สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 1308 หญิงรับใช้ของคุณชายเย่1208

บทที่1308 หญิงรับใช้ของคุณชายเย่1208

เซี่ยชีหรั่นเก็บคำพูดไว้ทันทีแล้วมองหน้าหยูหลัน จากนั้นได้นึกถึงท่าทีที่ผิดปกติของเย่เชินหลินในวันนั้นลางๆ เธอถามหยั่งเชิง: “นี่เป็นวัตุประสงค์ของคุณกับเย่เชินหลิน?”
“ปกติผู้หญิงที่ฉลาดจะไม่ถามมาก ผู้หญิงที่แกล้งโง่ถึงจะน่ารักที่สุด” ปิดอัลบั้มภาพแล้วตบที่ศีรษะของ เซี่ยชีหรั่นเบาๆ หยูหลันพูดด้วยรอยยิ้ม
“หยุนโชว์ ดูท่าแกอยู่ที่นี่ทำความคุ้นชินได้ไม่เลวเลยหนิ”แม่เลี้ยงของหยุนโชว์ถูไถเย่เชินหลินไว้ และมองหยุนโชว์อย่างค่อนข้างริษยา ถ้าไม่ใช่อยู่ข้างกายของเย่เชินหลิน เธอให้ลูกสาวที่ก่อกวนไปทั่วและไม่เข้าตาคนนี้ไปหาสามีที่อยู่นรกตั้งนานแล้ว
“ขอบคุณที่เป็นห่วงค่ะ”เสียงของหยุนโชว์ราบเรียบ นั่งที่ข้างกายเย่เชินหลินและไม่แคร์การกระทำของสาวอเมริกาเลยสักนิด สาวอเมริกาหัวเราะเยาะ จู่ๆได้พูดว่า: “คุณรู้หรือเปล่าว่าหยูหลันจะแต่งงานแล้ว อยู่กับคนรักใหม่คนนั้น”
ทันใดนั้นร่างกายของหยุนโชว์สะดุ้ง แววตาที่มองสาวอเมริกามีความลนลานที่ปกปิดไม่ได้ สาวอเมริกามองเย่เชินหลินที่ไม่สะทกสะท้านอย่างพึงพอใจ พึงพอใจกับปฏิกิริยาของเย่เชินหลินมาก ดูท่าความผิดปกติก่อนหน้านี้ของเย่เชินหลินแค่เพราะผู้หญิงคนนั้นอกตัญญูเขาเฉยๆ
น้ำตาค่อยๆก่อตัวอยู่ในเบ้าตาของหยุนโชว์: “ขอโทษนะคะ ฉันอยากอยู่เงียบๆสักพัก ขอตัวนะคะ”หยุนโชว์ลุกขึ้นอยากจากไป แต่กลับถูกเย่เชินหลินดึงแขนไว้ เย่เชินหลินยักคิ้วพร้อมพูดว่า: “คงต้องเจอผู้ชายที่ทำให้ผู้หญิงของผมร้องไห้อีกครั้งแล้ว ผมจะให้คุณลืมผู้ชายคนนั้น ถ้าเห็นหน้าเขาคุณต้องร้องไห้แน่นอน งั้นก็เจอหลายครั้งหน่อย เจอจนกว่าคุณจะร้องไห้ไม่ออก”
ริมฝีปากของหยุนโชว์สั่นเทา สีหน้าซีดเซียว นี่ช่างโหดร้ายเกินไป ให้เธอเจอผู้ชายคนนั้นครั้งแล้วครั้งเล่า มองดูผู้ชายคนนั้นละทิ้งเธออีกครั้งแล้วเข้าสู่ประตูวิวาห์งั้นเหรอ?
“เชินหลิน คุณรังแกหยุนโชว์แบบนี้พ่อที่อยู่บนสวรรค์ของเธอจะต้องเสียใจมากแน่ๆเลย”ดวงตาของสาวฝรั่งมีความร้ายกาจเสี้ยวนึงแว๊บผ่าน เธอชอบดูหน้าตาที่ทนทุกข์ทรมานของหยุนโชว์
รถมาเซราติได้จอดลงที่ลานจอดรถอันกว้างใหญ่ เซี่ยชีหรั่นกำลังจะเปิดประตูรถ มือคู่นึงก็ได้กดมือที่จะเปิดประตูของ เซี่ยชีหรั่นไว้ล่วงหน้า
หยูหลันพูดอย่างลึกซึ้ง: “ผมขอเตือนคุณดีที่สุดอย่าลงไปตอนนี้จะดีกว่า”
“เพราะอะไรคะ?” เซี่ยชีหรั่นผลักหยูหลันที่เอียงตัวหลบอยู่หน้าทรวงอกตัวเองไปด้านหลัง หยูหลันปัดผมที่ทิ้งตัวอยู่หน้าทรวงอกไปด้านหลัง จากนั้นได้มองตาของ เซี่ยชีหรั่นแล้วพูดว่า: “ดูท่าคุณคงไม่ค่อยได้ดูข่าวบันเทิงเลยสินะ”
เซี่ยชีหรั่นมองหยูหลันอย่างแปลกประหลาด
จากนั้นได้เปิดประตูรถเดินลงไป
หยูหลันมอง เซี่ยชีหรั่นอย่างชิวๆ
“หยูหลันหยูหลันพวกเรารักคุณค่ะ! คุณอย่าแต่งงานนะ พวกเรารักคุณตลอดไปค่ะ!”
“หยูหลันหยูหลัน หยูหลันผู้มีความสุข ผู้ชายที่หล่อที่สุดของเมืองจีน!”
จู่ๆเสียงโห่ร้องที่วุ่นวายได้ล้อมรอบมาจากทุกทิศ มีผู้หญิงหลายสิบคนชูรูปโปสเตอร์ขนาดใหญ่ไว้ ผู้ชายในโปรเตอร์กำลังมองเซี่ยชีหรั่นด้วยรอยยิ้ม
เซี่ยชีหรั่นมองตัวอักษรในโปสเตอร์อย่างเซ่อ: “หยูหลัน นักร้องชายที่ได้รับความนิยมมากที่สุด……”
“คุณไม่ใช่หยูหลันหนิ ทำไมคุณถึงลงมาจากรถของเขาได้”ผู้หญิงคนนึงมอง เซี่ยชีหรั่นอย่างระมัดระวังผู้หญิงอีกคนรีบพูดต่อว่า: “หรือว่าที่หนังสือพิมพ์ลงข่าวว่าหยูหลันจะแต่งงานเป็นเรื่องจริง!”
เซี่ยชีหรั่นถูกบีบจนถอยมาที่รถ มือคู่นึงยื่นออกมาจากด้านข้างและดึง เซี่ยชีหรั่นที่ถูกห้อมล้อมอยู่ในหมู่คนออกมา หลังจากเซี่ยชีหรั่นหมุนไปรอบนึงได้กระโจนเข้าไปในอ้อมกอดของผู้ชาย
ไม่นานเย่เชินหลินก็ปล่อยเซี่ยชีหรั่น และถอยมาก้าวนึงเปลี่ยนมาจับหยุนโชว์ไว้ ผู้หญิงที่อยู่รอบๆมองเย่เชินหลินอย่างเอ๋อ อีกฝั่งนึงของรถได้มีผู้ชายผมยาวเดินลงมา
ผมยาวของผู้ชายทิ้งตัวอยู่ที่ไหล่อย่างเกียจคร้าน ดวงตาที่มีเสน่ห์มองผู้คนด้วยรอยยิ้ม ต่างหูข้างซ้ายที่ระยิบระยับทำให้ผู้ชายคนนี้ดูแล้วอ่อนโยน
“หยูหลันหยูหลันพวกเรารักคุณค่ะ!”พริบตาเดียวสาวๆทั้งหลายได้ตื่นเต้นขึ้นมา กอดโปสเตอร์และของขวัญต่างๆเดินไปหาหยูหลัน
เย่เชินหลินใช้แววตาตักเตือนหยูหลันทีนึง จากนั้นได้ดึงหยุนโชว์ไว้และจากไปอย่างรวดเร็ว
เซี่ยชีหรั่นมองเย่เชินหลินที่แต่งตัวภูมิฐานพาหยุนโชว์จากไปผ่านผู้คนที่เบียดเสียด
เท้าอดเดินตามเงาที่จากไปไม่ได้ แต่มือคู่นึงได้กอดเอวของเธอไว้
“สวัดีครับทุกคน นี่คือว่าที่ภรรยาของผม เซี่ยชีหรั่นครับ หวังว่าพวกคุณจะชอบเธอเหมือนที่ชอบผมนะครับ“หยูหลันยิ้มหวาน คนที่อยู่ในเหตุการณ์ได้ส่งเสียงตกใจอีกครั้ง
“นี่มันอะไรกันคะ?” เซี่ยชีหรั่นหมอบอยู่ที่ห้องพักผ่อนอย่างกระหืดกระหอบ เมื่อกี๊เธอถึงขั้นสงสัยว่าผู้หญิงพวกนั้นจะพุ่งมากินตัวเองอยู่แล้ว!
“คนเราต้องมีงานเสริมถึงจะสนุก งานอดิเรกของผมก็คือชอบเล่นพวกเครื่องดนตรี”หยูหลันหยิบน้ำแก้วนึงมาวางไว้ที่ตรงหน้าของ เซี่ยชีหรั่นด้วยรอยยิ้ม
เซี่ยชีหรั่นดื่มกรึ๊บเดียวจนหมดแก้ว จากนั้นได้มองหน้าหยูหลันแล้วพูดว่า: “เพราะฉะนั้น ที่บอกว่าวันนี้มาเลือกชุดแต่งงานเป็นแค่ลูกเล่นเฉยๆใช่มั้ยคะ?”
หยูหลันมอง เซี่ยชีหรั่นแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม: “ไม่ใช่ นั่นเป็นโปรแกรมสุดท้าย แต่เดี๋ยวพวกเราต้องไปงานแถลงข่าวก่อน”
ในงานแถลงข่าว สีหน้าผู้จัดการส่วนตัวของหยูหลันดูแย่มาก เขาพูดเสียงต่ำกับหยูหลัน: “ทำไมเรื่องแต่งงานเรื่องใหญ่โตขนาดนี้ถึงไม่ปรึกษากับฉันก่อนเลย ยังเห็นว่าฉันเป็นผู้จัดการส่วนตัวของนายอยู่มั้ย!”
หยูหลันพูดอย่างราบเรียบ: “งั้นนายเอาข่าวที่หยุนโชว์อยู่ที่ฉันไปบอกให้ผู้หญิงคนนั้น ก็ไม่ได้เห็นตัวเองเป็นผู้จัดการส่วนตัวของฉันเหมือนกันใช่มั้ย?”
ผู้ชายปิดปากเงียบทันที จากนั้นได้หันหน้าไปอีกทางอย่างโกรธ
“ขออนุญาติเรียนถามคุณหยูหลันนะคะ ทำไมถึงเลือกที่จะแต่งงานในเวลานี้คะ?”
หยูหลันมองกล้องและพูดอย่างหนักแน่น: “ผมแค่อยากบอกกับผู้หญิงที่ผมรักว่า ถึงผมจะเคยทำร้ายจิตใจคุณ ถึงผมจะเคยทำเรื่องผิดมากมาย แต่ผมรักคุณ ขอให้คุณเชื่อผมว่าผมรักคุณมาโดยตลอดนะครับ”
แสงแฟลชกระพริบอยู่ในงานอย่างไม่ขาดสาย พวกนักข่าวต่างก็มอง เซี่ยชีหรั่นอย่างถอนหายใจ ทอดถอนใจความโชคดีของผู้หญิงคนนี้ ที่สามารถเอานักร้องชายที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปีจนอยู่หมัด
“ร่างกายของภรรยาผมไม่ดี ที่ผ่านมาชอบเป็นลมหมดสติอยู่เรื่อย เพราะฉะนั้นพวกเราอยู่นานไม่ได้ ต้องขอโทษด้วยครับ”หยูหลันลูบศีรษะของ เซี่ยชีหรั่นแล้วพูด
เซี่ยชีหรั่นมองหน้าหยูหลันด้วยความแปลกใจ เธอเป็นโรคชอบเป็นลมหมดสติ? ทำไมตัวเธอถึงไม่รู้เลย? สมองยิ่งอยู่ยิ่งหนัก เซี่ยชีหรั่นนึกถึงตอนที่ตัวเองดื่มน้ำอยู่และสีหน้าที่ยิ้มอย่างลึกซึ้งของหยูหลัน จู่ๆเธอค่อยๆหลับไปในท่ามกลางเสียงร้องตกใจของรอบๆ
ในห้องผู้ป่วย หยูหลันมองเย่เชินหลินด้วยสีหน้าย่ำแย่:“หยุนโชว์ล่ะ?”
เย่เชินหลินมองเซี่ยชีหรั่นที่หลับสนิท แววตาเย็นชาและพูดว่า: “ดูท่านายยังไม่ได้รับการตักเตือนของฉันสินะ”
“นั่นมันแค่ยานอนหลับ ฉันแค่ให้เธอหลับงีบนึง ก่อนหน้านี้ก็คุยกันแล้วไม่ใช่เหรอว่ามาเจอหน้ากันที่โรงพยาบาล? รีบบอกฉันมสเร็วๆว่าหยุนโชว์อยู่ที่ไหน”หยูหลันค่อนข้างหงุดหงิดโมโห แต่ก็ทำอะไรเย่เชินหลินไม่ได้
เซี่ยชีหรั่นหลับสะลึมสะลือ และส่งเสียงละเมอที่ติดๆขัดๆ เย่เชินหลินยิ้มอย่างเอ็นดู มองหยูหลันที่ยังอยู่ที่นี่แล้วยิ่งรู้สึกขวางหูขวางตาเข้าไปใหญ่
“อยู่บนดาดฟ้า”เพิ่งพูดจบ เงาที่อยู่หน้าประตูก็ได้สูญหายไปแล้ว
บนดาดฟ้า หยุนโชว์ที่ใส่เสื้อสีขาวพยายามชะโงกออกไปนอกดาดฟ้า ช่วงบนของเธอได้ชะโงกออกไปแล้ว ตึกสูงยี่สิบกว่าชั้น มองลงไปด้านล่างรถที่สัญจรไปมาก็เหมือนมดเคลื่อนที่
“หยุนโชว์ นี่คุณบ้าไปแล้วเหรอ!”หยูหลันวิ่งไปกอดหยุนโชว์ไว้อย่างเร็ว และไม่ยอมคลายมือออกอีก
มือที่หยุนโชว์ยื่นไปด้านหน้ายังแกว่งอยู่กลางอากาศ เธออยากขัดขืน แต่กลับถูกผู้ชายกอดแน่นขึ้น: “ผมไม่มีทางแต่งงานหรอก ทั้งหมดนั้นล้วนเป็นแผนการที่ผมตกลงกับเย่เชินหลิน จัดการผู้หญิงคนนั้นเสร็จ คุณก็สามารถใช้ชีวิตอย่างเปิดเผยอยู่ใต้แสงอาทิตย์แล้ว”
หยูหลันพูดเซ้าซี้ หยุนโชว์พูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย: “ปล่อยมือค่ะ”
หยูหลันถูกท่าทีที่เย็นชาของหยุนโชว์กระตุ้นจนค่อนข้างลังเล สุดท้ายได้ปล่อยมือเธอ หยุนโชว์ได้เดินไปที่ระเบียงอีก หยูหลันดึงหยุนโชว์ไว้อย่างกระหืดกระหอบ พร้อมตวาดเสียงดัง: “ผมรักคุณ ผมรักคุณ ผมรักคุณ! ถ้าคุณไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อจริงๆ ถึงผมจับมัด ก็จะให้คุณอยู่ข้างกายผมให้ได้”
หยุนโชว์มองหยูหลันอย่างอึ้ง สักพักถึงพูดด้วยเสียงตึงเครียด: “สร้อยข้อมือของฉันถูกพัดออกไปด้านนอกค่ะ”
“ห๊ะ?” ยากที่จะเห็นหยูหลันมีสีหน้าอึดอัดขึ้นมา เขาหันไปมองที่ๆหยุนโชว์ชี้เอาไว้ มีสร้อยข้อมือรูปทรงดอกไม้ถูกแขวนอยู่บนไม้แขวนเสื้อจริงๆด้วย
“พู”จู่ๆหยุนโชว์ที่สีหน้าเรียบเฉยมาโดยตลอดได้หัวเราะออกมา แล้วมองหน้าหยูหลัน
หยูหลันพึมพำอย่างค่อนข้างเร่งรีบ: “คุณหัวเราะอะไร”ระหว่างเธอและเขาได้จมเข้าไปในความเงียบอีก หยูหลันค่อนข้างโทษตัวเองที่น้ำเสียงดุเกินไป ผ่านไปสักพักเขาถึงถามว่า: “วันนี้คุณได้ดูโทรทัศน์หรือยังครับ”
ผ่านไปครึ่งค่อนวัน เสียงเบาๆดังอยู่กลางอากาศ นำพามาซึ่งความอบอุ่นของสายลมฤดูใบไม้ผลิและสายฝน: “อืม”
เซี่ยชีหรั่นสึกได้ว่ามีลมหายใจอ่อนๆพ่นอยู่ที่แก้มตัวเอง เธอลืมตาขึ้นอย่างคันยุบยิบ แล้วสบตากับสายตาจดจ่อของเย่เชินหลิน
“คุณ…คุณทำอะไรคะ?” เซี่ยชีหรั่นพูดอ้ำอึ้ง
“มีหลายครั้งที่คุณนอนอยู่ข้างกายผมแบบนี้ หายใจยาวๆ แต่มีบางครั้งที่ผมจะคิดว่า ถ้าวันนึงคุณอยู่ที่นี่แล้วไม่ฟื้นขึ้นมาอีก ตอนนั้นผมควรจะทำยังไง” เย่เชินหลินจ้องตาของเซี่ยชีหรั่นไว้แล้วพูดอย่างช้าๆ
น้ำเสียงของเย่เชินหลินราบเรียบ เซี่ยชีหรั่นรู้สึกได้ว่าอีกฝ่ายไม่สบายใจ เธอค่อยๆยื่นมือกอดไหล่ของผู้ชายไว้: “ถ้ามีวันนั้นจริงๆเหรอคะ ฉันก็จะบอกกับคุณว่าฉันจะหลับยาวๆงีบนึง คุณไม่ต้องรอฉันแล้วค่ะ”
เย่เชินหลินรับรู้ถึงอุณภูมิและแววตาอ่อนโยนสุดๆของเซี่ยชีหรั่น
“โครกคราก” เซี่ยชีหรั่นถอยหลังและกุมท้องไว้ด้วยความเก้อเขิน
“เขาไม่ให้คุณกินข้าวเลยเหรอ?” เย่เชินหลินขมวดคิ้วถาม
เซี่ยชีหรั่นผายมือพร้อมพูดว่า: “ก็ฉันเพิ่งคลอดชูฉิง กลัวว่าจะใส่ชุดเจ้าสาวไม่ได้ไม่ใช่เหรอคะ? วันนี้ก็เลยไม่ได้กินข้าวเที่ยงค่ะ”
บนหน้าผากเจ็บจี๊ดที่ถูกดีด เย่เชินหลินขยี้หน้าผากของเซี่ยชีหรั่นด้วยสีหน้าเรียบเฉยและตักเตือนอย่างไร้เสียง เซี่ยชีหรั่นพูดอย่างน่าสงสารว่า: “ตอนนี้พวกเราไม่สามารถออกไปทานข้าวด้วยกันใช่มั้ยคะ”
เย่เชินหลินเงียบกริบ อยู่ในยามคับขันแบบนี้ไม่ควรสนิทชิดเชื้อกับเซี่ยชีหรั่นเกินไปจริงๆ ผู้หญิงคนนั้นเหมือนคนบ้า ถ้าเกิดเธอเบี่ยงเบนความสนใจมาที่เซี่ยชีหรั่น เขาไม่กล้าคิดเลย
เซี่ยชีหรั่นโดดลงมาจากเตียงตั้งนานแล้ว เธอแอบเปิดประตูมองดูผู้คนที่ไปมา สักพักถึงเรียกเด็กผู้หญิงที่เรียนมัธยมปลายมาได้คนนึง: “น้องยอมเปลี่ยนเสื้อผ้ากับพี่มั้ย?”
เซี่ยชีหรั่นถามเด็กมัธยมปลายที่รวบหางม้าด้วยรอยยิ้ม เด็กมัธยมปลายใส่ชุดนักเรียนไว้ กระโปรงจีบดูแล้วน่ารักเรียบร้อยมาก: “พี่สาวคนสวยแน่ใจเหรอคะ?” เด็กผู้หญิงมองดูชุดที่สวยงามแล้วค่อนข้างหวั่นไหว

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset