สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 1358 หญิงรับใช้ของคุณชายเย่ 1258

เย่เชินหลินยังมีข้อสงสัยกับการอธิบายนี้ของเซี่ยชีหรั่นอีกมาก แต่ก็ไม่อยากทำให้เซี่ยชีหรั่นอึดอัดใจ จึงพยักหน้าน้อยๆ อุ้มเซี่ยชีหรั่นขึ้นและเดินออกไปนอกประตู
พนักงานยังคงรวมตัวกันอยู่ด้านนอก หลังเห็นเย่เชินหลินอุ้มเซี่ยชีหรั่นออกมาจึงเริ่มขยับตัวหลีกทางให้ เย่เชินหลินพยักหน้าให้กับทุกคน และก้าวเดินไม่หยุดเข้าในลิฟต์VIP
“ประธานาเย่ พวกเราจะรอคุณกลับมาอยู่ที่บริษัทเย่ซื่อ!” ไม่รู้ว่าใครตะโกนมาทางลิฟต์ เซี่ยชีหรั่นที่อยู่ในอ้อมกอดของเย่เชินหลินพูดกับเย่เชินหลินเบาๆ ว่า : “ถ้าคุณทอดทิ้งพนักงานเหล่านี้จริงๆ ฉันก็จะดุถูกคุณด้วย”
“สบายใจเถอะ” เย่เชินหลินตอบเบาๆ ในลาดจอดรถ หลังจากไห่ลี่หมินเห็นเย่เชินหลินและเซี่ยชีหรั่นรีบเปิดประตูรถทันที รถวิ่งกลับไปที่โรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว
ในโรงพยาบาล เซี่ยชีหรั่นอีกเอ่ยปากอยากกินเสี่ยวหลงเปา(เป็นอาหารเช้าจีนชนิดหนึ่ง) เย่เชินหลินรีบออกไปซื้อทันที ส่วนไห่ลี่หมินอยู่ต่อ ไห่ลี่หมินสังเกตเห็นว่าดวงตาเซี่ยชีหรั่นส่องประกายเป็นนัยเล็กน้อย เซี่ยชีหรั่นยิ้มและพูดว่า : “เมื่อกี้ฉันเห็นว่าคุณเหมือนมีอะไรจะพูดอยู่ตลอด มีเรื่องอะไรกันแน่?”
ไห่ลี่หมินลังเลอยู่สักพัก จึงพูดกับเซี่ยชีหรั่นว่า : “เมื่อกี้ตอนที่อยู่ในบริษัทเย่ซื่อ ตอนที่ฉันบุกเข้าไปจริงแล้วได้ยินอะไรมานิดหน่อย”
เซี่ยชีหรั่นเงยหน้ามองดวงตาทั้งคู่ของไห่ลี่หมิน ใจสั่นขึ้นมาเล็กน้อยและตัดสินใจถามว่า : “คุณได้ยินอะไรมา?”
“ซือซือคือซ่งหวั่นถิงใช่ไหม” ไห่ลี่หมินไม่อ้อมค้อม ถามสิ่งที่ได้ยินจากด้านนอกห้องทำงานขอให้เซี่ยชีหรั่นยืนยัน อารมณ์ในตอนนั้นเขาตื่นตกใจมากเขาไม่อยากจะคิดเลยว่าผลลัพธ์จะเป็นยังไง ถ้าหากซือซือคือซ่งหวั่นถิงจริงๆ นั้นจะช่างน่าตกใจมาก
เซี่ยชีหรั่นรู้ว่าปิดบังไห่ลี่หมินไม่ได้ พยักหน้าและพูดว่า : “ตอนนั้นในสถาบันเสริมความงามแห่งหนึ่งในออสเตรเลียฉันบังเอิญรู้ว่าซือซือก็คือซ่งหวั่นถิงโดยไม่ตั้งใจ แต่ฉันไม่เคยบอกใครเลย ไม่ว่าเธอจะเป็นซ่งหวั่นถิงหรือซือซือ ฉันหวังว่าเธอจะมีชีวิตใหม่”
ไห่ลี่หมินได้รับการยืนยันจากปากของเซี่ยชีหรั่น รู้สึกสบายใจขึ้นมาก เมื่อนึกถึงทุกอย่างที่ซือซือทำก็อดที่จะเหงื่อตกแทนเย่เชินหลินกับเซี่ยชีหรั่นไม่ได้ “บางทีเธอแค่อาจจะเปลี่ยนเป็นอีกแปลงตัวตนเพื่อกลับมาแก้แค้นเท่านั้นเอง”
“ใครจะแก้แค้น?” เย่เชินหลินเปิดประตูเข้ามาและมองทั้งสองคน เซี่ยชีหรั่นส่ายหน้าให้ไห่ลี่หมิน ยิ้มและพูดว่า : “กำลังพูดถึงซือซือกัน?”
เมื่อได้ยินชื่อซือซือ สีหน้าของเย่เชินหลินบึ้งตึงลงทันที เปิดกล่องเสี่ยวหลงเปาที่ให้จางเฟิงอี้ไปซื้อมาออก หลังจากที่ไห่ลี่หมินรู้ว่าซือซือคือซ่งหวั่นถิงก็ไม่สบายใจ จึงหาข้ออ้างออกไป
หลังจากไห่ลี่หมินออกไป เซี่ยชีหรั่นแอบถอนหายใจในใจ และแกล้งถามเย่เชินหลินขึ้นมาลอยๆ ว่า : “ฉันรู้สึกเหมือนว่าคุณไม่ได้คิดจะยกบริษัทเย่ซื่อให้ใครไปดูแล งั้นคุณจะวางแผนทำยังไง?”
เย่เชินหลินช่วยจัดผมที่ตกลงมาบนไหล่ให้เซี่ยชีหรั่น และพูดอย่างมีความหมายลึกซึ้งว่า : “ตอนนี้คนทั้งเมืองรู้แล้วว่าบริษัทเย่ซื่อเปลี่ยนเจ้าของแล้ว อีกอย่างผู้จัดการทั่วไปคนใหม่ของบริษัทเย่ซื่อกำลังจะเซ็นสัญญากับบริษัทเหล็กข้ามชาติแห่งหนึ่งในเร็วๆ นี้”
“แล้วจะยังไง?” เซี่ยชีหรั่นไม่รู้เจตนาที่เย่เชินหลินทำแบบนี้เลยแม้แต่นิด เย่เชินหลินหัวเราะ สายตาของเขาบ่งบอกว่าสถานการณ์อย่างนี้จึงต้องทำตามสถานการณ์ สงครามครั้งนี้ของเขา ที่ต้องการไม่ใช่แค่บริษัท แต่ยังต้องการแก้ไขอีกปัญหาหนึ่งที่รบกวนเขามาตลอด
หลายวันต่อมา หนังสือพิมพ์ทุกฉบับลงพาดหัวข่าวเรื่องบริษัทเย่ซื่อกำลังจะเซ็นสัญญาการค้าครั้งใหญ่กับบริษัทเหล็กข้ามชาติ ในห้องทำงานผู้จัดการทั่วไปของบริษัทเย่ซื่อ ซือซือวางหนังสือพิมพ์ในมือลง ในใจเริ่มคาดเดาความคิดของเย่เชินหลินไม่ออก
เธอทำอย่างนี้เพื่อให้เย่เชินหลินมาหาเธอ มาขอร้องตัวเองอย่างไม่ต้องสงสัย สุดท้ายแล้ว สำหรับความร่วมมือโครงการบริษัทเหล็กข้ามชาติและการดำเนินกิจการของบริษัทเย่ซื่อในตอนนี้ไม่เกี่ยวข้องกันเลย แต่ตอนนี้เย่เชินหลินกลับนิ่งเฉย ไม่มีความเคลื่อนไหวอะไรเลย
“ผู้จัดการ ใกล้ถึงเวลาเซ็นสัญญาแล้ว” เลขาพูดอยู่อีกด้าน
ซือซือรู้สึกเหมือนกำลังบีบบังคับให้ทำเรื่องที่ความสามารถไม่ถึง พยักหน้าน้อยๆ และเดินตามเลขาไปยังสถานที่จัดงานเซ็นสัญญา และในงานเซ็นสัญญา เซี่ยชีหรั่นมองหยูหลัน เย่เชินหลินและไห่ลี่หมินที่นิ่งเงียบมาโดยตลอดด้วยความประหลาดใจ ผ่านไปสักพักจึงถามว่า : “นี่เป็นแผนการหนึ่ง?”
“แน่นอนเป็นแผนการหนึ่ง แต่บริษัทเหล็กเป็นเรื่องจริง ฉันมีบริษัทสาขาย่อยอยู่ที่นี่” หยูหลันโอบหยุนโชว์ไว้ในอ้อมแขน ท้องของหยุนโชว์นูนออกมาเล็กน้อย
“ครั้งนี้รบกวนคุณแล้ว” เย่เชินหลินพูดอย่างจริงจัง หยูหลันบุ้ยปาก ด้านนอกมีคนประตูมีคนแจ้งว่าซือซือมาถึงงานแล้ว เย่เชินหลินจับมือเซี่ยชีหรั่นและเดินตรงเข้าในห้องว่าง ส่วนคนอื่นๆ ก็แยกย้ายกันไป
ที่ว่างเล็กๆ ในห้องว่าง และมีบาร์ เย่เชินหลินรินน้ำให้เซี่ยชีหรั่นแก้วหนึ่ง เซี่ยชีหรั่นพูดอย่างรังเกียจว่า : “ฉันรู้สึกว่าฉันดื่มนมเยอะกว่าชูฉิงเสียอีก ”
เย่เชินหลินพูดอย่างนิ่งเฉยว่า : “เพราะงั้นคุณเลยเป็นแม่ลูกกัน”
ขณะที่ทั้งสองคนกำลังคุยกัน เสียงของหยูหลันดังมาจากด้านนอก เย่เชินหลินดึงให้เซี่ยชีหรั่นนั่งลงบนเก้าอี้ ตรงนี้สามารถได้ยินบทสนทนาด้านนอกได้อย่างชัดเจน
“ผู้จัดการทั่วไปซือซือตรงเวลาจริงๆ? สามารถเบียดเย่เชินหลินตกและขึ้นมาเป็นที่หนึ่งได้ ฉันยอมรับคุณเลยจริงๆ” หยูหลันพูดพลางเสียดสีเย่เชินหลินไปพลาง
ซือซือขมวดคิ้วพลางมองหน้าผู้ชายที่อ่อนหวานคนนี้ รู้สึกคุ้นๆ แต่อยู่ๆ ก็กลับคิดไม่ออกขึ้นมา นั่งลงข้างโต๊ะและพูดว่า : “งั้นพวกเราเริ่มคุยกันตอนนี้เลยแล้วกัน”
“ไม่รีบไม่รีบ ฉันก็แค่แปลกใจ ก่อนหน้านี้เพื่อความมั่นใจว่าอีกฝ่ายคุ้มค่าในการร่วมมือไหม ฉันเลยตรวจสอบอะไรมานิดหน่อยเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวของคุณ” หยูหลันพูดอย่างมีความหมายลึกซึ้ง จงใจใช้เสียงที่ดังขึ้นเพื่อให้เย่เชินหลินได้ยินชัดเจนยิ่งขึ้น
“คุณคิดจะพูดอะไร?” ในใจของซือซือมีลางสังหรณ์ไม่ดี ทำไมอยู่ๆ ผู้ชายคนนี้ถึงพูดเรื่องนี้ขึ้นมา ตอนนั้นหลังจากที่ตัวเองทำศัลยกรรมก็ได้ทำลายเอกสารทิ้งจนหมดแล้ว หรือว่าเขาจะรู้ความลับของตนเอง
เห็นท่าทางของซือซือ หยูหลันพอจะเดาได้ ผู้หญิงคนนี้ต้องมีความลับที่ไม่สามารถบอกใครได้แน่นอน และมองซือซือต่อด้วยใบหน้านิ่งเฉย
สถานการณ์ในห้องทั้งหมดถูกบันทึกและส่งไปในห้องว่างผ่านกล้องตัวเล็กๆ เซี่ยชีหรั่นเห็นสายตาที่ตื่นตกเล็กน้อยของซือซือจากวิดีโอ จึงถามเย่เชินหลินอย่างไม่มั่นใจว่า : “คุณสงสัยตัวตนของซือซือ”
เย่เชินหลินยอมรับอย่างมีความสุข : “ใช่ ฉันสงสัยว่าซือซือคนนี้อาจจะมีอีกตัวตน เรื่องราวมากมายชี้ไปที่เธอ การทดสอบวันนี้ยืนยันการคาดเดาของฉันแล้ว”
เย่เชินหลินมองผู้หญิงที่อยู่วิดีโอ ที่เขาไม่ได้บอกเซี่ยชีหรั่นก็คือ จากการแข่งขันกับซือซือหลายครั้งเขารู้สึกคุ้นเคยกับพฤติกรรมของผู้หญิงคนนี้อยากแปลกๆ สิ่งเหล่านี้ทำให้เขาสงสัยผู้หญิงที่ชื่อซือซือคนนี้มากยิ่งขึ้น
เซี่ยชีหรั่นหน้าซีดขาวอยู่ด้านหลังเย่เชินหลิน ที่แท้เรื่องที่เธอปิดบังไว้ เย่เชินหลินเริ่มสงสัยซือซือมาตั้งนานแล้ว ถึงขนาดที่วันนี้ซือซืออาจจะโดนเปิดเผยตัวตนเลยก็ได้
เสียงที่ดังมาจากด้านนอกทำให้เซี่ยชีหรั่นกลับมาตั้งใจฟังอีกครั้ง หยูหลันพูดโน้มน้าวใจว่า : “ถ้าคุณไม่ยอมรับ ฉันคงทำได้เอาทั้งหมดนี้ไปบอกท่านประธานใหญ่ ถ้าเรื่องที่ใหญ่ขนาดนี้โดนเปิดเผยออกไป ก็สามารถทำธุรกิจกับเขาได้เหมือนกันไม่ใช่หรือไง?”
หัวใจที่ค่อนข้างกระวนกระวายของซือซือโดนหยูหลันเติมไฟเข้าไปอีกครั้ง กลอุบายที่เคยก้าวมาทีละก้าวเป็นขั้นตอน ตอนนี้กลับตกอยู่ในความวุ่นวายที่คนอื่นจะรู้ตัวตนโดยไม่ต้องสงสัย
เซี่ยชีหรั่นฟังอย่างตื่นตกใจ เห็นแววตาของซือซือในวิดีโอจึงกัดฟันจับหัวและคุกเข่าลง : “เชินหลินฉันปวดหัว”
เสียงนี้ค่อนข้างดัง ซือซือก็ได้ยินแล้ว ดึงสติกลับมาทันทีและมองหยูหลันด้วยความโกรธแค้น : “คุณว่าไง?”
หยูหลันขมวดคิ้วและพูดอย่างนิ่งเฉยว่า : “แค่ล้อเล่นกับคุณซือซือเท่านั้นเอง พวกเราคุยธุรกิจกันต่อเถอะ”
ซือซือเก็บเอกสารทั้งหมด และไม่มีกระจิตกระใจจะไปแยกแยะเสียงคุ้นชินที่ดังมาจากด้านในห้อง พูดทิ้งท้ายอย่างเย็นชาว่า : “อยากจะร่วมมือกันก็รอให้คุณเอาความจริงมาด้วยก่อนแล้วกัน”
ซือซือเพิ่งจะเดินออกไป เซี่ยชีหรั่นก็โดนส่งตัวไปที่โรงพยาบาล แพทย์เจ้าของโดนเย่เชินหลินบังคับให้ตรวจความปลอดภัยของเซี่ยชีหรั่นทั้งหมดใหม่อีกครั้ง หลังคุณหมอออกไป เย่เชินหลินนั่งอยู่หน้าเตียงผู้ป่วยของเซี่ยชีหรั่น เซี่ยชีหรั่นพูดเบาๆ ว่า : “ขอโทษ เมื่อกี้ฉันทนไม่ไหว”
“อย่างนั้นหรือ? ชีหรั่น” เย่เชินหลินถามเสียงเบา เซี่ยชีหรั่นเงยหน้าขึ้นมาอย่างตื่นตระหนกเล็กน้อย เย่เชินหลินไม่ได้บีบบังคับถามเธออีกครั้ง และช่วยดึงผ้าห่มให้เซี่ยชีหรั่นให้ดี พูดเบาๆ ว่า : “นอนเถอะ”
เซี่ยชีหรั่นแกล้งหลับ รอจนกระทั่งเย่เชินหลินออกไปแล้วจึงลืมตาขึ้นมา หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและส่งข้อความหาซือซือ “ไปซะเถอะ อย่าพยายามอีกเลย ทั้งหมดที่คุณทำร้ายแค่ตัวคุณเองและคนที่ห่วงใยคุณ”
ซือซือที่ได้รับข้อความหัวเราะและลบข้อความทิ้ง หันหน้าไป ผู้คนและรถผ่านไปมาที่นอกหน้าต่าง แสดงถึงความมีชีวิตชีวาของเมืองนี้ มองทัศนียภาพด้านนอก ซือซือพูดเบาๆ ว่า : “ฉันจะไปที่ไหนได้อีก?”
เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นอย่างกะทันหันทำลายความเงียบในห้อง ซือซือรับโทรศัพท์ เสียงผู้ชายพูดสำเนียงกวางตุ้งตะโกนมาจากในโทรศัพท์ว่า : “เถ้าแก่ เรื่องที่คุณให้พวกเราหาหาได้พอสมควรแล้ว วันนี้ออกมาพร้อมกับผู้ชายที่สวยๆ เป็นประธานาธิบดีของบริษัทเย่ซื่อจริงๆ ด้วย”
โทรศัพท์หล่นลงบนพื้น ซือซือไม่สนเสียงพูดชายที่คุยอยู่ในโทรศัพท์ วันนี้เย่เชินหลินแสดงละครฉากหนึ่ง ร่วมมือกับคนอื่นแสดงละครใส่ตัวเองฉากหนึ่ง เขาสงสัยตนเองแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะเสียงไอนั่น
ไอ? ซือซือคิดปะติดปะต่อถึงเสียงไอที่ได้ยินในตอนนั้นและข้อความของเซี่ยชีหรั่นได้อย่างรวดเร็ว ที่แท้ทุกคนวางแผนนี้ไว้ทั้งหมดแล้วและรอดูเธอสารภาพออกมาเอง
เซี่ยชีหรั่นไม่อยากให้เรื่องที่เธอเองคือซ่งหวั่นถิงโดนเปิดเผย แต่ตอนนี้ในฐานะซือซือกำลังโดนสงสัยอยู่ หรือว่าเฮยังต้องหลบซ่อนต่อไป!
ไม่ยอมตัดใจ ซือซือหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา รีบโทรกลับไปอย่างรวดเร็ว : “ไปตรวจสอบข้อมูลของเด็กสองคนให้ฉันหน่อย” หลังจากวางสาย ซือซือหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา มองดูวิวนอกหน้าต่างและพูดว่า : “นี้จะเป็นของขวัญชิ้นใหญ่ที่สุดที่ฉันมอบให้คุณ”
วันที่สาม เมื่อเซี่ยชีหรั่นตื่นขึ้นมา เย่เชินหลินไม่อยู่ในห้องพักผู้ป่วย หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ในโทรศัพท์ไม่มีข้อความของซือซือ เซี่ยชีหรั่นรู้สึกประหม่าเล็กน้อยเมื่อนึกถึงคำพูดที่เย่เชินหลินพูดเมื่อวาน หัวที่พันผ้าพันแผลไว้กลิ้งไปกลิ้งมาอยู่บนหมอน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset