สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 1294หญิงรับใช้ของคุณชายเย่1194

บทที่1294หญิงรับใช้ของคุณชายเย่1194
เซี่ยชีหรั่นขับมาถึงลานจอดรถที่วิเวกวังเวง ลานจอดรถยังคงสภาพเดิมเหมือนเมื่อก่อน ยิ่งในตอนกลางคืนแล้วก็ยิ่งมืดครึ้มน่าสะพรึงกลัว เธอวิ่งเยาะๆ มายังบริเวณด้านหน้าคลังเก็บสินค้า เซี่ยชีหรั่นจ้องมองกลอนประตูที่ขึ้นสนิมอย่างละเอียด
กลอนประตูของโรงรถมีคราบเลือดติดอยู่ เซี่ยชีหรั่นแตะเบาๆ เหล็กบริเวณมือจับม้วนขึ้นมาทำให้ผิวของเธอรู้สึกเจ็บเล็กน้อย
คำตอบทุกอย่างปรากฏขึ้นแล้วว่า ทำไมมือของอ้ายหลอนถึงได้มีรอยแผลที่ชัดเจนขนาดนั้น จากนั้นเธอก็วิ่งไปยังรถที่หยวนหยวนขับในเวลานั้นอย่างไม่ลังเล กระจกบริเวณหน้าต่างรถมีคราบเลือดที่แห้งอย่างเห็นได้อย่างชัดเจน สีของเลือดที่อยู่ในรถค่อนข้างอ่อน
ขณะที่รถจอดอยู่ที่หน้าประตูบ้านตระกูลหวา เซี่ยชีหรั่นเดินเข้าไปในบ้านตระกูลหวาด้วยความเหน็ดเหนื่อย เงาดำที่อยู่ด้านหน้าประตูก็เอ่ยปากขึ้น
“ผมกำลังรอคุณอยู่”เซวียเหวินยูนพูดขึ้นอย่างราบเรียบ
“เหวินยูน ฉัน···ขอโทษ”เซี่ยชีหรั่นราวกับเด็กที่ทำความผิดก้มหน้าไม่รู้ว่าจะทำยังไง
รองเท้าคู่หนึ่งปรากฏขึ้นมาในสายตา เซวียเหวินยื่นมือออกไปปัดเศษใบไม้ที่ไหล่ของเซี่ยชีหรั่น พลางพูดขึ้นด้วยความอ่อนโยนว่า:“จัดการธุระเรียบร้อยแล้วเหรอครับ?”
เมื่อเซี่ยชีหรั่นเงยหน้าขึ้นมาก็เห็นสายตาที่เหนื่อยล้าของเซวียเหวินยูนและขอบตาสีดำคล้ำ พลางพูดด้วยเสียงเบาว่า:“ฉันต้องขอโทษจริงๆนะคะ”
“เซี่ยชีหรั่น คุณเอ็นดูผมหรือว่าเสียใจกันแน่ที่เห็นผมเป็นแบบนี้?”เซวียเหวินยูนมองผ่านเซี่ยชีหรั่นไปเพื่อดูพระอาทิตย์ขึ้นและพูดอย่างราบเรียบ
“ขอโทษนะคะ”น้ำเสียงของเซี่ยชีหรั่นสั่นแต่ก็ยังมีความหนักแน่น และพยายามกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก เซี่ยชีหรั่นพูดขึ้นว่า:“หากเจอคุณเร็วกว่านี้ก็คงจะดี จริงๆนะ”
สายตาของเซวียเหวินยูนกลับมายังเซี่ยชีหรั่นอีกครั้ง ลูบผมของเซี่ยชีหรั่นอย่างอ่อนโยน และขัดจังหว่ะขึ้นอย่างรีบร้อนด้วยความเอ็นดู พลางพูดขึ้นว่า:“เมื่อคืนคุณไม่ได้นอนหลับอย่างสบาย รีบไปพักผ่อนเถอะ”
เซี่ยชีหรั่นส่ายศีรษะ จับมือของเซวียเหวินยูนพลางพูดขึ้นว่า:“คุณยังจำเรื่องที่ฉันถูกขังอยู่ในโรงรถได้ไหม?เรื่องนี้เป็นฝีมือของอ้ายหลอน รวมทั้งเรื่องของหยวนหยวนเมื่อครึ่งปีที่แล้วด้วย คนสุดท้ายที่อยู่กับหยวนหยวนก็คืออ้ายหลอน ซึ่งก็หมายความว่า ไม่เพียงแต่กว๋อเหาที่เกี่ยวข้องกับการตายของหยวนหยวน อ้ายหลอนก็ด้วยเช่นกัน!”
เซวียเหวินยูนพูดขึ้นกับเซี่ยชีหรั่นด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น:“หากคุณคิดว่าเรื่องที่คุณพูดมาทั้งหมดนี้เป็นเรื่องจริง ถ้างั้นคุณก็ต้องไปขัดขวางอ้ายหลอนตั้งแต่ตอนนี้ วันนี้ตอนเช้าเธอจะเปิดประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้น!”
เซี่ยชีหรั่นเดินทางมายังบริษัทอย่างรีบด่วน พนักงานรักษาความปลอดภัยเข้ามาขวางเซี่ยชีหรั่นไว้ สีหน้าประหลาดใจและพูดขึ้นว่า:“คุณผู้หญิงครับ คุณอ้ายหลอนได้กำชับไว้ว่าคุณอย่าขึ้นไปเป็นดีที่สุดครับ ”
เซี่ยชีหรั่นไม่สามารถสลัดมือของพนักงานรักษาความปลอดภัยให้หลุดได้ ทำได้เพียงหน้าเย็นชาและพูดขึ้นว่า:“คุณไปถามก็ได้ว่าคนๆเดียวที่สามารถพักอยู่ที่บ้านตระกูลหวาได้ไม่ใช่อ้ายหลอนแต่เป็นฉัน”
พนักงานรักษาความปลอดภัยลังเลครู่หนึ่ง ทำให้เซี่ยชีหรั่นใช้โอกาสนี้ในการสลัดมือของพนักงานรักษาความปลอดภัยออก แล้วเดินเข้าไปข้างใน เสียงโอ้อวดของอ้ายหลอนดังออกมาจากห้องทำงาน:“ฉันมีสิทธิ์ในการครอบครองผืนดินแห่งนี้ถึง80% นั้นก็หมายความว่าฉันเป็นผู้ถือหุ้นที่ใหญ่ที่สุด ตอนนี้ฉันต้องการให้ทุกคนจับมือกันแล้วเสนอให้ฉันเป็นซีอีโอ ฉันได้พูดอย่างชัดเจนแล้ว ผลเสียที่เกิดขึ้นพวกคุณลองคิดดูเองก็แล้วกัน ”
“หนังสือสิทธิของผู้ถือหุ้นนั้นมาอยู่ในมือของคุณได้ยังไง?”เซี่ยชีหรั่นผลักประตูเข้ามาพลางพูดขึ้นเสียงดัง ในใจสับสนวุ่นวาย ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเย่เชินหลินกันแน่?
“คุณสามารถดูได้ว่าหนังสือสิทธิของผู้ถือหุ้นเป็นของจริงหรือไม่ เซี่ยชีหรั่นคุณคิดว่าคุณคือหยวนหยวนเหรอ”อ้ายหลอน แกว่งเอกสารที่อยู่ในมือ
“แม้ว่าฉันจะไม่ใช่หยวนหยวน แต่ว่าคุณก็คือคนที่ฆ่าหยวนหยวนอย่างแน่นอน”เซี่ยชีหรั่นพูดขึ้นเสียงดัง สีหน้าของอ้ายหลอนเปลี่ยนไปพลางร้องออกมาเสียงดัง:“คุณพูดจาเหลวไหลอะไร?!”
“ฉันพูดจาเหลวไหลหรือเปล่า คุณน่าจะรู้ดีนะ เมื่อครึ่งปีก่อนหยวนหยวนขับรถของคุณออกไปแล้วเกิดอุบัติเหตุ พวกคุณสามารถฟังเสียงจากเทปบันทึกเสียงได้”เซี่ยชีหรั่นเปิดเทปบันทึกเสียงออกมา เสียงของหยวนหยวนในเทปหวาดกลัวเป็นอย่างมาก
“พนักงานรักษาความปลอดภัย รีบไล่คนที่พูดจาเหลวไหลโดยไม่มีหลักฐานออกไปซ่ะ”อ้ายหลอนตะโกนเสียงดังด้วยความโมโห
“อ้ายหลอนคุณยอมแพ้เถอะ” บริเวณประตูใหญ่ กว๋อเหาผลักหม่าลี่ให้เดินเข้ามา พไลางมองดูอ้ายหลอนอย่างเงียบๆ
“ฉันก็เป็นคนหนึ่งที่ไม่ได้มีงานอดิเรกอะไร ฉันรู้สึกฉันเป็นผู้หญิงคนหนึ่ง วันนั้นเมื่อครึ่งปีก่อน หยวนหยวนเห็นการแต่งตัวของฉันและเห็นด้วยว่าฉันกำลังดูดBAIอยู่ ฉันกลัวเป็นอย่างมาก กลัวว่าเธอจะบอกทุกอย่างกับหม่าลี่ ก็เลยตามเธอมาโดยตลอด กระทั่งเธอหนีอย่างรีบร้อน และนั้นก็เป็นต้นเหตุของโศกนาฏกรรมที่น่าเศร้านี้”
กว๋อเหาพูดขึ้นอย่างไม่รีบร้อน อ้ายหลอนกัดฟันแล้วพูดขึ้นว่า:“คุณบ้าไปแล้วเหรอถึงได้พูดเรื่องนี้?!”
“อ้ายหลอน แม่รู้ว่าลูกคิดว่าแม่เข้าข้างพี่ใหญ่ของลูก แต่ว่าลูกลองดูเนื้อหาในพินัยกรรมนี้สิ”หม่าลี่หยิบพินัยกรรมออกมาอย่างเรียบเฉย
อ้ายหลอนรับมาอย่างมือสั่น พินัยกรรมฉบับนี้ได้เขียนไว้อย่างเรียบร้อยตั้งแต่เมื่อครึ่งปีที่แล้วเนื้อหาระบุไว้ว่า ‘ทรัพย์สินให้แบ่งออกเป็นสี่ส่วน ซึ่งอ้ายหลอนนั้นได้ส่วนแบ่งมากที่สุด’
“วันนั้นหยวนหยวนมาหาแม่ บอกว่าเธออายุยังน้อย ไม่อยากได้ทรัพย์สมบัติมากมายขนาดนี้ เพราะเธอสามารถหาได้ด้วยตัวของเธอเอง ดังนั้นให้แม่ยกทรัพย์สมบัติส่วนใหญ่ของเธอให้กับลูก”ดวงตาขุ่นของหม่าลี่มองไปยังอ้ายหลอน แววตาเผยความรักความเอ็นดูของแม่ออกมา
“หยุดพูดได้แล้ว หยุดพูดได้แล้ว”อ้ายหลอนใช้มือกุมหูทั้งสองข้างของตนเองแล้วเดินจากไป
“อ้ายหลอน ลูกรู้ไหมว่าทำไมแม่ไม่อยากให้ลูกอยู่ที่บ้านตระกูลหวา?ก็เพราะบ้านตระกูลหวาเป็นสถานที่เน่าเฟะ แม่อยู่ที่บ้านหลังนี้มาทั้งชีวิต ถูกขังอยู่ที่นี่มาตลอดชีวิตแล้ว แม่ก็เลยอยากให้ลูกได้ออกไปพบเจอกับโลกภายนอก ”หม่าลี่พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ มือที่สั่นเทาของเธอโอบกอดอ้ายหลอน
อ้ายหลอนเงยหน้าขึ้นอย่างบ้าคลั่ง น้ำตาอาบใบหน้า มองไปยังหม่าลี่พลางร้องไห้สะอึกสะอื้น:“ฉันก็ไม่อยากเหมือนกัน วันนั้นเดิมทีฉันเตรียมตัวจะฆ่าตัวตาย เบรกในรถฉันก็เป็นคนทำเสียหาย ฉันก็แค่ด่าหล่อนออกไปด้วยความไม่พอใจ คิดไม่ถึงเลยว่าจู่ๆหล่อนก็ขึ้นไปบนรถ “
ฉันพยายามตามหล่อนไป แต่ก็ตามไม่ทัน หล่อนก็แค่ตายแทนฉันก็เท่านั้น ครึ่งปีมานี้พวกคุณรู้ไหมว่าฉันทุกข์ทรมานแค่ไหน “
“ความผิดพลาดที่ร้ายแรงที่สุดของคุณก็คือคุณทำผิดซ้ำซาก”เซี่ยชีหรั่นพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ วางเอกสารไว้บนโต๊ะ แล้วหันมาพยักหน้าให้กับหม่าลี่เพื่อบอกเป็นนัยว่าเธอไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว ที่เหลือก็ไม่เกี่ยวกับเธอแล้ว
เธอรีบควักโทรศัพท์ออกมาและกดโทรหาเย่เชินหลินด้วยมือที่สั่น ทำไมหม่าลี่ถึงได้มีหนังสือมอบอำนาจของเย่เชินหลิน เรื่องนี้เธอไม่สนใจไม่ได้
“ฮัลโหล”น้ำเสียงของเย่เชินหลินราบเรียบ เซี่ยชีหรั่นก็เริ่มผ่อนคลายลงมาบ้าง
“คุณไม่เป็นไรใช่ไหม ฉันอยากจะถามคุณเรื่องที่คุณให้เอกสารกับหม่าลี่···ปั้ง”เสียงดังปะทุขึ้น เซี่ยชีหรั่นตกใจรีบถามขึ้นว่า:“ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหนคะ?”
เสียงหายใจสั้นๆดังเข้ามาในโทรศัพท์ สักพักเสียงของเย่เชินหลินถึงได้ปรากฎขึ้นอีกครั้ง:“คุณไปนอนพักผ่อนก่อนเถอะ เดี๋ยวพอคุณตื่นขึ้นมาก็จะเห็นผมเอง”
“ไม่เอาค่ะ บอกฉันมานะคะว่าตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน?”เซี่ยชีหรั่นร้องไห้ฟูมฟาย มือสั่นแทบจับโทรศัพท์มือถือไม่อยู่ เนื่องจากหูได้ยินเสียงของกระสุนปืน จึงทำให้เธอตกใจ ต้องเกิดเรื่องขึ้นกับเย่เชินหลินแน่ๆ !
“อย่าร้องไห้··”จู่ๆน้ำเสียงของเย่เชินหลินก็ตัดขาดไป เหลือเพียงเสียงที่บ่งบอกว่าสายไม่ว่าง เซี่ยชีหรั่นนั่งเป็นอัมพาตอยู่กับพื้นอย่างงงงวย พลางมองไปด้านนอกหน้าต่าง
ด้านนอกหน้าต่างมีลูกนกที่ยังไม่ออกจากรังกำลังหันมามองเซี่ยชีหรั่น ไม่นานปีกที่แข็งกล้าก็บินออกไปไกล จู่ๆเซี่ยชีหรั่นก็ตื่นขึ้นแล้ววิ่งไปข้างนอก
“ประธานเย่ ไม่เป็นอะไรใช่ไหมครับ”หลังจากเสียงระเบิดดังขึ้น จางเฟิงอี้ก็เคลื่อนย้ายมาอยู่ข้างๆ เย่เชินหลินด้วยความยากลำบาก สีหน้าตะลีตะลานด้วยความรู้สึกเสียใจ:“เป็นเพราะผมละเลย คิดไม่ถึงเลยว่า จู่ๆอ้ายหลอนจะลงมือเอาเอกสารนั้นไป”
เย่เชินหลินดึงเนกไทเพื่อพันแขนที่เลือดออกด้วยใบหน้าที่เย็นชา พลางมองไปยังเงาของคนที่โคลงเคลงอยู่ด้านนอกรถไปมา จู่ๆก็ยิ้ม:“จะต้องร้องไห้ฟูมฟายอย่างแน่นอน”
เขาเปลี่ยนปืนอีกด้ามหนึ่งพลางมองไปยังเงานั้น พร้อมกำชับเสียงเบาว่า :“ยังดูแกไม่สะใจเลย จะยอมให้ตายก่อนได้ยังไง”
เซี่ยชีหรั่นกลับมายัง บ้านตระกูลหวาลูบท้องของตัวเอง ท้องที่กระเพื่อมทำให้รู้สึกเจ็บปวดเล็กน้อย:“ลูกรักเป็นเด็กดี แม่จะไปพบคนสำคัญสำหรับแม่และลูกคนหนึ่ง อย่าก่อกวนเลยนะลูก”
ราวกับเขาฟังเข้าใจในสิ่งที่เซี่ยชีหรั่นขอร้อง ความรู้สึกเจ็บปวดค่อยๆหายไป เสียงฟ้าร้องมาแต่ไกล เสียงฟ้าแลบอย่างบ้าคลั่งนำมาพายุโหมกระหน่ำรวมทั้งกลุ่มเมฆดำที่ม้วนตัวขนาดใหญ่
ท้องฟ้าและแผ่นดินมืดสลัว ใบไม้กระทบกับลมจนเสียงดังกรอบแกรบ ราวกับได้รับโอกาสจึงสื่อสารกันเกี่ยวกับเรื่องหยุมหยิมในชีวิตประจำวัน สิ่งเหล่านี้ทำให้เซี่ยชีหรั่นใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
เธอวิ่งกลับเข้ามาในห้อง เซี่ยชีหรั่นรีบไปค้นตู้ แล้วนำตุ้มหูสีเขียวของคุณย่า ที่เย่เชินหลินให้ตนไว้กับมือออกมา จากนั้นก็ทุบตุ้มหูลงบนพื้นอย่างแรง จีพีเอสสีดำขนาดเล็กก็หลุดออกมา
เซี่ยชีหรั่นหยิบจีพีเอสแล้ววิ่งลงมาจากตึก ภายนอกตึกเต็มไปด้วยเสียงใบไม้ คฤหาสน์หรูหราคากว่าร้อยล้านแห่งนี้ในเวลานี้ราวกับเป็นสิ่งของที่ไม่มีชีวิตที่ถูกลมโหมกระหน่ำจากทางด้านนอก ซึ่งมีโอกาสที่จะถล่มลงมาได้ทุกเวลา
“เจ็บจังเลย!”เซี่ยชีหรั่นอุ้มท้องของตนแล้วค่อยๆนั่งยองๆ ความรู้สึกเจ็บบริเวณท้องทำให้เธอรับรู้ได้ว่าชีวิตน้อยๆใกล้วันนี้ใกล้จะลืมตาดูโลกแล้ว
“ลูกรัก อย่าดื้อ อดทนอีกหน่อยนะ ไม่นานแม่ก็จะพาลูกไปในที่ๆปลอดภัย”เซี่ยชีหรั่นอดทนต่อความเจ็บปวด พลางโยนจีพีเอสเข้าไปในรถ และขับรถเข้าไปยังจุดหมายปลายทาง
ทางด่วนที่แสนเปล่าเปลี่ยว เย่เชินหลินคิดที่จะจู่โจมคนๆนั้นจากทางด้านหลัง จางเฟิงอี้กัดฟันพลางพูดขึ้นว่า:“ยังมีเหลืออีกสองคน คนพวกนี้ล้วนเป็นทหารที่ถูกจ้างวานมา ไม่รู้เหมือนกันว่าผู้หญิงคนไหนจ้างวานมา”
เย่เชินหลิน ยืนหยัดอย่างไม่ลดละพลางมองไปรอบๆ ด้านทั้งสี่ทิศ จู่ๆคิ้วก็ขมวดพลางมองไปด้านหน้าที่ไม่ไกลนัก รถสีแดงคันหนึ่งวิ่งพุ่งเข้ามาหาเย่เชินหลินด้วยความรวดเร็ว เงาร่างคนๆหนึ่งลงจากรถอย่างล้มลุกคลุกคลาน เมื่อเห็นเหตุการณ์ที่อยู่ข้างหน้าก็ตะลึงงัน และจู่ๆก็กลับเข้าไปในรถอีกครั้ง
เซี่ยชีหรั่นกลับเข้าไปในรถ เห็นรอยเลือดสีแดงคล้ำ ใจของเซี่ยชีหรั่นอดที่จะเต้นไม่ได้ ภายในเกิดความโกลาหล ท่ามกลางความตกตะลึง แขนข้างหนึ่งกวักมือเรียกเธอ
แขนข้างนั้นมีรอยเลือดติดอยู่ กระทั่งไม่สามารถรู้ได้เลยว่าเขาเป็นใคร แต่ว่าเซี่ยชีหรั่นก็รู้ดีว่าเย่เชินหลินนั้นยังปลอดภัยอยู่
เงาคนๆหนึ่งเดินจากข้างหลังรถ และเข้าใกล้รถของเย่เชินหลินอย่างระมัดระวัง เซี่ยชีหรั่นหลี่ตาลงเล็กน้อย มองเห็นมือของฝ่ายตรงข้ามถือลูกระเบิดอยู่
เซี่ยชีหรั่นเงยหน้าขึ้นมาอย่างไม่สนใจอะไรทั้งนั้น พลางมองไปยังด้านข้างรถและตะโกนขึ้นว่า:“ระเบิดมือ!ในมือของเขามีระเบิดมือ!”
ชายผู้นั้นตกใจ จึงเล็งมายังเซี่ยชีหรั่น วินาทีต่อมาชายผู้หนึ่งกำลังจะโยนระเบิดลูกหนึ่ง เมื่อเย่เชินหลินเห็นก็วิ่งมายังเซี่ยชีหรั่น

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset