สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 1359 หญิงรับใช้ของคุณชายเย่ 1259

ประตูเปิดออก ไห่ลี่หมินมองเซี่ยชีหรั่นที่เอาหัวซุกไว้ในหมอนด้วยความประหลาดใจ และถามอย่างแปลกใจว่า : “เกิดอะไรขึ้น?”
เซี่ยชีหรั่นเงยหน้าขึ้นด้วยผมที่ยุ่งเหยิงและสีหน้าไร้อารมณ์ พร้อมหวีผมและทักทายให้ไห่ลี่หมินนั่งลง ไห่ลี่หมินมองเซี่ยชีหรั่นและลองเอ่ยปากว่า : “จะไม่บอกเย่เชินหลินเรื่องที่ซือซือก็คือซ่งหวั่นถิงจริงๆ เหรอ?”
เซี่ยชีหรั่นส่ายหน้า : “เขารู้ก็ไม่ดีกับใครทั้งนั้น และซือซืออาจจะเป็นอันตรายด้วย ที่ชีวิตของเธอเปลี่ยนเป็นอย่างนี้ ฉันก็มีส่วนรับผิดชอบด้วยเหมือนกัน”
สำหรับการตำหนิตัวเองของเซี่ยชีหรั่น ไห่ลี่หมินไม่ค่อยเห็นด้วยและอยากจะคัดค้าน เซี่ยชีหรั่นขัดขวางการพูดของไห่ลี่หมิน ยิ้มและพูดว่า : “วันนี้มาฉันมีเรื่องอะไรไหม?”
ไห่ลี่หมินหยิบหนังสือเชิญที่ทำได้อย่างสวยงามออกมาและพูดว่า : “โจ๋ซวนและเนี่ยนโม่เป็นตัวแทนโรงเรียนไปแลกเปลี่ยนที่โรงเรียนประถมโนเบิลเมลเบิร์นและกลับมาแล้ว วันมะรืนนี้จะจัดงานเลี้ยงแสดงความยินดีที่โรงเรียน ทางโรงเรียนกำลังยืนยันรายชื่อผู้ปกครองที่จะเข้าร่วมงาน คุณจะไปไหม?”
“ไปแน่นอน!” เซี่ยชีหรั่นรับหนังสือเชิญและรูปถ่ายตอนไปแลกเปลี่ยนที่เมลเบิร์นมาจากมือของไห่ลี่หมินอย่างตื่นเต้น หลังจากเห็นรูปนักเรียนหญิงที่ยืนอยู่ด้านข้างเนี่ยนโม่จึงถามขึ้นมาว่า : “อ้าวเอ๋อร์?เธอก็ไปด้วยเหรอ?”
ไห่ลี่หมินมองเด็กผู้หญิงที่เซี่ยชีหรั่นชี้ ความชื่นชมก็ปรากฏขึ้นมาในแววตาและพูดว่า : “นักเรียนหญิงคนนี้ไอคิวสูงมาก ความจำดีมาก ยอดเยี่ยมในกลุ่มนักเรียนที่ไปแลกเปลี่ยนในครั้งนี้ หลังจากนี้ต้องเป็นคนที่มีความสามารถแน่นอน”
เซี่ยชีหรั่นยิ้มและพยักหน้า ภาพเด็กผู้หญิงหัวดื้อคนนั้นปรากฏขึ้นมาในสมอง และนัดเวลากับไห่ลี่หมินให้เรียบร้อย ไห่ลี่หมินเห็นว่าดึกแล้วจึงเตรียมตัวกลับ และพบกับเย่เชินหลินที่เปิดประตูเข้ามาพอดีตรงประตูพอดี
ทั้งสองคนคุยกันสองสามประโยค รอจนกระทั่งไห่ลี่หมินไปแล้วเย่เชินหลินจึงปิดประตู เดินมาตรงหน้าเซี่ยชีหรั่น เย่เชินหลินกวาดสายตามองเห็นรูปถ่ายและหนังสือเชิญ จึงพูดอย่างเคร่งขรึมว่า : “ครั้งนี้ไม่ต้องไปหรอก ที่นั่นคนไปมาเยอะ บาดเจ็บได้ง่าย”
เมื่อเซี่ยชีหรั่นได้ยินว่าไปไม่ได้ตาโตขึ้นมาชั่วคราว โบกหนังสือเชิญในมือไปมาและพูดว่า : “พ่อแม่ของทุกคนไปกันหมด! ถ้าครอบครัวของเนี่ยนโม่ไม่ไป คุณคิดว่าเนี่ยนโม่จะเสียใจไหม!”
เย่เชินหลินเงียบ ความจริงแล้วที่เซี่ยชีหรั่นพูดไม่ผิดเลย แต่เมื่อคิดถึงปัญหาส่วนตัวของเซี่ยชีหรั่น เขาก็เสียสติได้อย่างง่ายดาย
เห็นว่าเย่เชินหลินไม่พูดอะไร และสายตาก็อ่อนลงแล้ว เซี่ยชีหรั่นรู้ว่าเย่เชินหลินไม่ปฏิเสธที่จะให้ตัวเองไปร่วมงานแล้ว เปลี่ยนบทสนทนาและหัวข้อทันที : “เรื่องของซือซือล่ะ?”
เซี่ยชีหรั่นแกล้งถามอย่างไม่ใส่ใจ เย่เชินหลินมองเซี่ยชีหรั่นที่มีเรื่องกังวลใจอย่างเห็นได้ชัดเจน เซี่ยชีหรั่นรู้ความลับอะไรของซือซือกันแน่? วันนั้นที่ซือซือเปิดเผยให้พอรู้ได้นิดหน่อยเห็นได้ชัดว่ามีอะไรลับๆ ล่อๆ แม้เซี่ยชีหรั่นไม่พูดเรื่องนี้ แต่เขาก็จะไปตรวจสอบหาเองจนได้ จากการแนะนำของนักสืบเอกชนที่เขาไปหา เซี่ยชีหรั่นและซือซือเริ่มติดต่อกันมากขึ้นหลังจากที่เซี่ยชีหรั่นไปออสเตรเลีย ตอนนี้ส่งคนให้รีบไปออสเตรเลียแล้ว
เห็นเย่เชินหลินขมวดคิ้วครุ่นคิด เซี่ยชีหรั่นผลักแขนเย่เชินหลิน เย่เชินหลินจับมือเธอไว้และวางบนฝ่ามือลูบเบาๆ และพูดว่า : “ทุกโครงการที่สร้างรายได้ให้บริษัทเย่ซื่อโดนแบ่งออกมาแล้ว หลายวันมานี้เธอไม่เคลื่อนไหวอะไรเลย”
ฟังจบเซี่ยชีหรั่นสบายใจขึ้นมาหน่อย เธอไม่อยากให้ซือซือประสบความสำเร็จ และยิ่งไม่อยากให้ซือซือใช้บริษัทเย่ซื่อเป็นของเล่น มีหรือที่เย่เชินหลินจะไม่รู้ความคิดของเซี่ยชีหรั่น จูบคิ้วที่ขมวดแน่นของเซี่ยชีหรั่นและพูดว่า : “วันมะรืนนี้ฉันจะไปกับคุณด้วย”
ทางด้านนี้เย่เชินหลินและเซี่ยชีหรั่นกำลังวางแผนไปร่วมงานเลี้ยงชมเชยเย่เนี่ยนโม่ในวันมะรืนนี้ ทางนั้นมีคนคนหนึ่งนั่งอยู่ในมุมมืดของห้องทำงานผู้จัดการทั่วไปของบริษัทเย่ซื่อ คนคนนั้นก็คือซือซือ
ซือซือมองแฟกซ์ในมือ เนื้อหาด้านในเป็นรายงานผลการตรวจของตัวเอง ถ้าไม่จัดการกับมะเร็งเต้านมภายในครึ่งเดือนนี้ งั้นซือซือคงต้องตายแล้วจริงๆ
ซือซือลูบหน้าอกที่อุดมสมบูรณ์ของตัวเองอย่างไม่รู้ตัว แต่ความคิดกลับลื่นไหลขึ้นมา ถ้าไม่ทำให้คนพวกนั้นต้องสูญเสียบ้าง งั้นตัวเองก็ตายไปเสียไม่ดีกว่าหรือไง
หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและกดหมายเลขโทรออก ไม่นานก็มีเสียงผู้ชายที่พูดสำเนียงกวางตุ้งรับโทรศัพท์ ซือซือพูดอย่างอารมณ์เสียว่า : “ฉันเงินให้พวกคุณไปหลายแสนไม่ใช่เพื่อไม่มีข่าวคราวอะไรแม้แต่นิด”
ผู้ชายพูดอย่างไม่สนใจว่า : “อย่าเพิ่งใจร้อนอย่าเพิ่งตระหนกสิ ไม่ได้จะรีบไปเกิดใหม่สักหน่อย ไปสืบมาให้คุณแล้ว เด็กน้อยคนนั้นวันมะรืนนี้ต้องขึ้นเวที ถึงเวลาจะส่งพวกเขาไปเก็บไว้ในโกดังคุณอยากจะทำอะไรก็ตามใจ? ปืนก็เตรียมไว้ให้เรียบร้อยแล้ว?”
ซือซือนิ่งไปชั่วครู่ เธอแค่อยากจะลักพาตัวเย่เนี่ยนโม่ให้เย่เชินหลินร้อนใจ ไม่เคยคิดจะฆ่าเย่เนี่ยนโม่ เพราะการเตือนจากผู้ชายคนนั้น ความคิดนี้อดไม่ได้ที่ปะทุออกมาอีกครั้ง ตอนนั้น เหยนชิงเหยียนลงมือไม่เสร็จมาโดยตลอด หรือว่าครั้งนี้?
ตกใจเพราะความคิดของตัวเอง ซือซือพูดอย่างจริงจังว่า : “พูดอะไรไร้สาระ ระวังปากของพวกคุณไว้ด้วย”
หลังจากวางสาย อารมณ์ของซือซือเริ่มขึ้นอีก ความที่จะฆ่าเย่เนี่ยนโม่ทำให้เย่เชินหลินและเซี่ยชีหรั่นเจ็บปวดไปตลอดชีวิตกลับเข้ามาอีกครั้ง ทำยังไงก็สลัดออกไปไม่ได้
เวลาผ่านไปเร็วมาก ภายใต้คำสั่งนับหมื่นครั้งพันครั้งของเย่เชินหลิน เซี่ยชีหรั่นยืนยันไปร่วมงานเลี้ยงชมเชยของเย่เนี่ยนโม่
เช้าตรู่ เซี่ยชีหรั่นรีบเข้าไปในรถอย่างกระฉับกระเฉง พ่อบ้านส่งหมวกให้ยิ้มและพูดว่า : “นายหญิง ใส่หมวกจะดีกว่า”
เซี่ยชีหรั่นมองผ้าพันแผลหน้าที่คลุมอยู่บนหัวตัวเองยิ้มและรับหมวกมา เย่เชินหลินค่อยขึ้นนั่งประจำที่คนขับ มองเย่เชินหลินที่ตื่นเต้นดีใจ และเตือนอย่างเคร่งขรึมอีกครั้งว่า : “ห้ามเข้าไปในที่ที่มีคนพลุกพล่านมากเกินไป เข้าใจไหม!”
เซี่ยชีหรั่นพยักหน้าอย่างว่าง่าย เย่เชินหลินจึงสบายใจและขับรถออกไป ระหว่างทางไห่ลี่หมินโทรมา ทั้งฝ่ายนัดเจอกันที่หน้าหอประชุมใหญ่
มาถึงโรงเรียนของเย่เนี่ยนโม่แล้ว ในลานจอดรถเต็มไปด้วยรถหรู เย่เนี่ยนโม่เรียนที่โรงเรียนชั้นนำ เฉพาะแค่ค่าเทอมก็หลายหมื่นแล้ว แต่ที่ไม่เหมือนกับคนอื่นก็คือ เย่เนี่ยนโม่ ไห่โจ๋ซวนและอ้าวเอ๋อร์ต่างสอบเข้าทั้งนั้น
ขณะที่เย่เชินหลินยังจอดรถไม่เรียบร้อย เซี่ยชีหรั่นสังเกตรอบๆ วันนี้ผู้ปกครองมาที่โรงเรียนมากว่าปกติ ทั้งๆ ที่ถนนของโรงเรียนก็กว้างมาก แต่วันกลับโดนกั้นไว้จนแม้แต่น้ำยังไหลผ่านไม่ได้ รอบๆ โรงเรียนมีธงน่ารักๆ ติดไว้เต็ม ดูเหมือนงานปาร์ตี้สวนสนุกยังไงอย่างนั้น
“ดูอะไรอยู่?” เสียงลมหายใจที่อบอุ่นดังมาจากข้างหู เซี่ยชีหรั่นหันหน้ามาทันที ริมฝีปากกระทบกับไหล่ของเย่เชินหลิน บางคนหันไปมองคู่รักด้วยความแปลกใจ บนตัวเย่เชินหลินมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ของโคโลญ เซี่ยชีหรั่นหน้าแดงรีบก้าวถอยหลัง
เย่เชินหลินไม่ล้อเซี่ยชีหรั่นอีก และเดินประสานนิ้วกับเซี่ยชีหรั่นเข้าไปในโรงเรียน เด็กที่เข้ามาเรียนในโรงเรียนชั้นนำอย่างนี้ได้ต้องมีพื้นเพทางครอบนิดหน่อย มารยาททางการศึกษาดีกว่าเด็กทั่วไป ตลอดทางเดินไม่เห็นภาพที่เด็กทะเลาะต่อยตีกัน หัวใจที่กังวลของเย่เชินหลินจึงโล่งขึ้นมาหน่อย
เข้าไปในห้องประชุม เซี่ยชีหรั่นเห็นอ้าวเอ๋อร์เป็นคนแรก ใบหน้าของอ้าวเอ๋อร์เรียวยาวสวยงาม เมื่อเห็นเซี่ยชีหรั่น อ้าวเอ๋อร์ตะลึงและหันหน้าเดินหนีไป
เซี่ยชีหรั่นพูดอย่างขมขื่นว่า : “เด็กคนนี้ไม่ชอบฉันจริงสินะ!”
เย่เชินหลินก็มองหลังของอ้าวเอ๋อร์ ครั้งแรกที่เขาเห็นเด็กคนนี้ก็ไม่ค่อยชอบมาก รู้สึกว่ามีเรื่องกังวลมากมายเก็บซ่อนไว้ในใจ
“ประธานาเย่!” มีคนเรียกเย่เชินหลินจากด้านหลัง เย่เชินหลินหันมอง สีหน้าผ่อนคลายลงเล็กน้อย นี่เป็นเพื่อนสมัยเรียนชั้นประถมของเย่เชินหลิน หลังจากเห็นเย่เชินหลินชายหนุ่มอดแสดงความชื่นชมออกมาไม่ได้
วันนี้เซี่ยชีหรั่นสวมกระโปรงยาวที่ทำจากผ้าฝ้ายและผ้าลินิน สวมหมวก ดูอ่อนเยาว์ เห็นว่าอีกฝ้ายมองมาที่ตัวเอง เซี่ยชีหรั่นขยับไปยืนข้างเย่เชินหลินและกระซิบเบาๆ ว่า : “ฉันไปดูเนี่ยนโม่และโจ๋ซวนที่หลังเวทีนะ”
เย่เชินหลินพยักหน้า เซี่ยชีหรั่นหันหลังและเดินไปทางหลังเวที ในห้องห้องประชุมมีหลังเวทีที่ค่อนข้างใหญ่ แต่ต้องผ่านประตูบานหนึ่งเข้าไป เซี่ยชีหรั่นเดินผ่านประตู ด้านหลังก็โดนเบียดเข้ามา ผู้ชายสวมหมวกสองคนเดินผ่านเซี่ยชีหรั่นอย่างแข็งแกร่งและชนเซี่ยชีหรั่นเล็กน้อย
“ขอโทษ” หลังจากผู้ชายที่อยู่ด้านหลังรีบเอ่ยขอโทษด้วยสำเนียงกวางตุ้งเสร็จแล้วจึงรีบเดินตามผู้ชายคนแรกไปทางหลังเวที
เซี่ยชีหรั่นมองด้านหลังผู้ชายทั้งสองคนที่ดูรีบร้อนจากไปอย่างแปลกใจ อยากจะตามไป แต่ได้ยินเสียงเย่เนี่ยนโม่ด้านมาจากด้านข้าง
“หม่ามี๊”
“เนี่ยนโม่ เก่งมาก!” เซี่ยชีหรั่นหอมแก้มเย่เนี่ยนโม่ เย่เนี่ยนโม่ที่มีนิสัยคล้ายกับเย่เชินหลินไปแล้วมองรอบด้านด้วยความเกรงใจ มือที่จับแขนเสื้อเซี่ยชีหรั่นกลับไม่ยอมปล่อยเลย
ขณะที่ทั้งสองคนกำลังคุยกัน อาจารย์คนหนึ่งเดินเข้ามายิ้มและพูดกับเย่เนี่ยนโม่ว่า : “นักเรียนเนี่ยนโม่ เตรียมตัวไปรวมตัวกันได้แล้ว”
หลังจากเย่เนี่ยนโม่โบกมือให้เซี่ยชีหรั่นแล้วจึงวิ่งไปทางห้องที่อาจารย์บอก เซี่ยชีหรั่นมองเย่เนี่ยนโม่ด้วยความภูมิใจ เมื่อหันสายกลับมา ก็เห็นผู้ชายสองคนนั้นอีกแล้ว ผู้ชายสองคนนั้นเดินไปทางเดียวกันกับเย่เนี่ยนโม่
ขณะนั้น ผู้ชายทั้งสองคนไม่รู้ตัวว่าเซี่ยชีหรั่นกำลังสงสัยตัวเองอยู่ ในมือยังถือรูปที่ใช้ค้นหา ผู้ชายที่พูดสำเนียงกวางตุ้งพึมพำว่า : “ดูให้ดีดีว่าเป็นเด็กคนไหน อย่าจับผิดตัวถ้าจับผิดตัวไปจะไม่ได้เงิน”
ผู้ชายอีกคนท่าทางคล้ายลิงมองเทียบแล้วเทียบอีก ไม่นานชี้ไปที่เย่เนี่ยนโม่และพูดว่า : “เหมือนว่าจะเป็นเด็กคนนี้”
ผู้ชายที่พูดสำเนียงกวางตุ้งหันไปสำรวจ ด้านหลังมีเสียงผู้หญิงคนหนึ่งดังมาว่า : “พวกคุณทำอะไร? เป็นผู้ปกครองหรือ?”
คนที่ส่งเสียงมาคือเซี่ยชีหรั่น เธอมองแล้วรู้สึกว่าทั้งสองคนไม่เหมือนผู้ปกครองที่มาร่วมงาน ทั้งยังมีท่าทางชั่วร้าย จึงรู้สึกสงสัยขึ้นมาทันที
ไห่โจ๋ซวนที่อยู่ด้วยกันกับเย่เนี่ยนโม่เห็นเซี่ยชีหรั่น จึงโบกมือทักทายเซี่ยชีหรั่นก่อน ผู้ชายที่พูดสำเนียงกวางตุ้งเห็นการทักทายของซึ่งกันและกันของทั้งสองคน เข้าใจว่าไห่โจ๋ซวนคือเย่เนี่ยนโม่ จึงจับตัวไห่โจ๋ซวนทันที ไห่โจ๋ซวนโดนตีเข้าที่คอและสลบไปอย่างรวดเร็ว
ในเหตุการณ์มีแค่อ้าวเอ๋อร์ไห่โจ๋ซวนและเย่เนี่ยนโม่ เย่เนี่ยนโม่มีปฏิกิริยาตอบสนองเป็นคนแรก รีบตามไปอยากจะขัดขวางผู้ชายไว้ ผู้ผลักเย่เนี่ยนโม่อย่างโหดเหี้ยม เย่เนี่ยนโม่โดนโยนกระเด็นออกมา ข้อมือกระแทกกับพื้น อ้าวเอ๋อร์และเซี่ยชีหรั่นรีบเข้ามาดู
เย่เนี่ยนโม่หน้าซีดขาว เห็นได้ชัดว่ากระดูกข้อมือของเขาหักแล้ว ผู้ชายทั้งรีบฉวยโอกาสตอนที่เซี่ยชีหรั่นกำลังดูแลเย่เนี่ยนโม่วิ่งไปยังทางออกอีกดานหนึ่ง

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset