สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 1316 หญิงรับใช้ของคุณชายเย่ 1216

เซี่ยชีหรั่นคิดจะก้าวเข้าไป แต่Bakerดึงเธอเอาไว้ พร้อมกับส่ายหน้า รถคันหนึ่งขับมาจากที่ไกลๆ ชายที่สวมชุดป้องกันโยนของในมือทิ้งเอาไว้แล้วคิดจะจากไป
ชายผิวดำที่ทั่วร่างเต็มไปด้วยรอยสักเข้าไปแย่งชุดป้องกันที่อยู่ในมือชายหนุ่ม สวมให้กับเด็กหญิงตัวน้อย ผู้คนจำนวนมากขึ้นล้อมอยู่ข้างกายชายชุดขาว
“ส่งเด็กผู้หญิงออกไป ไม่อย่างนั้นเสื้อผ้าของคุณจะถูกดึงทึ้งจนเกลี้ยง ผมว่าร่างกายที่ผอมแห้งของคุณ คงจะติดเชื้อในไม่กี่วันแน่!” ชายที่มีรอยสักเอ่ยอย่างดุร้ายใส่ชายหนุ่ม
ชายหนุ่มมองไปที่เด็กหญิงด้วยความลังเล หน้ากากป้องกันบนศีรษะถูกคนดึงออกไปทันที “ผมรู้แล้วๆ! ผมจะพาเธอไป!”
เซี่ยชีหรั่นรู้ว่าหลายคนนี้ไม่ใช่คนเลว จึงพูดความจริงออกไป “ฉันมาหาข่าหนูค่ะ”
Bakerที่อยากจะห้ามก็ไม่ทันแล้ว ชายหนุ่มเลิกคิ้ว จู่ๆก็หัวเราะออกมา “ได้สิ ผมจะพาพวกคุณไปพบเขา!”
เซี่ยชีหรั่นและBakerถูกมัดเงื่อนอย่างแน่นหนาและนำตัวไปสถานที่แห่งหนึ่ง เซี่ยชีหรั่นมองผู้เฒ่าถือไม้เท้าคนหนึ่งเดินผ่านด้านหน้าตัวเองไปอย่างอึ้งๆ
“คุณย่า ผมบอกแล้วว่าอย่าเดินไปเดินมาในตรงที่ต้อนรับส่วนหน้า หกล้มไปจะทำอย่างไรครับ!” ชายหนุ่มที่มีรอยสักวิ่งเข้าไปประคองผู้เฒ่าไปอีกด้าน จากนั้นค่อยมาพาเซี่ยชีหรั่นและBakerเข้าไปในพื้นที่ด้านในต่อไป
ภายในบ้านหลังหนึ่ง เมื่อชายต่างชาติวัยกลางคนที่สวมเสื้อคอจีนเห็นเซี่ยชีหรั่นแล้วก็เลิกคิ้ว ถามว่า “มาทำอะไรที่นี่หรือ”
เซี่ยชีหรั่นพิจารณาดูบ้านที่มีกลิ่นอายโบราณด้วยความประหลาดใจ ยังมีชายต่างชาติที่สวมชุดสไตล์จีนอีก “ฉันรู้สึกว่าคุณไม่ใช่คนเลว”
“หืม? ทำไมล่ะ” ชายต่างชาติมองเซี่ยชีหรั่นอย่างขบขัน
เซี่ยชีหรั่นเอ่ยว่า “ฉันเห็นว่าพวกคุณเพิ่งจะช่วยชีวิตเด็กผู้หญิงคนหนึ่งเอาไว้ สามารถทำแบบนี้ได้นั้นน่าจะไม่ใช่คนเลว”
“ฮ่าๆๆ” ชายหนุ่มหัวเราะเป็นบ้าเป็นหลัง เมื่อโบกมือ ก็มีคนคนหนึ่งถูกนำตัวเข้ามา เซี่ยชีหรั่นตาเบิกโต “หลุ่ยลี่!”
หลุ่ยลี่ที่ถูกชกต่อยเสียจนหน้าบวมปูดเห็นเซี่ยชีหรั่นแล้ว ก็เอ่ยอย่างยากลำบากว่า “พวกเขาให้ผมบอกเบาะแสของเย่เชินหลิน”
“ถ้าหากคุณรู้สึกว่าผมไม่ใช่คนเลวล่ะก็ ผมสามารถใช้การกระทำมาอธิบายคุณได้นะ” ชายหนุ่มหยิบมีดแทงไปทางหลุ่ยลี่ที่นอนแผ่อยู่บนพื้น
หลุ่ยลี่กุมฝ่ามือกรีดร้องอย่างน่าเวทนา ปลายมีดแหลมคมด้ามหนึ่งทะลุกลางฝ่ามือไปปักกับโต๊ะ
“อย่านะ!” เซี่ยชีหรั่นกรีดร้องตกใจ Bakerมีสีหน้าเรียบเฉย ยื่นมือออกไปปิดตาเซี่ยชีหรั่นเอาไว้ เพื่อบดบังเลือดที่นองที่เต็ม
“ไม่ต้องมอง”
“ลากออกไป” ชายหนุ่มเอ่ยยิ้มๆ เซี่ยชีหรั่นปัดมือBakerออกแล้วพุ่งไปข้างกายหลุ่ยลี่ทันที คนที่กำลังควบคุมตัวถูกท่าทางเกรี้ยวกราดของเซี่ยชีหรั่นทำให้สะดุ้งตกใจ!
ชายสวมเสื้อคอจีนโบกมือให้คนที่จับหลุ่ยลี่เอาไว้ถอยออกไป มองไปที่เซี่ยชีหรั่นอย่างให้ความสนใจ
เหงื่อเม็ดโตผุดขึ้นบนหน้าผากหลุ่ยลี่ เซี่ยชีหรั่นรีบหยิบยาหยุดเลือดต่างๆออกมาจากออกมาจากกล่องยา เพื่อช่วยห้ามเลือดให้หลุ่ยลี่
“ฮ่าๆๆ คุณทำแบบนี้ไปก็ไม่มีประโยชน์” ชายหนุ่มหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง พยักหน้า มีคนเดินเข้ามา คิดจะลากเซี่ยชีหรั่นออกไป
การกระทำหยาบคายที่คาดการณ์เอาไว้ไม่ได้ปรากฏขึ้น เซี่ยชีหรั่นเงยหน้าขึ้น Bakerขวางอยู่ข้างหน้าตัวเอง มองไปที่คนอื่นด้วยท่าทีเย็นชา “ให้เธอได้ทำในสิ่งที่เธอต้องการ”
บรรยากาศตึงเครียด เซี่ยชีหรั่นรีบนำผงยาโรยไปบนหลังมือหลุ่ยลี่ เมื่อเห็นเลือดที่ไหลนองแล้ว น้ำตาก็รินไหลอย่างควบคุมไม่อยู่ “ขอโทษนะ ล้วนเป็นฉันที่ไม่ดีเอง”
หลุ่ยลี่ที่สติสัมปชัญญะเลือนราง มองไปที่เซี่ยชีหรั่นแล้วส่ายหน้าเล็กน้อย หลังจากนั้นก็หมดสติไป คนสองสามคนลากหลุ่ยลี่ออกไป เซี่ยชีหรั่นมองไปทางประตูด้วยความสิ้นหวัง
“คุณพูดว่าคุณต้องการพบชายที่ชื่อเย่เชินหลินคนนั้นหรือ” ชายสวมเสื้อคอจีนเล่นสร้อยข้อมือโพธิ์ในมือ
เซี่ยชีหรั่นคิดจะปาดน้ำตา แต่พบว่ามีน้ำตามากขึ้นเรื่อยๆ แผ่นหลังกว้างบดบังสายตาที่ต้องการสืบหาความจริงและเยาะเย้ยของชายหนุ่มที่มีให้เซี่ยชีหรั่น Bakerหยิบผ้าเช็ดหน้าสีขาวออกมาจากกระเป๋ากางเกง
“เมื่อครู่กล้าหาญเสียขนาดนั้น ตอนนี้ทำไมถึงได้ร้องไห้เหมือนกับมนุษย์น้ำตาอย่างนั้นล่ะ!” Bakerตำหนิเสียงเบา แต่น้ำเสียงกลับเต็มไปด้วยความอ่อนโยน เขาไม่เข้าใจโครงสร้างสมองของผู้หญิงคนนี้จริงๆ
“ผมสามารถบอกพวกคุณได้ว่า ทำไมผมต้องซื้อหุ้นบริษัทพวกเขาที่อยู่ไกลขนาดนั้น และก็สามารถบอกถึงทิศทางที่เขาไปได้ ถึงอย่างไรเขาก็ยืนอยู่ตรงที่คุณยืนอยู่เมื่อสองวันก่อนหน้านี้” ชายหนุ่มเอ่ยยิ้มๆ
“คนเลวที่อยู่เบื้องหลังก็คือคุณนั่นเอง!” เซี่ยชีหรั่นเอ่ยออกมาอย่างเกรี้ยวกราด
ชายหนุ่มมองไปทางเซี่ยชีหรั่นนิ่งๆอย่างไม่ยอมรับและไม่ปฏิเสธ แต่Bakerกลับคิ้วขมวดเป็นปม อย่างไรก็ไม่น่าเป็นไปได้ที่จะสามารถหาตัวคนบงการสูงสุดบนห่วงโซ่นี้ได้ง่ายๆ
“จะทำอะไร” เซี่ยชีหรั่นเหลือบตาที่แดงระเรื่อมองไปที่ชายหนุ่ม
ชายหนุ่มเลิกคิ้ว “ช่วยผมส่งสินค้าลอตหนึ่ง”
“สินค้าอะไร” Bakerเอ่ยขึ้นมา
นัยน์ตาสีดำสนิทของชายต่างชาติมองไปที่Baker หลังจากนั้นก็เบนไปที่ร่างของเซี่ยชีหรั่น ริมฝีปากหนาเตอะเอ่ยทีละคำว่า “สิ่งที่คุณต้องทำมีเพียงแค่ดูแลสินค้าลอตนี้ให้ดี ตอนที่กลับมา ผมก็จะบอกเบาะแสของผู้ชายคนนั้นกับคุณเอง”
“ฉันจะเชื่อคุณได้อย่างไร” อารมณ์เซี่ยชีหรั่นกลับคืนสู่สภาพปกติ เธอครุ่นคิดแล้วเอ่ยออกมา
ชายวัยกลางคนหัวเราะฮ่าๆ หยิบนาฬิกาเรือนหนึ่งออกมา เซี่ยชีหรั่นจำได้ว่านั่นเป็นของเย่เชินหลินจริงๆ!
“คราวนี้คุณคงจะเชื่อแล้วสินะ” ชายวัยกลางคนกลับไปนั่งบนเก้าอี้ มองเซี่ยชีหรั่นด้วยท่าทีสงบนิ่ง
เซี่ยชีหรั่นยืดตัวตรง เอ่ยเสียงแข็งเย็นชาว่า “ไม่ สิ่งเหล่านี้ไม่สามารถทำให้ฉันยอมเชื่อได้”
ชายวัยกลางคนยักไหล่ “ถ้าอย่างนั้นผมก็ทำได้เพียงแค่ใช้เจ้าเด็กที่ชื่อว่าหลุ่ยลี่ เพื่อทำให้คุณเชื่อแล้วล่ะ”
Bakerเห็นความกังวลที่ปรากฏในขึ้นนัยน์ตาเซี่ยชีหรั่นเสี้ยววินาทีนั้นแล้ว ก็รู้ว่าคนที่ชื่อหลุ่ยลี่คนนั้นเป็นจุดอ่อนของเธอ จึงขมวดคิ้ว พลางเอ่ยว่า “ผมจะไปแทนเธอ ผมเป็นผู้ชาย ทำได้ดีกว่าเธอ”
“คุณตำรวจBaker คุณเก็บแรงเอาไว้ดีกว่านะ ครั้งนี้มีเพียงแค่เธอที่ต้องไป คุณสามารถเลือกได้ว่าจะเป็นแขกอยู่ที่นี่ หรือถ้ามีเวลาก็ช่วยดูแลคนแก่สักหน่อย คุณเป็นผู้ชาย ผมเชื่อว่าคุณทำได้ดีกว่านี้”
เซี่ยชีหรั่นสงบสติ มองไปที่ชายวัยกลางคน พร้อมกับเอ่ยว่า “ฉันจะไปก็ได้ แต่ว่าคุณต้องรับปากฉันว่า คุณจะรับรองความปลอดภัยของพวกเขาสองคนนี้”
Bakerเบนสายตาไปอีกด้านด้วยความกระอักกระอ่วนเล็กน้อย เขาที่เป็นผู้ชายคนหนึ่งกลับต้องให้ผู้หญิงมาปกป้อง!
ชายหนุ่มพยักหน้า เอ่ยกับเซี่ยชีหรั่นยิ้มๆว่า “ถ้าอย่างนั้นคุณก็ไปเถอะ จะมีคนพาคุณกลับไปที่ประเทศจีน ทั้งหมดล้วนมีคนคอยช่วยเหลือคุณ คุณเพียงแค่ต้องดูแลให้พวกเขากลับมาอย่างปลอดภัยก็พอ”
เซี่ยชีหรั่นหันกลับไปมองBaker กระซิบเสียงเบาว่า “ช่วยฉันดูแลเด็กผู้ชายที่ชื่อหลุ่ยลี่คนนั้นด้วยนะคะ”
Bakerคิดจะดึงเซี่ยชีหรั่นเอาไว้ แต่สุดท้ายแล้วก็ปล่อยมือลงอย่างไร้เรี่ยวแรง พร้อมกับยิ้มเจื่อนๆ “คิดไม่ถึงเลยว่าสุดท้ายแล้วจะกลายเป็นประชาชนช่วยเหลือตำรวจ”
“ดูท่าฉันจะมีความสามารถมากพอที่จะเป็นตำรวจได้นะคะ” เซี่ยชีหรั่นแสร้งทำท่าทางผ่อนคลายปลอบใจBaker
เมื่อได้กลับมายืนบนแผ่นดินของประเทศบ้านเกิดอีกครั้ง เซี่ยชีหรั่นก็นัยน์ตารื้นไปด้วยน้ำตา สถานที่อันคุ้นเคย ไม่มีใครที่มีเจตนาร้าย ไม่มีสงครามปืน
ตลอดทางไม่มีใครตามเซี่ยชีหรั่นมา แต่เซี่ยชีหรั่นรู้ว่า ชายต่างชาติคนนั้นจะต้องหาหนทางแอบตามตัวเองมาแน่นอน
“หยูหลัน ฉันอยากจะไปเยี่ยมลูกๆ ยังมีจัดการให้เรียบร้อยหน่อยนะ”
ครึ่งชั่วโมงหลังจากนั้น เซี่ยชีหรั่นก็ปรากฏตัวขึ้นในห้องพักโรงแรมหยูหลันแกว่งแก้วไวน์ที่อยู่ในมือ เส้นผมที่ยาวถึงบ่าถูกตัดจนสั้น นัยน์ตาดอกท้อที่มองมาทางเซี่ยชีหรั่น แววตาเต็มไปด้วยการหยอกล้อ
“ไปแอฟริกามารอบหนึ่ง เธอตากแดดเสียจนเหมือนชาวบ้านที่อยู่ที่นั่นเลยนะ ตอนนี้ถ้าจะให้ขายเธอ อย่างน้อยก็ต้องหักออกไปล้านหนึ่ง”
เซี่ยชีหรั่นมองเงาร่างที่ทอดยาวออกมาจากบ้านหน้าต่างขนาดใหญ่ของตัวเองอย่างพูดไม่ออก “คล้ำขึ้นแค่เล็กน้อย โอเวอร์ขนาดนั้นที่ไหนกัน”
หยุนโชว์กวาดตามองไปที่ร่างของหยูหลัน หยูหลันกระแอมไอครั้งหนึ่ง นั่งหลังตรงขึ้นมาทันที “เด็กๆอยู่ในห้อง เพียงแต่ว่าหลับไปแล้ว”
เซี่ยชีหรั่นพยักหน้า เดินย่องเข้าไปในเงียบๆ ชูฉิงที่จับแขนเสื้อเย่เนี่ยนโม่เอาไว้กำลังหลับสนิท เย่เนี่ยนโม่ที่นอนท่าทางเรียบร้อย มือประสานกันอยู่บนหน้าอกก็หลับอยู่เช่นกัน
เซี่ยชีหรั่นมองเด็กทั้งสองคนอย่างลึกซึ้ง ไข่มุกเม็ดใหญ่ร่วงหล่นลงบนแก้มของเย่เนี่ยนโม่ เย่เนี่ยนโม่ขมวดคิ้ว เซี่ยชีหรั่นรีบถอยออกไปอย่างรวดเร็ว
“มีคนจ้องมองเธออยู่รอบๆตลอดเวลา ไม่เยอะแค่สี่คน ฉันต้องไปจัดการพวกเขาไหม” หยูหลันหยิบวิทยุสื่อสารขึ้นมาพูดกับเซี่ยชีหรั่น
“ไม่…ไม่ต้องแล้ว…ฉันจะไปแล้วล่ะ” เซี่ยชีหรั่นเป็นกังวลว่าถ้าตัวเองยังไม่ไปก็จะอาลัยที่จะจากไป
หยุนโชว์เดินไปกอดเซี่ยชีหรั่นเอาไว้ “ฉันจะช่วยเธอดูแลพวกเขาเอง”
“ไม่ถูก ไม่ใช่ 4 คน แต่เป็น 9 คน” หยูหลันส่งกล้องส่องทางไกลให้เซี่ยชีหรั่น เซี่ยชีหรั่นรับมา คนหัวล้านมีพุงคนหนึ่งปรากฏขึ้นในสายตาบริเวณหัวเลี้ยว และหายลับไปอย่างรวดเร็ว
“ 5 คนนี้จงใจหลบหนี 4 คนนั้น นั่นก็หมายความว่าพวกเขาไม่ใช่พวกเดียวกัน ตอนนี้มีอย่างน้อยสองทีมที่ตามเธออยู่”
“ฉันว่าไม่ใช่แค่นั้น” หยุนโชว์เลิกผ้าม่านหนาและหนักขึ้นเล็กน้อย ขยับเป็นจังหวะเล็กน้อยใส่ตึกตรงข้าม
“ที่นั่นมีอย่างน้อยสองคนที่จับตามองเซี่ยชีหรั่น และก็พูดได้ว่าตอนนี้มีกลุ่มอิทธิพล 3 กลุ่มกำลังตามเธออยู่”
หยูหลันยักไหล่ “คุณหนูเซี่ยชีหรั่น เธอไปทำอะไรมากันแน่ ถึงได้ทำให้ผู้คนคิดถึงเธอขนาดนี้”
เซี่ยชีหรั่นส่ายหน้าด้วยความประหลาดใจ หนึ่งในนั้นเธอรู้ว่าเป็นทีมของชายต่างชาติวัยกลางคนคนนั้น อีกสองทีมที่เหลือเป็นของใครกันแน่นะ
เซี่ยชีหรั่นปล่อยผ้าม่านลง มองหยูหลันและหยุนโชว์ สองคนนี้ คนหนึ่งท่าทางเย็นชา คนหนึ่งท่าทางไม่ใส่ใจ แต่เซี่ยชีหรั่นมองเห็นความเป็นห่วงในแววตาพวกเขา
“ฉันไปก่อนนะ” เซี่ยชีหรั่นหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วเดินไปทางประตู หยุนโชว์อยากจะขวางเอาไว้ แต่หยูหลันส่ายหน้า
ภายในห้อง หยุนโชว์กับหยูหลันสบตากัน ในใจก็มีเงาร่างของคนคนหนึ่งปรากฏขึ้น หยูหลันเอ่ยยิ้มๆว่า “ผมว่าแล้ว ผู้หญิงของเขา เขาจะไม่สนใจได้อย่างไร”
“ถ้าอย่างนั้นอีกกลุ่มอิทธิพลเป็นใครกัน” หยุนโชว์ถาม หยูหลันส่ายหน้า ประตูถูกเปิดออก เงาร่างของคนคนหนึ่งพุ่งออกมา
“หม่ามี้!”
เย่เนี่ยนโม่วิ่งเท้าเปล่าออกมาจากห้อง หยุนโชว์คิดจะหยุดยั้งเอาไว้ แต่ก็ช้าไปก้าวหนึ่ง เซี่ยชีหรั่นก้มหน้าเดินไปอย่างรวดเร็ว ไม่สามารถหลบซ่อนได้ เพราะเธอรู้ว่าตอนนี้ตัวเองหนีไม่พ้นแล้ว

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset