สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 1317 หญิงรับใช้ของคุณชายเย่ 1217

“หม่ามี้ หม่ามี้ครับ!” เสียงอ่อนเยาว์ดังมาจากด้านหลัง เซี่ยชีหรั่นหยุดเท้า นัยน์ตาแสบร้อนขึ้นมา
เธอกัดฟันหลบหลังเสาที่อยู่ด้านข้าง เย่เนี่ยนโม่วิ่งเท้าเปล่าผ่านไป เซี่ยชีหรั่นมองเท้าเย่เนี่ยนโม่ที่เริ่มบวมช้ำขึ้นมาอย่างสงสาร ปิดปากไม่ให้ตัวเองร้องไห้ออกมา
ในสถานการณ์ที่ไม่รู้ว่าใครเป็นมิตรและศัตรู เธอจะไม่ยอมให้เย่เนี่ยนโม่กลายเป็นจุดอ่อนอีกอย่างหนึ่งแน่นอน
“คุณเซี่ย เชิญคุณตามพวกเรามาด้วยครับ สินค้าจัดการเรียบร้อย ตอนนี้เตรียมตัวขนขึ้นเรือได้แล้วครับ” ด้านหลังมีชายประเทศจีนคนหนึ่งมองมาทางเซี่ยชีหรั่นยิ้มๆ
เซี่ยชีหรั่นเดินตามชายหนุ่มไปถึงท่าเรือ เมื่อเห็นเรือสำราญหรูจึงเอ่ยถามว่า “ที่นี่หรือ”
ชายหนุ่มพยักหน้า จู่ๆก็มีคนร่วงลงมาจากเรือสำราญ ตกลงไปในทะเลจนก่อให้เกิดน้ำกระเซ็นตูมใหญ่
เซี่ยชีหรั่นมองไปยังคนที่ถูกคลื่นทะเลพาให้ลอยตัวสูงขึ้นและท้ายที่สุดก็หายลับไปอย่างตกตะลึง จึงเอ่ยขึ้นมาทั้งที่สติหลุดไปว่า “รีบช่วยคนเร็วเข้า!”
ชายหนุ่มยักไหล่ เอ่ยว่า “ไม่ต้องช่วยหรอก ตกลงมาจากที่สูงขนาดนั้น ถูกตีจนสลบไปนานแล้ว”
บนท่าเรือมีชายคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้น เส้นผมยุ่งเหยิงสีดำพลิ้วไปตามลม มีรอยแผลเป็นโหดเหี้ยมลากยาวจากหน้าผากมาถึงนัยน์ตา สีหน้าโศกเศร้า
ชายที่ยืนอยู่กับเซี่ยชีหรั่นมีท่าทางจริงจังขึ้นมา ใช้น้ำเสียงหยอกล้อเอ่ยว่า “ถ้าหากไม่อยากกลายเป็นคนที่ถูกโยนลงไปในทะเล ก็อยู่ให้ไกลจากคนคนนั้นหน่อย ในสายตาของคนบ้าอย่างเจสันนั้นไม่มีการแบ่งแยกระหว่างชายหญิง ก่อนหน้านี้ก็บ้าพอแล้ว แต่ช่วงนี้บ้าหนักยิ่งกว่าเดิม จริงๆเลย”
ชายหนุ่มพึมพำ เซี่ยชีหรั่นเงยหน้า ลมทะเลทำให้เธอทำได้เพียงแค่หรี่ตามองพิจารณาชายคนนี้
เมื่อปะทะเข้ากับสายตาของเจสัน เซี่ยชีหรั่นก็นิ่งไปครู่หนึ่ง สายตาของฝ่ายตรงข้ามนั้นเย็นชามาก เมื่อเบนตาสายออกมาแล้ว เซี่ยชีหรั่นก็ขมวดคิ้ว เริ่มถอดเสื้อผ้า
“เขาอยู่ใต้ทะเลนานเกินไป ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไปคงจะไม่เหลือชีวิตอยู่แล้ว!” เซี่ยชีหรั่นกระโดดพุ่งตัวลงไปในทะเล
หาอยู่หลายรอบ ที่แท้ชายร่างท้วมคนนั้นก็หมดสติไปจริงๆ เท้าถูกพืชน้ำพันเอาไว้ เซี่ยชีหรั่นกลั้นหายใจ ในที่สุดก็ดึงเท้าของชายคนนี้ออกมาจากพืชน้ำได้สำเร็จ
เซี่ยชีหรั่นนอนแผ่อยู่บนหาดทราย สูดลมหายใจเฮือกใหญ่ เมื่อเงยหน้าขึ้น ก็ตกตะลึง เมื่อพบว่าชายที่อยู่บนดาดฟ้าเรือยังไม่จากไปไหน
ลมพัดพาให้เส้นผมสีดำนิลของเจสันยุ่งเหยิงยิ่งกว่าเดิม แสงอาทิตย์ที่แสบตาทำให้เซี่ยชีหรั่นมองไม่เห็นสีหน้าของฝ่ายตรงข้าม
รอจนถึงตอนที่คิดจะมองให้ละเอียดอีกนิด เจสันก็หันหน้าจากไปเสียแล้ว
“คนที่ฆ่าคนตายเป็นผักเป็นปลาอะไรพวกนี้ น่ารังเกียจที่สุด!” เซี่ยชีหรั่นงึมงำ ความประทับใจที่มีต่อชายที่ชื่อว่าเจสันนั้นแย่ถึงขีดสุด
“แค่กๆๆ” ชายร่างท้วมไอค่อกแค่กอยู่หลายที ก็ค่อยๆได้สติขึ้นมา เมื่อเห็นเซี่ยชีหรั่น นัยน์ตาก็เป็นประกายวาบ ยื่นมือออกไปอย่างคิดจะจับหน้าอกเซี่ยชีหรั่น
“เพียะๆ!” เซี่ยชีหรั่นง้างฝ่ามือขึ้นสูง มองชายหนุ่มร่างท้วม
“เจ้าอ้วน ไม่ใช่ว่าฉันจะตำหนินายนะ ผู้อื่นเป็นผู้มีพระคุณช่วยชีวิตนาย เปลี่ยนแปลงนิสัยหื่นกามแบบนี้ของนายสักหน่อยได้หรือไม่ มิน่าสองวันมานี้เจสันถึงได้โยนนายลงทะเลบ่อยๆ นายมีความสนใจในตัวผู้ชายเช่นกันใช่ไหม” ชายหนุ่มหยอกล้อ
“ไร้สาระ บอบอฉันจะบอกนายให้นะว่า ฉันก็แค่หื่นกามเพียงเล็กน้อย เจ้าเจสันนั่นไม่รู้ว่าเป็นอะไร สองวันนี้คิดอยากจะฆ่าฉันตลอด!”
เจ้าอ้วนพล่ามบ่นยืดยาว แต่ว่าก็ไม่ได้มีความคิดแบบนั้นกับเซี่ยชีหรั่นอีกแล้ว เมื่อเห็นเซี่ยชีหรั่นมองมาที่ตัวเองอย่างระแวดระวัง เจ้าอ้วนก็ตบเข้าที่หน้าผาก
“คุณวางใจได้ คุณช่วยชีวิตผม หลังจากนี้ผมจะไม่ทำเรื่องหื่นกามกับคุณอีก อ่อ ไม่สิ ผมจะควบคุมสักหน่อย”
ภาพชายที่โอหังถือดีและสายตาเย็นชาโหดเหี้ยมปรากฏขึ้นในสมองของเซี่ยชีหรั่น จนกระทั่งมือของเจ้าอ้วนยื่นมาลูบใบหน้าตัวเอง
“เพียะๆๆ!” เสียงฝ่ามือดังชัดเจน
“ทำไมกระทั่งลูบหน้าก็ไม่ได้ล่ะ” เจ้าอ้วนกุมใบหน้าที่ถูกตบจนแดง มองไปทางเซี่ยชีหรั่นอย่างได้รับความไม่เป็นธรรม
เมื่อถึงดาดฟ้าเรือ ชายที่ชื่อบอบอคนนั้นก็พาเซี่ยชีหรั่นไปยังห้องห้องหนึ่ง “คนที่พักอาศัยทางด้านนี้ล้วนเป็นผู้หญิงทั้งหมด พวกเรา เหล่าชายหนุ่มล้วนพักอยู่อีกด้านหนึ่ง ต้องการอะไร คุณก็สามารถบอกกับลู่ลู่ที่อยู่ห้องข้างๆได้ เธอคนนี้ไม่เลวเลย”
“เรียกฉันทำไมกัน” เสียงเนือยๆดังขึ้นด้านข้าง เซี่ยชีหรั่นหันหน้าไปมองหญิงสาวใบหน้าฉอเลาะ สวมชุดนอนผ้าไหมที่เอนตัวพิงบานประตูมองมาทางตัวเองอย่างตกใจ
หญิงสาวสวมวิกผมหยิก ทั้งยังตั้งใจแปะไฝเม็ดใหญ่ไว้ข้างปากอันหนึ่ง ริมฝีปากที่ทาลิปสติกสีแดงสดนั้นทำปากจู๋ พูดกับบอบอว่า “นี่คือเม็ดไฝของมาริลีน มอนโรเลยนะ รู้สึกว่าเซ็กซี่มากไหม”
“ที่ประเทศจีน พวกเราเรียกไฝนี้ว่าไฝแม่สื่อ” บอบอเอ่ยด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึก เมื่อพยักหน้าให้กับเซี่ยชีหรั่นแล้วก็จากไปอย่างรวดเร็ว
“ชิ ไม่เข้าใจรสนิยมของผู้ชายเลยจริงๆ เธอว่าใช่หรือไม่ล่ะ ที่รัก” หญิงสาวต่างชาติหันมากระพริบตาใส่เซี่ยชีหรั่น หน้าอกอวบอั๋นนั้นเบียดชิดเซี่ยชีหรั่น
เซี่ยชีหรั่นกระอักกระอ่วนจนถอยหลังแล้วถอยหลังอีก เมื่อชนเข้ากับอุปกรณ์ทำความสะอาดกองใหญ่ ก็ล้มหงายหลังไป
“ระวัง ข้างหลังคือแจกัน” ลู่ลู่กรีดร้องเสียงแหลม
มือคู่หนึ่งรองรับเซี่ยชีหรั่นเอาไว้ เซี่ยชีหรั่นคว้าทุกสิ่งที่สามารถคว้าได้ตามความเคยชิน “แควก” หลังจากเซี่ยชีหรั่นยืนได้อย่างมั่นคงแล้ว ก็มองแขนเสื้อเชิ้ตผู้ชายส่วนหนึ่งที่อยู่ในมือตัวเอง
เมื่อเงยหน้าขึ้นมาก็เห็นชายที่สูงกว่าตัวเองสองช่วงศีรษะ เป็นเจสัน “ปัง!” ลู่ลู่ที่เดิมยืนอยู่หน้าประตูก็รีบปิดประตูทันที
เจสันมองแขนของตัวเองแวบหนึ่งแล้วเดินผ่านเซี่ยชีหรั่นไป “รอก่อน! ฉัน…”
เจสันหยุดนิ่ง หันหน้ามามองเซี่ยชีหรั่น เส้นผมบดบังนัยน์ตา ทำให้มองเห็นความรู้สึกได้ไม่ชัด
เซี่ยชีหรั่นกลืนน้ำลาย เอ่ยว่า “ไม่อย่างนั้นฉันซื้อมาคืนคุณตัวหนึ่ง? ไม่สิ ที่นี่คือบนทะเล ไม่อย่างนั้นให้ฉันเย็บให้ไหมคะ”
สายตาของเจสันตกลงบนแขนเสื้อที่ถูกฉีดขาดไปทั้งท่อน เซี่ยชีหรั่นจับแขนเสื้อเอาไว้ด้วยความกระอักกระอ่วนใจ มีเสียงเสียดสีของเนื้อผ้าดังอยู่ข้างกาย จากนั้นก็มีเสื้อเชิ้ตตัวหนึ่งวางลงบนมือของตัวเอง
เรือนร่างกำยำที่เปลือยเปล่าของชายหนุ่มสวมกางเกงยีนส์ที่หลวมเล็กน้อย เผยให้เห็นวีเชฟที่มองเห็นได้ไม่ชัดเจน เจสันมองเซี่ยชีหรั่นแวบหนึ่ง และเดินจากเซี่ยชีหรั่นไป
เซี่ยชีหรั่นเพิ่งจะถอนหายใจ ประตูก็ถูกเปิดออก ลู่ลู่ที่สวมกระโปรงสั้นจู๋ นัยน์ตาเป็นประกายวิ่งเข้ามา “เจสันล่ะ?
บนโต๊ะอาหาร เซี่ยชีหรั่นเห็นว่าบนเรือสำราญลำนี้ นอกจากพวกลูกเรือที่ทำงานเบ็ดเตล็ดเหล่านั้นแล้ว คนที่สามารถนั่งกินข้าวอยู่ในห้องอาหารมีเพียงแค่ห้าคน
บอบอ คนแรกสุดที่พูดคุยกับตัวเอง ยังมีคนหื่นกาม เจ้าอ้วนที่ถูกคนถีบตกทะเลคนนั้น ลู่ลู่ที่แต่งตัวงดงามฉูดฉาด และชายต่างชาติวัยกลางคนที่สวมผ้าปิดตาอีกคนหนึ่ง และสุดท้ายก็คือเจสันที่นั่งอยู่อีกด้าน โดยไม่พูดอะไรแม้แต่คำเดียว
“มานั่งนี่ๆ!” เจ้าอ้วนลากเก้าอี้ที่อยู่ด้านข้างตัวเองออกมาให้อย่างเอาใจใส่ ดวงตาทั้งคู่สว่างวาบเมื่อมองไปทางเซี่ยชีหรั่น เซี่ยชีหรั่นมองที่นั่งเพียงที่เดียวข้างเจ้าอ้วนอย่างลังเล
เจสันลุกขึ้น ช้อนยาวถูกโยนลงไปในชามน้ำแกงจนจนเกิดเสียงดัง “แกร๊ง” เจสันเดินออกไปนอกห้องโดยสารเงียบๆโดยไม่พูดอะไร
“ชิ เป็นบ้าอะไรอีกเนี่ย!” เจ้าอ้วนพึมพำ พริบตาเดียวก็มองมาทางเซี่ยชีหรั่นยิ้มๆ ใช้สายตาเป็นการเร่ง
เซี่ยชีหรั่นนั่งลงในตำแหน่งที่นั่งที่เจสันเพิ่งจากไป พร้อมกับเอ่ยว่า “แหะๆ ที่นี่มีที่ว่างพอดี ฉันนั่งที่นี่ก็พอค่ะ”
หญิงต่างชาติวัยกลางคนคนหนึ่งถามเซี่ยชีหรั่นว่า “อยากกินอะไรคะ”
เซี่ยชีหรั่นถามด้วยความระมัดระวัง “มีผักไหมคะ” เซี่ยชีหรั่นรู้ว่าบนทะเล ผักมีราคาแพงมาก
หญิงสาวยิ้ม ตอบว่า “มีพอดี หลายวันมานี้ เจสันเอ่ยว่าต้องการผักอย่างน่าประหลาด ดังนั้นตอนที่เข้าฝั่งจึงซื้อมาบ้าง” หญิงสาวยกชามสลัดผักส่งให้เซี่ยชีหรั่น
เซี่ยชีหรั่นกินสลัดผัก ครุ่นคิดอย่างสงสัยว่า ผู้ชายที่อยู่ที่นี่คล้ายกับว่ากลัวเจสันอยู่บ้าง รอบด้านเงียบสงัด “คุณชีหรั่น เมื่อทานเสร็จแล้ว รบกวนคุณช่วยยกผลไม้มานี่ได้ไหมคะ มันอยู่ในโรงเก็บของด้านนั้นค่ะ”
“เรียกฉันว่าชีหรั่นก็พอแล้วค่ะ ใช่แล้ว คุณรู้ไหมคะว่าสินค้าที่พวกเราขนส่งคืออะไร” เซี่ยชีหรั่นอาศัยโอกาสที่ในห้องไม่มีคน ยกจานไปวางในถังน้ำ และเอ่ยถามหญิงสาวที่ล้างจาน
“เคร้ง” เสียงชามตกลงไปในถังน้ำกระทบกับจานชามใบอื่นๆดังขึ้น สีหน้าของหญิงสาวดูไม่เป็นธรรมชาติอยู่บ้าง เมื่อเช็ดมือสะอาดแล้ว ก็เอ่ยกับเซี่ยชีหรั่นว่า “อย่าถามคำถามพวกนี้กับฉันค่ะ อย่าถามอีก!”
เซี่ยชีหรั่นมองหญิงสาวที่รีบร้อนจากไปด้วยความสงสัยแล้ว ก็นึกขึ้นได้ว่าตัวเองลืมถามผู้หญิงคนนั้นว่า โกดังเก็บของอยู่ที่ไหน
เซี่ยชีหรั่นหาอยู่รอบหนึ่ง ก็มึนหัวจนต้องพิงเข้ากับดาดฟ้าเรือ ดาดฟ้าเรือโงนเงน พาให้เซี่ยชีหรั่นเอนไปข้างหน้า มือข้างหนึ่งจับข้อมือเซี่ยชีหรั่นเอาไว้
เซี่ยชีหรั่นล้มเข้าสู่แผงออกกว้างตามการโงนเงนของตัวเรือ แผงอกแกร่งนั้นแผ่กลิ่นอายของทะเล เซี่ยชีหรั่นนวดจมูกที่ชนเข้าจนเจ็บของตัวเอง
เจสันก้มหน้าลงมองเซี่ยชีหรั่น ปล่อยมือออกอย่างรวดเร็วแล้วหมุนตัวจากไป เซี่ยชีหรั่นตามไปถาม “บอกฉันหน่อยได้ไหมคะว่าจะไปโกดังเก็บของอย่างไร”
เจสันหยุด นิ้วมือเรียวยาวชี้ไปด้านข้าง เซี่ยชีหรั่นเอ่ย “ขอบคุณ” คำหนึ่ง แล้ววิ่งไปตามทางที่เจสันชี้ไปอย่างรวดเร็ว
วนอยู่รอบหนึ่ง เซี่ยชีหรั่นก็วนกลับมา พลางพึมพำอย่างประหลาดใจว่า “สรุปว่าที่ไหนกันแน่”
ที่เหนือความคาดหมายก็คือ เจสันยังคงยืนอยู่ที่เดิม แววตาไม่ชัดเจน เซี่ยชีหรั่นก้มหน้า ข้อมือถูกจับเอาไว้อย่างแรง เจสันลากเซี่ยชีหรั่นเดินไปด้านข้าง เดินไปถึงหน้าประตูบานหนึ่งแล้วก็ปล่อยมือออก
“โง่”
“คุณพูดว่าอะไรนะ!” เซี่ยชีหรั่นร้องออกมาด้วยความโมโห เจสันถอยหลังไปสองก้าว เลิกคิ้วมองเซี่ยชีหรั่น สีหน้าที่คุ้นเคยนั้นทำให้เซี่ยชีหรั่นชะงัก
จากนั้นก็เข้าใจขึ้นมาทันที เซี่ยชีหรั่นวิ่งเข้าไปในโกดังเก็บของ ภายในโกดังเก็บของมีขนุนเยอะมาก เมื่อเซี่ยชีหรั่นย้ายขนุนหลายลูกออกจากประตูมา ก็ว่างเปล่าไม่มีใครสักคน
“ไม่เป็นสุภาพบุรุษเลยสักนิด” เซี่ยชีหรั่นพึมพำ ไม่ชอบเจสันยิ่งกว่าเดิม
เซี่ยชีหรั่นนั่งลงบนดาดฟ้าเรือ มองไปยังผืนน้ำทะเลที่สงบนิ่ง เซี่ยชีหรั่นหยิบขนุนขึ้นมาเช็ด เตรียมตัวจะปอกเปลือก
มือคู่หนึ่งคว้าขนุนไป เซี่ยชีหรั่นเงยหน้า เจสันที่อยู่บนดาดฟ้าเรือชั้นสองถือขนุนเหม่อมองเซี่ยชีหรั่นอย่างไร้ความรู้สึก หยิบเหล็กออกมาอันหนึ่งแล้วจิ้มเข้าไปในขนุน
เซี่ยชีหรั่นมองขนุนที่ถูกจิ้มจนเละเทะ ก็ถามโกรธๆว่า “คุณจะทำอะไรกันแน่ คนที่นี่ทั้งหมดล้วนกลัวคุณ แต่ว่าฉันไม่กลัวหรอกนะ”
นัยน์ตาเซี่ยชีหรั่นมีม่านน้ำตาบางๆปกคลุมขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เซี่ยชีหรั่นโยนขนุนทิ้งไป มองเจสันอย่างมีโทสะ เจสันมองเซี่ยชีหรั่นนิ่งๆ สายตาตกลงบนขนุนที่กลิ้งอยู่บนพื้นอีกด้าน และหมุนตัวจากไป

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset