สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 1357 หญิงรับใช้ของคุณชายเย่ 1257

พนักงานหน้าเคาร์เตอร์กดโทรออกหมายเลขภายใน ไม่นานก็วางสายและพูดกับเซี่ยชีหรั่นว่า : “คุณหนูเชี่ยเรียบร้อยแล้ว” เซี่ยชีหรั่นพยักหน้า เดินไปที่ลิฟต์VIP ส่วนตัวของเย่เชินหลินภายใต้สายตาของทุกคน
หลังออกจากลิฟต์ เซี่ยชีหรั่นเดินเข้ามาอย่างกับไม่มีคนอยู่ตรงนั้นเลยและตรงไปที่ห้องทำงานของเย่เชินหลินก่อนหน้านี้ เสียงเปิดประตูดังปัง
ซือซือนั่งอยู่ที่เก้าอี้ของเย่เชินหลินอย่างเกียจคร้านและมองเซี่ยชีหรั่นอย่างว่างเปล่า เซี่ยชีหรั่นเดินมาตรงหน้าโต๊ะด้วยสีหน้าเย็นชาและใช้มือทั้งงสองข้างตบลงบนโต๊ะ กัดฟันพูดว่า : “ซือซือ ฉันเชื่อใจคุณขนาดนั้น ช่วยปิดบังให้คุณ”
ซือซือหมุนเก้าอี้อย่างไม่ใส่ใจ หัวเราะและพูดว่า : “ใช่ ขอบคุณมากๆ ที่ยื้อเวลาให้ฉันได้มากขนาดนั้น ไม่งั้นฉันคงยังไม่ได้ครอบครองบริษัทเย่ซื่อ”
“ผิดที่ฉันตาบอด เพราะการป่วยของคุณจึงคิดอยากจะช่วยคุณสักครั้ง!” เซี่ยชีหรั่นบ่น
เมื่อซือซือได้ยินเซี่ยชีหรั่นพูดถึงอาการป่วยของตัวเอง สีหน้าเย็นชาและกวาดเอกสารทั้งหมดบนโต๊ะลงพื้น พนักงานบางคนมองผ่านช่องประตูเข้ามาด้านในอย่างประหลาดใจ
“มองอะไรกัน ถ้ายังมองอีกก็ไสหัวออกไปหาเลี้ยงตัวเอง” ซือซือตะโกนด่าออกมา ลุกขึ้นไปปิดประตูและหันกลับมาพูดกับเซี่ยชีหรั่นว่า :
“เก็บความเห็นใจของคุณไว้เถอะ ฉันก็ไม่กลัวที่จะจะบอกคุณนะ เย่เชินหลินรู้แล้วว่าฉันเป็นเมียน้อยของหลัวกุ้ยเหยา และทั้งหมดฉันเป็นคนจงใจทำให้เขารู้เอง” ซือซือนั่งลงอีกครั้ง ในสายตามีความได้ใจอยู่
“ฉันช่วยคุณไม่ใช่เพราะอาการป่วยของคุณ แต่เพราะคุณคือซ่งหวั่นถิง” เซี่ยชีหรั่นมองซือซือและพูดอย่างแน่วแน่
ซือซือพยักหน้าและพูดกับเซี่ยชีหรั่นว่า : “คุณรู้ไหมซ่งหวั่นถิงหมายความว่าอะไร? หมายความว่าเธอรักเย่เชินหลินมาก หมายความว่าเธอเกลียดเซี่ยชีหรั่นมาก”
เซี่ยชีหรั่นพูดไม่ออก อยากจะพูดแต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มยังไง ซือซือลุกขึ้นเดินมาตรงหน้าเซี่ยชีหรั่นมองตรงไปที่เซี่ยชีหรั่นและพูดว่า : “เซี่ยชีหรั่น นี่คือสิ่งที่คุณและเย่เชินหลินติดค้างฉันกับลูกชาย”
เซี่ยชีหรั่นถอยหลังไปสองก้าว สำหรับตูตูแล้วเธอรู้สึกบีบคั้นและเจ็บปวดใจมาก ทุกครั้งที่พูดถึงมักเจ็บปวดเสมอ
“ปัง!” ประตูห้องเปิดออกอีกครั้ง ไห่ลี่หมินบุกเข้ามาในห้องทำงานโดยไม่สนใจการขัดขวางของเลขาและดึงเซี่ยชีหรั่นมาด้านข้างตัวเอง
หลังจากซือซือแปลกใจเล็กน้อยก็กลับมาทำหน้าเกียจคร้านเหมือนก่อนหน้า ยิ้มและพูดว่า : “สงสัยว่าองครักษ์พิทักษ์นางฟ้าจะมาแล้ว พวกคุณไปเถอะ บริษัทเย่ซื่อไม่ต้อนรับพวกคุณ”
“พวกคุณเตรียมใจรับผลที่จะตามมาจะดีกว่า” ไห่ลี่หมินพูดจบดึงเซี่ยชีหรั่นเดินออกไปทางประตู เซี่ยชีหรั่นหันหน้ามาพูดกับซือซือว่า : “อย่าบีบให้ฉันต้องพูดเรื่องต่างๆ ออกมา”
ไห่ลี่หมินดึงเซี่ยชีหรั่นเดินออกจนถึงประตูใหญ่ของบริษัทเย่ซื่อ พลางตำหนิว่า : “คุยกันแล้วไม่ใช่หรือไงว่าให้รอฉัน? ตัวเข้าไปคนเดียวถ้าโดนรังแกจะทำยังไง คุณทำให้ผมโกรธจริงๆ”
เมื่อเซี่ยชีหรั่นจะพูด รถมาเซราติคันหนึ่งเลี้ยวตรงเข้ามา ไห่ลี่หมินปล่อยมือที่ดึงเซี่ยชีหรั่นถอนหายใจและพูดว่า : “เมื่อได้รับสายโทรศัพท์จากเย่เชินหลิน รู้แล้วว่าคุณแอบหนีออกเอง ทำตัวให้ดีๆ แล้วกัน”
รถจอดลง เย่เชินหลินเปิดประตูและเดินตรงมาที่เซี่ยชีหรั่น มองสำรวจเซี่ยชีหรั่นขึ้นลง แพทย์เจ้าของไข้ของเซี่ยชีหรั่นนั่งอยู่ด้านหลังรถรีบเดินตามลงมา
คุณหมอตรวจสอบบาดแผลบริเวณศีรษะของเซี่ยชีหรั่นและถามอีกหลายคำถามจึงพูดอย่างไม่สบอารมณ์ว่า : “โชคดีที่ไม่มีปัญหาอะไรมาก ถ้าคนไข้ทุกคนก่อเรื่องวุ่นวายอย่างนี้ ครอบของคนไข้เอาแต่ใจแบบนี้ทุกคน งั้นฉันคงเหนื่อยตายจริงๆ แล้ว”
เซี่ยชีหรั่นรู้ว่าตัวเองทำผิดไปแล้ว รีบขอโทษ เย่เชินหลินตบบ่าไห่ลี่หมินและพูดว่า : “ส่งคุณหมอกลับด้วย ขอบคุณ”
ไห่ลี่หมินพยักหน้าและมองเซี่ยชีหรั่นโดยไม่พูดอะไรแวบหนึ่ง จากนั้นพูดอย่างมีนัยลึกซึ้งว่า : “ตอนนี้ชีหรั่นบาดเจ็บอยู่นะ? ไม่เหมาะจะออกกำลังกายแบบหนัก”
เย่เชินหลินโบกมือและยิ้มอย่างลำบากใจ รอหลังจากไห่ลี่หมินและคุณหมอจากไปจึงพาเซี่ยชีหรั่นขึ้นรถ เซี่ยชีหรั่นไม่ได้นั่งข้างคนขับแต่กลับไปนั่งที่เบาะหลังอย่างงงๆ
เย่เชินหลินไม่บังคับ หลังจากขึ้นรถประตูรถไม่ได้ล็อกอัตโนมัติ แต่กลับเป็นเสียงดังตึงตังที่ทำให้ล็อก มองเซี่ยชีหรั่นที่ตื่นตัวขึ้นมาทันทีจากกระจกหลัง เย่เชินหลินถามว่า : “มาหาซือซือทำไม?”
หลังจากเซี่ยชีหรั่นได้ยินจึงถามกลับไปว่า : “งั้นคุณต้องตอบฉันมาก่อนว่าคุณยกบริษัทเย่ซื่อให้ตกไปอยู่กับซือซือทำไม? คุณให้สัญญาอะไรกับซือซือไว้?”
เย่เชินหลินหันกลับมามองเซี่ยชีหรั่นอย่างจริงจังและถามว่า : “ถ้าฉันบอกคุณ คุณต้องความจริงกับฉันว่าทำไมต้องช่วยซือซือปกปิดเรื่องที่ว่าเธอเป็นเมียน้อยของหลัวกุ้ยเหยา?”
เซี่ยชีหรั่นอ้าปาก นึกถึงท่าทางของซือซือเมื่อกี้และลังเลว่าจะบอกเย่เชินหลินดีไหม ถ้าหากเย่เชินหลินรู้…
สมองของเซี่ยชีหรั่นมัวแต่คิดอะไรเรื่อยเปื่อยโดยไม่รู้ว่าเย่เชินหลินปลดล็อกรถและเดินมานั่งที่เบาะหลังแล้ว
“คุณจะทำอะไร นิ!” ความคิดของเซี่ยชีหรั่นโดนขัดจังหวะและตกใจขึ้นมาทันที เอนไปด้านหลังทั้งตัว ศีรษะกระแทกเข้ากับหน้าต่างกระจกด้านหลังเสียงดังปัง
“ชีหรั่น!” เย่เชินหลินรีบใช้มือปกป้องศีรษะของเซี่ยชีหรั่นไว้ และรีบโทรหาไห่ลี่หมินทันที : “อยู่ไหน อย่าเพิ่งกลับไปที่โรงพยาบาล กลับมาที่บริษัทเย่ซื่ออีกครั้ง”
เย่เชินหลินอุ้มเซี่ยชีหรั่นและเดินเข้าไปในบริษัทเย่ซื่อ พนักงานที่เคาร์เตอร์เห็นเย่เชินหลินไม่รู้ว่าควรจะขัดขวางไว้ดีไหม เย่เชินหลินอุ้มเซี่ยชีหรั่นให้สูงขึ้นอีกนิด พูดเสียงเข้มว่า : “เดี๋ยวถ้าเจอคุณหมอที่สวนเสื้อกาวน์สีขาวให้พาขึ้นไปชั้นบนสุดได้เลย”
พนักงานที่เคาร์เตอร์อึ้งและพยักหน้า พนักงานคนอื่นเห็นเย่เชินหลินต่างทักทายเข้าอย่างตั้งใจ ในใจของพวกเขา เย่เชินหลินคือประธานาธิบดีบริษัทเย่ซื่อ ข้อนี้ไม่เคยเปลี่ยนแปลง
เย่เชินหลินอุ้มเซี่ยชีหรั่นเดินตรงไปที่ห้องพักผ่อนชั้นบนสุดที่สร้างไว้สำหรับประธานอย่างคุ้นเคย เซี่ยชีหรั่นขยับอย่างไม่สบายตัวในอ้อมแขนของเย่เชินหลิน และมีอาการปวดรุนแรงส่งมาจากศีรษะ
เหมือนจะได้ยินเสียงพึมพำของเย่เชินหลินในความงุนงง จากนั้นนอนลงบนเตียงนุ่มๆ เสียงเย่เชินหลินยังดังอยู่ในหู : “นอนนิ่งๆ อยู่ที่นี่ก่อนนะ ฉันไปรินน้ำให้คุณก่อน เข้าใจไหม?”
เห็นเซี่ยชีหรั่นพยักหน้าน้อยอย่างตั้งใจ เย่เชินหลินจึงเดินออกไปอย่างวางใจ เรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้เป็นอุบัติเหตุ ไม่งั้นเขาไม่มีทางบุกเขามาในบริษัทเย่ซื่ออีกครั้ง
เครื่องทำน้ำดื่มตั้งอยู่สุดทางเดิน ขณะที่เย่เชินหลินก้าวขายาวเดินไป เสียงของซือซือดังมาจากห้องทำงานเดิมของประธานคนก่อน หลังจากเย่เชินหลินได้ยินสิ่งที่ซือซือพูดหยุดเดินไปชั่วขณะ
ซือซือที่อยู่ในห้องไม่เห็นเย่เชินหลิน หันหน้าเข้าหากำแพงและพูดกับอ้าวเอ๋อร์ในโทรศัพท์ว่า : “ฉันไม่สนว่าคุณจะเข้าเรียนที่ไหน เงินโอนไปให้แล้ว ส่วนการเรียกพบผู้ปกครอง คุณก็ให้ครูจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าไปแทนฉันแล้วกัน ฉันยุ่งมาก และอย่าโทรมารบกวนฉันเพราะเรื่องพวกนี้อีก”
คำพูดของซือซือทำให้เย่เชินหลินตกใจ ซือซือมีลูกแล้ว? หรือจะเหมือนเซี่ยชีหรั่นในตอนนั้น จากไปขณะที่กำลังตั้งท้องลูกของหลินเจี๋ย? แต่ท่าทางของเธอต่อเด็กคนนี้ไม่ดีมากๆ
เย่เชินหลินไม่ได้ออกไป ซือซือหันมาเห็นเย่เชินหลินจึงตกใจจนโทรศัพท์ในมือหล่นลงบนพื้น “คุณได้ยินอะไรบ้าง?”
ซือซือสับสนขึ้นมาในพริบตา เรื่องที่เธอมีอ้าวเอ๋อร์ไม่ว่ายังไงเธอก็ไม่อยากให้เย่เชินหลินรู้
“หลินเจี๋ยรู้เรื่องนี้ไหม?” หลินเจี๋ยถาม
หลินเจี๋ย? ซือซือมีปฏิกิริยาขึ้นมาในทันที เมื่อรู้ว่าเย่เชินหลินเข้าใจผิดไปแล้ว เข้าใจว่าลูกของตัวเองเป็นลูกของหลินเจี๋ย หลังจากแปลกใจอยู่สักครู่ซือซือนั่งลงเก้าอี้ยักคิ้วและถามว่า : “ฉันจำไม่ได้ว่าฉันอนุญาตให้ผู้จัดการทั่วไปคนก่อนเข้ามาในบริษัทเย่ซื่อ”
เย่เชินหลินไม่พูดอะไร เลขารีบวิ่งเข้ามาและพูดกับเย่เชินหลินว่า : “ประธานาเย่ คุณหมอมาถึงแล้ว”
ซือซือรีบตำหนิเลขาด้วยความโกรธว่า : “ใครเป็นประธาน? ประธานอยู่นี่!”
เลขาฟังที่ซือซือพูดและทำได้แค่หลบสายตา เธอทนผู้หญิงคนนี้มามากพอแล้ว เย่เชินหลินพยักหน้าให้เลขา โดยไม่สนใจซือซือที่กำลังโกรธเป็นอย่างมาก และสั่งให้เลขารินน้ำจากนั้นจึงหมุนตัวเดินออกไป
เย่เชินหลินกลับเข้ามาในห้องอีกครั้ง คุณหมอกำลังรักษาเซี่ยชีหรั่น ไห่ลี่หมินมองเย่เชินหลินด้วยสายตาไม่เห็นด้วยและพูดว่า : “คงไม่ใช่อย่างที่ฉันคิดใช่ไหม!”
เย่เชินหลินขมวดคิ้วและพูดว่า : “ไม่ใช่สักหน่อย”
ขณะที่ทั้งสองกำลังคุยกัน ได้ยินเสียงของซือซือจากด้านนอก คุณหมอขมวดคิ้วและหันมาพูดว่า : “บอกให้ด้านนอกเงียบหน่อย ตอนนี้ผู้ป่วยต้องการพักผ่อนอย่าสงบ”
ไห่ลี่หมินพยักหน้า เดินออกไป จากนั้นหันกลับมาพูดอย่างรวดเร็วพลางยักคิ้วว่า : “ดูเหมือนว่าคุณจะจ้างพนักงานที่ดีไว้เป็นจำนวนมาก”
เมื่อเห็นเย่เชินหลินมองตัวเองด้วยสายสงสัย ไห่ลี่หมินรีบเร่งให้เย่เชินหลินออกมาดูที่หน้าประตูเอง เห็นแค่ที่ทางเดิน เหล่าพนักงานมายืนล้อมไว้ไม่ยอมให้ซือซือเข้าใกล้ห้องพักผ่อน
“ท่านประธาน ท่านกลับไปเถอะ ในห้องทำงานมีแอร์เย็นสบาย!” พนักงานที่เคาร์เตอร์ตะโกนเสียงดัง เลขาเป็นเพื่อนที่ดีของเธอ ทั้งสองปรึกษากันสักพักและตัดสินใจช่วยเย่เชินหลิน ทำตามจิตวิญญาณ พนักงานบางส่วนจึงรวมตัวกันเคลื่อนไหวด้วยกัน
ซือซือโกรธจนทนไม่ไหว กระแทกรองเท้าส้นสูงกลับมาที่ห้องทำงานและปิดประตูห้องทำงานเสียงดังปัง เย่เชินหลินได้ยินเสียงคร่ำครวญของเซี่ยชีหรั่น รีบหันกลับมา
เมื่อเซี่ยชีหรั่นเอามือจับศีรษะและลืมตาขึ้นมาพบว่าคุณหมออยู่ใกล้ตัวเองมากๆ และพูดกับหมอด้วยความเกรงใจว่า : “ขอโทษค่ะ ลำบากคุณต้องกลับมาอีกครั้ง”
“ไม่เป็นไร ยังกลับไปไม่ถึง ก็วนกลับมากลางทางเสียก่อน” คุณหมอโบกมือไปมาและพูดกับเย่เชินหลินว่า : “ไม่มีปัญหาอะไรใหญ่โต ถ้าไม่สบายใจค่อยกลับไปตรวจที่โรงพยาบาลอีกครั้ง”
เย่เชินหลินพยักหน้า ไห่ลี่หมินและคุณหมอออกไปรับรถที่ที่จอดรถก่อน เซี่ยชีหรั่นยังมีอะไรอยากจะพูดอีกนิดหน่อย แต่วินาทีต่อก็เข้าไปอยู่ในอ้อมกอดที่อบอุ่นของเย่เชินหลินแล้ว
“ฉันจะไม่บังคับให้คุณพูดสิ่งที่ไม่อยากพูดอีกแล้ว” เย่เชินหลินพูดเบาๆ เมื่อกี้ตอนที่หัวของเซี่ยชีหรั่นกระแทก ใจเขาแทบจะหลุดออกมาที่คอหอย
เซี่ยชีหรั่นอยู่ในอ้อมแขนของอีกฝ่ายและรู้สึกได้ถึงความระมัดระวังของอีกฝ่ายที่ปฏิบัติต่อตัวเอง พูดเสียงเบาว่า : “ซือซือเป็นมะเร็ง”
เหตุผลนี้ทำให้เย่เชินหลินค่อนข้างแปลกใจ จึงพูดออกมาว่า : “นี้คือเหตุผลที่คุณตัดสินใจช่วยซือซือปกปิดหรือ?”
เซี่ยชีหรั่นไม่ปฏิเสธ ถึงแม้เธอจะปิดปังเรื่องที่ซือซือคือซ่งหวั่นถิง แต่เธอก็บอกเหตุผลบางส่วนที่เป็นความจริงไปแล้ว เพราะซือซือเป็นมะเร็ง ซือซือเป็นมะเร็งจึงทนปฏิเสธคำอ้อนวอนของเธอไม่ได้

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset