สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 1343 หญิงรับใช้ของคุณชายเย่1243

เย่เชินหลินหันมาผลักเซี่ยชีหรั่นล้มลงไปด้านข้าง เซี่ยชีหรั่นมองหมาป่าที่อยู่ห่างเย่เชินหลินเพียงหนึ่งช่วงแขนด้วยความตกใจสุดขีด “หมาบ้า! นั่งลง!” เสียงใสดังขึ้น
เด็กผู้หญิงที่รวบหางม้า ใบหน้าแดงระเรื่อ ใส่ชุดลายดอกที่ไม่พอดีตัวเดินมาตรงหน้าเย่เชินหลิน มองเย่เชินหลินที่กำลังตกใจอยู่ แล้วรีบหันกลับไปดุหมาป่าตัวนั้น
“ลู่ลู่?” เย่เชินหลินนึกถึงเด็กคนนั้นที่ชอบแต่งตัวโป๊เปลือยอยู่บนเรือ แต่ไม่คิดว่าจะเจอหล่อนที่นี่
“เย่เชินหลิน ไม่คิดเลยว่าฉันจะได้เจอคุณอีก ดูท่าเราจะมีพรหมลิขิต” ลู่ลู่พูดอย่างอมยิ้ม
“ฉันด้วย” เซี่ยชีหรั่นใส่เสื้อผ้าสีดำ ทำให้เมื่อสักครู่ลู่ลู่ไม่ทันได้สังเกตเห็น เซี่ยชีหรั่นได้เจอลู่ลู่ก็ดีใจมาก
ในบ้านสวน เซี่ยชีหรั่นมองไปรอบๆบ้านที่ออกแบบด้วยวัฒนธรรมจีนอย่างเข้มข้นนี้ แล้วถามขึ้น “บอบอและไออ้วนล่ะ?” ลู่ลู่ส่ายหน้า “ฉันก็ไม่รู้ หลังจากที่เรื่องนั้นจบลง พวกเราก็แยกย้าย ฉันชอบประเทศจีน ก็เลยมาที่นี่ ตอนนี้ถึงแม้ว่าที่อยู่อาศัยและอาหารการกินจะแย่ไปหน่อย แต่ก็พออยู่ได้ สงบดี”
ลู่ลู่ตอบกลับเป็นภาษาอังกฤษด้วยความรวดเร็ว เซี่ยชีหรั่นสังเกตว่ามีผู้ชายที่นั่งอยู่ข้างๆเอาแต่ยิ้มอ่อนๆ ชายหนุ่มท่าทางดูเป็นคนซื่อๆ ลู่ลู่หันไปพูดสลับกันสองภาษากับเขา
เซี่ยชีหรั่นมองดูมือที่เคยเรียวสวยของลู่ลู่นั้น หยิบให้อาหารไก่ด้วยความคล่องแคล่ว มีเพียงชายหนุ่มที่คอยนั่งอยู่เป็นเพื่อนเธอและเย่เชินหลินด้วยสีหน้าเขินอาย เธอนั่งดูจนเหม่อลอยไป
มือถูกจับเอาไว้ เซี่ยชีหรั่นหันกลับมามอง เย่เชินหลินมองเธอแล้วถามขึ้น “คิดอะไรอยู่เหรอ?”
เซี่ยชีหรั่นส่ายหน้าแล้วตอบกลับ “ถ้าหากวันหนึ่งคุณพบว่าฉันโกหกคุณเพราะเรื่องบางเรื่อง คุณจะโกรธฉันไหม?”
เย่เชินหลินพยักหน้า เซี่ยชีหรั่นใจเย็นวาบ เย่เชินหลินเคาะที่หัวของเซี่ยชีหรั่นสองสามที แล้วพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ “มีทั้งเนี่ยนโม่กับชูฉิงแล้ว ในหัวคุณยังมีความคิดเรื่องแปลกๆอยู่เหรอ”
เซี่ยชีหรั่นฝืนยิ้มแล้วหันหน้าหลบสายตา หวังว่าเรื่องนี้จะผ่านไปเร็วๆ ฟ้าสางของวันรุ่งขึ้น หมาป่าเห่ากรรโชกอีกครั้ง
ลู่ลู่ส่งเซี่ยชีหรั่นและเย่เชินหลินกลับไปที่ถนนใหญ่ข้างแปลงนา เซี่ยชีหรั่นรู้ว่าเธอจะไม่ได้เจอหญิงสาวต่างชาติคนนี้อีก จึงจับมือของลู่ลู่ขึ้นมา แล้วพูดขึ้น “ถ้ามีเรื่องอะไรก็มาหาพวกเราได้”
ลู่ลู่ยิ้มแล้วพยักหน้า ที่ด้านหลังแปลงนามีชายหนุ่มหนึ่งคนแอบยืนรอลู่ลู่อยู่ พวกเขาต่างสัญชาติ ต่างประสบการณ์ ต่างภาษา ลู่ลู่โบกมือให้กับเซี่ยชีหรั่นและเย่เชินหลิน แล้วเดินไปหาชายหนุ่มที่รออยู่ด้านหลัง
เซี่ยชีหรั่นและเย่เชินหลินค่อยๆเดินกลับไปที่รถ ด้านหน้ามีรถมาเซลาติขับมุ่งมาด้วยความเร็ว แล้วรถก็จอดลงอย่างกะทันหัน ไห่ลี่หมินรีบลงมาจากรถแล้วพูดขึ้น “ฉันเกือบจะไปแจ้งตำรวจให้ตำรวจไปควานหาพวกนายแล้ว”
“ฉันเองนี่ไงตำรวจ” Bakerลงมาจากรถ ทั้งสองขับกันไปจนถึงในเมืองแล้ว เพิ่งค้นพบว่าเย่เชินหลินและเซี่ยชีหรั่นไม่ได้ตามมา โทรศัพท์ติดต่อไม่ได้ จึงทำได้เพียงขับกลับมาจากในเมืองอีกครั้ง
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น Bakerรับสาย พูดไม่กี่ประโยคแล้วก็วางสายไป หันกลับมาพูดกับทุกคน “หลัวกุ้ยเหยาถูกตัดสินแล้ว ถูกขังตลอดชีวิต แต่ก็ยังไม่บอกว่าใครเป็นภรรยาลับ”
หลัวกุ้ยเหยาเป็นคนเจ้าเล่ห์ที่ยอมให้ทุกคนตายเสียหมด ก็ไม่ยอมสารภาพ ทำให้เย่เชินหลินยิ่งรู้สึกสนใจในภรรยาลับของหลัวกุ้ยเหยามากขึ้น
“สามารถต่อกรกับบริษัทเย่ซื่อได้ขนาดนี้ ที่ยอมเป็นภรรยาลับเพื่อที่จะโค่นบริษัทเย่ซื่อเป็นใครกันนะ?” ไห่ลี่หมินที่อยู่ข้างๆคิดวิเคราะห์ เซี่ยชีหรั่นถอนหายใจออกมา ดูท่าหากเธอยังต้องการช่วยซือซือปิดบังเรื่องนี้ คงจะต้องใช้วิธีอื่นแล้ว
เรื่องของหลัวกุ้ยเหยาแพร่สะพัดไปทั่ว บริษัทของเย่เชินหลินมีตำรวจและกลุ่มสื่อมวลชนคอยสนับสนุน จึงรอดพ้นวิกฤตมาได้
เย่เชินหลินปิดผลการรายงานลง จางเฟิงอี้เปิดประตูเข้ามา พูดด้วยน้ำเสียงสุขุม “คุณผู้หญิงถูกรอบทำร้ายครับ”
ในโรงพยาบาล เซี่ยชีหรั่นมีผ้าก็อตพันอยู่บนหัว แล้วหันไปกล่าวขอบคุณกับพยาบาลที่ทำแผลให้เธอ ประตูถูกเปิดเข้ามา เย่เชินหลินรีบเดินเข้ามาหาเซี่ยชีหรั่น
คุณหมอเคยเห็นเย่เชินหลินในโทรทัศน์มาก่อน จึงรีบพูดขึ้นก่อน “บาดเจ็บที่หน้าผาก ใช้เข็มศัลยกรรมเย็บไปสองเข็มครับ ไม่ทิ้งรอยแผลแน่นอน”
เย่เชินหลินพยักหน้า คุณหมอออกไปจากห้องและปิดประตูให้อย่างรู้หน้าที่ เซี่ยชีหรั่นรีบพูดขึ้น “ที่หน้าบ้านเด็กกำพร้า ฉันมองไม่เห็นหน้า แต่ว่าฉันได้กลิ่นน้ำหอม เป็นผู้หญิงแน่นอน”
เย่เชินหลินลูบที่หัวของเซี่ยชีหรั่นด้วยความอ่อนโยน แล้วพูดขึ้น “เดี๋ยวผมจัดการทุกอย่างเอง คุณพักผ่อนเถอะ” เซี่ยชีหรั่นพยักหน้า แล้วหลับตาลงด้วยความเหนื่อยล้า
เย่เชินหลินเดินมุ่งไปทางบ้านเด็กกำพร้า ที่หน้าประตูมีกล้องวงจรปิดอยู่ แต่ถ่ายไม่ติดอะไรทั้งนั้น เย่เชินหลินมองไปรอบๆด้วยความรู้สึกแปลกประหลาด ที่นี่ไม่มีสิ่งปิดบัง ถ้าเป็นผู้หญิงคนหนึ่ง แล้วจะทำร้ายชีหรั่นแล้ววิ่งหนีไปอย่างรวดเร็วได้อย่างไร?
นี่เป็นข้อผิดพลาดที่ใหญ่มาก เย่เชินหลินยิ้มแล้วส่ายหัว เซี่ยชีหรั่นจะโกหกได้อย่างไร เขาสลัดความคิดนั้นออกจากหัว เย่เชินหลินจึงจะขับรถออกมาจากที่นั่น
ยังไม่ทันไปถึงโรงพยาบาล เย่เชินหลินก็ถูกฝูงนักข่าวล้อมเอาไว้เสียก่อน “ได้ข่าวว่าคุณเซี่ยถูกทำร้ายร่างกาย เล่าได้ไหมระว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น? เกี่ยวข้องกับเรื่องที่หลัวกุ้ยเหยาเข้าคุกในช่วงก่อนหน้านี้ไหม ได้ข่าวว่าที่หุ้นของบริษัทเย่ซื่อผันผวนเป็นฝีมือของหลัวกุ้ยเหยา พวกคุณมีความแค้นอะไรต่อกันรึเปล่าคะ?”
“ขอโทษครับ ที่นี่โรงพยาบาล ขอความกรุณาอย่ารบกวนผู้ป่วยท่านอื่นครับ” เย่เชินหลินพูดกับนักข่าว และรปภ.ของโรงพยาบาลรีบเข้ามาช่วยเขาคลี่คลายสถานการณ์ด้วยความรวดเร็ว
เย่เชินหลินรีบเดินไปยังห้อ.พักผู้ป่วยของเซี่ยชีหรั่น เมื่อเห็นว่าด้านนอกห้องไม่มีนักข่าวล้อมอยู่ เขาก็รู้สึกโล่งใจ เปิดประตูเข้าไปเห็นเซี่ยชีหรั่นที่กำลังนอนหลับสนิท เย่เชินหลินจึงปิดประตูลงเบาๆ แล้วโทรออกหาจางเฟิงอี้ “ไปสืบมาหน่อยว่าทำไมนักข่าวรู้เรื่องเร็วขนาดนี้ แล้วก็ส่งบอดี้การ์ดมาที่โรงพยาบาลด้วยจำนวนหนึ่ง ชีหรั่นคงต้องอยู่ที่นี่สักพัก”
เมื่อเปิดประตูเข้ามาอีกครั้ง เซี่ยชีหรั่นตื่นแล้ว เธอเห็นสีหน้าที่ไม่ดีนักของเย่เชินหลิน จึงถามขึ้นด้วยความห่วงใย “อะไรเหรอ?”
เย่เชินหลินส่ายหน้า นั่งลงข้างๆเซี่ยชีหรั่น แล้วถามขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “รู้สึกดีขึ้นมาหน่อยมั้ย?” เซี่ยชีหรั่นส่ายหน้าแล้วตอบกลับ “ยังรู้สึกมึนหัวอยู่เลย”
เย่เชินหลินเครียด ไม่นานผู้อำนวยการโรงพยาบาลก็พาหมอจำนวนหนึ่งเข้ามา “เธอบอกว่ายังปวดหัวอยู่นิดหน่อยครับ” เย่เชินหลินพูดขึ้น ผู้อำนวยการลงมือตรวจให้เซี่ยชีหรั่นเองกับมือ ตรวจอยู่สักพัก แล้วจึงพูดขึ้น “ตอนนี้ยังไม่มีอะไรผิดปกตินะครับ สามารถคอยสังเกตได้หลังจากกลับบ้านแล้ว”
“พักที่โรงพยาบาล” เย่เชินหลินพูดอย่างสั้นกระชับได้ใจความ ผู้อำนวยการกล่าว “ไม่ต้องพักที่โรงพยาบาลครับ ตอนนี้อาการของเธอฟื้นฟูได้ดีครับ”
“พักที่โรงพยาบาล” เย่เชินหลินพูดซ้ำ ในขณะที่ยังจับตัวคนที่ทำร้ายร่างกายของเซี่ยชีหรั่นไม่ได้ ไม่อยากให้เซี่ยชีหรั่นออกไปด้านนอกเป็นเป้าสายตา การอยู่ที่โรงพยาบาลดีที่สุด
และตอนนี้ด้านนอกมีนักข่าวมากมาย ถ้าหากต้องการปกป้องเซี่ยชีหรั่น สภาพแวดล้อมที่โรงพยาบาลดีที่สุด อย่างน้อยพวกนักข่าวที่คอยเจาะไปทุกที่นั้นยังไม่กล้าเสี่ยงที่จะถูกสังคมประนามว่าไม่รักษากฎของโรงพยาบาล
ผู้อำนวยการส่งสายตาให้พยาบาล แล้วพูดอย่างยิ้มๆ “ถึงแม้ว่านี่เป็นข้อแนะนำของคุณหมอ แต่ถ้าผู้ป่วยมีความต้องการ พวกเราก็สามารถทำตามความต้องการได้ครับ”
ผู้อำนวยการพากลุ่มหมอเดินจากไป เย่เชินหลินลูบเส้นผมของเซี่ยชีหรั่น แล้วพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ดูอาการก่อนสักพักดีไหม?”
เซี่ยชีหรั่นพยักหน้าอย่างว่าง่าย อยู่ๆเธอก็พูดขึ้นมา “ขอโทษนะ” เย่เชินหลินหุบยิ้ม คิดว่าเป็นเพราะเซี่ยชีหรั่นทำให้เขาเป็นห่วง จึงทำหน้าดุ แล้วตอบกลับ “ขอคิดดูก่อนว่าจะให้อภัยได้ไหม”
เซี่ยชีหรั่นหัวเราะร่าออกมา เธอเปิดผ้าห่มออก แล้วพูดกับเย่เชินหลิน “จะเข้ามานอนสักพักไหม” เย่เชินหลินรู้สึกเหนื่อยจริงๆ และดูเหมือนเซี่ยชีหรั่นจะเป็นแรงที่ทำให้เขาฟื้นกลับมาได้อีกครั้ง
เย่เชินหลินดึงผ้าห่มออก กอดเซี่ยชีหรั่นเอาไว้ ให้อีกฝ่ายหนุนอยู่ที่หน้าอกตัวเอง เมื่อเซี่ยชีหรั่นทำท่าจะดิ้น เขาก็ยิ่งกอดแน่นขึ้น
“นอน”
“คุณเซี่ยไม่เคยออกจากห้องเลย และไม่มีนักข่าวมารบกวน” เย่เชินหลินวางสาย
หลังจากฟังคนจากโรงพยาบาลโทรมารายงาน
บนหน้าหนังสือพิมพ์ก็ไม่ได้มีข่าวอะไร เหมือนกับละครวุ่นวาย ฝูงนักข่าวมาวุ่นวายที่โรงพยาบาล แล้วก็ถอยกลับไปด้วยความรวดเร็ว ในหนังสือพิมพ์และเว็บไซต์ก็มีแต่รายงานเรื่องไร้สาระ แต่ว่ามีชาวเน็ตคนหนึ่งเขียนความคิดเห็นได้อย่างร้อนแรงมาก
เย่เชินหลินสังเกตเห็น คนหนึ่งที่ชื่อ “อูฐน้อย” เหมือนว่าตัวเองรู้เรื่องเหตุการณ์มาก แถมยังเล่ารายละเอียดมากมายในเว็บไซต์ พูดถึงแม้แต่เซี่ยชีหรั่นเกิดเรื่องที่โรงพยาบาลอะไร มีแผลตรงไหน ถึงแม้ว่าจะมีผิดบางจุด แต่ก็พูดถูกจนเกือบหมด
เย่เชินหลินสงสัย จึงสมัครขึ้นมาหนึ่งบัญชี
“ทำไมต้องเพิ่มฉันด้วย อยากรู้ว่าเรื่องของเย่เชินหลินของหลัวกุ้ยเหยาหรือไม่”
เย่เชินหลินสนใจในข้อความที่เธอเขียนออกมาอย่างบ้าคลั่งนั้น สามารถกล่าวเชื่อมโยงได้ถึงสามคนในคดี ถ้าจะบอกว่าเดา ก็คงเชื่อได้ยาก
“แล้วคุณรู้เรื่องอะไรของเย่เชินหลินบ้าง?” เย่เชินหลินถามด้วยความรู้สึกสนใจ
“เย่เชินหลิน? เขามีลูกสองคน คนหนึ่งชื่อเย่ชูฉิง อีกคนชื่อเย่เนี่ยนโม่” เย่เชินหลินดูตัวหนังสือที่ค่อยพิมออกมาทีละตัว พลันคิดว่าอีกฝ่ายก็ทำการบ้านมาหนังเหมือนกัน
“ใช่แล้ว เขายังมีบูกชายอีกคนหนึ่งชื่อตูตู แต่เสียไปตั้งนานแล้ว” ตัวหนังสือสีดำนั้นเหมือนกับระเบิดที่ปะทุในตาของเย่เชินหลิน
รู้จักเย่ชูฉิงและเย่เนี่ยนโม่ยังถือว่าไม่แปลก ถึงแม้ว่าเขาจะปกป้องพวกเขา แต่ก็ไม่ได้ปิดบังต่อสาธารณะถึงตัวตนของลูกสองคนนี้ แต่ตูตู คนที่รู้เรื่องนี้ในตอนนั้นน้อยมาก คนๆนี้รู้เรื่องได้อย่างไร?
“ฉันพูดถูกใช่ไหม?”
“อืม ใช่”
เย่เชินหลินอยากจะถามต่อ แต่รูปของอีกฝ่ายมืดลงอย่างรวดเร็ว กลับมาถึงที่โรงพยาบาล บอดี้การ์ดที่เฝ้าอยู่หน้าประตูพยักหน้าให้เย่เชินหลิน
เย่เชินหลินเข้าไปในห้องผู้ป่วย ในห้องกำลังเปิดเครื่องทำความชื้นอยู่ เซี่ยชีหรั่นนอนหลับสบาย คอมพิวเตอร์วางเอียงๆอยู่ข้างหัวนอน
“ไม่กลัวคลื่นรังสีเลย” เย่เชินหลินพูดขึ้นมาเบาๆ แล้วยกคอมพิวเตอร์ไปวางไว้บนโต๊ะ ช่วยห่มผ้าให้เซี่ยชีหรั่น พรมจูบลงที่เธอ เสียงโทรพลันดังขึ้นมา เสียงของไห่ลี่หมินดูเหนื่อยล้า “เชินหลิน ช่วงนี้ฉันคงต้องออกไปสักพักหนึ่ง หมอจิตเวชของโจ๋ซวน บอกว่าให้พาโจ๋ซวนออกไปเที่ยวพักผ่อนเสียหน่อย ฉันคิดว่าจะทำตามที่หมอบอก”

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset