สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 1289 หญิงรับใช้ของคุณชายเย่ 1189

บทที่ 1289 หญิงรับใช้ของคุณชายเย่ 1189
บนลานขนาดใหญ่ มีพนักงานรักษาความปลอดภัยขวางกั้นนักข่าวอยู่หลายชั้น คนกลุ่มหนึ่งห้อมล้อมคนที่สวมชุดสูทสีดำเอาไว้ตรงกลาง เย่เชินหลินยังคงมีสีหน้าจริงจังอย่างที่เคยเป็นมาตลอด ยืนฟังคนกลุ่มแล้วกลุ่มเล่ามารายงานอย่างตั้งใจอยู่ข้างกายนายกเทศมนตรี
“ประธานเย่ ผมได้จองห้องส่วนตัวเอาไว้เรียบร้อยแล้ว ต้องการไปพักสักหน่อยไหมครับ” ชายผู้มีร่างกายเจ้าเนื้อมองไปทางเย่เชินหลินยิ้มๆ
“ไม่จำเป็น” เย่เชินหลินเตรียมตัวจากไป ชายคนนั้นกลับตามไป พลางเอ่ยอย่างลึกลับว่า “คราวนี้ได้มีการเชิญนักออกแบบอัญมณีมาที่ห้องส่วนตัวด้วยเลยนะครับ ได้ยินมาว่าหน้าตางดงามมาก!”
“ใครใช้ให้คุณพูดแบบนี้กัน” เย่เชินหลินประจันหน้ากับชายคนนี้ตรงๆ แววตาแฝงไปด้วยการเตือน
“เหอๆ คุณอ้ายหลอนพูดแบบนี้นิครับ เธอบอกว่าขอเพียงแค่พูดแบบนี้ก็ได้แล้ว ผมก็แค่หวังดี” ชายร่างท้วมยิ้มกระอักกระอ่วน
เย่เชินหลินเม้มปาก เดินไปยังทิศทางตรงกันข้าม “นำทางไป”
“หยวนหยวนเอ๋ย ฉันช่วยจัดการให้เธอแล้ว อีกครู่หนึ่ง เธอก็คุยกับเขาดีๆล่ะ” อ้ายหลอนชี้แนะเซี่ยชีหรั่นอย่างจริงใจ
“อ้ายหลอน ฉันไม่ใช่หยวนหยวน เธอก็ไม่ต้องเรียกฉันแบบนั้น” เซี่ยชีหรั่นเอ่ยพูดอย่างจริงจังกับอ้ายหลอน อ้ายหลอนหน้าเสียเล็กน้อย ฝืนยิ้ม พลางเอ่ยว่า “ในเมื่อคุณแม่ของฉันเห็นว่าเธอเป็นหยวนหยวน อย่างนั้นเธอก็คือหยวนหยวน”
ประตูถูกผลักเข้ามา เย่เชินหลินเดินเข้ามานิ่งๆ อารมณ์ของเซี่ยชีหรั่นตึงเครียด “เชิญครับประธานเย่ นี่คือคุณเซี่ย”
“ชีหรั่น มีคำพูดอะไรก็พูดกันต่อหน้าในวันนี้เลยเถอะ” อ้ายหลอนดึงเซี่ยชีหรั่นมา พร้อมกับชี้แนะด้วยความจริงใจ
เย่เชินหลินมองไปที่เซี่ยชีหรั่น ภายใต้แสงไฟสีสลัว จึงมองไม่เห็นสีหน้าของฝ่ายตรงข้าม นิ้วมือเซี่ยชีหรั่นงอเล็กน้อย แฝงไปด้วยความตื่นเต้น ไม่ได้เห็นเย่เชินหลินมานานขนาดนี้ แต่เซี่ยชีหรั่นยังคงรู้สึกเหมือนว่า ฝ่ายตรงข้ามอยู่ข้างกายตัวเองตลอดเวลา ไม่เคยจากไปไหน
“ตอนนี้คุณถึงขั้นใช้วิธีการที่น่าเบื่อแบบนี้แล้วหรือ” เย่เชินหลินเอ่ยพูดอย่างเย็นชา เซี่ยชีหรั่นสีหน้าขาวซีด อยากจะอธิบาย “ไม่ใช่นะคะ ฉันไม่เคยคิดแบบนี้”
“พอได้แล้วเซี่ยชีหรั่น ผมทนมามากพอแล้ว” เย่เชินหลินหมุนตัวจากไปอย่างไร้น้ำใจ หน่วยตาของเซี่ยชีหรั่นร้อนผ่าว อ้ายหลอนที่ดูเรื่องสนุกจบแล้ว เบ้ปาก เดินตามเย่เชินหลินออกไป ในสายโทรศัพท์ไม่หลงเหลือความปรารถนาดีเมื่อครู่นี้อีกแล้ว
“เซี่ยชีหรั่นทะเลาะแตกหักกับเย่เชินหลินไปแล้ว ตอนนี้สามารถเบนความสนใจจากเซี่ยชีหรั่นไปไว้ที่เย่เชินหลินได้”
อ้ายหลอนจากไปด้วยความพอใจ ไม่ทันได้พบว่าที่หัวเลี้ยวมุมหนึ่ง จางเฟิงอี้กำลังพูดกับโทรศัพท์ที่ถืออยู่ว่า “ประธานเย่ อ้ายหลอนปลดความระแวดระวังใจแล้วครับ”
หลังเย่เชินหลินจากไป เซี่ยชีหรั่นก็นั่งอยู่คนเดียวนานมาก ภายในห้องส่วนตัวเปิดเพลงเบาๆ เซี่ยชีหรั่นกลับดูเหมือนว่า อะไรก็คิดไม่ออก จึงสูดลมหายใจลึก เซี่ยชีหรั่นเดินออกจากห้องส่วนตัว มุ่งหน้าไปตามทิศทางที่อยู่ในความทรงจำ ครู่หนึ่งก็พบว่า ตัวเองหลงทางเสียแล้ว ทิศทางในห้องส่วนตัวขนาดใหญ่นั้น ซับซ้อนจนยากจะแยกได้ชัด
“คุณผู้หญิง ช่างดูน่าสนใจอะไรเช่นนี้” ชายหนุ่มผู้รูปร่างบึกบึนคนหนึ่ง เดินโซเซอย่างคนเมาเหล้ามาทางเซี่ยชีหรั่น พร้อมพ่นกลิ่นแอลกอฮอล์ออกมา
เซี่ยชีหรั่นหลบไปด้านข้าง “คุณผู้ชาย ระวังการกระทำด้วยค่ะ”
“ระวังการกระทำหรือ” ชายหนุ่มหัวเราะฮ่าๆเสียงดัง “ผมหวางกาง เคยแต่กระทำ ไม่เคยระวังการกระทำ ผมชอบคนที่มีรูปร่างหน้าตาเหมือนคุณ มา ดื่มไวน์สักแก้ว แก้วหนึ่งสามพัน!”
ชายหนุ่มส่ายหัวอย่างมึนๆครู่หนึ่ง และคว้าข้อมือ ลากเซี่ยชีหรั่นไปในห้อง เซี่ยชีหรั่นดิ้นรนด้วยความกลัว “คุณเมาแล้ว คุณจะทำอะไร ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะคะ!”
มือใหญ่ของชายหนุ่มจับเซี่ยชีหรั่นที่ดิ้นรนอยู่เอาไว้แน่นกว่าเดิม “ผมไม่ได้เมา! เพียงแค่อยากให้คุณดื่มไวน์สักแก้ว ถ้าไม่ได้เห็นว่าคุณสวยล่ะก็ ไวน์แก้วหนึ่งจะหาเงินได้ถึงสามพันได้อย่างไรกัน!”
ชายหนุ่มชูสองนิ้ว กระดิกไปมา และรู้สึกว่าไม่ถูกต้อง จึงชูออกมาสามนิ้ว เซี่ยชีหรั่นรีบก้มตัวหยิบรองเท้าส้นสูงของตัวเองขึ้นมาฟาดไปทางชายหนุ่ม
“ขอโทษด้วยนะคะ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะฟาดคุณ ฉันแค่อยากให้คุณมีสติเท่านั้นเอง!” เซี่ยชีหรั่นโยนรองเท้าส้นสูงทิ้ง วิ่งกะเผลกๆออกไปด้านนอก
ชายหนุ่มมีโทสะแล้ว กุมศีรษะวิ่งตามไป ลากเซี่ยชีหรั่นเข้ามาในห้องส่วนตัวโดยไม่สนใจอะไรอีก “ผมไม่เชื่อหรอกว่า ผมจะจัดการนางแพศยาอย่างคุณไม่ได้!!”
เซี่ยชีหรั่นถูกฉุดกระชากลากถูมาถึงห้องส่วนตัว ล้มลงบนโซฟา คนคนนั้นหยิบกระเป๋าเงินใบตุงออกมา หยิบเงินออกมาปึกหนึ่ง “มา ดื่มไวน์แก้วนี้ เงินพวกนี้ก็จะเป็นของคุณแล้ว!”
เซี่ยชีหรั่นพยายามหลบแก้วไวน์ที่ถูกยื่นมาอย่างสุดความสามารถ ชายหนุ่มกระแทกแก้วไวน์ลงบนโต๊ะอย่างไม่สบอารมณ์ ตะโกนเสียงดังว่า “รังเกียจที่น้อยไปสินะ ไม่เป็นไร สิ่งที่พี่มีก็เงินนี่แหละ!”
ชายหนุ่มหยิบเงินออกมาอีกปึกหนึ่ง โยนลงบนร่างของเซี่ยชีหรั่น เซี่ยชีหรั่นเบิกตาโตมองชายหนุ่มกะทันหัน ชี้นิ้วไปที่ด้านหลัง พร้อมกับเอ่ยว่า “ข้างหลังคุณมีคนค่ะ ทางที่ดีคุณหันไปดูสักหน่อยเถอะ”
ชายหนุ่มเชิดคอขึ้น ตะโกนเสียงดังยิ้มๆ “คิดจะใช้ลูกไม้นี้ เพื่อหลบหนี ไม่มีทางเสียหรอก สติปัญญา130! ของผมนั้นอยู่เหนือคนอื่นนะ”
“อย่างนั้นหรือ” เสียงเรียบๆของชายคนหนึ่งดังขึ้นที่ด้านหลัง เขาจึงหันไปมองอย่างตื่นตระหนก ประตูใหญ่มีคนที่ยืนหันหลังให้แสงยืนอยู่ เน็คไทที่ยังเปลี่ยนไม่เรียบร้อยห้อยอยู่ที่คอหลวมๆนั้นเจือไปด้วยความชื่นชอบในการแก้ปัญหาโดยการใช้กำลัง “คุณมีความกล้ามาก” เย่เชินหลินเดินเข้ามาใกล้ชายหนุ่มอย่างช้าๆ
“ผมเหมาสถานที่แห่งนี้เอาไว้แล้ว คุณออกไปนะ!” เมื่อเทียบกับเย่เชินหลิน ชายคนนี้ก็เหมือนกับพวกไร้ความสามารถที่มีดีแค่เสียงดังเท่านั้น
“เป็นแบบนี้เองหรือ” เย่เชินหลินก้มตัวลงเก็บเงินขึ้นมาทีละใบๆอย่างสง่างาม จนกระทั่งในมือมีอยู่ปึกหนึ่งหนาๆ
“กินมันเข้าไป” เย่เชินหลินมองชายหนุ่ม ออกคำสั่งอย่างเย็นชา “คุณอย่าทำแบบนี้ เขาเพียงแค่เมาเหล้าค่ะ!”
เซี่ยชีหรั่นไม่ต้องการให้กลายเป็นเรื่องราวใหญ่โต จึงรีบลุกขึ้น เดินมาอย่างต้องการโน้มน้าวเย่เชินหลิน เย่เชินหลินเม้มริมฝีปาก ยื่นมือออกไปจับศีรษะเซี่ยชีหรั่นเอาไว้ เอียงหน้าและจูบลงไปอย่างรุนแรง
เซี่ยชีหรั่นเบิกตาโตขึ้นมองเย่เชินหลินที่ขนตาอยู่ใกล้กับตัวเองอย่างตะลึงค้าง บดเบียดรุนแรงครู่หนึ่ง เย่เชินหลินก็เอ่ยอย่างดุร้ายว่า “อีกครู่หนึ่งค่อยมาจัดการคุณ!”
“พวกคุณสองคนเป็นพวกเดียวกันหรือ” ชายหนุ่มตะโกนเสียงดัง เย่เชินหลินเลิกคิ้ว โบกแบงค์ในมือไปมา “ต้องการให้ผมช่วยคุณหรือว่าคุณจะทำมันเอง”
“ก็ต้องดูว่าคุณจะสู้ผมได้หรือไม่!” ชายหนุ่มปล่อยหมัดออกไปทางเย่เชินหลินทันที แต่เย่เชินหลินก็หลบได้อย่างสบายๆ เท้าข้างหนึ่งก็ถีบเข้าที่ก้นของชายหนุ่ม
เย่เชินหลินเหยียบชายหนุ่มจากที่สูง ม้วนแบงค์ในมือ ยัดเข้าไปในปากของชายหนุ่ม เอ่ยเรียบๆว่า “ไปให้พ้นจากสายตาของผมภายในสิบห้าวินาที”
“มึงกล้าเตะกู!” ชายหนุ่มปีนขึ้นมา ตะโกนใส่เย่เชินหลิน “คุณมีที่มาอย่างไร อย่าให้ผมหาคุณพบแล้วกัน!” เท้าที่เดินไปหาเซี่ยชีหรั่นของเย่เชินหลินชะลอช้าลง ขมวดคิ้วอย่างไม่สบอารมณ์
“คุณยังเหลืออีกแปดวินาที” น้ำเสียงเย่เชินหลินเย็นยะเยือกยิ่งขึ้น เซี่ยชีหรั่นเอ่ยขึ้นอย่างอดไม่ได้ว่า “คุณไปเถอะค่ะ เขาจะไม่ปราณีคุณแน่นอน”
ชายหนุ่มมองไปทางเซี่ยชีหรั่น แล้วก็มองไปทางเย่เชินหลิน บ่นพึมพำ เหวี่ยงประตูให้เปิดออกแล้วจากไป เย่เชินหลินหันกลับมามองเซี่ยชีหรั่น เลิกคิ้ว เอ่ยว่า “ตอนนี้ควรจะเป็นเวลาในการคิดบัญชีของพวกเราแล้ว”
เย่เชินหลินเดินเข้ามาใกล้เซี่ยชีหรั่น น้ำเสียงทุ้มต่ำ “ทิ้งผมเอาไว้แล้วจากไปเพื่อเซวียเหวินยูนสินะ?”
เซี่ยชีหรั่นถอยไปด้านหลังช้าๆ เลียริมฝีปากแห้งผาก “ใช่ค่ะ ไม่ผิด แต่ว่าคุณทำแบบนั้นกับฉันก่อน”
เย่เชินหลินยังคงก้าวเข้ามาใกล้เรื่อยๆ “ตั้งครรภ์อยู่แต่ยังวิ่งไปอยู่ใต้รถแทรกเตอร์ อยากจะตายให้จบๆไปหรือ”
เซี่ยชีหรั่นถอยหลังต่อไป อธิบายด้วยความกระอักกระอ่วนใจว่า “ไม่ใช่ตายให้จบๆไป เพียงแค่ต้องการหยุดยั้งเรื่องนี้เท่านั้น!”
เซี่ยชีหรั่นที่ไม่เหลือทางให้ถอยต่อไปแล้วหงายล้มไปนั่งบนโซฟา มือทั้งสองข้างของเย่เชินหลินเท้าอยู่ที่โซฟาทั้งสองด้าน เอ่ยด้วยน้ำเสียงแหบพร่าว่า “เมื่อครู่ที่ผมพูดว่าผมทนมามากพอแล้วนั้นคือเรื่องจริง!”
เซี่ยชีหรั่นตาเบิกโตทันที คำพูดของเย่เชินหลินทำให้เธอเจ็บปวดอีกครั้ง แทบจะปัดมือเย่เชินหลินออกอย่างแรงแล้ววิ่งออกไปข้างนอก ร้องไห้ไม่ได้นะ! เซี่ยชีหรั่นสะกดความรู้สึกในจิตใจเอาไว้
“ผมพอแล้วกับการที่ทำได้เพียงแค่มองคุณเงียบๆอย่างเดียว” เย่เชินหลินเอ่ยเรียบๆขึ้นที่ด้านหลังเซี่ยชีหรั่น
“ผมพอแล้วกับการที่ไม่สามารถกอดคุณเอาไว้ในอ้อมกอดได้อย่างไม่ต้องใส่ใจอะไร จนทำให้ผู้ชายคนอื่นใช้โอกาสนี้ให้เป็นประโยชน์!” เย่เชินหลินเข้ามาใกล้เรื่อยๆ เซี่ยชีหรั่นคิดจะจากไป แต่กลับพบว่าตัวเองขยับตัวไม่ได้
“ผมพอแล้วกับสายตาที่คุณมองผมเหมือนคนแปลกหน้า จนถึงขั้นที่พอกับการที่คุณไม่ได้ยืนอยู่ข้างกายผม” เย่เชินหลินกอดเซี่ยชีหรั่นเอาไว้ สูดดมกลิ่นหอมของเซี่ยชีหรั่นเข้าไปลึกๆ
เซี่ยชีหรั่นอ้าปาก ตอนนี้เธอควรจะถามเย่เชินหลินว่านี่มันเรื่องอะไรกันแน่ แต่ในใจกลับมีเสียงเสียงหนึ่งพูดอยู่ตลอดว่า “อย่ามอบหัวใจของตัวเองให้ผู้ชายคนนี้ง่ายๆอีก”
“ฉันตกหลุมรักเซวียเหวินยูนแล้วค่ะ” เซี่ยชีหรั่นสูดลมหายใจ ใช้น้ำเสียงราบเรียบอย่างที่สุดเอ่ยพูดออกมา
“คุณพูดอีกครั้งได้นะ” เสียงของเย่เชินหลินไม่เพียงแต่ไร้โทสะ แต่กลับอ่อนโยนยิ่งขึ้น
“ฉันค้นพบว่าเซวียเหวินยูนอาจจะเหมาะสมกับฉันมากกว่า” เซี่ยชีหรั่นปลุกความกล้าขึ้นมา ละเลยความถี่ของหัวใจที่เต้นอยู่ไป
“อย่างนั้นหรือ” เย่เชินหลินโอบเซี่ยชีหรั่นมาไว้ข้างกายตัวเองด้วยสีหน้าเฉยชา มือข้างหนึ่งทาบทับลงบนหน้าอกเซี่ยชีหรั่นอย่างแรงแล้วยิ้มเยาะเย้ย “อย่างนั้นพวกเราก็มาทดสอบกันสักหน่อยเถอะ”
เซี่ยชีหรั่นถอยกรูดอย่างคิดจะหนี แต่เย่เชินหลินบังคับโอบไหล่เซี่ยชีหรั่นเอาไว้ ทั้งยังแฝงไปด้วยความนุ่มนวลที่ฝันถึงทั้งวันทั้งคืนอย่างโหดร้าย
กลิ่นสนิมถูกส่งผ่านระหว่างริมฝีปากที่นุ่มหยุ่นของทั้งสองคน ใกล้กันเสียจนทั้งสองคนสามารถมองเห็นฝ่ายตรงข้ามที่กำลังเฝ้ามองตัวเองอยู่ได้
“ตึกตักตึกตัก” เซี่ยชีหรั่นรู้สึกได้ถึงหัวใจของตัวเองที่เต้นเสียงดังอย่างควบคุมไม่ได้ เธอกลับควบคุมไม่ได้ มุมปากเย่เชินหลินที่ทาบทับอยู่นั้นเผยรอยยิ้มออกมา
เซี่ยชีหรั่นที่ถูกทำให้เกิดโทสะ จึงกัดเย่เชินหลินไปคำหนึ่ง มองเย่เชินหลินที่ถอยออกไปด้วยอาการตื่นตระหนก ลูบริมฝีปากตัวเองอย่างแรง คำรามออกมาว่า “แบบนี้สนุกมากใช่หรือไม่ จับฉันเอาไว้ในมือ เหมือนกับนกตัวหนึ่งที่หนีออกจากกรงไม่ได้นั้นสนุกมากใช่ไหมคะ”
เย่เชินหลินหันหน้ามามองเซี่ยชีหรั่นเล็กน้อย เงียบไปครู่หนึ่ง จนกระทั่งเซี่ยชีหรั่นใจเย็นลงถึงได้เอ่ยออกมาด้วยท่าทางเฉยเมยว่า “ถูกต้อง ผมต้องการจะจับคุณเอาไว้ให้แน่นหนา”
“ ไม่เข้าใจเหตุผลของคุณเอาเสียเลย” เซี่ยชีหรั่นเอ่ยออกมาอย่างดุร้าย ดึงประตูให้เปิดออก พร้อมกับหันหน้ามาเอ่ยเตือนว่า “ไม่ต้องตามมา!”
“ปัง!” เสียงปิดประตูดังสนั่นทำให้คิ้วเย่เชินหลินขมวด กลับไปนั่งบนโซฟาอีกครั้ง เย่เชินหลินดื่มไวน์ที่น้ำแข็งละลายไปนานแล้วช้าๆ แสงไฟสลัวส่องลงที่ร่างของเย่เชินหลินจนมองไม่ออกถึงสีหน้าของชายคนนี้
“ไม่อร่อยจริงๆ” เย่เชินหลินพึมพำ
ประตูถูกเปิดออกอีกครั้ง แสงสว่างส่องผ่านเข้ามาทางประตู เย่เชินหลินหรี่ตามองเซี่ยชีหรั่นที่เพิ่งจะเดินออกไป หัวใจก็อดเต้นแรงไม่ได้ ราวกับว่าเซี่ยชีหรั่นได้ช่วยเขาออกมาจากเหวอันมืดมิด

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset