สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 1314 หญิงรับใช้ของคุณชายเย่ 1214

ชายหนุ่มมองเซี่ยชีหรั่นด้วยความประหลาดใจ สีหน้าเริ่มจริงจังขึ้นเล็กน้อย เซี่ยชีหรั่นมองหลุ่ยลี่ที่แกล้งทำเป็นหกล้มลงบนพื้นมาทางตัวเอง ส่งสายตาและเอ่ยปากเร่งอย่างหมดคำพูด
“อย่างนั้น….ครั้งหน้าจะไม่ทำผิดอีกแล้วหรือ” เซี่ยชีหรั่นครุ่นคิดแล้วก็เอ่ยพูดกับหลุ่ยลี่ด้วยท่าทีเข้มงวด
หลุ่ยลี่ยิ้มขำแล้วลุกขึ้นจากพื้น หมดคำพูดต่อการตักเตือนอย่างนุ่มนวลของเซี่ยชีหรั่น แต่ก็ยังพยายามแสดงต่ออย่างสุดความสามารถ “ใช่ๆๆ ครั้งหน้าผมจะไม่ทำพลาดอีกแล้ว”
“คุณอยากจะรู้อะไร” ชายหนุ่มสีหน้าเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย เอ่ยถามออกมาในที่สุด
“เรื่องของบริษัทเย่ซื่อ คนที่ชักใยอยู่เบื้องหลังคือคุณใช่หรือไม่” เซี่ยชีหรั่นเอ่ยความในใจที่ตัวเองอยากจะรู้ออกมาทั้งหมด
ชายหนุ่มส่ายหน้าขบขัน เมื่อเห็นเซี่ยชีหรั่นถามเรื่องนี้ ร่างกายจึงผ่อนคลายลง พร้อมกับเอ่ยว่า “ผมเป็นเพียงแค่ช่องทางหนึ่งที่ไม่สะดุดตาท่ามกลางช่องทางมากมายของพวกเขา มีหน้าที่รับผิดชอบนำเงินของบริษัทเย่ซื่อมาส่งถึงธนาคารแห่งนี้เท่านั้น”
“ทำไมถึงเลือกแอฟริกากัน” นี่ก็เป็นจุดที่เซี่ยชีหรั่นไม่เข้าใจจนถึงตอนนี้
ชายหนุ่มลุกขึ้นยืน มองเซี่ยชีหรั่นแล้วยักไหล่ “ใครจะไปรู้ล่ะ ถ้าหากว่าคุณต้องการหาคนที่อยู่เบื้องหลัง คุณสามารถไปหาข่าหนูได้”
ชายหนุ่มเดินผ่านเซี่ยชีหรั่นไปข้างนอก แต่ก็ชะงักแล้วหมุนตัวกลับมาเอ่ยกับเซี่ยชีหรั่นว่า “ข่าหนูไม่มีการแบ่งแยกชายหญิง ผมไม่กล้ารับประกันว่าเขาจะไม่ลงมือกับผู้หญิง”
เซี่ยชีหรั่นเก็บปืน หลุ่ยลี่ปีนเข้ามาทางหน้าต่าง มองเซี่ยชีหรั่นและเอ่ยขึ้นว่า “จะปล่อยเขาไปทั้งแบบนี้หรือ”
เซี่ยชีหรั่นถามด้วยความประหลาดใจว่า “ไม่อย่างนั้นล่ะ?”
“บีบบังคับให้สารภาพออกมาอย่างโหดเหี้ยม ชกเขาจนให้เขาบอกเรื่องทั้งหมดที่รู้ออกมา” หลุ่ยลี่มองไปทางเซี่ยชีหรั่น เอ่ยออกมาอย่างจริงจัง เซี่ยชีหรั่นยื่นมือออกไปดีดหน้าผากฝ่ายตรงข้ามครั้งหนึ่ง
หลุ่ยลี่ตะลึงค้าง ร่างกายแข็งทื่อ เซี่ยชีหรั่นพูดอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “นักศึกษามหาวิทยาลัยก็ควรจะเรียนรู้มุมมองเกี่ยวกับเกียรติยศและความอับอายให้ดี อย่ามัวแต่คิดเรื่องไร้สาระอะไรอยู่!”
ร่างกายหลุ่ยลี่ผ่อนคลายลง สบถออกมาคำหนึ่งแล้วหันหน้าหนี
“ว้าว คิดไม่ถึงเลยว่าคุณจะเป็นเศรษฐีด้วย!” หลุ่ยลี่มองเซี่ยชีหรั่นที่หยิบบัตร VIP ออกมารูดในโรงแรม เซี่ยชีหรั่นมองหลุ่ยลี่อย่างไม่สบอารมณ์ “ขยันเรียน หลังจากนี้มีงานดีๆให้ทำแล้วก็จะมีบัตร VIP”
“ชิ ทำงานหาเงินทั้งชีวิตก็ตามเหล่าคนมีเงินอย่างพวกคุณไม่ทันหรอก” หลุ่ยลี่เบะปาก คนผิวดำที่ดื่มเหล้าเมา เดินโซเซเข้ามาชนหลุ่ยลี่เข้าเต็มเปา
หลุ่ยลี่ถูกชนจนถอยหลังไปหลายก้าว เซี่ยชีหรั่นเป็นห่วงว่าคนผิวดำจะมาหาเรื่อง จึงรีบยืนขวางอยู่ด้านหน้าหลุ่ยลี่ คนผิวดำที่เมาอยู่เห็นเซี่ยชีหรั่นแล้วตาก็เบิกโต มองเซี่ยชีหรั่นราวกับว่ามองเห็นผีอย่างไรอย่างนั้น
“ขอโทษด้วยครับ ขอโทษจริงๆ” คนผิวดำโซเซโค้งตัว หลังจากนั้นก็วิ่งออกไปด้านนอกโรงแรม เซี่ยชีหรั่นหันหน้ามาถามหลุ่ยลี่ “คนผิวดำคนนี้เป็นอะไรไปหรือ ถึงได้มีมารยาทขนาดนั้น”
หลุ่ยลี่เอ่ยเรียบๆว่า “อาจจะเมาเลอะเลือนจนเห็นผมเป็นคนใหญ่คนโตคนไหนสักคน”
ทรงผมถูกเซี่ยชีหรั่นขยี้จนยุ่งเหยิง เซี่ยชีหรั่นเอ่ยอย่างขบขัน “นายในสภาพแบบนี้ ก็เป็นเด็กดีเชื่อฟังต่อไปเถอะ”
หลุ่ยลี่สบถแล้วปัดมือเซี่ยชีหรั่นออก ช่วยเซี่ยชีหรั่นยกกระเป๋าไปไว้ในห้อง ภายในห้อง อากาศถ่ายเทดีมาก เซี่ยชีหรั่นพลิกตัว คิดจะหยิบปลอกผ้าห่มที่อยู่ด้านข้างขึ้นมาด้วยท่าทางงัวเงีย
แต่คลำอยู่นานก็คลำไม่ถูก เซี่ยชีหรั่นจึงงึมงำออกมาประโยคหนึ่งแล้วขดตัวนอนต่อไป ผ้าห่มผืนหนึ่งถูกคลุมบนร่างเซี่ยชีหรั่น
เย่เชินหลินมองเซี่ยชีหรั่นเงียบๆ ใบหน้ารูปไข่ของเซี่ยชีหรั่นตากแดดจนคล้ำเล็กน้อย เส้นผมยาวที่มันเป็นเงาแต่เดิมถูกตัดจนสั้นกุด ตอนนี้กำลังแผ่กระจายไปรอบๆ
ปากเล็กได้รูปของเซี่ยชีหรั่นอ้าเล็กน้อย ทั้งยังสามารถมองเห็นลิ้นสีชมพูที่อยู่ภายในปากได้อีกด้วย เย่เชินหลินโค้งตัวลงไปจุมพิตหน้าผากเซี่ยชีหรั่นที่เย็นเล็กน้อยอย่างแผ่วเบา “ราตรีสวัสดิ์”
“ปังๆๆ!” เซี่ยชีหรั่นสะดุ้งลุกขึ้นมาจนผ้าห่มพันไปรอบตัว เสียงเคาะประตูดังหนวกหู เซี่ยชีหรั่นขมวดคิ้วไปเปิดประตู มองหลุ่ยลี่ “ขอเหตุผลที่คุณเป็นบ้ากลางดึกให้ฉันสักข้อหนึ่ง”
หลุ่ยลี่ม้วนตัวเข้าไปในห้องเซี่ยชีหรั่น มองไปรอบ เอ่ยด้วยท่าทางจริงจังว่า “ผมสงสัยว่าคุณจะซ่อนผู้ชายเอาไว้!”
เซี่ยชีหรั่นถกแขนเสื้อ มองเตือนไปทาง หลุ่ยลี่ยืนอยู่ริมหน้าต่าง สายตามองไปทางบานหน้าต่างที่เปิดอยู่อย่างมีนัยยะเล็กน้อย ทำหน้าตาทะเล้น มองไปทางเซี่ยชีหรั่น พร้อมกับเอ่ยว่า “เมื่อครู่นี้คล้ายกับว่าผมจะเห็นว่ามีคนเข้ามาในห้องของคุณ”
เซี่ยชีหรั่นมองไปรอบๆ ขนลุกไปทั่วร่าง เอ่ยเตือนว่า “ฉันไม่กลัวสิ่งเหล่านั้นหรอกนะ คุณขู่ฉันก็ไม่มีประโยชน์!”
หลุ่ยลี่ยักไหล่ “โอเค ไม่ขู่คุณแล้ว ผมไปนอนต่อล่ะ”
หลังจากหลุ่ยลี่ออกไปแล้ว เซี่ยชีหรั่นก็นอนพลิกซ้ายพลิกขวา ทำอย่างไรก็นอนไม่หลับ เท้าที่ยืดออกไปเตะกระเป๋าลงไปอยู่ใต้เตียง แผ่นซีดีหล่นออกมาจากกระเป๋า
เซี่ยชีหรั่นลุกขึ้น หยิบแผ่นซีดีออกมาวางใส่เครื่องเล่น DVD ภาพเบื้องหน้าเริ่มต้นอย่างเลือนรางจนกระทั่งชัดเจนขึ้น “ดื่มนมที่อยู่บนโต๊ะก่อน” เสียงจริงจังของเย่เชินหลินดังขึ้น
เซี่ยชีหรั่นพึมพำว่า “ที่นี่ไม่มีนม คนโหลยโท่ย!”
ภาพเบื้องหน้าหยุดนิ่งกะทันหัน เซี่ยชีหรั่นก้าวขึ้นไปตบโทรทัศน์ โทรทัศน์กระพริบสั่นเล็กน้อย จนกระทั่งหยุดนิ่งอยู่ที่ภาพเย่เชินหลินกำลังพูดอยู่ ไม่ว่าทำอย่างไรก็ไม่ขยับอีก
เซี่ยชีหรั่นขยายภาพฉากหลังตอนที่เย่เชินหลินกำลังพูด สิ่งก่อสร้างที่เป็นฉากด้านหลังถูกขยายใหญ่ขึ้น คนแอฟริกาคนหนึ่งกำลังพูดอะไรอยู่ด้านข้าง มีกังหันลมขนาดใหญ่ ข้างกังหันลมมีก้อนหินที่ถูกจัดวางเป็นสัญลักษณ์โทเทม
เย่เชินหลินจะไปสถานที่แห่งนี้รึเปล่านะ เซี่ยชีหรั่นจ้องมองภาพ ในใจก็มีความหวังขึ้นมา เซี่ยชีหรั่นลากหลุ่ยลี่ออกมาจากผ้าห่มตั้งแต่เช้าตรู่
“มีคนเคยบอกคุณหรือไม่ว่า ถ้านอนไม่พอจะตัวไม่สูง” หลุ่ยลี่อ้าปากหาวมองเซี่ยชีหรั่นอยู่อีกด้านหนึ่ง
เซี่ยชีหรั่นมองหลุ่ยลี่ที่สูงเกือบจะถึง 190 เซนติเมตรแล้วก็เอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “คุณสูงกว่ามาตรฐานความสูงของคนทั่วไปแล้ว สามารถหยุดโตได้แล้ว วันนี้พวกเราจะไปหาสถานที่แห่งหนึ่งกัน”
“ไปที่ไหนหรือ!” หลุ่ยลี่สดชื่นขึ้นมา วิ่งไปข้างกายเซี่ยชีหรั่น มองเซี่ยชีหรั่นด้วยสายตาวิบวับ
เซี่ยชีหรั่นส่งรูปที่ปริ้นท์ออกมาในมือให้หลุ่ยลี่ กังหันลมและภาพโทเทมที่น่าประหลาด หลุ่ยลี่ที่หันหลังให้กับตัวเองอยู่นานไม่พูดอะไร ก้มหน้าคล้ายกับว่ากำลังคิดอะไรอยู่
เซี่ยชีหรั่นตบไหล่หลุ่ยลี่ ถามด้วยความประหลาดใจว่า “คุณเป็นอะไรไปหรือ ทำไมจู่ๆถึงได้มีท่าทีจริงจังขนาดนั้น”
หลุ่ยลี่เงยหน้าขึ้นมามองเซี่ยชีหรั่นแวบหนึ่ง แววตามีความจริงจังที่ไม่สมกับอายุ จนถึงขั้นเย็นชาเล็กน้อย เซี่ยชีหรั่นถอยไปก้าวหนึ่ง
หลุ่ยลี่ก้าวเข้ามาใกล้อย่างช้าๆ รักษาความจริงจังบนใบหน้าเอาไว้ขณะเอ่ยพูด “เป็นอย่างไรบ้าง แบบนี้เท่ห์ไหม!”
เซี่ยชีหรั่นพิจารณามองหลุ่ยลี่ มองฝ่ายตรงข้ามที่ทำหน้าทะเล้นแล้วก็อดทุบไปหมัดหนึ่งอย่างอดไม่อยู่ “คุณทำให้ฉันตกใจแทบตาย”
“อ้างอิงจากเครื่องแต่งกายที่คนแอฟริกาคนนี้สวมอยู่ น่าจะอยู่แถบตะวันออก เพราะว่าคนแถบตะวันออกค่อนข้างชื่นชอบสวมเครื่องประดับที่ทำจากหัวกะโหลก” หลุ่ยลี่พูดกับเซี่ยชีหรั่น
ทั้งสองคนนั่งรถไปถึงตลาดแถบตะวันออก มองผู้คนผิวดำและสิ่งก่อสร้างแล้ว หลุ่ยลี่ก็ตะโกนอย่างเศร้าๆออกมาว่า “คนเยอะขนาดนี้จะหาอย่างไรดี ไม่ได้การ ผมต้องหลบไปดื่มสักแก้วในผับแล้ว”
เซี่ยชีหรั่นมองหลุ่ยลี่ที่พิงโต๊ะของผับข้างๆแล้วก็เอ่ยถามเพื่อยืนยันว่า “จะไม่ไปกับฉันจริงๆหรือ”
หลุ่ยลี่แผ่ลงบนโต๊ะเหมือนกับปลาที่ตายแล้วตัวหนึ่ง มองเซี่ยชีหรั่นด้วยท่าทางน่าสงสาร “การออกไปข้างนอกตอนกลางวันที่แอฟริกาจะถูกแดดเผาตายนะ”
หลุ่ยลี่ไม่ยอมขยับ เซี่ยชีหรั่นจึงเดินสุ่มไปบนถนนเส้นหนึ่งเพียงลำพังอย่างจนปัญญา ด้านข้างมีท่าเรือหนึ่งพอดี คนผิวดำมากมาย บางคนก็มองเซี่ยชีหรั่นด้วยความอยากรู้อยากเห็น บางคนก็ทำธุระของตัวเองอย่างไม่ใส่ใจ
“สวัสดีค่ะ ขอถามหน่อยนะคะ คุณเคยไปที่แห่งนี้ไหมคะ” เซี่ยชีหรั่นหยิบรูปภาพออกมาแล้วมองหาคนผิวดำคนหนึ่งเพื่อถาม
คนผิวดำมองเซี่ยชีหรั่นอย่างเฉยชา เมินใส่เซี่ยชีหรั่นโดยการเดินไปอีกด้าน คนผิวดำอีกคนขยับเข้ามาใกล้ มองเซี่ยชีหรั่น พลางเอ่ยว่า “คุณหาสถานที่แห่งนี้หรือ”
เซี่ยชีหรั่นพยักหน้า เอ่ยว่า “คุณรู้จักหรือคะ” ชายหนุ่มพยักหน้า เอ่ยกับเซี่ยชีหรั่นว่า “ไปเถอะ ผมจะพาคุณไป”
เซี่ยชีหรั่นเดินตามชายผิวดำคนนี้ไป จนถึงท่าเรือแล้วก็ยังไม่เห็น รอบด้านเริ่มรกร้างขึ้นมา มีเพียงแค่บ้านเก่าผุพัง หลังแล้วหลังเล่าที่ตั้งอยู่ รอบด้านยังมีคนผิวดำที่สวมเสื้อผ้าเก่าๆขาดๆมองมาทางเซี่ยชีหรั่น
เซี่ยชีหรั่นที่ถูกสายตาจ้องมองด้วยความไม่ประสงค์ดีก็หยุดเดิน “ฉันไม่ไปแล้ว ฉันจะกลับแล้ว”
ข้อมือถูกคนคว้าเอาไว้ เซี่ยชีหรั่นถอยหลังไปก้าวหนึ่ง หยิบปืนเล็งไปทางชายหนุ่ม “อย่าขยับ”
ชายหนุ่มโบกมือแล้วถอยหลัง ปลอบเซี่ยชีหรั่นว่า “อย่าผลีผลาม”
เซี่ยชีหรั่นถือปืนเอาไว้แล้วเดินถอยหลัง แผ่นหลังถูกคนชนเข้าอย่างแรง เซี่ยชีหรั่นเอนไปด้านหน้า ปืนที่อยู่ในมือถูกคนแย่งไปแล้ว เซี่ยชีหรั่นมองคนที่เข้ามาแย่งปืนในมือตัวเองอย่างระแวดระวัง
ผู้คนในชุมชนแอดอัดรอบด้านล้วนไม่ต้องการก่อเรื่อง จึงพากันมุดเข้าบ้านผุผังโกโรโกโสไปทั้งหมด เซี่ยชีหรั่นก้าวถอยหลังอย่างสิ้นหวังเล็กน้อย แขนข้างหนึ่งเหวี่ยงเซี่ยชีหรั่นไปอีกด้าน ร่างดำทะมึนยืนอยู่ด้านหน้าเซี่ยชีหรั่น
“ไสหัวไป” คนผิวดำเอ่ยกับคนผิวดำอีกสองคนด้วยน้ำเสียงเยียบเย็น
ชายผิวดำสองคนนั้นสบตากันแล้วพุ่งเข้าไปหาชายหนุ่ม ชั่วพริบตาเดียวก็ตะลุมบอนกัน ชายคนนั้นถูกชกเข้าที่กลางลำตัว อย่างแรงหมัดหนึ่ง ปืนถูกโยนไปอีกด้าน เซี่ยชีหรั่นวิ่งไปเก็บปืนขึ้นมา
“ปัง!” เสียงปืนดังขึ้นในชุมชนแออัด เซี่ยชีหรั่นเล็งปืนไปที่ชายสองคนนั้น “ปล่อยเขาซะ”
ชายเหล่านั้นชูมือแล้วยืนขึ้น เตะชายคนนั้นไปครั้งหนึ่ง ยักไหล่แล้วจากไปอย่างไม่ยินยอมพร้อมใจ เซี่ยชีหรั่นประคองชายหนุ่มให้ลุกขึ้น “ไม่เป็นอะไรนะคะ”
ชายหนุ่มผลักเซี่ยชีหรั่นออก เช็ดเลือดที่มุมปากแล้วเดินเข้าไปในบ้านที่ผุผังมากที่สุดหลังหนึ่งด้านข้าง เซี่ยชีหรั่นยืนอยู่หน้าประตู หยิบธนบัตรออกมาปึกหนึ่ง สิ่งที่เธอทำได้ก็มีเพียงเท่านี้
ชายหนุ่มพุ่งออกมากะทันหัน ในอ้อมแขนอุ้มเด็กหญิงผิวดำคนหนึ่งเอาไว้
“เกิดอะไรขึ้นคะ” เซี่ยชีหรั่นขวางชายหนุ่มเอาไว้ พร้อมกับเอ่ยถาม ชายหนุ่มอุ้มเด็กน้อยวิ่งไปด้านนอก เซี่ยชีหรั่นวิ่งตามหลังชายหนุ่มไปตลอดทางจนถึงคลินิกแห่งหนึ่ง
ชายหนุ่มชี้ไปที่เด็กหญิงพูดโวยวายเสียงดัง ดูเหมือนจะพูดว่าเด็กหญิงกินอะไรบางสิ่งแล้วไปติดอยู่ในลำคอ คุณหมอชาวผิวขาวตรวจดูเด็กหญิงแล้ว ก็เอ่ยจำนวนเงินออกมา “10 ดอลลาร์สหรัฐฯ”
ชายหนุ่มขมวดคิ้ว ธนบัตรปึกหนึ่งถูกยื่นออกมาจากด้านข้าง เซี่ยชีหรั่นเอ่ยว่า “ใช้ของฉันเถอะค่ะ”
คุณหมอมองเซี่ยชีหรั่นอย่างประหลาดใจ ตรวจให้เด็กหญิงครู่หนึ่งแล้วก็ส่ายศีรษะ “สายไปแล้ว!”
ดวงตาชายหนุ่มเอ่อคลอไปด้วยน้ำตา มองใบหน้าขาวเทาของเด็กหญิงแล้ว เซี่ยชีหรั่นก็ขยับเข้าไป ฟังเสียงหัวใจที่เต้นอย่างอ่อนแรงของเด็กน้อย อุ้มเด็กขึ้นมา ใช้แขนทั้งสองคนกอดรอบทรวงอกเด็กเอาไว้แล้วกดปั๊มลงไปไม่หยุด

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset