สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 1345 หญิงรับใช้ของคุณชายเย่1245

เย่เชินหลินได้ยินเสียงของเซี่ยชีหรั่นเรียกชื่อตัวเอง กระซิบขึ้นเบาๆ “เมาแล้วยังจำฉันได้อีก ผมจะอภัยให้คุณ เจ็บตรงไหน?”
เซี่ยชีหรั่นลูบที่อกของตัวเองเหมือนว่าฟังรู้เรื่อง เธอพูดขึ้นเสียงแผ่วเบา “เจ็บตรงนี้” เย่เชินหลินรีบเปิดแผลตรงที่มือเซี่ยชีหรั่นที่ปิดแผลอยู่ขึ้นดู เขารีบอุ้มเซี่ยชีหรั่นลง แล้ววิ่งไปกดปุ่มเรียกพยาบาล
เซี่ยชีหรั่นเอื้อมมือไปโอบคอของเย่เชินหลินเอาไว้ ไม่ให้เขาไป “เย่เชินหลิน เชินหลิน” เซี่ยชีหรั่นพึมพำ
“หืม อยู่นี่ครับ”
“ขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจ ฉันก็ไม่อยาก ฉันไม่อยากทำแบบนี้ ฉันแค่อยากให้ทุกคนมีความสุขเท่านั้น” เซี่ยชีหรั่นพูดเพ้อ
เย่เชินหลินใจเต้นแรง เขาโอบเอวของเซี่ยชีหรั่นเอาไว้ เพื่อไม่ให้เธอกลิ้งตกลงไป เขาพูดด้วยเสียงเรียบนิ่ง “นี่ บอกหน่อยสิว่าขอโทษผมเรื่องอะไร บอกแล้วเดี๋ยวให้ดื่มเหล้า”
เซี่ยชีหรั่นมองเย่เชินหลินด้วยสายตามเมายิ้มกริ่ม พลางมองเหล้าที่อยู่ตรงหน้า สักพักก็ร้องไห้ออกมา “ฉันขอโทษทุกคน ไห่ลี่หมิน Baker คุณ ชูฉิง ขอโทษ ขอโทษทุกคนเลย”
เย่เชินหลินถอนหายใจออกมา แล้วจัดการวางแก้วเหล้าให้เรียบร้อย เมื่อกี้เขารู้สึกเหมือนว่าเซี่ยชีหรั่นยังมีสติดี หรือว่าตัวเองคิดมากไป
อุ้มเซี่ยชีหรั่นกลับมาที่เตียง เย่เชินหลินห่มผ้าให้เซี่ยชีหรั่นเรียบร้อย เมื่อหันตัวกลับไป ชายผ้าห่มข้างหนึ่งตกโดนบนพื้น เย่เชินหลินหันกลับมามอง เป็นเซี่ยชีหรั่นที่ถีบผ้าห่ม แล้วนอนขดอย่างสบาย
เย่เชินหลินก้มลงหยิบผ้าห่มขึ้นมาให้เรียบร้อย เพิ่งจะห่มผ้ากลับให้เซี่ยชีหรั่นอีกครั้ง ยังไม่ทันที่เขาจะหันตัวกลับไป เธอก็ถีบมันออกอีกครั้ง
“ร้อน!” เซี่ยชีหรั่นพึมพำ ชุดผู้ป่วยตัวโคร่ง และท่านอนของเธอ จึงเผยให้เห็นเนินไหปลาร้าขาวๆ เย่เชินหลินปรับแอร์ให้อุณหภูมิต่ำลง ให้ห่มผ้าให้เซี่ยชีหรั่น
เมื่อเห็นว่าเซี่ยชีหรั่นรู้เรื่อง เย่เชินหลินจึงใช้มือทั้งคู่ประคองอยู่ข้างหูของเซี่ยชีหรั่น กระซิบที่ข้างหูเธอ “ถ้าถีบผ้าห่มออกอีก ฉันจะทำให้คืนนี้ไม่ได้นอนเลยนะ”
เซี่ยชีหรั่นพูดพึมพำฟังไม่ออกว่าเธอกำลังพูดอะไร เธอนอนขดอยู่ในอ้อมอกของเย่เชินหลินแล้วก็หลับไปอย่างว่าง่าย เย่เชินหลินปัดผมที่ยุ่งเหยิงที่ตกลงมาปกหน้าของเซี่ยชีหรั่น ได้ยินเสียงหายใจของเธอเบาๆ จึงค่อยรู้สึกโล่งใจ
“คุณไม่ไปทำงานแล้วเหรอ?” เซี่ยชีหรั่นนั่งอยู่ที่ระเบียงถือหนังสืออยู่ในมือ อากาศเริ่มเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงแล้ว ที่บริเวณรอบๆโรงพยาบาลมีใบไม้ร่วงมากมาย ใบไม้พวกนั้นเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเหลือง
เย่เชินหลินยิ้มแล้วส่ายหน้า เซี่ยชีหรั่นหลังจากตื่นขึ้นมาเธอก็จำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้เลย เย่เชินหลินกังวลว่าช่วงสองวันนี้เซี่ยชีหรั่นจะรู้สึกกดดันมากเกินไป จึงพยายามอยู่เป็นเพื่อนเธอ
บนหน้าเว็บ คนที่ใช้ชื่ออูฐน้อยนั้นไม่ได้ออนไลน์ เย่เชินหลินดูนาฬิกาข้อมือ นี่เป็นเวลาปกติที่ผู้หญิงคนนั้นต้องออนไลน์
“คุณกำลังดูอะไรอยู่เหรอ? รอคนเหรอ?” เซี่ยชีหรั่นถามด้วยความสงสัย เย่เชินหลินส่ายหน้า แล้วถามเซี่ยชีหรั่นขึ้น “คุณอยากออกไปเที่ยวสักพักไหม ไปที่หยูหลันกับหยุนโชว์ที่นั่นก็ได้”
เซี่ยชีหรั่นถามเย่เชินหลิน “คุณไปด้วยไหม?” เย่เชินหลินพูดปลอบเซี่ยชีหรั่น “ผมคงต้องยุ่งเรื่องหนึ่งสักพัก ทำอะไรเสร็จแล้วเดี๋ยวไปหาคุณ โอเคไหม?”
เซี่ยชีหรั่นส่ายหน้า “ไม่โอเค ฉันจะอยู่กับคุณที่นี่” ประตูถูกเคาะและเปิดขึ้น Bakerเดินเข้ามา ถือสมุดเล่มหนึ่งและพูดกับเซี่ยชีหรั่น “จากเรื่องที่เกิดขึ้นกับคุณ ตอนนี้ได้เป็นคดีความแล้ว คุณเซี่ย คืนวันนั้นคุณไม่เห็นใครเลยจริงๆเหรอ?”
เซี่ยชีหรั่นส่ายหน้า “ฉันนอนหลับไม่รู้ตัว จากนั้นก็มีคนมาอุดปากของฉันเอาไว้ แล้วฉันก็หมดสติไป พอตื่นขึ้นมาฉันก็เพิ่งรู้ว่าตัวเองได้ไปอยู่ที่ดาดฟ้าแล้ว”
Bakerพยักหน้าและจดบันทึก “พักผ่อนให้สบายครับ”
ที่ทางเดินด้านนอก Bakerจุดบุหรี่ขึ้นมาสูบ พลางพูดขึ้น “คืนวันนั้นพนักงานทำความสะอาดบอกว่า เห็นร่างของเซี่ยชีหรั่นที่ระเบียง รอบๆไม่มีใครเลย”
“นายจะบอกว่าชีหรั่นโกหก?” เย่เชินหลินสงสัย
“ตัดสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ออกไป ต่อให้เป็นเรื่องที่ยากจะเชื่อก็คงต้องเชื่อ” Bakerสูบบุหรี่เข้าไปสุดปอด แล้วโยนบุหรี่ลงบนพื้นแล้วขยี้ทิ้ง
“อีกฝ่ายอาจจะแอบอยู่ที่มุมไหนก็ได้” เย่เชินหลินพูดขึ้นด้วยความสงสัย Bakerมองเย่เชินหลินด้วยแววตาแปลกประหลาด แล้วพูดขึ้น “อาจจะ เพราะถ้าจะบอกว่าเซี่ยชีหรั่นทำเรื่องแบบนั้น ฉันก็ไม่เชื่อเหมือนกัน”
หลังจากที่Bakerจากไป เย่เชินหลินเดินกลับมาที่ห้องพักผู้ป่วย เซี่ยชีหรั่นกำลังดูใบไม้ที่ร่วงหล่น ท่าทางดูเคร่งเครียด เย่เชินหลินทำให้เซี่ยชีหรั่นตกใจ เซี่ยชีหรั่นหันมามอง ความเศร้าในแววตาเธอนั้น เป็นแบบที่เย่เชินหลินไม่เคยเห็นมาก่อน
“พวกเราไปกันเถอะ” อยู่ดีดีเซี่ยชีหรั่นก็พูดขึ้น
“อยากไปไหน?” เย่เชินหลินใช้มือทั้งสองเท้าบนที่วางมือของเก้าอี้ที่เซี่ยชีหรั่นนั่งอยู่ สายตาจ้องเซี่ยชีหรั่นนิ่งๆ ไม่ให้เธอหลบได้
เซี่ยชีหรั่นครุ่นคิดเป็นอย่างดี แล้วจึงพูดขึ้น “ไปที่ไหนก็ได้เหรอ?”
เย่เชินหลินพยักหน้า เซี่ยชีหรั่นลุกขึ้น เอาหนังสือวางไว้บนเก้าอี้ แล้วจูงมือของเย่เชินหลินออกไปนอกห้อง “งั้นพวกเราก็ไปกันตอนนี้เลย”
“อย่างน้อยก็ต้องเอาพาสปอร์ตไปด้วย” เย่เชินหลินดึงเซี่ยชีหรั่นกลับมา แล้วพูดขึ้นด้วยความเหนื่อยหน่าย เซี่ยชีหรั่นใช้แววตาใสซื่อมองเย่เชินหลินด้วยความเจ้าเล่ห์ เธอหัวเราะคิกคัก แล้วพูดขึ้น “ไม่จำเป็นต้องออกไปเที่ยวต่างประเทศสักหน่อย”
ขับรถเข้ามาในเมือง เจอกับรถติดหนักมาก เซี่ยชีหรั่นมองริมถนน คนแก่อายุราว 70 กว่าปีเดินอย่างเชื่องช้าอยู่ด้านหน้า ไม่ไกลกันมากก็มีภรรยาของเขาเดินอย่างเชื่องช้าเช่นเดียวกัน
คุณตาและคุณยายสองท่านนั้นใส่เสื้อเชิ้ตแบบเดียวกัน บนเสื้อของคุณตาเขียนว่า “ถ้าหากผมเดินหลง ช่วยตามหาเอมี่”
เซี่ยชีหรั่นอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา แล้วเธอก็มองไปที่คุณยาย คุณยายกำลังเดินตามคุณตาอยู่ข้างหลังอย่างไม่ช้าไม่เร็วจนเกินไป เธอไม่กังวลคุณตาที่เดินอยู่ด้านหน้าเลยสักนิด เมื่อหันมา บนเสื้อของคุณยายเขียนว่า “ฉันคือเอมี่”
“กำลังดูอะไรอยู่เหรอ?” เย่เชินหลินเห็นว่าเธอยิ้มจึงถามขึ้น เซี่ยชีหรั่นชี้ไปยังผู้สูงอายุทั้งสองที่เดินอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล พูดขึ้นด้วยความรู้สึกอิจฉา “ได้อยู่ด้วยกันจนแก่ ได้เดินด้วยกันแบบนี้คงจะมีความสุขมากเลยเนอะ”
เย่เชินหลินมองไปตามสายตาของเซี่ยชีหรั่น เขายิ้มแล้วพูดขึ้น “ผมไม่สัญญาว่าจะตายทีหลังคุณ แต่ถ้าเดินเล่นด้วยกันตอนนี้เป็นเรื่องที่เราทำได้นะ”
เย่เชินหลินลงจากรถ เขาเปิดประตูแล้วยืนมองเซี่ยชีหรั่นอย่างอมยิ้ม ทั้งสองจอดรถไว้ที่ข้างทาง แล้วเดินไปตามทางเดินข้างถนน
ลมในตอนเย็นพัดเสียจนประโปรงของเซี่ยชีหรั่นกระพือเป็นเสียง ทั้งเดินทอดอารมณ์ เซี่ยชีหรั่นถูกตู้กระจกหนึ่งดึงดูดเอาไว้
ในตู้กระจกนั้นเป็นเครื่องประดับรุ่นใหม่ล่าสุด สีฟ้าสดใสกับนิลที่ดำขลับส่องสะท้อนกันอย่างดูโดดเด่น “สวยจัง” เซี่ยชีหรั่นอุทานขึ้นมา
เมื่อเดินมาถึงหน้าประตู เซี่ยชีหรั่นมองป้ายร้านปิดอย่างรู้สึกเสียดาย แล้วหันไปยิ้มกับเย่เชินหลิน “ท่าจะดวงไม่ดี พวกเราไปกันเถอะ”
เย่เชินหลินเงยหน้ามองดูชื่อร้าน แล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา “อืม ประธานหลี่ใช่ อยู่ที่หน้าร้านของพวกนายพอดี อยากจะซื้อเครื่องประดับชิ้นหนึ่ง โอเค”
หลังจากวางสาย เขาก็หันมาพูดกับเซี่ยชีหรั่น “พอดีนี่เป็นร้านเครื่องประดับที่เพื่อนของผมเปิดหน่ะ” เซี่ยชีหรั่นถามด้วยความตกตะลึง “เมื่อก่อนคุณไม่ชอบคบค้ากับคนแวดวงการนี้ไม่ใช่เหรอ?”
“ผมอยากจะทำความเข้าใจมากขึ้น” เย่เชินหลินตอบกลับด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง ไม่นานก็มีคนมาเปิดประตูให้ เซี่ยชีหรั่นซื้อเครื่องประดับเสร็จเดินออกมาจากร้าน ที่ลานด้านนอกมีคนเดินขวักไขว่ เซี่ยชีหรั่นเดินชนกับคนคนหนึ่ง แล้วก็ยืนหงุดหงิดอยู่ตรงที่เดิม
“โอเคไหม?” เย่เชินหลินมองเซี่ยชีหรั่นที่สีหน้าไม่สู้ดีนัก จึงถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง เซี่ยชีหรั่นชี้ไปทางผู้หญิงที่กำลังเดินขึ้นรถ “วันนั้นที่โรงพยาบาล ก่อนที่ฉันจะสลบไปก็เหมือนได้กลิ่นน้ำหอมนี้”
เย่เชินหลินมองไป เห็นเพียงแผ่นหลังของผู้หญิงคนหนึ่ง หญิงสาวเดินใส่ส้นสูงก้าวขึ้นรถไป รถขับออกตัวไปด้านหน้าอย่างรวดเร็ว
“ไป” เย่เชินหลินลากเซี่ยชีหรั่นไป ทั้งสองขับรถตามผู้หญิงคนนั้น ค่อยๆขับออกไปชานเมือง เซี่ยชีหรั่นดูสถานที่ในสัญญาณGPS แล้วพูดขึ้นด้วยความแปลกใจ “ด้านหน้าก็เป็นสุสานแล้วนะ”
รถคันข้างหน้าหายลับไปกับมุมเลี้ยว เซี่ยชีหรั่นและเย่เชินหลินลงจากรถ มองไปรอบๆ ไม่เห็นร่างของหญิงสาว แม้แต่รถก็หายไป
“อยู่ตรงนั้น!” เซี่ยชีหรั่นเดินไปทางมุมหนึ่งของสุสาน เย่เชินหลินรีบเดินตามเซี่ยชีหรั่นด้วยความเป็นห่วงว่าเธอจะบาดเจ็บ
“แปลกจัง คนล่ะ?” เซี่ยชีหรั่นหยุดเดินแล้วมองไปรอบๆ มีเงาคนเดินผ่านวูบหนึ่ง แต่ไม่เห็นแล้ว มือด้านหลังถูกจับเอาไว้ เย่เชินหลินเดินลากเซี่ยชีหรั่นมาตรงด้านข้างตัวเอง พูดอย่างไม่เห็นด้วย “วันหลังไม่ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น ก็อย่าวิ่งออกมาคนเดียว”
เซี่ยชีหรั่นพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง เธอชี้ที่อื่นแล้วพูดขึ้น “งั้นฉันจะไปดูที่อื่นเสียหน่อยว่ามีใครไหม”
เย่เชินหลินพยักหน้า ชี้ไปยังดอกเก๊กฮวยที่อยู่หน้าหลุมศพตรงหน้าพวกเขาทั้งสอง “จุดมุ่งหมายของหล่อนน่าจะอันนี้”
บนป้ายหน้าหลุมศพ เป็นภาพของหลัวกุ้ยเหยาที่ถ่ายคู่กับผู้หญิงคนหนึ่งอย่างสนิทสนม ผู้หญิงคนนั้นสวยมาก กำลังโอบคอของหลัวกุ้ยเหยาอยู่
“ภรรยาลับของหลัวกุ้ยเหยาตายแล้วเหรอ? แล้วคนที่ทำร้ายฉันวันนั้นคือใคร?” เซี่ยชีหรั่นมองที่ป้ายหน้าหลุมศพด้วยความประหลาดใจ แล้วถามขึ้น
เย่เชินหลินหยิบดอกเก๊กฮวยขึ้นมา มีกระดาษห่อช่อดอกไม้อยู่ ที่กระดาษห่อนั้นมีปั๊มชื่อร้านดอกไม้เอาไว้อยู่
“ผมว่าที่นี่สามารถให้คำตอบกับเราได้” เย่เชินหลินทำท่าประกอบ
ร้านดอกไม้หาได้ไม่ยาก เซี่ยชีหรั่นและเย่เชินหลินกลับมาหาภรรยาเจ้าของร้านดอกไม้ในเมืองได้อย่างรวดเร็ว
“ฉันไม่รู้ว่าพวกคุณคือใคร? ช่วงนี้หล่อนมาซื้อดอกไม้ไปให้พี่สาวเป็นประจำ วันนี้ก็เพิ่งจะมา”
เข้าใจเรื่องราวอย่างชัดเจนในที่นี้ ภรรยาลับของหลัวกุ้ยเหยาได้เสียชีวิตไปแล้ว แต่น้องสาวของหล่อนคิดว่าเป็นเพราะเย่เชินหลินเปิดโปงเรื่องของหลัวกุ้ยเหยา ทำให้พี่สาวของหล่อนฆ่าตัวตาย ก็เลยต้องการแก้แค้นเย่เชินหลิน
หลังจากเดินออกมาจากร้านดอกไม้ เซี่ยชีหรั่นรู้สึกโล่งอก ถ้าหากเป็นเพียงฝีมือของคนที่ยังมีชีวิตอยู่ ก็ไม่น่าจำเป็นต้องทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้
หลุงจากที่เย่เชินหลินพาเซี่ยชีหรั่นส่งกลับไปเรียบร้อย เขาก็ขับรถมุ่งหน้าไปที่สถานีตำรวจc เจอกับBakerที่เตรียมจะออกไปพอดี
“นายรู้ว่าฉันจะไปหานายเหรอ เลยรีบมาหาฉันก่อน ช่วยฉันประหยัดค่าน้ำมันใช่ไหม?” Bakerเปิดประตูเชิญเย่เชินหลินเข้าไป
“เรื่องภรรยาลับของหลัวกุ้ยเหยาไม่จำเป็นต้องไปสืบแล้ว” เย่เชินหลินกล่าว
Bakerยืดตัวตรง แล้วส่งเอกสารให้เย่เชินหลินพลางพูดขึ้น “ที่ฉันจะไปหานายก็เพื่อคุยเรื่องนี้นี่แหละ” เย่เชินหลินรับห่อเอกสารมา ในเอกสารเป็นภาพพื้นราบของตึกใหญ่ของโรงพยาบาล ที่เน้นจุดตรงดาดฟ้าออกมา

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset