สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 1318 หญิงรับใช้ของคุณชายเย่ 1218

เซี่ยชีหรั่นอุ้มขนุนกองใหญ่ย้ายกลับไปยังห้องอาหารด้วยความยากลำบาก ลู่ลู่ที่อยู่ในห้องอาหารก็ก้าวเข้ามาช่วยเหลือ
“ไอ้หยา ที่รัก เธอไปนานมาก นี่มันผ่านช่วงเวลาทานของว่างและผลไม้ในยามบ่ายไปแล้ว” บอบอพาดอยู่บนพนักพิงเก้าอี้มองเซี่ยชีหรั่น พลางบ่นงึมงำ
เจ้าอ้วนหยิบขนุนขึ้นมาลูกหนึ่ง เช็ดไปมา หลังจากนั้นก็หยิบตะปูจิ้มเข้าไปในขนุน
“นี่คุณกำลังทำอะไรน่ะ” เซี่ยชีหรั่นกรีดร้อง มองสนิมเหล็กที่ไหลปนน้ำขนุนออกมา
“บนทะเลนั้นจะมีภาวะโลหิตเป็นพิษได้ง่ายๆ ดังนั้นจึงต้องอาศัยวิธีการนี้มาทำให้แน่ใจว่าได้รับธาตุเหล็ก” เจ้าอ้วนกัดไป พูดไป
สายตาของเซี่ยชีหรั่นตกลงบนร่างของชายที่นั่งสูบบุหรี่อยู่อีกด้าน หัวใจเต้นตึกตักเล็กน้อย บางทีคนที่ชื่อว่าเจสันคนนี้จะไม่ได้โหดเหี้ยมเหมือนกับที่ตัวเองจินตนาการเอาไว้ขนาดนั้น?
ยามค่ำคืน ท้องทะเลสงบนิ่ง เซี่ยชีหรั่นเปิดหน้าต่างสูดลมทะเล แสงจันทร์ส่องลงบนเสื้อเชิ้ตสะอาดตัวหนึ่งบนลำเรือ
เซี่ยชีหรั่นถือเสื้อเชิ้ตเอาไว้ หาเข็มกับด้ายไปทั่วห้อง เมื่อพบว่าไม่มี ก็เปิดประตู เดินไปหน้าประตูห้องลู่ลู่ที่อยู่ด้านข้างแล้วเคาะประตู แต่ไม่มีใครอยู่
เซี่ยชีหรั่นจึงทำได้เพียงแค่เดินไปทางห้องอาหาร “ก๊อกๆๆ!” เสียงเคาะดังเป็นจังหวะอย่างเลือนรางจากข้างใต้ เซี่ยชีหรั่นเดินไปตามทิศทางของดาดฟ้าเรือจนถึงทางขึ้นลงบันไดหนึ่ง
ทางขึ้นลงบันไดนั้นเป็นมุมมืดที่มองไม่เห็นแสงสว่าง เสียงเคาะดังเป็นจังหวะเงียบหายไปกะทันหัน “เธอกำลังทำอะไรอยู่ตรงนี้” มีเสียงที่คาดไม่ถึงดังขึ้นด้านข้าง
เซี่ยชีหรั่นหันตัวไปด้วยความประหลาดใจ ลู่ลู่กอดอกมองมาที่ตัวเอง แม้ว่าจะเป็นเวลากลางคืนก็ยังคงแต่งหน้าได้โอเวอร์เช่นเคย เซี่ยชีหรั่นรีบชูเสื้อขึ้นมา พลางเอ่ยว่า “ฉันเพียงแค่อยากจะหาเข็มและด้าย อยากจะเอามาเย็บเสื้อน่ะ”
ลู่ลู่มองทางขึ้นลงบันไดอย่างมีนัยยะลึกซึ้งแวบหนึ่ง และถอนหายใจ จู่ๆก็เขยิบเข้าไปข้างกายเซี่ยชีหรั่น มองเสื้อเชิ้ตอย่างละเอียด
“นี่ไม่ใช่เสื้อของเจสันหรอกหรือ พวกเธอทำอะไรกันน่ะ ฮือๆๆ ร้อนแรงถึงขนาดที่ว่าทำเสื้อผ้าขาดเลย” เซี่ยชีหรั่นตอบลู่ลู่ด้วยความปวดศีรษะ “ฉันไม่ได้ทำอะไรจริงๆ เพียงแค่ไม่ระวังดึงเสื้อเขาขาดเท่านั้นเอง”
เมื่อได้เข็มกับด้าย เซี่ยชีหรั่นก็เดินกลับห้องตัวเองท่ามกลางสายตาเศร้าเสียใจของลู่ลู่ เรือยังคงเดินทางอย่างไม่เร็วไม่ช้า เซี่ยชีหรั่นถอนหายใจ อาศัยแสงจันทร์อันน้อยนิดนั่งเย็บผ้าอยู่บนดาดฟ้าเรือนอกห้อง
สมองก็อดปรากฏภาพตอนที่ตัวเองไปเป็นคนรับใช้ข้างกายเย่เชินหลินเพื่อโม่เสี่ยวจุน จำได้ว่าตอนนั้นชุดทำงานของตัวเองถูกทำขาด ตัวเองก็นั่งเย็บเสื้อผ้าในห้องโถงกว้างกลางดึกแบบนี้เช่นกัน เพียงแต่ว่าในภายหลังไม่ได้ทำอีกเท่านั้นเอง
“เย่เชินหลิน คุณอยู่ที่ไหนกันนะ” เซี่ยชีหรั่นทอดถอนใจเงียบๆยามค่ำคืน
“ปังๆๆ” ประตูถูกเคาะ เซี่ยชีหรั่นงัวเงียไปเปิดประตู เมื่อเห็นลู่ลู่ที่แต่งหน้าเข้มจัดก็ตกใจสะดุ้ง
“เตรียมตัวกินข้าวเช้าได้แล้วนะ อาหารเช้าของที่นี่มีกำหนดเวลาตายตัว ถ้าไม่กินก็ทำได้เพียงแค่รอจนถึงช่วงอาหารกลางวัน” ลู่ลู่เอ่ยยิ้มๆ
“ขอบคุณค่ะๆ!” เซี่ยชีหรั่นขอบคุณยกใหญ่ ลู่ลู่โบกมือไปมา “ความจริงแล้ว ฉันก็แค่ผ่านทางนี้พอดีน่ะ เมื่อครู่เจสันชมฉันประโยคหนึ่งอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนว่า ลิปสติกของฉันสวยมาก ฉันจึงกลับมาทาลิปสติกเป็นพิเศษแล้วก็เรียกเธอเท่านั้นเอง”
“เจสันไม่ชอบพูดใช่ไหมคะ” เซี่ยชีหรั่นนึกถึงชายผู้ไร้ชีวิตชีวาที่คล้ายว่าจะพูดน้อยมากคนนั้น
ลู่ลู่ลูบกระโปรง นั่งด้วยท่าทางโอเวอร์ “ฉันล่ะชื่นชอบผู้ชายบ้าคลั่ง เผด็จการ และหยิ่งผยองประเภทนี้!”
ภายในห้องอาหาร ชายที่สวมผ้าปิดตาเอ่ยเรียบๆว่า “ขึ้นเรือแล้วก็ต้องมีวินัย คนที่สาย อีกครู่หนึ่งไปเช็ดดาดฟ้าเรือ”
“เช็ดดาดฟ้าเรือหรือคะ ได้ค่ะ” เซี่ยชีหรั่นรับคำด้วยความรู้สึกอับอายเล็กน้อย ตอนที่กำลังจะนั่ง หางตาก็เหลือบเห็นมือข้างหนึ่งวางอยู่บนเก้าอี้ของตัวเอง
“โปรดเมินเฉยผมต่อไป และนั่งลงโดยไม่ต้องกลัว” เจ้าอ้วนน้ำลายหก มองก้นเซี่ยชีหรั่น เซี่ยชีหรั่นสะบัดฝ่ามือหนึ่งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึก “เพียะๆ!”
เธอนั่งลงทั้งที่คิ้วขมวด ประสานสายตาเข้ากับชายที่นั่งอยู่ตรงข้ามกับตัวเอง เจสันก็กินสิ่งที่อยู่ในมือตัวเองนิ่งๆ ส่วนเซี่ยชีหรั่นก็ก้มหน้าลง
คนที่อยู่ภายในห้องออกไปกันพอประมาณแล้ว เจสันลุกขึ้น เซี่ยชีหรั่นรีบเรียกเขาเอาไว้ หยิบเสื้อเชิ้ตที่เย็บเรียบร้อยแล้วออกมาจากกระเป๋า “ฉันเย็บได้ไม่ค่อยดีเท่าไร ไม่อย่างนั้นรอให้เทียบท่าแล้ว ฉันจะไปซื้อตัวใหม่ให้คุณแล้วกัน”
เสื้อที่อยู่บนมือถูกคนหยิบไปแล้ว ตอนที่เซี่ยชีหรั่นเงยหน้าขึ้นมาก็เห็นเพียงแค่แผ่นหลังของเจสัน เซี่ยชีหรั่นหิ้วน้ำมาถังหนึ่ง ตะลึงมองแดดแรงจ้าที่อยู่เหนือดาดฟ้าเรือ
“ไม่เลวเลย สิ่งเหล่านี้ล้วนต้องทำความสะอาด ก่อนที่คุณจะมาล้วนเป็นผม เพราะว่าผมมักจะเป็นคนที่มาสายที่สุด” บอบอที่พาดตัวอยู่บนดาดฟ้าเรือชั้นสองมองมาที่เซี่ยชีหรั่น
เซี่ยชีหรั่นหยิบเศษผ้าชุบน้ำให้เปียกอย่างยอมรับในชะตากรรม คุกเข่าก้มหน้าเช็ดดาดฟ้าเรือ แสงอาทิตย์แรงมาก ไม่นานเซี่ยชีหรั่นก็รู้สึกวิงเวียนศีรษะเล็กน้อยขึ้นมาแล้ว
“ฉันถามได้ไหมคะว่าสินค้าของพวกคุณคืออะไรกันแน่ หลายวันมานี้ดูเหมือนว่าจะไม่ต้องให้ฉันไปดูแลเท่าไร” เซี่ยชีหรั่นเช็ดดาดฟ้าเหลือ รออยู่นานก็ไม่ได้ยินเสียงตอบกลับ จึงหันหน้าไป
รอยยิ้มบนใบหน้าบอบอเลือนหายไป ก้มมองเซี่ยชีหรั่นจากที่สูง “ถ้าหากว่ายังอยากจะมีชีวิตดีๆอยู่บนเรือลำนี้ต่อไป ผมขอแนะนำคุณว่าอย่าถามมากขนาดนั้น”
“ไม่ได้การแล้วๆ เจสันเป็นบ้าอีกแล้ว!” ลู่ลู่วิ่งเข้ามา บอบอตอบยิ้มๆ “เกิดเรื่องอะไรขึ้น! เป็นคนดวงซวยคนไหนอีก!”
บอบอกระเด้งตัวลุกขึ้นจากดาดฟ้าเรือชั้นสอง ลากเซี่ยชีหรั่นไป พลางเอ่ยว่า “คว้าโอกาสในการดูเรื่องสนุกได้พอดีเลย”
“แต่ว่าดาดฟ้าเรือนี้” เซี่ยชีหรั่นมองดาดฟ้าเรือด้วยความลังเล บอบอโยนเศษผ้าทิ้ง ที่ตรงนี้ครึ่งเดือนก็ไม่มีใครมาเลยสักครั้ง ตาเฒ่านั้นทำเพื่อลงโทษคุณเท่านั้นแหละ”
หลายคนที่วิ่งเหยาะๆมา เห็นเจสันใช้เท้าถีบเจ้าอ้วนลงทะเลอีกครั้งพอดี คนล้อมรอบเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ พวกลูกเรือก็แอบกระซิบกระซาบไปจนถึงพูดคุยกันเสียงดังเซ็งแซ่
“เห็นชีวิตคนเป็นผักเป็นปลาแบบนี้ไม่ได้นะ!” ในกลุ่มคนมีเสียงดังระลอกแล้วระลอกเล่า
เซี่ยชีหรั่นมองไปทางเจสันด้วยความเป็นห่วง เธอคิดมาตลอดว่าคนคนนี้เป็นคนเลวร้ายคนหนึ่ง แต่เมื่อดูจากหลายๆเรื่องแล้วก็ดูเหมือนว่าจะไม่ได้เป็นเช่นนั้น
เจสันปัดผมตรงหน้าผากขึ้น เผยให้เห็นแผลเป็นน่าสยดสยอง สายตากวาดมองผ่านร่างฝูงชนอย่างเฉยชา “ดังนั้น?”
“ดังนั้น…ฮ่าๆๆ วันนี้อากาศไม่เลวเลยจริงๆ พวกเราไปอาบแดดกันเถอะ” ลูกเรือพากันแยกย้าย เจสันหันกลับมามองไหล่ของเซี่ยชีหรั่นที่ถูกแดดเผาจนแดง และจากไปอย่างรวดเร็ว
“พวกเราต้องลงไปช่วยไหมคะ” เซี่ยชีหรั่นมองทุกคนที่ทำเรื่องของตัวเองต่อไปอย่างนิ่งเฉย ลู่ลู่มองเซี่ยชีหรั่นด้วยสายตาลึกซึ้ง “บนเรือลำนี้ ใครมีพลังอำนาจมากสุดก็เป็นคนที่สามารถบงการทุกอย่างได้ พลังอำนาจของเจ้าอ้วนอ่อนแอ ตายไปก็ทำได้เพียงแค่บอกว่าตัวเขาเองที่ไม่ได้ความ บนโลกใบนี้ก็เป็นเช่นนี้อยู่แล้วไม่ใช่หรือ”
เซี่ยชีหรั่นสูดลมหายใจลึก มองไปยังกลุ่มคนเหล่านี้อย่างไม่อยากจะเชื่อ คนเหล่านี้ เบื้องหน้าเป็นมิตรต่อกัน แต่ความจริงแล้ว ในใจกลับเลือดเย็น เป็นปีศาจชั่วร้ายที่เห็นชีวิตคนเป็นผักเป็นปลา
“ฉันไม่อาจเห็นด้วยกับความคิดของพวกเธอ ทุกคนล้วนมีโอกาสของตัวเองที่จะมีชีวิตต่อไป โอกาสเช่นนี้ ไม่ใช่ว่าใครอยากจะแย่งก็แย่งไปได้” เซี่ยชีหรั่นเริ่มถอดเสื้อคลุม เตรียมกระโดดลงจากเรือไปงมเจ้าอ้วน “แค่กๆๆ! เห็นปลาหนักหนึ่งกิโลกรัมตัวหนึ่ง พวกนาย ใครก็ได้ มาช่วยฉันจับหน่อย ฉันเหนื่อยจะตายแล้ว” เจ้าอ้วนห้อยตัว มือสองข้างจับกาบเรือเอาไว้ มุมปากยังมีเลือดไหลอยู่
“ไอ้หยา ปลาตัวใหญ่เลยนะ ฉันจะเอาไปให้ทางห้องครัว” ลู่ลู่ยิ้ม วิ่งไปอุ้มปลาที่กระโดดหลบไปมาขณะมีชีวิตอยู่
“รีบมาดึงฉันเร็วเข้า! ปลานั่นต้องกินสดๆถึงจะอร่อย!” เจ้าอ้วนถุยเลือดไป พลางยื่นมือไปทางเซี่ยชีหรั่นอย่างอ่อนแรง เซี่ยชีหรั่นสวมเสื้อคลุมของตัวเองเงียบๆ หมุนตัวจากไปด้วยใบหน้าเฉยชา คนประหลาดกลุ่มนี้ควรจะโยนลงไปในทะเลให้ฉลามกินทั้งหมด!
บนโต๊ะอาหาร เซี่ยชีหรั่นขมวดคิ้วมองขนุนที่ถูกเสียบตะปูแล้วเขยิบหนีเงียบๆ ชายวัยกลางคนเอ่ย “วันนี้กลับไปถึงช่องแคบมะละกา ให้คนลงไปเตรียมกำลังอาวุธและอาหารมาเสริมสองคน”
“ผมต้องไปเช็ดดาดฟ้าเรือแล้ว!” บอบอกระโดดลงจากเก้าอี้ทันที หลังจากนั้นก็วิ่งหนีไปไกล สายตาของกัปตันเรือตกลงบนร่างของเจ้าอ้วนและลู่ลู่
“นายมานี่ ฉันอยากคุยเรื่องความรักกับนายสักหน่อย” ลู่ลู่โอบไหล่ของเจ้าอ้วนแล้วเดินไปข้างนอกด้วยท่าทางเผด็จการ
เซี่ยชีหรั่นมองห้องอาหารที่ร้างผู้คนในพริบตา ด้านหน้าก็มีกระดาษยื่นมาใบหนึ่ง “ซื้อตามรายการบนกระดาษ จะมีคนช่วยคุณนำมาส่งโดยเฉพาะ”
เซี่ยชีหรั่นที่ยืนอยู่บนท่าเรือยังคงรู้สึกว่าผู้คนรอบด้านทั้งหมดล้วนมาจากประเทศต่างๆอย่างล่องลอย เจสันนั้นเดินนำหน้าไปแล้ว เซี่ยชีหรั่นเพิ่งจะยกปลายเท้า ก็เห็นเพียงแค่ท้ายทอยของเจสัน และในไม่ช้าก็ไม่เห็นแม้แต่ท้ายทอย
“พี่สาว ซื้อดอกไม้ของหนูเถอะนะคะ” เด็กหญิงคนหนึ่งเขย่งปลายเท้า มองมาที่เซี่ยชีหรั่น
เซี่ยชีหรั่นที่มองไม่เห็นแม้แต่ท้ายทอยของเจสันแล้ว ก็ก้มหน้ามองเด็กหญิงด้วยความโศกเศร้า “แต่ว่าดอกไม้ของหนูล่ะจ๊ะ”
เด็กหญิงที่ผูกผมเปียจูงมือเซี่ยชีหรั่นเดินไปด้านนอก เดินไปพลาง เอ่ยไปพลาง “ดอกไม้อยู่ในสวนดอกไม้ แน่นอนว่าต้องเด็ดในตอนนี้ถึงจะสดใหม่นะคะ!”
เซี่ยชีหรั่นถูกจูงมาตลอดทางจนถึงห้องสีแดงในบ้านหลังหนึ่ง เด็กหญิงกระโดดโลดเต้นไปเคาะประตู ในไม่ช้าก็มีหญิงที่แต่งงานแล้วออกมาเปิดประตูคนหนึ่ง เมื่อเห็นเซี่ยชีหรั่นก็เอ่ยยิ้มๆว่า “เป็นหญิงสาวชาวตะวันออกคนหนึ่ง ทั้งยังเป็นหญิงสาวชาวตะวันออกที่งดงามขนาดนี้เสียด้วย”
“ฉันมาซื้อดอกไม้ค่ะ!” เซี่ยชีหรั่นมองหญิงสาวที่แต่งตัวงดงามด้วยความสงสัย
“มาซื้อดอกไม้น่ะถูกแล้ว อยากจะซื้อดอกไม้อะไร พวกเราล้วนมีหมด!” หญิงสาวดึงมือเซี่ยชีหรั่นเข้าไปในห้องสีแดงโดยไม่ฟังคำอธิบาย
ภายในห้องสีแดงล้วนมีห้องเล็กๆห้องแล้วห้องเล่า “ต้องการซื้อดอกไม้อะไรหรือ” หญิงสาวที่เดินนำหน้าอยู่เอ่ยถาม
เซี่ยชีหรั่นหันหน้าไปครุ่นคิดครู่หนึ่ง “ไม่อย่างนั้นให้ดอกเดซี่ฉันสักกำหนึ่งก็ได้ค่ะ”
หญิงต่างชาติพยักหน้า ชี้ไปที่ห้องห้องหนึ่งแล้วเอ่ยว่า “คุณไปรอที่นั่นก่อน ดอกเดซี่จะมาถึงในเร็วๆนี้”
เซี่ยชีหรั่นเข้าไปในห้องที่มีกลิ่นหอมอบอวล นั่งลงบนโซฟาที่ปักเป็นลายดอกโบตั๋นดอกใหญ่สีแดง โต๊ะด้านข้างมีนิตยสารวางอยู่เล่มหนึ่ง เซี่ยชีหรั่นหยิบนิตยสารขึ้นมาด้วยความเบื่อหน่าย วินาทีถัดไปก็ปิดนิตยสารเล่มนั้นทันที
เงาร่างของคนสองคนกำลังนัวเนียกันอยู่ในนิยตสารนั้น ทำให้เซี่ยชีหรั่นหน้าแดงก่ำ ที่สำคัญไปกว่านั้น สองคนนี้ล้วนเป็นผู้ชายทั้งคู่!
เซี่ยชีหรั่นลุกขึ้นยืนทันทีอย่างคิดจะจากไป แต่ก็ชนเข้ากับชายต่างชาติคนหนึ่ง ผู้ชายคนนี้หน้าตาดีมาก คิ้วเรียวยาวและนัยน์ตาสีฟ้าคู่นั้น โครงหน้าได้รูปมีมิติ
“สวัสดีค่ะ ดอกเดซี่ที่คุณซื้อค่ะ” หญิงสาวที่ยื่นหน้าออกมาจากด้านหลังชายหนุ่ม มองมาที่เซี่ยชีหรั่น พลางเอ่ยขึ้น

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Recommended Series

Comment

Options

not work with dark mode
Reset