สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 1355 หญิงรับใช้ของคุณชายเย่ 1255

เย่เชินหลินค่อยๆ เช็ดทำความสะอาด เซี่ยชีหรั่นรู้สึกว่าผิวเปลือยเปล่าของเธอสัมผัสกับผ้าเช็ดตัวเปียกๆ และนุ่ม จนขนลุกขึ้นมาในห้อง เย่เชินหลินอยู่ห่างหน้าอกที่อุดมสมบูรณ์ไม่ไกลและหยุดลง
เซี่ยชีหรั่นอยากจะหยุดไว้ แต่ก็ส่งเสียงไม่ออก เย่เชินหลินนิ่งไปสักครู่ และยังคงเช็ดตัวทำความสะอาดต่อไปโดยไม่มีอะไรผิดปกติ จนกระทั่งเช็ดตัวเรียบร้อย หน้าของเซี่ยชีหรั่นแดงเหมือนมะเขือเทศ
ตอนที่ไห่ลี่หมินและคนกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามา เห็นว่าหน้าของเซี่ยชีหรั่นแดงมาก ตกใจมากและพูดว่า : “ชีหรั่น ทำไมหน้าคุณแดงขนาดนั้น มีไข้หรือเปล่า รอหน่อยฉันจะไปเรียกหมอเดี๋ยวนี้”
สายตาของหลินหลิงมองเย่เชินหลินที่นิ่งสงบและแววตาส่องประกายของเย่เชินหลินสลับไปมา และดึงไห่ลี่หมินไว้ ไห่ลี่หมินมองหลินหลิงอย่างไม่เข้าใจและถามอย่างค่อนข้างร้อนใจว่า : “ดึงฉันทำไม ตอนนี้ความผิดปกติทุกอย่างทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนได้”
หลินหลิงโกรธจนต้องหยิกเอวไห่ลี่หมินเบาๆ ไห่ลี่หมินมองเย่เชินหลินที่ไม่ร้อนรนเลยแม้แต่นิด จึงจะคิดขึ้นได้
หลังจากเย่ชูฉิงเห็นว่าเซี่ยชีหรั่นตื่นแล้วก็ร้องไห้อยากให้เซี่ยชีหรั่นอุ้ม ยื่นมือออกไปได้แค่ครึ่งเดียวก็รีบหดกลับมาอย่างรวดเร็ว เก็บไว้ในอ้อมอกของไห่โจ๋ซวน
เซี่ยชีหรั่นมองเย่เชินหลินอย่างแปลกใจ เย่เชินหลินถอนหายใจเดินไปด้านข้างเย่ชูฉิง ค้างอ้วนๆ ของเย่ชูฉิงพิงไว้กับไหล่ของไห่โจ๋ซวน หันหน้าหนีไม่มองเย่เชินหลิน
เย่เชินหลินลูบผมของเย่ชูฉิง และพูดเบาๆ ว่า : “เย่ชูฉิงให้อภัยพ่อได้ไหม พ่อขอโทษ” เย่ชูฉิงคิดแล้วคิดอีก ไห่โจ๋ซวนตบหลังเย่ชูฉิงเบาๆ พูดอะไรข้างหูเย่ชูฉิงนิดหน่อย เย่ชูฉิงจึงยอมหันหน้ามาและยื่นมือเล็กๆ โบกไปมาทางเย่เชินหลิน
เย่เชินหลินหันมองไห่โจ๋ซวน เย่ชูฉิงสนิทสนมกับไห่โจ๋ซวนตั้งแต่ยังเล็ก ถ้าเป็นไปได้ ต่อไปให้ไห่โจ๋ซวนดูแลเย่ชูฉิงก็คงไม่เลว
“อืมอืม!เกี่ยวก้อยกัน!” เย่ชูฉิงยกแขนจนเมื่อยหมดแล้ว สายตามองไปที่เย่เชินหลิน เย่เชินหลินจึงยิ้มและเกี่ยวก้อยกัน
เซี่ยชีหรั่นกระแอมออกมา บอกให้เอาหน้ากากออกซิเจนบนหัวออก หลินหลิงเอาหน้ากากออกซิเจนออกอย่างระมัดระวัง
เซี่ยชีหรั่นเลียริมฝีปากแห้งและพูดอย่างอ่อนแรงว่า : “หม่ามี๊ก็อยากจะเกี่ยวก้อยกับเย่ชูฉิง”
คนอื่นๆ เห็นท่าทางของเซี่ยชีหรั่นก็อดยิ้มออกมาไม่ได้ ทั้งห้องเต็มไปด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ
นอกห้องพักผู้ป่วย ซือซือยืนอยู่อีกด้านอย่างเงียบๆ ห่างกันเพียงแค่ประตูกั้น ด้านในกลับสดเบิกบานเหมือนฤดูใบไม้ผลิ ด้านนอกหลับหนาวเย็นเหมือนหน้าหนาว
ซือซือจินตนาการได้ว่าทุกคนในห้องเอาเซี่ยชีหรั่นเป็นใจกลาง เซี่ยชีหรั่นเหมือนกับดวงดาว ได้รับการตำหนิที่อบอุ่นจากเย่เชินหลินในบางครั้งบางคราว จากนั้นก็มีเสียงหัวเราะและรอยยิ้มของลูก
ซือซือกำมือแน่นขึ้นอีก เกร็งจนตัวสั่น โทรศัพท์ในกระเป๋าสั่น ซือซือรีบหมุนตัวและเดินออกมา และชนเข้ากับคุณหมอที่กำลังจะเดินเข้ามา คุณหมอมองซือซือและถามว่า : “เป็นคุณ คุณเป็นเพื่อนของเซี่ยชีหรั่นที่วันนั้นเข้าไปในห้องสังเกตอาการผู้ป่วยหนักไม่ใช่หรือไง? เธอฟื้นแล้ว ไม่เข้าเยี่ยมหรือ?”
ซือซือพยักหน้าผ่านๆ ไปและรีบเดินออกมา คุณหมอเดินเข้าในห้องพักผู้ป่วยด้วยความแปลกใจ เห็นเซี่ยชีหรั่นอารมณ์ดีไม่น้อยนั่งเล่นกับเย่ชูฉิง
“ใครให้คุณลุกขึ้นนั่ง? ไม่รู้หรือไงว่าอาจจะกระทบกระเทือนสมองได้!” คุณหมอตำหนิ เซี่ยชีหรั่นแลบลิ้น และให้เย่เชินหลินประคองเธอนอนลงอย่างว่าง่าย
คุณหมอตรวจไปดูไปว่า : “บางครั้งหมอเจอคนไข้ที่ไม่เชื่อฟังก็ปวดหัวมากจริงๆ คนไข้ไม่ฟัง เพื่อนของคนไข้ก็แปลกเอามากๆ ทำตัวลับๆ ล่อๆทั้งสองครั้งที่เจอ”
“เพื่อนอะไรคุณหมอ?” เซี่ยชีหรั่นโดนกดลิ้นไว้เพื่อตรวจ จึงพึมพำถามออกมาอย่างไม่ชัดเจน คุณหมอพูดอย่างแปลกใจว่า : “ก็ผู้หญิงคนนั้นไง ที่สวยๆ เมื่อกี้ยังเห็นเขาวนไปวนมาอยู่ที่หน้าประตูห้องของคุณอยู่เลย แต่ก็หายไปอย่างรวดเร็ว”
เซี่ยชีหรั่นเงียบ และคิดถึงซือซือขึ้นมาเป็นคนแรก ในสถานที่คุมตัวผู้ต้องสงสัยเธอก็คิดมาหลายครั้ง ไห่ลี่หมินและเย่เชินหลินมองหน้ากัน ถึงแม้จะสงสัยแต่ก็ยังไม่มั่นใจ
“พวกคุณเป็นอะไรกันไปหมด ไม่ได้อ่านหนังสือพิมพ์นานแล้ว ระหว่างนี้เกิดอะไรขึ้นบ้าง?” เซี่ยชีหรั่นคิดว่าเย่เชินหลินและไห่ลี่หมินไม่รู้ถึงการมีตัวตนอยู่ของซือซือ หันตัวอยากจะหยิบเอาหนังสือพิมพ์ที่วางอยู่ตรงขอบหน้าต่างมาปิดบังความคิดของตัวเอง
เย่เชินหลินคิดขึ้นมาได้ว่าระยะนี้หนังสือพิมพ์ลงข่าวเกี่ยวกับสถานการณ์ของบริษัทเย่ซื่อ เรื่องพวกนี้เซี่ยชีหรั่นไม่รู้เลย กระแอมออกมาเบาๆ สายตาของเย่เชินหลินมองที่ไห่ลี่หมิน
ไห่ลี่หมินมีปฏิกิริยาตอบกลับทันที อยู่ก็รีบตะโกนเสียงดังขึ้นมาว่า : “ชีหรั่น คุณหมอบอกว่าคุณไม่ควรจะเหนื่อยเกินไป หลินหลิงเก็บหนังสือพิมพ์อย่าให้เซี่ยชีหรั่นเหนื่อยเกินไป”
หลินหลิงไม่รู้ว่าไห่ลี่หมินกำลังทำอะไร แต่ก็พยักหน้าและเก็บหนังสือพิมพ์ไว้ และพูดกับเซี่ยชีหรั่นอย่างเข้มงวดว่า : “พักผ่อนมากๆ”
หลังออกมาจากห้อง ไห่ลี่หมินเห็นข่าวที่ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ไปทั่วทั้งหน้าหนังสือพิมพ์ว่าผู้มีอำนาจของบริษัทเย่ซื่อโดนเปลี่ยน ซือซือทำให้ข่าวที่ออกมาเกี่ยวกับธุรกิจเลวร้ายไปหมด ไห่ลี่หมินถามอย่างเคร่งขรึมว่า : “ถ้าปล่อยให้ผู้หญิงคนนี้สร้างปัญหาต่อไป บริษัทเย่ซื่อจบลงแน่ๆ”
เย่เชินหลินโยนหนังสือพิมพ์ลงถังขยะและพูดว่า : “วันมะรืนนี้ขึ้นศาล พาเซี่ยชีหรั่นออกมาก่อนแล้วค่อยว่ากัน”
เซี่ยชีหรั่นได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ รักษาและพักฟื้นที่โรงพยาบาลตลอด เมื่อBakerเข้ามา รู้สึกถึงสายตาที่ตื่นตัวของไห่ลี่หมินและเย่เชินหลิน จึงรับยกตะกร้าผลไม้ในมือขึ้นและพูดว่า : “ทุกคนอย่าเพิ่งเข้าใจผิด ฉันมาในฐานะตัวแทนของสถานีตำรวจC ฉันแค่มาเยี่ยมเพื่อนของตัวเองเท่านั้น วันมะรืนนี้ที่ต้องขึ้นศาล ฉันได้ยื่นขอออกจากโรงพยาบาลไปโดยตรงแล้ว”
“ขึ้นศาล?” เซี่ยชีหรั่นมองBakerด้วยความแปลกใจ ช่วงระหว่างที่เธออยู่ในสถานที่คุมตัวผู้ต้องสงสัยและโรงพยาบาลเกิดอะไรขึ้น? Bakerมองไปที่เย่เชินหลิน ยิ้มและพูดว่า : “ให้เขาอธิบายให้คุณฟังดีกว่า”
หลังจากBakerออกไป เย่เชินหลินนั่งลงข้างๆ เซี่ยชีหรั่น เขารู้ว่าเซี่ยชีหรั่นต้องขึ้นศาล คิดแล้วคิดอีก ลูบแหวนบนนิ้วของเซี่ยชีหรั่นและพูดอย่างนิ่งเฉยว่า : “หลัวกุ้ยเหยายื่นอุทธรณ์และจะไปขึ้นศาลพร้อมคดีทุจริตของคุณ”
เซี่ยชีหรั่นเกี่ยวนิ้วของเย่เชินหลินไว้ พยายามยิ้มออกมาและพูดว่า : “งั้นฉันต้องซื้อหมวกสวยๆ สักใบมาคลุมหัวไว้ เพราะตอนนี้ดูเหมือนตุ๊กตาหัวโตตัวหนึ่ง”
เย่เชินหลินมองเซี่ยชีหรั่นด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย พยายามมองแววตาของเซี่ยชีหรั่นให้ชัดเจนว่าสบายใจจริงหรือไม่ เซี่ยชีหรั่นจับเย่เชินหลินไว้และพูดว่า : “ฉันไม่กลัวต้องขึ้นศาล ฉันรู้ว่าพวกคุณพยายามแล้ว”
เซี่ยชีหรั่นพยายามเอื้อมมือออกมาอย่างยากลำบาก เย่เชินหลินขยับเข้ามาใกล้เพื่อให้เซี่ยชีหรั่นวางมือบนหน้าตัวเองได้สะดวก เซี่ยชีหรั่นยิ้มอย่างอ่อนโยน : “ฉันรู้ว่าพวกคุณพยายามแล้ว”
ใจของเย่เชินหลินเต้นแรงจนแทบจะระเบิด มีคนคนหนึ่งไม่รู้เลยว่าคุณทำอะไรไปบ้าง แต่กลับรู้สึกขอบคุณความทุ่มเทและไว้ใจคุณ “ขอบคุณสวรรค์ที่มอบคุณให้ฉัน” เย่เชินหลินจูบริมฝีปากแห้งของเซี่ยชีหรั่น สัมผัสได้ถึงความโดดเด่น เย่เชินหลินพยายามตอบรับ ทั้งห้องเต็มไปด้วยความหวานและความอบอุ่น
เวลาผ่านไปเร็วมากใกล้ถึงวันขึ้นศาลแล้ว ตั้งแต่เช้า เซี่ยชีหรั่นสวมหมวกมองเย่เชินหลินและพูดว่า : “แบบนี้ฉันแปลกมากไหม?”
เย่เชินหลินโน้มตัวลงเปิดหมวกของเซี่ยชีหรั่นออก และจูบลงที่ปลายจมูกของเซี่ยชีหรั่น
“อะเฮ่ม ฉันไม่อยากรบกวนพวกคุณ แต่ว่าใกล้จะถึงเวลาแล้ว” Bakerอย่างช่วยไม่ได้ พวกเขาหลายคนมาถึงศาลแล้ว มีคนผลักเซี่ยชีหรั่น เย่เชินหลินสีหน้าเย็นชาอยากจะจัดการ แต่เซี่ยชีหรั่นส่ายหน้าเบาๆ
“ไม่เป็นไร มีหลักฐานที่พวกคุณเตรียมไว้ เซี่ยชีหรั่นไม่น่าจะมีปัญหาอะไร”
ในศาล หลัวกุ้ยเหยาใจลอยนิดหน่อย และมองมาทางเย่เชินหลินบ่อยๆ Bakerที่อยู่อีกด้านก็สังเกตเห็นได้อย่างชัดเจนถึงจุดนี้ จึงมองเย่เชินหลินตามด้วยความสงสัย
“ฉันไม่อยากยื่นอุทธรณ์แล้ว ฉันยอมรับว่าเงินพวกนี้เป็นของฉัน ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเซี่ยชีหรั่นเลย” หลัวกุ้ยเหยาพูด
“แล้วทำไมคุณถึงมากลับคำรับสารภาพในเวลาต่อมา และบอกว่าร่วมกันทุจริตร่วมกันกับเซี่ยชีหรั่นล่ะ?” ผู้พิพากษาถาม
หลัวกุ้ยเหยาตอบอย่างรวดเร็ว : “เพราะฉันอยากให้เซี่ยชีหรั่นรับโทษร่วมกันกับฉัน อย่างนี้โทษก็จะน้อยหน่อย แต่ตอนนี้ฉันไม่อยากทำอย่างนั้นแล้ว”
หลังจากหลัวกุ้ยเหยาพูดจบ พี่หลี่เข็นรถเข็นพี่หวางมาที่หน้าเวที พี่หลี่พูดว่า : “เซี่ยชีหรั่นเพิ่งจะมาเมื่อไม่กี่เดือนก่อน และฉันยืนยันได้ว่าก่อนหน้านี้หลัวกุ้ยเหยาไม่รู้จักเซี่ยชีหรั่น ดังนั้นจึงบอกได้ว่าเดิมทีเซี่ยชีหรั่นไม่สามารถทุจริตได้เลย”
“เซี่ยชีหรั่นคุณมีอะไรอยากจะพูดไหม?” ผู้พิพากษาหันไปถามเซี่ยชีหรั่น เซี่ยชีหรั่นส่ายหน้า เพราะคำสารภาพของหลัวกุ้ยเหยาและพี่หลี่ ทำให้เรื่องนี้น่าสงสัย
หลัวกุ้ยเหยาโดนพาตัวไป อยู่ๆ ก็พยายามดิ้นรนหันมาพูดกับเย่เชินหลินว่า : “เย่เชินหลิน ทั้งหมดนี้ฉันผิดเอง คุณต้องช่วยหมี่เสว่ลูกสาวของฉัน เธอยังเด็ก อยู่ในนั้นเธอจะกลัว!”
เกิดอะไรขึ้นกันแน่น?” Bakerและเซี่ยชีหรั่นงงไปหมด เย่เชินหลินพูดอย่างหลีกเลี่ยงปัญหาว่า : “ฉันแค่บอกเขาเรื่องที่หลัวหมี่เสว่โดนตัดสินโทษจำคุกหนึ่งปีเพราะคดีทำร้ายร่างกายโดยเจตนาเท่านั้นเอง”
เซี่ยชีหรั่นนิ่งขรึม จนถึงตอนนี้เธอยังไม่ลืมเด็กผู้หญิงคนนั้น เดิมทีเป็นช่วงเวลาที่สดใสเบิกบานของชีวิตแต่เพราะความคิดและวิธีการที่ผิดพลาดของตัวเอง ตอนนี้จึงมีรอยเปื้อน แต่จากนิสัยหุนหันพลันแล่นของหลัวหมี่เสว่ ไม่น่าจะมีกลอุบายอะไรที่สูงขนาดนั้นถึงจะถูก
ด้านนี้เซี่ยชีหรั่นที่คิดแล้วคิดอีกก็ยังคิดไม่ตก ทางด้านผู้เข้าฟังคดี ผู้หญิงสวมแว่นกันแดดที่ซ่อนตัวในฝูงชนเดินออกไป เรื่องที่ลูกสาวของหลัวกุ้ยเหยานั้นกลายเป็นอาวุธสำคัญของเย่เชินหลินที่ใช้เพื่อข่มขู่หลัวกุ้ยเหยา
หญิงสวมแว่นกันแดดคนนั้นก็คือซือซือ ซือซือเดินตามผู้คนออกมาจากศาล โทรศัพท์ในกระเป๋าสั่น ชายในโทรศัพท์ใช้ภาษากวางตุ้งตะโกนออกมาเสียงดัง “คุณหนูซือซือ พวกเรายังต้องปล่อยข่าวลือต่อไปไหม?”
ซือซือขมวดคิ้วด้วยความขยะแขยง ถ้าไม่ใช่เพราะอันธพาลพวกนี้มีความสามารถในการปล่อยข่าวลือ เธอไม่อยากจะคบค้ากับสังคมอันธพาลพวกนี้จริงๆ
“ปล่อยข่าวต่อไป อะไรที่ไม่น่าฟังก็ปล่อยอันนั้นไป” ซือซือวางสาย เธอกำลังพนัน พนันว่าเย่เชินหลินจะหาเธอเจอเมื่อไหร่ เธอรู้ว่าบริษัทนี้เป็นเลือดเนื้อของเย่เชินหลิน เย่เชินหลินไม่มีทางปล่อยบริษัทจะตกอยู่ในมือคนอื่นได้อย่างนี้
หลังเซี่ยชีหรั่นออกจากศาลก็ตรงกลับไปที่โรงพยาบาล มุมหนึ่งที่ด้านนอกโรงพยาบาล ไห่ลี่หมินขับรถเข้ามาขวางเย่เชินหลินไว้

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset