ด้านหลังคือใครกัน
อ้ายหลอนที่ยืนอยู่ในสถานที่ไม่ไกลนักมองเซี่ยชีหรั่นด้วยสายตาเย็นชา ถ้าไม่ได้ยินเสียงคุยโทรศัพท์ของผู้ดูแลบ้าน เธอก็คงไม่ได้มาที่นี่ เซี่ยชีหรั่นเริ่มสงสัยเรื่องการตายของหยวนหยวนแล้ว
อ้ายหลอนมองท้ายทอยของหญิงสาวที่อยู่ในรถแล้วก็ยกยิ้มบางๆ “กริ๊งงงงง” เสียงแหลมสูงของเสียงเรียกเข้าดังขึ้น
เซี่ยชีหรั่นลงมาจากรถ เดินไปถึงโกดังเก็บของที่มีเสียงเรียกเข้าดัง “มีใครอยู่ไหมคะ” เซี่ยชีหรั่นกระซิบถามเสียงเบา
เสียงเรียกเข้ายังคงดังต่อไป และเริ่มมีการบันทึกเสียง “สวัสดีค่ะ ฉันคือหยวนหยวน หากมีเรื่องอะไรสามารถทิ้งข้อความเอาไว้ได้เลยนะคะ ฉันจะตอบกลับหลังจากนี้ค่ะ” เสียงแปลกหน้าดังขึ้นในโกดังเก็บของ
เซี่ยชีหรั่นปลุกความกล้าเดินเข้าไปด้านในโกดังเก็บของ หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาจากพื้น หน้าจอโทรศัพท์มือถือนั้นเสียไปแล้ว รูปโปรไฟล์ที่คล้ายกับเซี่ยชีหรั่นนั้นกระพริบวูบวาบอยู่ด้านบน
แสงไฟมืดลงกะทันหัน เสียงประตูถูกล็อกดังขึ้น ทำให้เซี่ยชีหรั่นสะดุ้งตกใจ “เฮ้! ข้างในมีคนค่ะ!”
เซี่ยชีหรั่นวิ่งไปที่หน้าประตู ตะโกนผ่านรั้วประตูไม่หยุด หน้าประตูคล้ายกับว่ามีคนคนหนึ่งหยุดยืนอยู่ตรงนั้นครู่หนึ่งแล้วจากไป
เซี่ยชีหรั่นที่ได้ยินเสียงฝีเท้าไกลออกไปเรื่อยๆ ก็รีบหยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองออกมา ไม่มีสัญญาณ ไม่มีสัญญาณเลยแม้แต่น้อย
“ทำอย่างไรดี” เซี่ยชีหรั่นพึมพำ ภายในอู่ซ่อมรถเก่า เซวียเหวินยูนที่ได้รับสายโทรศัพท์จากข่าเอ๋อนั้น ก็ตะโกนเรียกชื่อเซี่ยชีหรั่นไม่หยุดในโรงงานทำลายรถที่ถูกทิ้ง แต่เสียงฝนที่ตกลงมากลบทับเสียงตะโกนเรียกของเขา
ภายในโกดังเก็บของที่มืดสนิท เซี่ยชีหรั่นพยายามขดตัวเข้ากับมุมกำแพงเพื่อรักษาความอบอุ่นให้กับช่วงท้อง รู้สึกทั้งหนาวทั้งหิว นิ้วมือแตะถูกโทรศัพท์เครื่องเก่าที่เป็นของหยวนหยวนในโกดังเก็บของ หน้าจอโทรศัพท์สว่างขึ้น เซี่ยชีหรั่นหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาด้วยความยินดี ยังมีแบตเตอรี่อยู่!
เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์บนโต๊ะดังขึ้น เย่เชินหลินมองสายเรียกเข้าจากเบอร์โทรศัพท์แปลกหน้าแวบหนึ่ง ก็กดตัดทิ้งทันที ไม่กี่วินาทีหลังจากนั้น เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ก็ดังขึ้นอีกครั้ง
เย่เชินหลินขมวดคิ้ว กดรับสาย เสียงลมหายใจหอบเพิ่งจะลอยออกมาจากในสายโทรศัพท์ก็ถูกตัดสายไปแล้ว สายตาของเย่เชินหลินเพิ่งจะเบนกลับไปที่คอมพิวเตอร์ ก็รีบโทรศัพท์กลับไปยังเบอร์นี้ใหม่ทันที ผ่านไปครู่หนึ่งถึงจะถูกรับสาย
“ฉันนึกว่าคุณไม่อยากรับโทรศัพท์จากฉัน ฉันรบกวนคุณรึเปล่าคะ” เสียงของเซี่ยชีหรั่นผิดปกติเล็กน้อย
“นี่คือโทรศัพท์มือถือของใคร คุณอยู่ที่ไหน” เย่เชินหลินจับปากกาแน่น ลางสังหรณ์ไม่ดีในใจรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
“คุณมันน่ารังเกียจมากจริงๆ มักจะทำร้ายฉัน ทำให้ฉันเสียใจบ่อยๆ! ฉันเกลียดคุณ” ในสายโทรศัพท์นั้น เซี่ยชีหรั่นพูดไม่หยุด พูดมากกว่าปกติเยอะมาก
“เงียบ บอกผมว่าคุณอยู่ที่ไหน” มือเย่เชินหลินที่ถือโทรศัพท์มือถืออยู่เริ่มสั่นเล็กน้อย พยายามควบคุมความอารมณ์
“ฉันอยู่ที่…….ตู๊ดๆๆ”
“สมควรตาย!” เย่เชินหลินกระแทกโทรศัพท์ในมือลงบนโต๊ะอย่างรุนแรง ต่อสายโทรศัพท์อีกเบอร์หนึ่ง “ช่วยผมตรวจสอบแหล่งที่มาของเบอร์โทรศัพท์นี้หน่อย”
เปลือกตาของเซี่ยชีหรั่นหนักอึ้งขึ้นเรื่อยๆ แต่เธอก็ยังพยายามลูบท้องของตัวเองอย่างสุดความสามารถ “ลูกจ๋า ขอโทษนะจ๊ะ ล้วนเป็นความผิดของหม่ามี้ หนูหิวแล้วสินะ”
ห้องเก็บของที่มืดสลัวมีเสียงดังขึ้นกะทันหัน เซี่ยชีหรั่นหรี่ตามองไปยังคนที่ยืนอยู่ในจุดที่ย้อนแสง “ช่วยลูกของฉันด้วยค่ะ” สติสัมปชัญญะค่อยๆหลุดลอยไป เซี่ยชีหรั่นทำได้เพียงแค่นอนแน่นิ่งอยู่ในอ้อมแขนของผู้มาเยือน
เย่เชินหลินลูบแขนที่เย็นเฉียบของเซี่ยชีหรั่นด้วยความตระหนก ถอดเสื้อสูทคลุมร่างกายเซี่ยชีหรั่นเอาไว้แน่น อุ้มเซี่ยชีหรั่นที่น้ำหนักไม่เบาขึ้นมา
เย่เชินหลินจูบแก้มที่เริ่มเย็นของเซี่ยชีหรั่น “อดทนหน่อยนะ อีกเดี๋ยวก็จะไม่เป็นอะไรแล้ว”
เซวียเหวินยูนที่ยืนตากฝนอยู่ด้านนอก เห็นความอ่อนโยนที่อยู่ในแววตาของเย่เชินหลินแล้ว เท้าที่จะก้าวออกไปนั้น ทำอย่างไรก็ก้าวไม่ออก มือที่คิดจะแย่งเซี่ยชีหรั่นกลับมาสุดท้ายแล้วก็ไม่ขยับ
“ทารกในครรภ์ปกติทั้งหมดครับ ให้น้ำเกลือบำรุงสักคืนหนึ่ง” เปลือกตาเซี่ยชีหรั่นขยับเล็กน้อย ในหูมีเสียงของคุณหมอ ความเจ็บปวดจากเข็มที่จิ้มอยู่บนข้อมือทำให้เธอได้สติอย่างช้าๆ
จนกระทั่งคุณหมอเดินจากไปหมดแล้ว เซวียเหวินยูนถึงได้ผลักประตูเข้ามาดูเซี่ยชีหรั่นที่หน้าซีดเผือด เขาหาเซี่ยชีหรั่นไม่พบ แต่เย่เชินหลินกลับหาพบ เขาเกือบจะสูญเสียเซี่ยชีหรั่นไป แต่เย่เชินหลินกลับคว้าเอาไว้แน่น
เมื่อหมุนตัวไป ข้อมือกลับถูกจับเอาไว้ เซี่ยชีหรั่นลืมตาขึ้น มองไปที่เซวียเหวินยูน “ขอบคุณคุณที่ช่วยชีวิตฉันค่ะ”
เซวียเหวินยูนมองเซี่ยชีหรั่นเงียบๆ “คุณจำเรื่องก่อนหน้านี้ได้เท่าไร” เซี่ยชีหรั่นครุ่นคิด “มีคนขังฉันเอาไว้ในห้องเก็บของ หลังจากนั้นก่อนที่สติจะเลือนหาย ก็มีคนมาเปิดห้องเก็บของ ฉันคิดว่าเป็นคุณ นอกจากคุณ ใครจะเอาใจใส่ฉันอีก”
เซี่ยชีหรั่นยิ้มเฝื่อน จับมือเซวียเหวินยูนเอาไว้ เซวียเหวินยูนเม้มริมฝีปากแน่น ภายในจิตใจต่อสู้กันไม่หยุด มือของเซี่ยชีหรั่นจับเซวียเหวินยูนเอาไว้แน่น เอ่ยยิ้มๆว่า
“เซวียเหวินยูน ถ้าหากว่าได้รู้จักคุณเร็วกว่านี้จะดีมากเลย”
ฝีเท้าที่อยู่นอกห้องพักผู้ป่วยหยุดทันที เย่เชินหลินยืนฟังอยู่นิ่งๆ จางเฟิงอี้ก้าวขึ้นไป คิดจะผลักประตูให้เปิดออก แต่เย่เชินหลินกลับเอ่ยเสียงเรียบๆว่า “ไม่ต้องแล้ว”
ฝีเท้าที่แต่เดิมเร่งรีบนั้นเชื่องช้าลง เย่เชินหลินหมุนตัวจากไป จางเฟิงอี้เห็นเย่เชินหลินมีท่าทางสงบเยือกเย็น ราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ก็เอ่ยขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ว่า “ต้องการให้ผมไปอธิบายกับคุณผู้หญิงไหมครับ”
“ทำเรื่องที่อยู่ในหน้าที่ของนายให้ดี” เย่เชินหลินไม่ได้หันหน้ากลับมา เพียงแค่เอ่ยเสียงเบา
ภายในบ้านตระกูลหวา อ้ายหลอนแสร้งมองใบหน้าขาวซีดของเซี่ยชีหรั่นด้วยความเป็นห่วง ความจริงๆแล้วนั้นเธอเกลียดเซวียเหวินยูนเสียจนต้องกัดฟันด้วยความแค้น ผู้ชายคนนี้มักจะทำเรื่องพังมาตลอด หรือว่าเซี่ยชีหรั่นกับเซวียเหวินยูนต่างหากที่คู่กัน ก่อนหน้านี้ตัวเองคลำผิดทิศทางมาตลอด
“ชีหรั่น สีหน้าของเธอซีดมาก ไม่เป็นไรนะ” อ้ายหลอนนั่งอยู่ข้างกายเซี่ยชีหรั่น เซี่ยชีหรั่นที่ใบหน้าซีดขาวฝืนยิ้มออกมา ไม่เป็นไร
“สำหรับปัญหาเรื่องการดำเนินการก่อสร้างนั้น ทางฝ่ายเย่เชินหลินได้ถอนตัวไปแล้ว ฉันว่าเขาดูเหมือนจะไม่ได้ไร้ความรู้สึกต่อเธอเสียทีเดียวนะ เขายังปกป้องเธอด้วย” อ้ายหลอนถามหยั่งเชิง
ความเป็นห่วงของอ้ายหลอนทำให้เซี่ยชีหรั่นรู้สึกแปลกๆ ไม่อยากจะเปิดเผยมากไป จึงเอ่ยเรียบๆว่า “สำหรับสุภาพสตรีที่ตั้งครรภ์คนหนึ่ง ฉันคิดว่าไม่ว่าใครก็คงไม่ยืนมองอยู่เฉยๆ ยิ่งไปกว่านั้น เด็กที่อยู่ในท้องก็เป็นลูกของเขาด้วย”
“เด็กในท้องเป็นลูกของเขาหรือ!” อ้ายหลอนร้องออกมาอย่างตกตะลึง แววตามีความแน่ใจมากขึ้น เซี่ยชีหรั่นยิ้มเจื่อนๆ “เป็นลูกของเขาแล้วอย่างไร บางทีตอนที่เด็กคนนี้เกิดออกมาก็อาจจะไม่มีพ่อแล้ว”
“เธออย่าพูดแบบนี้สิ เอาแบบนี้ก็แล้วกัน ฉันรู้ว่าพรุ่งนี้เย่เชินหลินจะไปทำกิจกรรมส่งเสริมการตลาดเปิดตัวแบรนด์สินค้าที่ลานกว้างสาธารณะชื่อจี้ พรุ่งนี้ฉันจะไปเป็นเพื่อนเธอ ฉันจองห้อง VIP แล้วให้คนชักนำพวกเธอมาแล้วกัน!” อ้ายหลอนพูดรวดเดียวจบ มองไปทางเซี่ยชีหรั่น รอให้เซี่ยชีหรั่นเห็นด้วย
เซี่ยชีหรั่นสังเกตเห็นบาดแผลเล็กน้อยบนมือของอ้ายหลอน ก็ถามว่า “มือของเธอไม่เป็นอะไรใช่ไหม” สีหน้าของอ้ายหลอนแข็งค้าง ซ่อนมือทั้งสองข้างไว้ด้านหลัง เอ่ยยิ้มๆว่า “จะมีเรื่องอะไรล่ะ แค่ถูกบาดเพราะไม่ระวังเฉยๆ”

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset