สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 1338 หญิงรับใช้ของคุณชายเย่ 1238

เซี่ยชีหรั่นได้ยินหลัวกุ้ยเหยาเรียกตัวเอง จึงเดินไปหา สายตาของเย่เชินหลินมองผ่านเซี่ยชีหรั่น มองใบหน้าของหลัวกุ้ยเหยาที่กำลังรอดูละครฉากใหญ่อยู่ เย่เชินหลินพูดขึ้นด้วยเสียงเรียบนิ่ง “อย่ากลับบ้านดึกมาก แล้วก็อย่าลืมไปดูชูฉิงที่โรงพยาบาลด้วย”
“ฉันก็มีธุระของตัวเอง ไม่มีเวลาไปดูแลลูก คุณไปเองเถอะ” เซี่ยชีหรั่นค่อยๆ พูดเสียงดังขึ้นเรื่อยๆ
เย่เชินหลินตกใจแต่ก็ตอบรับปฏิกิริยาได้อย่างรวดเร็ว เขารู้ว่าเซี่ยชีหรั่นต้องสร้างความเชื่อมั่นให้กับหลัวกุ้ยเหยา คนรอบๆ รอดูละครที่สนุกสนานฉากนี้อยู่ เย่เชินหลินเงียบไม่ได้พูดอะไร
หลัวกุ้ยเหยาที่อยู่ข้างๆ มองแล้วจึงพูดขึ้นแบบติดตลก “ลูกต้องสำคัญที่สุดสิ เสี่ยวเชี่ยวันนี้รีบกลับไปก่อนเถอะ”
เย่เชินหลินมองเซี่ยชีหรั่น ใบหน้าของเขาเหมือนกำลังสะกดอารมณ์โมโหอยู่ แม้แต่Bakerที่คอยดูอยู่ข้างๆ ยังตะลึงกับการแสดงที่แนบเนียนของเย่เชินหลิน
“รีบๆ กลับบ้านล่ะ” เย่เชินหลินกำชับอีกครั้ง คนที่ติดตามเย่เชินหลินมองหน้ากันด้วยความงุนงง จากนิสัยของเขาแล้ว ถ้าหากผู้หญิงไม่ไว้หน้า เขาไม่เดินออกไปในทันทีก็ถือว่าแปลกมากแล้ว
“รู้แล้ว ฉันรู้ตัวดีหน่า” เซี่ยชีหรั่นเบือนหน้าหนีไม่หันไปมองเย่เชินหลิน หลัวกุ้ยเหยายิ้มด้วยความสดใสกว่าเดิม ไห่ลี่หมินเห็นว่าได้จังหวะพอดีแล้วจึงเดินเข้าไป “ท่านหลัว ได้เวลาแล้ว ฉันว่าพวกเราควรไปประชุมกันก่อนดีไหม?”
หลัวกุ้ยเหยาพยักหน้า เขามองเย่เชินหลินและเซี่ยชีหรั่น แล้วพูดขึ้นด้วยความเป็นห่วง “ฉันก็เป็นแค่คนนอก สิ่งสำคัญที่สุดของทั้งสองคนคือการเปิดใจต่อกัน เปิดใจเข้าใจไหม วันนี้กลับไปคุยกันดีดี เสี่ยวเชี่ยไปกันเถอะ”
หลัวกุ้ยเหยาเดินนำออกไป เซี่ยชีหรั่นเดินผ่านข้างกายเย่เชินหลิน แววตามองเขาด้วยความรู้สึกผิด วันนี้ถูกหลัวกุ้ยเหยาจัดการไปอีกครั้ง
เสื้อผ้าเสียดสีกัน นิ้วเรียวของเซี่ยชีหรั่นถูกเกี่ยวเอาไว้ เย่เชินหลินมองเซี่ยชีหรั่น แล้วกะพริบตาให้หนึ่งที ส่งสายตาเป็นเชิงตลกขบขันให้เธอ
ที่ห้องประชุม หลัวกุ้ยเหยาลากเซี่ยชีหรั่นมาถามด้วยความเป็นห่วง “กลับไปคงไม่ทะเลาะกันหรอกใช่ไหม ฉันได้ข่าวลือมาบางส่วน”
เซี่ยชีหรั่นก้มหน้าหลบสายตาหลัวกุ้ยเหยา แล้วตอบเสียงอ่อน “ฉันไม่อยากจะอาศัยเขาค่ะ ทุกวันนี้มีหลายต่อหลายคนคิดว่าชื่อเสียงที่ฉันมีในตอนนี้ เพราะได้การสนับสนุนจากเขา ความจริงแล้วมันไม่ใช่เลย!”
หลัวกุ้ยเหยาตาเป็นประกาย เห็นท่าทีจึงไม่ถามต่อไป ตอนเย็นหลังจากเลิกประชุม Bakerสะกิดหลังของเซี่ยชีหรั่น กล่าวขอบคุณด้วยความจริงใจ “ขอโทษด้วยนะที่ต้องให้เธอมาเจอกับอะไรแบบนี้ แล้วก็ขอบคุณพวกเธอมาก เย่เชินหลินอยู่ที่ลานจอดรถชั้นใต้ดิน”
เมื่อคิดว่าจะได้เจอกับเย่เชินหลิน เซี่ยชีหรั่นก็มีคำพูดมากมาย เธอรีบเดินไปที่ลานจอดรถด้วยความดีใจ Bakerพลันหยุดฝีเท้า แล้วลากเซี่ยชีหรั่นเลี้ยว ส่งสัญญาณให้เซี่ยชีหรั่นมองไปทางมุมตึก
“แปดแสนแกใช้ไม่กี่วันหมดแล้วเหรอ? บอกแล้วว่าไม่ใช่เหรอว่าอย่าไปเล่นพนัน เงินพวกนี้แกหาทั้งชีวิตก็ไม่ได้!” หลัวกุ้ยเหยาพยายามพูดเสียงเบา ผู้ชายตรงหน้าที่ใส่หมวกเบสบอลหัวเราะด้วยความไม่สลด “ฉันรู้ว่าเงินพวกนี้มันน้อยนิดมากสำหรับนาย แกก็อย่าคิดว่าจะทำกับคนอื่นเหมือนที่ทำกับฉัน ฉันมีหลักฐานแล้ว ถ้าหากฉันไม่ติดต่อคนอื่นภายในสามวัน เดี๋ยวพวกเขาก็เอาหลักฐานไปแจ้งตำรวจ แกลองคิดดูว่าเงินสำคัญหรือคนสำคัญ”
“หึหึ อย่าพูดให้เรื่องมันดูหนักหนานักเลย ที่ฉันไม่ให้แกไปเล่นพนันก็เพราะว่าหวังดีกับแก ฉันจะให้อีกสามแสน ครั้งนี้อย่าเล่นแพ้อีก” หลัวกุ้ยเหยาหยิบกล่องออกมาจากรถ แล้วหยิบธนบัตรจำนวนหนึ่งออกมาจากกล่อง
Bakerตกตะลึง พวกเขาเคยตรวจสอบบัญชีของหลัวกุ้ยเหยามาก่อนแล้ว พบว่าในบัญชีของเขามีเงินเพียงสิบกว่าล้านเท่านั้น และเงินพวกนั้นจะเข้าบัญชีหลังจากจ่ายเงินเดือนแล้ว หรือเขาเก็บเงินสดไว้ที่บ้านทั้งหมด
ชายหนุ่มหยิบเงินแล้วเดินจากไป หลัวกุ้ยเหยารีบมุดเข้ารถ ปิดกระจก แล้วจากไป เซี่ยชีหรั่นอยากจะออกไป แต่มีคนอีกสองคนลงมาจากรถอีกคัน
“ดูท่าจิ้งจอกเฒ่านี้จะมีความอดทนมาก จะรอจนกว่าเขาจะออกโรงคงจะใช้เวลามาก” ไห่ลี่หมินพูด เย่เชินหลินใจพยักหน้าตอบรับอย่างเหม่อลอย ก้มลงมองนาฬิกา คิดว่าเซี่ยชีหรั่นน่าจะมาแล้ว
“ชีหรั่นฉันส่งเธอถึงแค่ตรงนี้นะ” Bakerรีบบอกลา ดูจากปฏิกิริยาของเย่เชินหลินและไห่ลี่หมิน พวกเขาต้องรู้มากกว่าตำรวจอย่างเขาแน่นอน อย่างน้อยก็รู้ส่าคนที่รับเงินนั้นคือใคร เขาต้องรีบกลับไปสืบให้ชัดเจน
เมื่อกลับมาถึงสถานีตำรวจ Bakerหาภาพตัวอย่างที่คล้ายกับผู้ชายคนที่เขาเจอเมื่อเช้า วาดภาพออกมา เสี่ยวเฉินเข้ามาส่งเอกสาร จึงเข้ามาดูใกล้ๆ “นี่เป็นคนร้ายคนไหนอีก? ช่วงนี้ในสถานีตำรวจไม่เห็นมีคนนี้เลย”
Bakerนวดขมับด้วยความปวดหัว ตอบอย่างไม่ได้คิดอะไร “คดีของนามสกุลหลัว”
“ครั้งนี้เบื้องบนได้ให้เงินพวกเราจำนวนถึงหนึ่งล้านในการดำเนินการของโครงการนี้ เงินทุกบาททุกสตางค์ใช้บนความเสี่ยงทั้งนั้น” หลัวกุ้ยเหยานั่งพูดอยู่ที่ประจำตำแหน่ง นักข่าวที่จดบันทึกสิ่งที่เขาพูด
Bakerเหยียดปากด้วยความเหยียดหยาม เงินหนึ่งล้านนี้ได้ใช้จริงๆ ในโครงการเพียงแค่สามแสน ก็ถือว่ามากพอแล้ว ตอนนี้เรื่องที่สำคัญที่สุดคือการหาวิธีเข้าไปในบ้านของหลัวกุ้ยเหยา หาเงินสดและสลิปบัญชีออนไลน์ แล้วก็หาหลักฐานที่เขาฆ่าคนขับรถ บวกกับเงินการช่วยเหลือนานาชาติที่เขาโกงไป ข้อหาเท่านี้ก็สามารถทำให้เขาอยู่ในคุกไปตลอดชีวิตแล้ว
“ท่านหลัว จะถึงวันเกิดคุณแล้ว จะจัดงานเลี้ยงหน่อยไหม?” พี่หลี่นั่งยิ้มอยู่ประจำที่แล้วถามขึ้นมา ไร้ซึ่งท่าทีจงเกลียดจงชังอย่างที่เซี่ยชีหรั่นเห็นที่โรงพยาบาล
“พวกเราต้องบริการประชาชน อย่าทำอะไรสิ้นเปลืองเลย จัดที่บ้านอย่างง่ายๆ ก็พอ ปีนี้เสี่ยวเชี่ยก็มาด้วยกันเลยนะ”
เซี่ยชีหรั่นและBakerกำลังกลุ้มใจคิดวิธีเข้าไปในบ้านหลัวกุ้ยเหยา จึงรีบตอบตกลง เมื่อกลับไปเล่าให้เย่เชินหลินฟัง เขาก็สงสัยขึ้นมา
“คุณว่าฉันจะซื้ออะไรเป็นของขวัญให้เขาดี?” เซี่ยชีหรั่นคิด เย่เชินหลินตอบเสียงเรียบ “ดอกเก๊กฮวย ใกล้ถึงวันเช็งเม้งแล้ว”
เซี่ยชีหรั่นรู้ว่าเย่เชินหลินไม่วางใจที่เธอต้องไปอยู่ใกล้กับหลัวกุ้ยเหยา จึงหัวเราะแล้วตอบกลับ “วางใจเถอะ Bakerก็ไปกับฉันด้วย”
“ไม่ว่าคุณไปไหนผมก็ไม่วางใจทั้งนั้น” เย่เชินหลินกำลังคิดว่าจะแอบอ้างสถานะอะไร ในการไปเข้าร่วมงานเลี้ยงกับเซี่ยชีหรั่นด้วย
วันรุ่งขึ้น ข่าวงานวันเกิดของหลัวกุ้ยเหยาขึ้นพาดข่าวหน้าหนึ่งในหนังสือพิมพ์พ์ทุกสำนักพิมพ์ แม้แต่หนังสือพิมพ์พ์บันเทิงยังมี ทั้งหมดเป็นการชมเชยว่าเขาไม่จัดการใหญ่โตสิ้นเปลือง แค่ทำพิธีตายในบ้าน ชั่วพริบตาผู้ช่วยของหลัวกุ้ยเหยาก็รับสายจนมือระวิง เป็นเหล่านักธุรกิจที่อยากใช้โอกาสนี้ในการเข้าร่วมอวยพรเขาทั้งนั้น
เมื่อมีเหล่าคนเล่นแง่พวกนี้ หลัวกุ้ยเหยาจึงต้องเปิดห้องโถงต้อนรับ กลางคืน เซี่ยชีหรั่นจงใจมาถึงช้ากว่าเย่เชินหลิน หลัวกุ้ยเหยาเห็นเซี่ยชีหรั่น จึงเดินมา
เย่เชินหลินเร็วกว่าก้าวหนึ่ง เขาหยิบแก้วเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในมือของเซี่ยชีหรั่นมาไว้ในมือของตัวเอง แล้วพูดด้วยอารมณ์ดี “อย่าดื่มเหล้า ไม่ดีต่อสุขภาพ”
เซี่ยชีหรั่นแย่งแก้วกลับมาจากมือของเย่เชินหลิน พูดด้วยน้ำเสียงแง่งอน “อย่ามายุ่งกับฉัน ฉันมีอำนาจการตัดสินใจด้วยตัวเอง” พูดจบเธอจงใจดื่มมันลงไปจนหมด
“ตามใจเธอละกัน” เย่เชินหลินเห็นว่าได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการจึงปลีกตัวออกไป พลางส่งสัญญาณให้Bakerคอยประกบอยู่ข้างๆ เซี่ยชีหรั่น
หลัวกุ้ยเหยามองตามหลังของเย่เชินหลิน จากนั้นมองเซี่ยชีหรั่นอย่างครุ่นคิด แล้วพูดกับเธอขึ้นมา “ดูท่าเย่เชินหลินเขาจะใส่ใจคุณมากเลยนะ”
เซี่ยชีหรั่นไม่รู้จะตอบอย่างไรดี จึงดื่มเข้าไปอีกแก้วกลบเกลื่อน แล้วหยิบขึ้นมาอีกแก้ว Bakerเริ่มจัดการไม่ถูก แม้แต่เขาเองก็ไม่รู้ว่าเซี่ยชีหรั่นจะมาไม้ไหน
หลัวกุ้ยเหยาก็คิดว่าเซี่ยชีหรั่นโมโหเย่เชินหลินจนดื่มเข้าไปเยอะขนาดนั้น เขาจึงรีบพูด “ระวังเมาล่ะ”
พูดจบ เซี่ยชีหรั่นก็ยกมือขึ้นมาปิดปาก มองหลัวกุ้ยเหยาด้วยความตกตะลึง ท่าทางเหมือนกำลังจะอ้วกอย่างนั้น “ห้องน้ำไปทางไหนครับ เดี๋ยวผมดูแลเธอเองตอนนี้”
หลัวกุ้ยเหยากำลังลังเล เซี่ยชีหรั่นโค้งตัวไปด้านหน้า ทำท่าเหมือนจะอ้วกเต็มที หลัวกุ้ยเหยาเริ่มไม่พอใจ เขารีบหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาให้เธอด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง นิสัยรักสะอาดของเขาคงทนเห็นเธอมาอ้วกตรงนี้ไม่ได้
“เข้าไปด้านใน เลี้ยวซ้าย ห้องที่สอง” หลัวกุ้ยเหยายอมพูดออกมาเสียที Bakerรีบประคองเซี่ยชีหรั่นเข้าไปในบ้าน ในบ้านของหลัวกุ้ยเหยาเล็กกว่าที่คิดเอาไว้เสียอีก นับได้ว่าเป็นเพียงว่าเป็นบ้านเดี่ยวเท่านั้น เข้ามาในบ้านแม้แต่ไฟ ยังเป็นหลอดไฟแบบเก่า
“โอเค เข้ามาแล้ว ทั้งหมดนี้เธอปรึกษากับเย่เชินหลินไว้เรียบร้อยแล้วใช่ไหม?” Bakerมองไปรอบๆ ชายเสื้อของเขาถูกดึงเอาไว้ เซี่ยชีหรั่นวิ่งปิดปากไปยังห้องน้ำ สักพักก็มีเสียงอ้วกดังออกมาจากด้านใน
ผ่านไปสักพัก เซี่ยชีหรั่นจึงค่อยๆ ลากสังขารของตัวเองออกมาจากห้องน้ำ Bakerได้เริ่มตรวจสอบไปรอบๆ แล้ว “ได้ความคืบหน้าอะไรบ้างไหม?”
Bakerส่ายหน้า บ้านของหลัวกุ้ยเหยาเป็นเพียงบ้านสองชั้น เนื้อที่โดยรวมไม่น่าจะถึง 100 ตารางเมตร ไม่แม้แต่มีการตกแต่งใดๆ มีเพียงวางโชว์เครื่องเซรามิคเล็กน้อย ถ้าหากไม่รู้จักกัน คงคิดว่าบ้านนี้เป็นของข้าราชการอย่างแน่นอน
ทั้งสองมองไปยังชั้นสอง เงินทั้งหมดเป็นไปได้ที่จะอยู่บนนั้น? ประตูถูกเปิดขึ้นมา เซี่ยชีหรั่นรีบวิ่งเข้าไปในห้องน้ำ
“เป็นยังไงบ้าง?” หลัวกุ้ยเหยาถาม Bakerส่ายหน้า “ยังอ้วกอยู่เลย เดินออกไปไหนไม่ได้เลย ท่านหลัวที่นี่พอจะมีห้องไหม? ให้เสี่ยวเชี่ยได้นอนพักหน่อย”
หลัวกุ้ยเหยาตอบรับไวอย่างเหนือความคาดหมาย Bakerพาเซี่ยชีหรั่นเดินตามหลัวกุ้ยเหยาขึ้นไปบนชั้นสอง ด้านบน เมื่อเย่เชินหลินเห็นว่าไฟของห้องชั้นบนสว่างขึ้น พร้อมกับเงาของคนทั้งสามปรากฏขึ้น ไห่ลี่หมินที่อยู่ข้างๆ พูดขึ้น “วางใจเถอะ อย่างน้อยเขาก็เป็นตำรวจ แถมเป็นตำรวจที่เก่งมากๆ ด้วย ปกป้องคนคนเดียวคงไม่มีปัญหาอะไร”
เย่เชินหลินพยายามสะกดความไม่สบายใจไว้ภายใน ทำสีหน้าให้ดูปกติที่สุด เพียงแต่มือของเขาที่ถือแก้วเหล้าบีบแน่นขึ้นเท่านั้น อีกมุมหนึ่ง ซือซือคอยมองเย่เชินหลิน เธอรู้สึกเจ็บปวดจนทนไม่ได้ ไห่ลี่หมินส่ายหัวไปมา มองเห็นร่างที่อยู่ในชุดแดงนั้นหายไปกับความมืด เขาหันกลับมาอย่างไม่ได้สนใจอะไร
เมื่อจัดการเซี่ยชีหรั่นจนเรียบร้อย หลัวกุ้ยเหยาก็เดินจากไปทันที Bakerพูดกับเซี่ยชีหรั่น “เธอพักผ่อน เดี๋ยวฉันไปสังเกตการณ์เสียหน่อย เดี๋ยวก็กลับมา”
เซี่ยชีหรั่นพยักไฟแล้วเดินออกไปจากห้องอย่างเงียบเชียบ เมื่อเซี่ยชีหรั่นชินกับความมืด เธอก็ค่อยๆ ลุกขึ้นมาจากเตียง กลิ่นความชื้นในห้องนี้เห็นได้ชัดว่าไม่มีคนอาศัยมานาน
ในห้องมีของเล่นเด็กวางระเกะระกะเต็มไปหมด ยังมีโล่รางวัล เซี่ยชีหรั่นเดาว่าเป็นห้องของลูกสาวของหลัวกุ้ยเหยาในเมื่อก่อนอย่างแน่นอน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset