สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 1337 หญิงรับใช้ของคุณชายเย่ 1237

เสียงแจ้งเตือนจากโทรศัพท์ดังขึ้นมา เงินถูกฝากเข้าไปหนึ่งหมื่น ปรากฏข้อความของเย่เชินหลิน “เผื่อเอาไว้ใช้”
กลางคืน เซี่ยชีหรั่นและBakerเปิดประตูเข้ามาในห้อง ข้างๆพี่หลี่มีชายวัยกลางคนนั่งอยู่ เมื่อเห็นว่าเซี่ยชีหรั่นมีคนตามมาด้วย จึงมองพี่หลี่ด้วยความไม่พอใจ
พี่หลี่คิดว่าเซี่ยชีหรั่นผิดคำพูด จึงยิ้มแล้วพูดขึ้น “ในเมื่อมากันครบแล้ว ก็เริ่มทานกันเถอะค่ะ Baker ออกไปหยิบเหล้ากับฉันหน่อย นายคงไม่คิดให้ผู้หญิงออกยกเหล้าหนักๆ เข้ามาคนเเเดียวหรอกใช่ไหม”
Bakerนั่งอยู่ข้างๆ เซี่ยชีหรั่นไม่ขยับ พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง “รู้แล้ว” พี่หลี่ถูกตอกกลับ ลูบผมเป็นเชิงกลบเกลื่อน ยิ้มแล้วตอบกลับ “งั้นเดี๋ยวฉันไปหยิบ ฮ่าๆ พวกคุณคุยกันๆ”
“คุณหนูเชี่ย คุณสวยมากเลยนะครับ” ชายหนุ่มพูดชมเซี่ยชีหรั่นเป็นภาษากวางตุ้ง จากนั้นยกแก้วเหล้ายื่นมาตรงหน้าเซี่ยชีหรั่น
อีกมือหนึ่งรีบรับแทนด้วยความเร็วกว่า Bakerดื่มมันจนหมดด้วยความรวดเร็ว แล้วพูดขึ้น “ขอบคุณครับ ผมกำลังกระหายพอดี”
ชายหนุ่มจ้องหน้าBakerด้วยความแปลกใจ จากนั้นเทอีกแก้ว ยังไม่ทันได้ยื่นให้เซี่ยชีหรั่น ก็ถูกBakerรับไปก่อนอีก “คุณหนูเชี่ย ผมเป็นนักออกแบบที่มีชื่อมากนะครับ ผมรู้สึกว่าอยากช่วยคุณสักครั้ง คุณก็ไม่ให้เกียรติผม”
ชายหนุ่มพูดเป็นภาษาจีนกลางด้วยเสียงแข็ง เซี่ยชีหรั่นทั้งสงสารและตลกผู้ชายคนนี้ คิดจนหัวแทบแตกก็นึกไม่ออกว่าเขามีชื่อเสียงตรงไหน
เมื่อเห็นว่าเซี่ยชีหรั่นมองตัวเองด้วยความฉงน ชายหนุ่มจึงหยิบคีย์การ์ดของห้องออกมา วางตรงหน้าเซี่ยชีหรั่น พูดขึ้นอย่างแฝงความนัย “นี่คือคีย์การ์ดของห้องผม”
เซี่ยชีหรั่นตอบกลับด้วยความสงสัย “งั้นคุณเก็บไว้ให้ดี เดี๋ยวกลับไปไม่ได้จะวุ่นวายอีก” “คิกๆ” Bakerที่นั่งอยู่ข้างๆ หัวเราะออกมา ผู้ชายคนนี้อยากจะล่วงละเมิดเซี่ยชีหรั่น ถ้าหากไม่ใช่เขารู้จักเซี่ยชีหรั่น รู้ว่าเซี่ยชีหรั่นมีนิสัยงงๆ เขาคงคิดว่าเซี่ยชีหรั่นคงหลอกใช้อีกฝ่ายแน่นอน
พี่หลี่ผลักประตูเข้ามา เห็นชายหนุ่มเก็บคีย์การ์ดห้องมา แล้วลุกขึ้นพูดกับพี่หลี่ด้วยความโมโห “ผมอยากจะครุ่นคิดเรื่องการร่วมมือของพวกเราเสียหน่อย”
พี่หลี่มองมาทางเซี่ยชีหรั่น รีบพูดขึ้น “ดูเธอซิ ตามติดหลัวกุ้ยเหยาเพื่อที่จะต้องการความช่วยเหลือจากเขาไม่ใช่เหรอ! ฉันไม่ข่วยเธอแล้ว”
พี่หลี่เดินจากไปด้วยความโมโห เซี่ยชีหรั่นถามBakerเพื่อความมั่นใจด้วยความไม่มั่นใจว่า “หล่อนคิดว่าฉันเป็นคนที่ต้องอาศัยอำนาจจากคนอื่นในการปีนขึ้นไปงั้นเหรอ?”
Bakerลูบคาง จากนั้นหัวเราะแล้วพูดขึ้น “ฉันมีวิธี”
ผ่านไปครึ่งชั่วโมง ประตูของห้องอาหารถูกเปิดขึ้นโดยเย่เชินหลินและไห่ลี่หมิน เย่เชินหลินมองไปรอบๆ ดมกลิ่นเหล้าที่คละคลุ้ง จึงถามขึ้นสีหน้าเคร่งเครียด “ดื่มเหล้าเหรอ?”
“วางใจได้ ฉันดื่มเอง” Bakerรีบอธิบาย เย่เชินหลินนั่งลงข้างๆ เซี่ยชีหรั่น เขาโอบเธอเอาไว้ค่อยรู้สึกสบายใจหน่อย
“ฉันถามพวกนาย ว่าพวกนายรู้สึกว่าเซี่ยชีหรั่นเป็นคนยังไง” Bakerมองเย่เชินหลินและไห่ลี่หมิน แล้วถามขึ้น
ทุกคนมองBakerด้วยความประหลาดใจ แล้วเป็นไห่ลี่หมินที่ทำลายความเงียบลงก่อน เขายิ้มแล้วตอบคำถาม “เธอเป็นคนแข็งแกร่งมาก ไม่เคยยอมแพ้ เหมือนกับกรงเล็บของแมวที่คอยตะครุบ ที่ทำให้คนถูกแพร่เชื้ออย่างไม่รู้ตัว”
เย่เชินหลินทำหน้าตาท้าทาย “เป็นผู้หญิงที่ชอบหาแต่เรื่องมาให้ฉัน”
Bakerพยักหน้า เขาเดินก้าวมาด้านหน้า พูดขึ้นหลังจากคิดวิเคราะห์ “พวกเราลองสมมติดูว่า ทำไมเซี่ยชีหรั่นถึงแข็งแกร่ง เพราะเธออยากจะแตกต่างจากคนอื่น เหมือนกับนักเรียนที่ตั้งใจเรียนขยันขันแข็งเพื่อให้คุณครูสนใจเธอ และดีต่อเพื่อนก็เพื่อสิ่งนี้เช่นกัน
จากนั้นตั้งใจก่อเรื่องเพื่อให้นายสนใจ ในฐานะที่นายก็เห็นผู้หญิงมามากมาย จึงต้องทำบางอย่างที่แตกต่างไปจากคนอื่น”
Bakerยังคงพูดต่อเป็นฉากๆ เย่เชินหลินตะคอกขึ้นมา “พอได้แล้ว!” Bakerตกใจ มองเซี่ยชีหรั่นที่ทำตัวไม่ถูก พบว่าสิ่งที่พูดออกมาเมื่อสักครู่ทำเซี่ยชีหรั่นมึนงง
“ฉันเริ่มสงสัยการเป็นมืออาชีพของนาย” ไห่ลี่หมินก็เริ่มน้ำเสียงไม่ค่อยดี Bakerยืนขึ้นพูดกับเซี่ยชีหรั่น “สิ่งที่ฉันพูดเมื่อกี้เป็นแค่การสมมติ ฉันแค่พูดว่าสมมติถ้าเข้าใกล้หลัวกุ้ยเหยาในแบบนั้น เขาคงคิดว่าเธอนั้นหลอกง่าย ขอโทษด้วย ที่มันทำร้ายเธอ”
หลังจากที่ไห่ลี่หมินและBakerกลับไป เซี่ยชีหรั่นมองเย่เชินหลินแล้วถามขึ้นด้วยน้ำเสียงออดอ้อน “ฉันเป็นคนแบบนี้จริงเหรอ? คุณคิดว่าฉันเป็นคนแบบนี้ไหม?”
เย่เชินหลินโอบซี่ยชีหรั่นแน่น แล้วถามขึ้น “เธอรู้สึกว่ายังไงล่ะ?”
เซี่ยชีหรั่นส่ายหัว “ที่ตอนเด็กฉันเรียนได้ดีเพราะฉันชอบคุณครูพวกนั้น ที่ทำดีต่อเพื่อนๆ เพราะไม่ต้องการที่จะเดาความคิดพวกเขา แต่ที่ฉันชอบหาเรื่องต่างๆ มาให้คุณ ต้องขอโทษด้วย”
แววตาใสๆ ของเซี่ยชีหรั่น มองท่าทางของเย่เชินหลิน เขาจูบที่คางของเธอเป็นเชิงปลอบใจ เย่เชินหลินยิ้มแล้วพูดขึ้น “แค่นี้ก็พอแล้ว เป็นตัวของตัวเองดีที่สุดแล้ว”
กลับเข้ามาในห้องอีกครั้ง Bakerมองเซี่ยชีหรั่นด้วยความรู้สึกผิด “ฉันต้องขอโทษเธอด้วยจริงๆ ฉันเป็นคนปากไว”
“เล่าแผนการของนายมาซิ” เย่เชินหลินถามขึ้น Bakerพยักหน้าแล้ววิเคราะห์ต่อ “อย่างที่ฉันพูดก่อนหน้านี้ ที่อยู่ดีๆ หลัวกุ้ยเหยารับเซี่ยชีหรั่นเข้ามาทำงาน เพราะต้องมีจุดมุ่งหมายแน่นอน แต่จุดประสงค์ยังไม่ชัดเจน เราจะเจาะเข้าไปด้านในของศัตรูได้ ก็ต้องทำให้เขารู้สึกว่าเซี่ยชีหรั่นเป็นคนที่ควบคุมง่าย”
เขาเป็นเหมือนกับจิ้งจอกเฒ่ามาแต่ไหนแต่ไร ทำงานมาหลายปี รู้ว่าคนเราย่อมมีจุดอ่อน ดังนั้นจุดอ่อนของเซี่ยชีหรั่นคือ การให้ความสำคัญต่อชื่อเสียง” Bakerมองเย่เชินหลินด้วยความระมัดระวัง เมื่อเห็นอีกฝ่ายไม่มีปฏิกิริยาใดๆ จึงเริ่มพูดต่อ “ดังนั้นพวกเราต้องสร้างสถานการณ์ปลอมขึ้นมา ให้เขารู้สึกว่าเขาสามารถซื้อตัวเซี่ยชีหรั่นได้”
Bakerพูดมาทั้งหมด จนหยุดลงแล้วมองเซี่ยชีหรั่น พูดกับเธอด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ฉันรู้ว่าเธอไม่ใช่คนแบบนี้ ฉันก็เคารพเธอ ถ้าหากเธอไม่ยอม พวกเราทำตามความคืบหน้าตอนนี้ก็ได้”
เซี่ยชีหรั่นยิ้มแล้วส่ายหน้า “คนที่ฉันแคร์รู้ว่าฉันไม่ใช่คนแบบนั้นก็พอแล้ว” Bakerมองเธอด้วยความรู้สึกซาบซึ้ง เย่เชินหลินจึงพูดเสริม “ทุกอย่างความปลอดภัยต้องมาเป็นอันดับแรก เมื่อมีปัญหาให้รีบแยกออกมาทันที”
Bakerพยักหน้ารับปาก เซี่ยชีหรั่นถามขึ้น “แล้วฉันควรทำอย่างไร?”
วันรุ่งขึ้น เซี่ยชีหรั่นส่งข้อความหาหลัวกุ้ยเหยา เป็นข้อความที่เล่าว่าตัวเองถูกละเมิดทางเพศ แล้วอีกฝ่ายเป็นผู้ชายพุงพลุ้ย บังคับให้เธอดื่มเหล้า เธอไม่อยากจะทำงานแล้วต่างๆ นานา
ไม่นานนัก หลัวกุ้ยเหยาก็ตอบกลับเพียงแค่สามคำ “ฉันรู้แล้ว”
“มันใช้ได้จริงๆ เหรอ?” เซี่ยชีหรั่นหันมาถามเย่เชินหลิน บนหลังของเย่ชูฉิงก็ขึ้นอีสุกอีใสด้วย ดังนั้นมีแต่ต้องให้อุ้มเอาไว้ เย่เชินหลินอุ้มและปลอบเย่ชูฉิงด้วยตัวเอง เมื่อนึกถึงเรื่องที่เซี่ยชีหรั่นถูกล่วงละเมิดทางเพศเมื่อวาน สีหน้าก็เคร่งเครียดทันที
เซี่ยชีหรั่นเปิดประตูด้วยความรีบร้อน จนเกือบจะชนกับไห่ลี่หมิน ไห่ลี่หมินประคองเซี่ยชีหรั่นเอาไว้ เขายิ้มแล้วถามขึ้น “ทำไมยังนิสัยซุ่มซ่ามเหมือนเดิมเลย”
รอจนเซี่ยชีหรั่นจากไป ไห่ลี่หมินจากเดิมที่อารมณ์ผ่อนคลายก็ตึงเครียดขึ้นมา มองเย่เชินหลินแล้วพูดขึ้น “แพ้ไปตั้งมากมายแล้ว ก้าวต่อไปคงต้องเปิดปากของยืมเงินจากหลัวกุ้ยเหยาแล้ว”
เย่เชินหลินพยักหน้า “ให้บอบอยกเวทีออก” ในบ่อนที่มาเก๊า หยูหลันได้ลงความร่วมมือกับเถ้าแก่เจ้าของบ่อนแล้ว ที่ห้องโถงรับแขกได้จัดเวทีมาเพื่อเย่เชินหลินโดยเฉพาะ ผู้ชมรอบๆ ก็เป็นคนที่เย่เชินหลินหามา
ไห่ลี่หมินพยักหน้าเตรียมจะเดินออกไป เย่เชินหลินที่อยู่ตรงหน้าถอยไปสองก้าว ใช้มือเกาะประคองเอาไว้ ไห่ลี่ขึ้นด้วยความสงสัย “นายไม่สบายเหรอ?”
เย่เชินหลินรู้สึกว่าภาพตรงหน้ามัวๆ พยายามดึงสติอยู่สักพัก จนการมองเห็นกลับมาเป็นปกติ จึงส่ายหน้า “ไม่เป็นไร”
“ถ้านายจะตายเมื่อไหร่ อย่าลืมบอกฉันนะ ฉันจะดูแลชีหรั่นให้ดี!” ไห่ลี่หมินจงใจพูดขึ้นด้วยความไม่เกรงใจ น้ำเสียงเต็มไปด้วยความเป็นห่วง
เย่เชินหลินเดาอารมณ์ของไห่ลี่หมินไม่ออก เมื่อคิดถึงเซี่ยชีหรั่น เขาก็ยิ้มขึ้นมา “วางใจเถอะ ฉันไม่มีทางทิ้งเธอไปหรอก”
เซี่ยชีหรั่นและBakerนั่งอยู่ในออฟฟิศ สายตาแหลมคมของBakerเห็นว่า หลัวกุ้ยเหยากำลังเดินมา จึงจีบปากจีบคอพูดขึ้น “ครั้งนี้เธอทำได้ดีมาก ที่ปฏิเสธผู้ชายคนนั้นแล้วมาฟ้องหลัวกุ้ยเหยา แบบนี้พี่หลี่ก็คงโดนเธอเบียดตกไป การออกแบบครั้งนี้เธอต้องทำให้ดี มีผลต่อชื่อเสียงของเธอ”
หลัวกุ้ยเหยาหยุดยืนที่หน้าประตูสักพัก แล้วค่อยผลักประตูเข้ามา ยิ้มแล้วพูดขึ้น “รอนานเลย”
เซี่ยชีหรั่นส่ายหน้า เซี่ยชีหรั่นคอยดูแลเย่ชูฉิงมาทั้งคืน ทำให้เธอขอบตาคล้ำ ดูแล้วเหมือนกับถูกใครหลอกจนรู้สึกเหนื่อยใจ
“เสี่ยวเชี่ย ฉันได้คิดทบทวนเรื่องของเธอแล้ว พี่หลี่คงจะจัดการไม่ได้สมบูรณ์แบบ ฉันว่าหล่อนไปแล้ว ถ้าเธอไม่อยากทำงานกับหล่อน ก็ไปทำกับพี่หวางได้นะ เธอว่ายังไง?”
หลัวกุ้ยเหยาพูดจาไม่มีช่องโหว่ แล้วเลือกที่จะโยนอำนาจการตัดสินใจให้เซี่ยชีหรั่น ไม่ว่าเซี่ยชีหรั่นจะตัดสินใจยังไง ก็เป็นเธอที่เลือกเอง ไม่เกี่ยวกับหลัวกุ้ยเหยา
เซี่ยชีหรั่นก็คิดถึงตรงนี้เช่นกัน เธอพูดด้วยขอบตาที่แดงก่ำ “ฉันยังคงอยู่ในทีมนี่แหละค่ะ ยังไงงานมันก็มาอยู่ในมือแล้ว”
หลัวกุ้ยเหยาพยักหน้า ดูนาฬิกาแล้วพูดขึ้น “วันนี้เสี่ยวไห่จะไปประชุมที่โรงแรมบิเลียนด้วย เธอไปเป็นตัวแทนทีมออกแบบละกัน”
Bakerกระซิบกระซาบ “จิ้งจอกเฒ่า” เย่เชินหลินเห็นเซี่ยชีหรั่นและBakerแล้ว จึงเดินเข้ามาจับมือทักทายกับหลัวกุ้ยเหยา
“ได้ยินชื่อคุณมานานแล้ว คุณอยู่ที่นี่มานานกว่าผมเสียอีก ใช่ไหมเสี่ยวไห่” ไห่ลี่หมินรีบก้าวขึ้นมาตอบ “ผู้ประกอบการเป็นผู้บริการประชาชน คนทำงานราชการก็รับใช้ประชาชนเช่นกันครับ”
“พูดได้ดีมาก!” หลัวกุ้ยเหยาตบที่ไหล่ของไห่ลี่หมินเบาๆ แล้วจึงเปลี่ยนเรื่องถาม “ใช่แล้ว วันนี้เสี่ยวเชี่ยก็ตามมาด้วยนี่ เสี่ยวเชี่ย”

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset