สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 1293หญิงรับใช้ของคุณชายเย่1193

บทที่1293หญิงรับใช้ของคุณชายเย่1193
สีหน้าที่ซาบซึ้งของเซี่ยชีหรั่นจู่ๆก็มองเย่เชินหลินด้วยสายตาเย็นชา พลางพูดขึ้นว่า:“ถ้างั้นคุณไปเป็นเพื่อนฉันหน่อยได้ไหม?ฉันไม่ค่อยคุ้ยเคยกับที่นี่ คราวที่แล้วก็หลงทางไปครั้งหนึ่งแล้ว”
เซี่ยชีหรั่นที่ก้มหน้าอยู่ คิดไม่ถึงเลยว่าแววตาของเย่เชินหลินมีฉายแววความอ่อนโยนออกมา
“ไปกันเถอะ”
“วิดีโอเมื่อครึ่งปีก่อนเหรอ?ไม่รู้ว่าทิ้งไว้ไหนแล้ว?จะหาเจอได้ยังไง”พนักงานรักษาความปลอดภัยพึมพำ แม้ว่าข้างกายของเซี่ยชีหรั่นจะมีเย่เชินหลินยืนอยู่ข้างๆ เขาก็ไม่ยอมที่จะวีดีโอเมื่อครึ่งปีที่แล้วที่อยู่ท่ามกลางวีดีโอมากมายเหล่านี้
เย่เชินหลินไม่พูดอะไรออกมา เซี่ยชีหรั่นถึงแขนเสื้อของเย่เชินหลินไปมา ยิ้มแล้วพูดกับพนักงานรักษาความปลอดภัยว่า:“ในเมื่อที่นี้ไม่มี ถ้างั้นพวกเราขอตัวก่อนนะคะ”
เย่เชินหลินหยิบโทรศัพท์ขึ้นมายังไม่ทันได้ทำอะไรก็ถูกเซี่ยชีหรั่นดึงออกมา กระทั่งมาถึงด้านนอกของห้องพนักงานรักษาความปลอดภัย เซี่ยชีหรั่นพูดขึ้นอย่างลับๆล่อว่า:“ฉันมีวิธี”
“อ่า?”เย่เชินหลินให้ความร่วมมือโดยการขยับเข้ามาใกล้ เซี่ยชีหรั่นกระซิบที่ข้างหูของเย่เชินหลินเบาๆว่า:“คืนนี้พวกเราแอบมาที่นี่กันเถอะ”
เย่เชินหลินเลิกคิ้วขึ้น เมื่อเห็นท่าท่างมั่นใจของเซี่ยชีหรั่น ราวกับว่าได้เห็นช่วงเวลาที่ผู้หญิงที่เคยเป็นสาวใช้ของตนเย่อหยิ่งและมั่นใจอีกครั้ง จำต้องเก็บโทรศัพท์กลับเข้าไปในกระเป๋า ในเมื่อเธออย่างเล่น งั้นก็เล่นเป็นเพื่อนเธอก็แล้วกัน
ท่ามกลางค่ำคืนที่มืดมิด เซี่ยชีหรั่นก็แอบเดินเข้าไปในห้องของพนักงานรักษาความปลอดภัย ประตูเมื่อถูกผลักเบาๆก็เปิดออกแล้ว เซี่ยชีหรั่นถามขึ้นอย่างแปลกใจว่า:“ตอนกลางคืนห้องพนักงานรักษาความปลอดภัยไม่ล็อคประตูเหรอ?”
“อาจจะเป็นเพราะรู้ว่าจะมีคนมาแน่เลย?”เย่เชินหลินเหลือบสายตาครู่หนึ่งพลางพูดกับเซี่ยชีหรั่นอย่างราบบเรียบ
ในห้องมีเครื่องบันทึกวิดีโอวางเรียงเป็นกองๆอย่างเป็นระเบียบ เมื่อเรียบเป็นกองไว้กินพื้นที่กว่าครึ่งห้อง เซี่ยชีหรั่นร้องด้วยความเศร้าโศก:“เยอะขนาดนี้แล้วเมื่อไหร่จะหาเจอล่ะ”
เย่เชินหลินชี้ไปที่กองที่เตี้ยที่สุดที่อยู่ข้างๆเซี่ยชีหรั่น:“งั้นเริ่มจากกองนี้ก็แล้วกัน”
เซี่ยชีหรั่นเริ่มหาจากกองแรกก่อนอย่างจำใจ เพื่อพลิกไปดูม้วนที่ห้าก็ร้องขึ้นด้วยความดีใจว่า:“โชคดีจังเลย ครู่เดียวก็หาเจอแล้ว!”
เย่เชินหลินพยักหน้าอย่างจำใจ หันไปมองบอดี้การ์ดด้านนอกหน้าต่างที่ยังไม่ทันได้จากไป แววตาเผยประกายความชื่นชมออกมา
“พวกคุณเป็นใครกัน!มาทำอะไรที่นี่!”แสงไฟจ้าส่องมายังเย่เชินหลินและเซี่ยชีหรั่น
ในห้องทำงาน ผู้อำนวยการโรงเรียนที่ยืนอยู่ข้างๆยิ้มพลางพูดขึ้นว่า:“ประธานเย่จะมาดึกขนาดนี้ทำไมถึงไม่บอกกล่าวจะได้เตรียมคนต้อนรับ”
“ผู้อำนวยการโรงเรียนครับ ในมือของพวกเขาถือวีดีโออยู่ ผมคิดว่าน่าจะเป็นขโมยครับ” พนักงานรักษาความปลอดภัยพูดขึ้นด้วยสีหน้าที่จริงจัง
“ขโมยที่ไหนกัน!นั้นคือประธานของโรงเรียนเรา!ถ้าคุณไม่รู้อะไรก็กลับบ้านไปเลี้ยงควายเถอะ!”ผู้อำนวยการโรงเรียนตำหนิพนักงานรักษาความปลอดภัยซะเละ
“คุณพูดแบบนี้ได้ยังไงกันคะ เขาจับพวกเราก็เพราะทำตามหน้าที่ๆตนรับผิดชอบ หากคุณทำเช่นนั้นฉันคิดว่ามันไม่ถูกต้องนะคะ!เซี่ยชีหรั่นซึ่งเป็นคนที่ถูกจับ กลับพูดเพื่อช่วยเขา เดิมทีพนักงานรักษาความปลอดภัยที่กำลังรู้สึกน้อยใจที่ไม่ได้รับความยุติธรรมก็ตะลึงงัน
ผู้อำนวยการโรงเรียนก็งุนงงครู่หนึ่ง มองไปยังเย่เชินหลินด้วยแววตาสงสัย เย่เชินหลินยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย และมอบนามบัตรใบหนึ่งให้กับพนักงานรักษาความปลอดภัย
“บริษัทเย่ซื่อ พรุ่งนี้มารายงานตัวด้วย”
บริษัทเย่ซื่อ?ก็คือคนที่แม้แต่พนักงานรักษาความปลอดภัยก็ต้องรับคนที่เรียนจบปวสคนนั้นหนะเหรอ?สายตาของพนักงานรักษาความปลอดภัยมองไปยังใบหน้าที่ยิ้มแย้มของเซี่ยชีหรั่น ทันใดนั้นก็ได้สติ รับนามบัตรนั้นมาด้วยความดีใจจนไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี
“ไปกันเถอะ”เย่เชินหลินจูงมือเซี่ยชีหรั่น พลางพูดกับผู้อำนวยการโรงเรียนด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบว่า:“เตรียมห้องฉายโปรเจ๊กเตอร์ให้พวกเราห้องหนึ่งด้วยนะครับ”
ท่ามกลางแสงไฟที่มืดสลัว จิตใจของเซี่ยชีหรั่นจดจ่ออยู่แต่กับวีดีโอเมื่อครึ่งปีก่อนนี้ วีดีโอได้ฉายผู้คนที่เดินไปมาราวกับกำลังเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในอดีต
ขณะที่เซี่ยชีหรั่นมองดูวีดีโอ เย่เชินหลินก็มองดูเซี่ยชีหรั่น คิ้วของผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าขยับไปมา เมื่อเห็นคนที่คล้ายว่าจะใช่ดวงตาก็ขยับเล็กน้อยทำให้คิ้วที่ประณีตขยับตามไปด้วย ดูเท่าไหร่ก็ไม่พอ
เซี่ยชีหรั่นนวดคลึงที่ดวงตาของตนเอง ภาพที่อยู่เบื้องหน้าราวกับสายน้ำที่ขยับไปมา เปลือกตาหย่อนลงแทบจะปิดลง มือข้างหนึ่งพยุงศีรษะของเซี่ยชีหรั่นวางไว้บนไหล่ของเขา เซี่ยชีหรั่นที่อยู่ในสภาวะที่กึ่งหลับกึ่งตื่นก็ขยับหาท่าทางที่สบายที่สุด ไม่กี่วินาทีต่อมาเสียงลมหายใจก็เงียบสนิท
เย่เชินหลินไม่ได้หันศีรษะกลับไป แต่ก็รับรู้ได้ถึงไอร้อนบริเวณคอที่เซี่ยชีหรั่นพ่นออกมา พลางกดโทรศัพท์โทรออก
“ประธานเย่”อีกไม่กี่นาทีต่อมาผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่ในชุดสูทก็ปรากฎอยู่ที่เบื้องหน้าของเย่เชินหลิน
“หาผู้หญิงที่ชื่อหยวนหยวนอย่างละเอียด”น้ำเสียงของเย่เชินหลินไม่ถือว่าเย็นชานัก ถือได้วว่าราบเรียบพอสมควร และบอดี้การ์ดก็รู้ดีว่าเป็นเพราะเขาไม่อยากให้เสียงดังรบกวนผู้หญิงที่นอนหลับอยู่
เซี่ยชีหรั่นตื่นขึ้นมาอย่างสะลึมสะลือ ถูๆไถๆที่บริเวณแก้ม เมื่อลืมตาขึ้นมาก็พบว่ามีแสงหนึ่งเล็ดลอดเข้ามาในห้องนี้
เงยหน้าขึ้นฉันพลัน เผชิญหน้ากับใบหน้าที่เรียบเฉยของเย่เชินหลิน เซี่ยชีหรั่นหลบสายตาของเขาเล็กน้อย มองเห็นคราบน้ำลายบนไหล่ของเย่เชินหลิน
“ขอโทษนะคะ ฉัน”สีหน้าของเซี่ยชีหรั่นแดงขึ้น แล้วรีบยื่นมือเข้าไปลูบไหล่ที่เปื้อนน้ำลายของเธอจนเป็นรอย
“พอได้แล้ว มองดูนั้น”เย่เชินหลินจับแขนของเซี่ยชีหรั่นแล้วพาเธอมาที่โต๊ะ บนโต๊ะมีวิดีโอวางอยู่ม้วนหนึ่ง
เซี่ยชีหรั่นเปิดวีดีโอดูด้วยความสงสัย รถคันรถคันพอตเตอร์คันหนึ่งที่คุ้นเคยจอดอยู่บริเวณปากทาง จากนั้นก็มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาในประตูของโรงเรียน
หยวนหยวนเดินอย่างรวดเร็ว กระเป๋าที่สะพายอยู่ข้างหลังส่ายไปส่ายมา เมื่อเดินมาถึงหน้ากล้องผู้หญิงคนหนึ่งก็เดินลงมาจากรถและมุ่งตรงไปยังรถของหยวนหยวน
ใบหน้าที่แต่งอย่างประณีตและเครื่องประดับราคาแพง ไม่รู้ว่าอ้ายหลอนพูดอะไรกับหยวนหยวน หยวนหยวนอารมณ์ขึ้นจนกระทั่งสะบัดมือของอ้ายหลอน
หยวนหยวนขยับเท้าเข้ามาสองก้าวแล้วจับข้อมือของหยวนหยวนเหมือนกำลังอธิบายบางสิ่งบางอย่าง เมื่อหยวนหยวนสะบัดมือก็ทำให้เล็บมือที่เรียวยาวของอ้ายหลอนข่วนที่ข้อมือของหยวนหยวน
ในวีดีโอหยวนหยวนโกรธจนกระทั่งสะบัดมือของอ้ายหลอน และจู่ๆอ้ายหลอนก็เข้าไปในรถและขับรถจากไป
ภาพตรงหน้าจบลงเพียงเท่านี้ ทุกหนแห่งเต็มไปด้วยหิมะ มือสั่นของเซี่ยชีหรั่นชี้ไปที่เย่เชินหลิน:“คุณ···คุณรู้เรื่องอยู่แล้ว?คุณเคยดูแล้ว?”
“เปล่าครับ ผมไม่สนใจเรื่องพวกนี้หรอก”เย่เชินหลินพูดขึ้นอย่างราบเรียบ หลังจากที่ได้วีดีโอมาแล้ววีดีโอม้วนนั้นก็วางอยู่ที่นั้นมาโดยตลอด สำหรับเย่เชินหลินแล้ว สิ่งเดียวที่เขาสนใจก็คือเซี่ยชีหรั่น
“พวกเราไปกันเถอะ”จู่ๆเซี่ยชีหรั่นที่นั่งอยู่บนรถก็พูดขึ้นอย่างเหนื่อยล้า
“คุณแน่ใจนะ?”เย่เชินหลินหันไปมองเซี่ยชีหรั่น เซี่ยชีหรั่นพยักหน้าพลางลูบคลำท้องของตนเองและพูดขึ้นเบาๆว่า:“ครอบครัวนี้เป็นบ้าไปแล้ว ทุกคนต่างระแวดระวังซึ่งกันและกัน ทุกคนอยู่ในเงาของตัวเอง ลูกของฉันไม่ควรอยู่ในโลกที่ย่ำแย่นี้”
“เซี่ยชีหรั่น คุณแน่ใจนะว่าจะจากไปแบบนี้?”เย่เชินหลินพูดขึ้นอย่างราบเรียบ เซี่ยชีหรั่นมองไปด้านนอกหน้าต่างอย่างเรียบเฉยในใจสับสนวุ่นวาย
รถจอดอยู่ด้านหน้าประตูบ้านตระกูลหวา เซี่ยชีหรั่นมองไปยังเย่เชินหลินด้วยความประหลาดใจ เย่เชินหลินชี้ไปที่ใจของเซี่ยชีหรั่น:“ทำตามที่ใจเรียกร้อง”
เหมือนกับว่าเซี่ยชีหรั่นยังคงคิดอยากจะพูดอะไร แต่เย่เชินหลินก็ได้ไล่คนเสียแล้ว:“ลงรถ”
เมื่อเธอลงจากรถ รถก็ถูกขับออกไปอย่างรวดเร็ว เซี่ยชีหรั่นมองดูรถของเย่เชินหลินกระทั่งเงาของรถได้หายไปจากสายตาของเขา
เย่เชินหลินมองดูเซี่ยชีหรั่นที่กำลังมองดูตนอยู่ผ่านกระจกหลังรถ เม้มปากแล้วตัดสายโทรศัพท์ที่ดังอย่างต่อเนื่องทิ้ง เซี่ยชีหรั่นรอก่อนนะเดี๋ยวผมจะไปหาคุณ
ภายในบ้านตระกูลหวา เซี่ยชีหรั่นเห็นเซวียเหวินยูนนั่งอยู่บริเวณโซฟา สายตาของทั้งคู่ไม่อาจปกปิดความเหนื่อยล้าได้ ให้ตามีรอยคล้ำเล็กน้อย
เซี่ยชีหรั่นนั่งลงข้างๆเซวียเหวินยูนด้วยความเป็นห่วง:“คุณดีขึ้นหรือยังคะ?ทำไมไม่พักผ่อนต่อ”
เซวียเหวินยูนส่ายศีรษะ หันไปยิ้มแล้วถามเซี่ยชีหรั่นว่า:“คุณเคยแปลกใจไหมว่าครึ่งเดือนมานี้ ทำไม่ผมถึงไม่อยู่เลย?”
แม้ว่าเซี่ยชีหรั่นจะแปลกใจว่าทำไมอยู่ๆเซวียเหวินยูนถึงได้ถามเช่นนี้ออกมา แต่ว่าเธอก็ยังคงพยักหน้าแล้วพูดขึ้นว่า:“แต่ว่าไม่เป็นไรหรอก ฉันรู้ว่าคุณมีเรื่องที่ต้องจัดการ”
เซวียเหวินยูนยิ้มพลางกุมมือของเซี่ยชีหรั่น เซี่ยชีหรั่นมองไปยังเซวียเหวินยูนพยายามจะดึงมือออก เซวียเหวินยูนกุมมือของเซี่ยชีหรั่น พลางพูดขึ้นเบาๆว่า:“ช่วงเวลาสำคัญของผมใกล้จะมาถึงแล้ว คุณยินดีที่จะไปรับรู้พร้อมกับผมไหม?”
วันนี้เซวียเหวินยูนดูตื่นเต้นเป็นพิเศษ เซี่ยชีหรั่นพยักหน้ายอมให้เซวียเหวินยูนพาตนเองไปยังลานกว้างขนาดใหญ่
บริเวณรอบๆลานกว้างผู้คนเดินขวักไขว่ และครึกครื้นเหมือนทุกๆวัน เมื่อท้องฟ้าค่อยๆมืดลง ผู้คนก็ต่างหยุดฝีเท้าลงเพื่อดื่มด่ำกับช่วงเวลาแห่งการผ่อนคลาย
จู่ๆฝนก็ตกลงมาจากทั่วทุกทิศ ผู้คนหลบหลีกกันชุลมุน ขณะที่ฝนตกจู่ๆ ก็มีเงาของกลุ่มคนกว่าสิบคนกรูออกมา
มีของเซี่ยชีหรั่นกุมที่ปากอย่างตกใจ มองดูกลุ่มคนกว่าสิบคนเต้นรำขึ้นพร้อมกันในลานกว้าง จอLEDขนาดใหญ่ทั้งสี่ทิศสว่างไสวเวลานี้ได้ฉายภาพออกมา ทำให้เห็นสีหน้าท่าทางของผู้คนถูกฉายออกมา
ด้านนอกมีเสียงดังคำรามออกมา เมื่อเงยหน้าขึ้นก็พบว่ามีเฮลิคอปเตอร์จำนวนห้าลำบนวนอยู่บริเวณลานกว้าง และปล่อยผ้าแถบที่ตกแต่งด้วยดอกไม้สดลงมา บนผ้าแถบนั้นมีเพียงชื่อๆเดียวที่เขียนซ้ำไปซ้ำมา
เซี่ยชีหรั่น เซี่ยชีหรั่น ทุกคนต่างคาดเดาว่าผู้หญิงที่โชคดีเซี่ยชีหรั่นคนนี้คือใคร
“หรั่นหรั่น คุณยินดีที่จะแต่งงานกับผมไหม?”เซวียเหวินยูนหยิบแหวนขึ้นมาอย่างสุภาพบุรุษ เพชรที่อยู่บนแหวนนั้นทำให้ผู้คนต่างตกตะลึง เซวียเหวินยูนพูดต่อว่า:“เดิมทีจะขอคุณแต่งงานที่ปารีส แต่เห็นว่าตอนนี้คุณไม่ค่อยสะดวก ก็เลยเลือกที่นี่”
“ฉัน มันกะทันหันเกินไป”เซี่ยชีหรั่นมองเซวียเหวินยูนด้วยความประหลาดใจ ชั่วขณะนั้นก็ไม่รู้ว่าจะตอบอะไรดี
สายตาเคลื่อนย้ายไปยังมือของเซวียเหวินยูน เซี่ยชีหรั่นถามขึ้นด้วยความประหลาดใจว่า:“มือของคุณเป็นอะไรเหรอคะ?”เซวียเหวินยูนคิดไม่ถึงเลยว่าเซี่ยชีหรั่นจะสังเกตที่มือของตน หลังจากที่ตะลึงงันก็พูดขึ้นว่า:“ตอนที่เตรียมงานไม่โกดังเก็บของนี้ทันระวังเลยได้รับบาดเจ็บ”
โกดังเก็บของ ทำให้มือได้รับบาดเจ็บ?ในหัวของเซี่ยชีหรั่นก็นึกถึงคนที่สองสามวันวนเวียนอยู่ในหัวของเธออย่างอัตโนมัติ อ้ายหลอน!
“เหวินยูน ต้องขอโทษด้วยนะคะ ฉันมีเรื่องที่ต้องไปจัดการก่อน”เซี่ยชีหรั่นมองไปยังเซวียเหวินยูนอย่างลังเล ยกมุมปากขึ้นแล้ววิ่งออกไปข้างนอก
เซวียเหวินยูนยืนอยู่บริเวณใจกลางลานกว้างอย่างโดดเดี่ยว เพราะว่าคนที่สำคัญที่สุดไม่อยู่ที่นี่แล้ว

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset