สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 1344 หญิงรับใช้ของคุณชายเย่1244

“เดินทางปลอดภัยนะ” เย่เชินหลินพูดเสียงเรียบนิ่ง ไห่ลี่หมินยิ้ม “ถึงแม้จะเป็นการไปเที่ยว แต่นายก็น่าจะมีคำพูดมากกว่านี้เสียหน่อยซักสองสามประโยคสิ เดี๋ยวฉันก็กลับมาแล้ว ดูแลชีหรั่นดีดีล่ะ”
ไห่ลี่หมินวางสาย เย่เชินหลินก็คิดว่าหรือเขาควรจะพาเซี่ยชีหรั่นไปเที่ยวผ่อนคลายเหมือนกัน เมื่อเปิดคอมพิวเตอร์ของเซี่ยชีหรั่นขึ้น หน้าจอก็ขึ้นให้ใส่รหัส
เย่เชินหลินหันมามองเซี่ยชีหรั่น แล้วพับคอมพิวเตอร์ วางกลับที่เดิม ทุกคนล้วนมีความลับที่ต้องการจะรักษากันทั้งนั้น ในห้องพักผู้ป่วยของเซี่ยชีหรั่น มีเพียงเย่เชินหลินที่เข้ามา ดังนั้นคงจะเป็นความลับที่ไม่ต้องการให้เย่เชินหลินรู้
เขาพรมจูบลงที่หน้าผากของเซี่ยชีหรั่น เย่เชินหลินกอดเซี่ยชีหรั่นเอาไว้แน่น บางเรื่องเขาก็ไม่ไปถาม ไม่ไปสืบ ขอแค่ผู้หญิงคนนี้มีความสุขก็เพียงพอแล้ว
วันรุ่งขึ้น แทบจะเป็นเวลาเดียวกัน เย่เชินหลินเปิดหน้าเว็บไซต์ขึ้นมา แล้วช่องการสนทนาก็เด้งขึ้นมาในเวลาเดียวกัน
“คุณอยากรู้อะไรอีก?” มีตัวหนังสือบรรทัดหนึ่งปรากฎขึ้นที่หน้าจอ
“คนที่ทิ้งข้อความไว้ให้คุณคงเยอะมากสินะ ทำไมต้องเลือกที่จะเป็นฉัน” เย่เชินหลินกดเข้าไปดูที่หน้าเว็บไซต์ แล้วพบว่าคนที่ใช้ชื่ออูฐน้อยนี้มีคนส่งข้อความทิ้งไว้ให้เยอะมาก ภายในวันเดียวมีข้อความที่ต้องเปิดตั้งหลายหน้า
“เพราะคนส่วนมากถามถึงว่าหาสมบัติร้อยล้านของหลัวกุ้ยเหยาเจอแล้วใช่ไหม มีเพียงคุณที่ถามถึงเย่เชินหลินเป็นอย่างแรก” อีกฝ่ายตอบกลับมาอย่างรวดเร็ว เย่เชินหลินขำไม่ออก ตรรกะของอีกฝ่ายดูแปลกๆ
“คุณคือใคร?” เย่เชินหลินพิมพ์ตอบกลับไปแบบไม่ได้คิดอะไร แต่คำตอบที่ได้กลับมาทำเอาเย่เชินหลินขมวดคิ้วแน่น
“ฉันคือภรรยาลับของหลัวกุ้ยเหยา”
“อ้าว แล้วฉันจะเชื่อคุณได้อย่างไร?” เย่เชินหลินกล่าว อารมณ์ดูเคร่งขรึมลง ถ้าผู้หญิงคนนี้ไม่ได้ล้อเขาเล่น นี่ก็คงจะเป็นอุบัติเหตุหรือเรื่องบังเอิญ
อย่างไรซะก็เป็นตัวเองที่เข้าไปคุยกับอีกฝ่ายก่อน อีกฝ่ายจะมีโอกาสที่จะรู้ว่าเขาคือเย่เชินหลินนั้นน้อยมาก “เซี่ยชีหรั่น อยู่ที่โรงพยาบาลเซิ่งกวาง ห้อง 301 และฉันรู้ว่าคุณคือเย่เชินหลิน”
คำพูดของอีกฝ่ายทำให้เย่เชินหลินสัมผัสได้ ว่าอีกฝ่ายรู้จักตนเองเป็นอย่างดี แต่ตัวเองกลับรู้จักอีกฝ่ายแค่เพียงชื่อบัญชี การตกอยู่ในสถานการณ์ถูกรุกแบบนี้ ทำให้เย่เชินหลินรู้สึกไม่พอใจ
“คุณต้องการอะไร?” เย่เชินหลินถาม
“เรื่องของเซี่ยชีหรั่นเป็นการตักดเตือนเท่านั้น อย่าคิดจะตามหาฉันอีก แล้วหล่อนจะไม่เป็นอะไร ฉันเป็นเพียงแค่ภรรยาลับของหลัวกุ้ยเหยาเท่านั้น” อีกฝ่ายหนึ่งพิมพ์ข้อความทิ้งเอาไว้ แล้วออฟไลน์ รูปของเธอมืดลงเป็นสีเทาอย่างรวดเร็ว
เมื่อเย่เชินหลินเลิกงาน แล้วไปที่โรงพยาบาล เซี่ยชีหรั่นกำลังอ่านหนังสืออยู่ เย่เชินหลินเข้าไปชื่อหนังสือที่เธออ่าน ยิ้มแล้วพูดขึ้น “นิยายสืบสวน?”
เซี่ยชีหรั่นรีบแอบหนังสือด้วยความรู้สึกไม่ดีสักเท่าไหร่ แล้วพูดกับเย่เชินหลิน “ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง?”
เย่เชินหลินไม่คิดจะบอกเซี่ยชีหรั่นเรื่องที่เขาเจอภรรยาลับของหลัวกุ้ยเหยา ตราบใดที่เซี่ยชีหรั่นยังอยู่ที่โรงพยาบาล คนคนนั้นไม่มีโอกาสได้เข้ามาทำร้ายเธออย่างแน่นอน
“คุณพักผ่อนเถอะ เดี๋ยวผมจัดการเรื่องนี้เอง” เย่เชินหลินจูบเซี่ยชีหรั่น เซี่ยชีหรั่นจึงรุกจูบตอบ
จนกระทั่งเซี่ยชีหรั่นหลับไป เย่เชินหลินจึงค่อยโทรออกหาBaker เล่าเหตุการณ์ให้Bakerอย่างสั้นกระชับ
“ที่นายเล่าทั้งหมดเป็นการโต้ตอบบนเว็บไซต์ จากข้อกฏหมายในตอนนี้ยังไม่สามารถตั้งคดีจากข้อความบนเว็บไซต์ได้” Bakerพูดในโทรศัพท์
เย่เชินหลินตอบ “ฉันรู้ ที่ฉันจะให้นายทำก็คือ อยากให้นายขอแรงของทั้งระบบไปตรวจสอบที่อยู่IPของข้อความนั้นหน่อย”
“ตัวฉันเองยินดีที่จะช่วย แต่ว่าถ้าไม่มีเหตุผลที่เพียงพอ ฉันก็ไม่กล้าไปสั่งให้แผนกอื่นมาร่วมมือ แน่นอนพวกเราทำแบบนี้ได้…” Bakerที่อยู่ปลายสายพูดให้เย่เชินหลินฟังอยู่สักพัก
วันรุ่งขึ้น ทุกเว็บไซต์บนโลกออนไลน์ต่างปรากฏIDที่ใช้ชื่ออูฐน้อย IDนี้ได้เผยแพร่ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับหลัวกุ้ยเหยาอย่างตามใจ
“อย่างนี้ฉันก็มีเหตุผลที่ว่าเธอแพร่ข่าวไม่ดีของคนอื่น ในการตรวจสอบเธอแล้วสิ รอข่าวจากฉันนะ” Bakerวางสาย
“ได้ข่าวแล้วเหรอ?” เซี่ยชีหรั่นถาม เย่เชินหลินพยักหน้า “คุณรักษาตัวเองให้หายดี ไม่ต้องห่วงเรื่องพวกนี้”
“คุณรู้ดีว่าฉันไม่เป็นอะไรแล้ว” เซี่ยชีหรั่นพูดอย่างติดตลก เธอตัดไหมตั้งแต่สองวันก่อนแล้ว แต่เย่เชินหลินยังหาเหตุผลมากมายให้เธออยู่ที่โรงพยาบาลต่อ
“ฉันอยากออกจากโรงพยาบาลแล้ว” เซี่ยชีหรั่นพูดขึ้น
“ไม่ได้” เย่เชินหลินเสียงดังขึ้นทันที ต่อให้ถูกบังคับเขาก็ยังยืนยันที่จะให้เซี่ยชีหรั่นอยู่ที่โรงพยาบาลต่อ เซี่ยชีหรั่นก้มหน้าเดินกลับห้องไปอย่างไม่พูดจา
“ชีหรั่น” เย่เชินหลินคว้าจับข้อมือของเซี่ยชีหรั่นเอาไว้ แล้วลากเธอเข้ามา เซี่ยชีหรั่นขอบตาแดงก่ำ เย่เชินหลินจึงบอกกับเธอ “รออีกสักหน่อย รอผมตรวจสอบอีกครั้งว่าไม่เป็นอะไรแล้วค่อยกลับบ้านดีไหม?”
เซี่ยชีหรั่นเริ่มขัดขืน ยิ่งทำให้เย่เชินหลินอยากจะจับภรรยาลับของหลัวกุ้ยเหยาได้ไวๆ เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เสียงของBakerดังขึ้นจากปลายสาย “ดูท่าจะเป็นมือดี ที่อยู่ของIPเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ถ้าไม่เก่งพอก็คงทำแบบนี้ไม่ได้ มีครั้งหนึ่งอยู่ดีดีก็ไปอยู่ที่ลอสแองเจลิส”
ตัวตนของภรรยาลับของหลัวกุ้ยเหยาคนนี้ยิ่งตามจับยิ่งหาตัวยาก เย่เชินหลินทำงานจนดึก เมื่อมาถึงโรงพยาบาลก็ต้องไล่นักข่าวที่รออยู่สองสามคนให้ออกไป กว่าเขาจะมาถึงห้องพักผู้ป่วยได้
บอดี้การ์ดนั่งหลับอยู่ข้างๆ เย่เชินหลินผลักที่ไหล่ของบอดี้การ์ดคนนั้นด้วยสีหน้าเคร่งขรึม บอดี้การ์ดรีบตั้งการ์ด เกือบต่อยเข้าถูกท้องส่วนที่อ่อนแอที่สุด เย่เชินหลินถอยหลังหนึ่งก้าว แล้วคว้ามือของบอดี้การ์ดเอาไว้ก่อน
“หวังว่านายจะฉับไวได้อย่างเมื่อกี้ให้ได้ตลอดนะ” ปล่อยข้อมือของบอดี้การ์ด เย่เชินหลินผลักประตูเข้าไป แต่ก็ออกมาอย่างรวดเร็ว “ชีหรั่นล่ะ?”
“คุณเซี่ย? ไม่ได้อยู่ในห้องตลอดหรอกเหรอ?” บอดี้การ์ดพูดอย่างหน้าชา
เย่เชินหลินเปิดประตูออก ในห้องไม่มีแม้แต่เงาของเซี่ยชีหรั่น ผ้าปูยับยุ่งเหยิง ดูแล้วเหมือนเธอถูกพรตัวออกไปอย่างกะทันหัน
“ประธานเย่ครับ ผม…” บอดี้การ์ดคนนั้นเหงื่อตก เขาจำไม่ได้เลยว่าเซี่ยชีหรั่นได้ออกไปหรือไม่ รู้แค่เพียงว่าอยู่ดีดีก็รู้สึกง่วง แล้วก็หลับไปตื่นหนึ่ง แล้วเย่เชินหลินก็มาปลุกให้เขาตื่น
เย่เชินหลินมองบอดี้การ์ดทีหนึ่ง แล้วก็โทรออกหาจางเฟิงอี้ “อย่าทำให้คนอื่นแตกตื่น จนกลายเป็นข่าวหน้าหนึ่ง”
เย่เชินหลินสั่งการด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง แต่ในใจร้อนรนจนแทบคลั่ง อยู่ที่โรงพยาบาล มีคนคอยเฝ้า แล้วยังพาตัวเซี่ยชีหรั่นไปได้อีก ผู้หญิงคนนี้ไม่ง่ายเลยจริงๆ
จางเฟิงอี้พยักหน้า แล้วพาคนไปตรวจสอบทั่วทั้งโรงพยาบาลด้วยความระมัดระวัง เย่เชินหลินดูกล้องวงจรปิดตรงทางเดินอย่างตั้งใจ เมื่อใกล้กับจังหวะ ไฟของกล้องวงจรปิดก็มืดลง
ในหัวมีความคิดผุดขึ้นมามากมาย เย่เชินหลินนั่งลงบนโซฟาในห้อง สีหน้าเคร่งเครียด ถ้าหากไม่ตั้งใจสังเกต จะไม่เห็นว่านิ้วคู่นั้นที่คีบบุหรี่อยู่กำลังสั่นเทา แม้แต่ขี้เถ้าจากบุหรี่ตกลงบนหลังมือ เขายังไม่รู้สึกตัว
“หาเจอแล้ว อยู่ดาดฟ้า” จางเฟิงอี้เพิ่งจะพูดจบ เย่เชินหลินก็ได้ออกไปแล้ว เซี่ยชีหรั่นนอนอย่างสนิทอยู่ตรงที่กั้นบนดาดฟ้า
เย่เชินหลินรีบอุ้มเซี่ยชีหรั่นวิ่งมุ่งไปทางห้องพักผู้ป่วย ผู้อำนวยการได้พากลุ่มมายืนรอที่ข้างเตียงตั้งแต่แรก จากนั้นตรวจอาการให้เซี่ยชีหรั่นด้วยความรวดเร็ว
“ไม่เป็นอะไร แค่หลับไป” คุณถือประวัติการรักษาพลางพูดกับเย่เชินหลิน เย่เชินหลินมองใบหน้าของเซี่ยชีหรั่นที่กำลังนอนหลับสนิท จึงเข้าไปพรมจูบเบาๆ
ที่ขาของเขาเตะไปถูกของที่กีดขวางอยู่ เย่เชินหลินหยิบขึ้นมาดูหน้าปก เป็นหนังสือนิยายสยองขวัญที่เซี่ยชีหรั่นอ่านอยู่ในช่วงนี้ เปิดขึ้นมาสองหน้า เย่เชินหลินก็ปิดลง แล้ววางหนังสือไว้ที่ข้างหมอนของเธอก่อนจะจากไป
“คนคนนี้ท่าจะมีพรสวรรค์ด้านการทหาร” Bakerกล่าว เสียงโทรศัพท์ของเย่เชินหลินดังขึ้น เปิดอ่านข้อความที่ได้รับ “บอกแล้วว่าอย่าตามหาฉัน นี่เป็นการเตือนครั้งสุดท้าย อย่าตามหาฉันอีก”
เขาเอาข้อความให้Bakerอ่าน Bakerกวาดตาอ่านแล้วจึงพูดขึ้น “แล้วนายจะทำยังไง ที่ผู้หญิงคนนี้ลงมือกับเซี่ยชีหรั่น เหมือนเพียงเพราะนายกำลังตามหาเธออยู่”
“เพราะว่าเธอเอาแต่ใช้เซี่ยชีหรั่นมาข่มขู่ฉัน ฉันก็เลยจะต้องตามหาเธอ เธอรู้เรื่องของฉันมาก แต่มีจุดหนึ่งที่เธอคิดผิดไป เธอคาดการณ์สิ่งที่ฉันทำต่อเซี่ยชีหรั่นต่ำไป” เย่เชินหลินพูดอย่างไม่ปิดบัง จนไม่ได้สังเกตว่าด้านหลังมีคนหนึ่งกำลังยืนมองด้วยร่างกายที่สั่นเทา
เมื่อกลับมาที่โรงพยาบาล เซี่ยชีหรั่นกำลังเดินมาหยิบคุ้กกี้อบที่ห้องครัวของโรงพยาบาลอยู่ “ทำไมอารมณ์ดีอย่างนี้?” เย่เชินหลินโอบที่เอวของเซี่ยชีหรั่น สัมผัสถึงเอวบางของเธอ มองดูรอยช้ำบนลำคอของเซี่ยชีหรั่น เย่เชินหลินจึงพูดขึ้นด้วยความไม่พอใจเล็กน้อย “ทำไมช่วงนี้ตัวผอมจัง?”
เซี่ยชีหรั่นส่ายหน้า ในแววตามีความเหนื่อยล้าที่ยากจะปกปิด หยิบเค้กออกมาจากตู้อบ เซี่ยชีหรั่นยิ้มแล้วพูดขึ้น “การได้ลิ้มรสเค้กของโรงพยาบาลไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้ทุกเมื่อนะ”
ดันเย่เชินหลินนั่งลงบนโซฟา เซี่ยชีหรั่นวางเหล้าทั้งสองแก้วลง แล้วมองเย่เชินหลินด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ “วันนี้ดื่มเหล้าด้วยเลยแล้วกัน”
เย่เชินหลินหยิบแก้วเหล้าไปแล้วถามขึ้นด้วยความสงสัย “แล้วมันเรื่องอะไรกันแน่?”
เซี่ยชีหรั่นส่ายหน้า แล้วยิ้มด้วยความร่าเริง “ก็แค่ดื่มเองไม่ดีเหรอ” เย่เชินหลินไม่ได้คิดมาก เขาแค่ทนไม่ได้ที่ต้องเห็นเซี่ยชีหรั่นเสียใจ จนกระทั่งเซี่ยชีหรั่นดื่มเหล้าลงไป เย่เชินหลินก็ได้กลิ่นอะไรแปลกๆ
เขาหยิบแก้วมาดมกลิ่น แล้วดูที่ฉลากข้างขวดเหล้า นี่เป็นเหล้าที่มีดีกรีสูงมาก แค่ครึ่งแก้วก็เมาแล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเมื่อดื่มลงไปทั้งแก้ว
“ฉันจะดื่มอีก” เซี่ยชีหรั่นดึงแก้วกลับไป เย่เชินหลินยกมือหนี เซี่ยชีหรั่นโน้มตัวโซซัดโซเซไปทางเย่เชินหลิน
เย่เชินหลินมือหนึ่งโอบที่เอวของเซี่ยชีหรั่น ออกแรงจับเอาไว้ เซี่ยชีหรั่นล้มทับบนตัวของเย่เชินหลิน ซุกอยู่ที่ซอกคอของเขา เซี่ยชีหรั่นโบกมือแล้วพูดขึ้น “ฉันอยากดื่มเหล้า”
“เพี๊ยะเพี๊ยะ” ก้นของเซี่ยชีหรั่นถูกตีสองทีด้วยน้ำหนักไม่เบาไม่แรงจนเกินไป เซี่ยชีหรั่นใช้สายตาที่หยาดเยิ้มมองเย่เชินหลิน แล้วปล่อยมือของตัวเองออกจากมือของเย่เชินหลิน เพื่อไปปกป้องก้นของตัวเองแทน
ด้วยความไม่ระมัดระวัง เซี่ยชีหรั่นเกือบกลิ้งตกจากโซฟา เย่เชินหลินรีบคว้าตัวของเซี่ยชีหรั่นเอาไว้ เซี่ยชีหรั่นรีบเข้ามาซุกในอ้อมอกของเย่เชินหลิน
เย่เชินหลินดึงตัวของเซี่ยชีหรั่นขึ้นมา พบว่าบนใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยน้ำตา หรือว่าเมื่อกี้เขาออกแรงตีมากเกินไป เย่เชินหลินนวดที่แก้มก้นของเซี่ยชีหรั่นเบาๆ
เซี่ยชีหรั่นยิ่งร้องไห้หนักขึ้น เธอกระซิบในขณะที่ยังอยู่ในอ้อมอกของเย่เชินหลิน “เย่เชินหลิน ฉันเจ็บ”

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset