สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 1367 หญิงรับใช้ของคุณชายเย่1267

เย่ชูฉิงเอามือที่ยังมีรอยประทับสีแดงวางไว้บนฝ่ามือของไห่โจ๋ซวนด้วยความดีใจ และตอบกลับอย่างมีความสุขว่า “อื้ม!”
ไห่โจ๋ซวนเหลือบมองหลี่ยี่ซวนเบาๆ แล้วจูงเย่ชูฉิงเดินออกไป ไหล่ของหลี่ยี่ซวนถูกชน พอเขาหันไปมองจึงรู้ว่าเป็นเย่เนี่ยนโม่
เย่เนี่ยนโม่หันไปมองตามสายตาของหลี่ยี่ซวนไปที่ลานบ้านแล้วถามด้วยความสงสัยว่า “นายกำลังดูอะไรอยู่?”
“ดูมนุษย์ต่างดาว!” ตอนที่หลี่ยี่ซวนปฏิบัติต่อเย่เนี่ยนโม่เขาจะพยายามแสดงความทะเล้นและชอบก่อกวนบวกกับความปากร้ายของตัวเองออกมาอย่างเต็มที่
“นายพูดว่าน้องสาวของฉันเป็นมนุษย์ต่างดาวอย่างนั้นเหรอ?!” เย่เนี่ยนโม่พูดจาบ่ายเบี่ยง
“ฉันเปล่าสักหน่อย!” หลี่ยี่ซวนยกกำปั้นขึ้นและกำลังจะชก เย่เนี่ยนโม่ยิ้มและหันหลังไป แล้วก็ชนเข้ากับอ้าวเสว่ที่กำลังคิดและพูดกับตัวเองอยู่ ทำให้อ้าวเสว่ก้าวถอยหลังไม่หยุด เขาจึงใช้มือข้างหนึ่งรองไหล่ของอ้าวเสว่เอาไว้อย่างมั่นคง
เย่ชูหยุนเหลือบมองดูอย่างเย็นชา แล้วหันหลังมากินถั่วลิสงต่ออย่างเงียบๆ “เธอไม่เป็นไรนะ!” ยังไงตัวเองก็เป็นคนที่ชนอ้าวเสว่ล้ม เย่เนี่ยนโม่จึงถามด้วยความเป็นห่วง
“ไม่เป็นไร! นายชนฉันล้มลง คืนนี้ฉันอยากให้นายฟังฉัน!” อ้าวเอ๋อร์พูดอย่างเจ้าเล่ห์
หลี่ยี่ซวนที่อยู่ข้างๆทนดูไม่ไหวแล้ว ยังไงซะตัวเองก็มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย เขาจึงพุ่งตัวเข้าไปพูดอยู่ข้างๆเย่เนี่ยนโม่ว่า “เธอนี่แตกต่างจากพวกมิจฉาชีพตรงไหนกัน โดนคนอื่นชนแค่แป๊บเดียว ก็ติดตามเขาไปตลอดชีวิตแล้ว!”
อ้าวเสว่โกรธจนพูดไม่ออก เย่เนี่ยนโม่เหลือบมองอย่างหลี่ยี่ซวนอย่างสงบเยือกเย็น แต่กลับชื่นชอบหลี่ยี่ซวนขึ้นมาจากใจจริง
“พวกเธอสามคนกระซิบกระซาบอะไรกันอยู่ล่ะ! รีบไปเล่นที่ลานกับไห่โจ๋ซวนและชูฉิงเถอะ” เซี่ยชีหรั่น เดินมาตรงหน้าของเด็กทั้งสามคนยิ้มและพูดออกมา
โม่เสี่ยวจุนดึงเย่ชูหยุนขึ้นแล้วก็ผลักไปหาเย่เนี่ยนโม่ และรีบพูดว่า “ไปเล่นกับเพื่อนๆนะ อย่าทำนิสัยไม่ชอบพูดจาล่ะ”
เย่ชูหยุนมองถั่วลิสงที่ยังทานไม่เสร็จอยู่บนโต๊ะอย่างอาลัยอาวรณ์เล็กน้อย สายตาของโม่เสี่ยวจุน เต็มไปด้วยความเถียงไม่ได้ เย่ชูหยุนพยักหน้า แล้วเดินไปนอกลานบ้านอย่างเย็นชา
“นิสัยที่ไม่ชอบพูดจาแบบนี้ฉันดูยังไงๆก็เหมือนเย่เชินหลิน” ไม่เสี่ยวจุนบ่นพึมพำ ไห่ฉิงฉิงทุบโม่เสี่ยวจุนเบาๆหนึ่งครั้ง “คุณพูดอะไรของคุณน่ะ!”
จงหยุนซางถามด้วยความเป็นห่วงว่า “ชีหรั่น ตอนนี้มันก็สามทุ่มแล้วนะ เชินหลินมีธุระก็เลยมาไม่ได้หรือเปล่า?”
คนที่อยู่ในห้องรับแขกทั้งหมดมองไปที่เซี่ยชีหรั่น เซี่ยชีหรั่นหยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วพูดว่า “ฉันจะลองโทรถามดูสักหน่อยนะคะ”
โทรศัพท์ถูกรับสายอย่างรวดเร็ว “ฮัลโหล ชีหรั่น”
“ค่ะ ฉันเอง จัดการธุระเสร็จหรือยังคะ? ทุกคนมาอยู่กันครบแล้วนะคะ” ในขณะที่เซี่ยชีหรั่นมองดูทุกคนนั่งอยู่ด้วยกันก็มีความสุขมาก
“ขอโทษนะ มีงานที่บริษัทผมไปไม่ได้ คืนนี้อาจจะกลับไปไม่ได้แล้ว” น้ำเสียงของเย่เชินหลินมีความเหนื่อยล้าอยู่ด้วย
“อ่า อย่างนั้นเหรอคะ? งั้นคุณก็ดูแลสุขภาพด้วย อย่าหักโหมเกินไปนะคะ” หัวใจของเซี่ยชีหรั่นเหมือนกับตกจากก้อนเมฆแล้วร่วงลงไปจนถึงก้นเหว และน้ำเสียงก็หงอยเหงาเศร้าซึมขึ้นมา
ขณะที่เตรียมจะวางสาย ทันใดนั้นเย่เชินหลินก็พูดอยู่ในสายว่า “เดี๋ยวก่อนชีหรั่น”
เซี่ยชีหรั่นตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่สงบนิ่งว่า “ค่ะ ฉันยังอยู่”
“สุขสันต์วันหยุดนะครับ ผมรักคุณนะ” เย่เชินหลินพูดเสร็จก็วางสายไป
พอทุกคนเห็นสีหน้าของเซี่ยชีหรั่นต่างก็เดาออกว่าเกิดอะไรเรื่องขึ้น โม่เสี่ยวจุนลุกขึ้นมาถามด้วยสีหน้าที่เขียวปัดด้วยความโกรธว่า “เขาไม่กลับมาแล้วใช่ไหม คุณจะบอกว่าเขามักจะทิ้งคุณที่อยู่บ้านคนเดียวบ่อยๆเพื่อที่จะทำงานแบบนี้ใช่ไหม ผมจะไปถามเขาให้รู้เรื่อง”
ไห่ฉิงฉิงรีบดึงโม่เสี่ยวจุนเอาไว้ แล้วเหลือบมองไปที่เซี่ยชีหรั่นที่มีสีหน้ามัวหมอง และส่งสายตาเป็นนัยให้โม่เสี่ยวจุนหนึ่งครั้ง แล้วปลอบใจเซี่ยชีหรั่นว่า “รออีกสักหน่อยเถอะ เขาอาจจะงานยุ่งมากจริงๆก็ได้”
หลินหลิงคิดถึงคำพูดที่เย่เชินหลินเคยพูดกับตัวเอง เธอจึงกำลังคาดคะเนอยู่ในใจว่าหรือว่าอาการของเย่เชินหลินจะกำเริบขึ้นมาแล้ว ขณะที่กำลังมองดูเซี่ยชีหรั่นฝืนตีสีหน้ายิ้มอย่างเห็นได้ชัด หลินหลิงก็ถอนหายใจเฮือกหนึ่ง ตัวเธอเองก็ดีขึ้นได้แค่ไหนกัน
“ฉันไม่เป็นไร ก็แค่เสียใจนิดหน่อยเท่านั้น ได้เวลาวางดอกไม้ไฟแล้ว พวกเราไปดูดอกไม้ไฟกันเถอะ”
เซี่ยชีหรั่นชี้ออกไปนอกหน้าต่างแล้วพูดด้วยสีหน้าที่ฝืนยิ้ม ถึงแม้ว่าทุกคน กังวลใจไปกับเซี่ยชีหรั่น แต่เซี่ยชีหรั่นไม่อยากเอ่ยถึงก็เลยพยักหน้าไปตามเธอ
ภายในลานบ้าน พวกเด็กๆกำลังยืนอยู่ด้วยกัน พ่อบ้านสั่งให้คนใช้เอาดอกไม้ไฟไปจัดวางให้เรียบร้อย
“ดอกไม้ไฟ วางดอกไม้ไฟ!” เย่ชูฉิงยื่นมือเล็กๆ อ้วนๆ ของเธอออกและต้องจะไปแตะประกายไฟของดอกไม้ไฟ พอหลี่ยี่ซวนต้องการจะหยุดเธอ ก็มีมือคู่หนึ่งดึงมือเล็กๆของเย่ชูฉิงกลับมาอย่างเร็วยิ่งกว่าตัวเอง
ไห่โจ๋ซวนพูดขึ้นมาด้วยความรักและเอ็นดูว่า “ถ้าสัมผัสสิ่งนั้นแล้วเดี๋ยวจะทานของอร่อยๆไม่ได้นะ”
“โจ๋ซวน ฉันว่านายไม่ต่างอะไรกับคุณพ่อเลยนะ” วันนี้เย่เนี่ยนโม่อารมณ์ดี และยังหยอกล้อไห่โจ๋ซวนอีกด้วย ไห่โจ๋ซวนยิ้ม และกำลังจับมือของเย่ชูฉิงไม่ปล่อยวาง พอเห็นหลี่ยี่ซวนที่อยู่ข้างๆเขาก็ถอนหายใจอีกครั้ง
อ้าวเสว่ยืนอยู่ข้างหลังทุกคน และกำลังมองดูเย่เนี่ยนโม่หยอกล้อไห่โจ๋ซวน โดยที่ไม่ได้หันกลับมามองที่ตัวเองเป็นเวลานาน
พอคิดได้แล้วจึงหันไปหาเย่ชูฉิง เสื้อผ้าที่อยู่บนร่างกายของเย่ชูฉิงแม้ว่าจะเรียบง่าย แต่อ้าวเสว่เพิ่งจะเล็งเห็นป้ายชื่อเมื่อสักครู่นี้ ในห้องเรียนมีผู้หญิงใส่เสื้อผ้ายี่ห้อนี้ด้วย เธอเคยได้ยินมาว่าราคาหลายหมื่นเลยทีเดียว
สักวันตัวเองก็จะต้องได้ใส่แบรนด์เนมเช่นเดียวกัน! อ้าวเสว่สาบานอยู่ในใจ!
ดอกไม้ไฟที่เจิดจ้าได้ทลายความคิดและจิตใจของแต่ละคนที่อยู่ ณ ที่นี้ไปแล้ว ทุกคนทยอยเงยหน้าขึ้นไปมองดอกไม้ไฟที่แวววับจับตานี้
ในขณะที่เซี่ยชีหรั่นกำลังเงยหน้าขึ้นไปมองดอกไม้ไฟ ดวงตาของเธอก็อดไม่ได้ที่จะเปียกชุ่มเล็กน้อย เธออยากอยู่ด้วยกันกับเย่เชินหลินมาก
แล้วแขนของเธอก็ถูกกระทบ เซี่ยชีหรั่นจึงหันหน้าไป ตาของหลินหลิงกำลังมองดอกไม้ไฟอยู่และพูดด้วยเสียงราบเรียบว่า “ในเมื่อเขามาไม่ได้คุณก็ไปหาเขาได้หนิ”
เซี่ยชีหรั่นมองหลินหลิงอย่างงงงัน หลินหลิงจึงหันหน้ามาพูดว่า “อย่ารอให้สูญเสียแล้วจึงรู้ว่ามันมีค่าแค่ไหน”
เซี่ยชีหรั่นพยักหน้าอย่างหนักแน่น แล้วจึงหันหลังเดินจากไป
“เสี่ยวจุน ขอบคุณนะ” ไห่ฉิงฉิงคลอเคลียอยู่ข้างๆโม่เสี่ยวจุน แล้วพูดอย่างอ่อนโยน โม่เสี่ยวจุนกอดไห่ฉิงฉิงแน่ๆ แล้วกระซิบพูดว่า “เด็กโง่ ผมต่างหากล่ะที่ต้องขอบคุณคุณ!”
หลินหลิงกำลังมองดูท่าทางที่มีความสุขของสองคนนี้ และหันไปมองดูหลี่เหอไท้กับจงหยุนซาง หลี่เหอไท้กับจงหยุนซางเอานิ้วมือทั้งสิบประสานกัน ศีรษะของจงหยุนซางซบลงบนไหล่ของหลี่เหอไท้เบาๆ หลี่เหอไท้หันหน้าไปและก้มลงเป็นครั้งคราวไม่รู้ว่าเขาพูดอะไรกับจงหยุนซาง แล้วทั้งสองคนก็ยิ้มหัวเราะกันอย่างหวานชื้น
“ชีหรั่นดอกไม้ไฟนี้สวยมากจริงๆ อ้าวชีหรั่นล่ะ?” โม่เสี่ยวจุนหันหน้าไปมองก็ไม่เห็นคนที่ยืนอยู่ข้างๆตัวเองแล้ว
“ใครจะไปรู้ล่ะ? คงจะไปหาคนที่เธอรักแล้วมั้ง” หลินหลิงเงยหน้าขึ้นไปมองดอกไม้ไฟต่อ แล้วก็ยกมุมปากขึ้นมา เธอคิดว่าตัวเองทำอย่างนี้ลี่หมิน จะต้องมีความสุขอย่างแน่นอน
พระจันทร์ในเทศกาลไหว้พระจันทร์เป็นงานเลี้ยงที่ใครๆต่างก็ชื่นชมด้วยความเบิกบานใจได้ ในบริษัทเย่ซื่อ แสงจันทร์ได้สาดส่องมากระทบอยู่บนร่างกายของเย่เชินหลิน ที่ยืนอยู่ตรงหน้าต่าง ดวงตาของเย่เชินหลินมองไปที่แสงจันทร์ เขายกมือข้างหนึ่งขึ้น แล้วโทรศัพท์ที่อยู่ข้างๆก็ตกลงกับพื้น
เย่เชินหลินก้มลงไปหยิบมันขึ้นมา เขาขยับอย่างช้าๆ หลังจากที่ค้นหาสองสามครั้งเขาก็ไม่พบโทรศัพท์เลย เขาทุบกำปั้นไปที่ผนังด้วยจิตใจที่หงอยเหงาเศร้าซึม จากนั้นเย่เชินหลินก็เอาหลังพิงผนังแล้วเลื่อนลงไปนั่งกับพื้น
“ชีหรั่น ชีหรั่น” เย่เชินหลินฟังเสียงดอกไม้ไฟที่ดังขึ้นมาจากระยะไกลแล้วพูดด้วยเสียงต่ำๆ ดวงตาของเขาพร่ามัว เขาไม่อยากกลับไปเปิดเผยความลับของตัวเอง จึงทำได้เพียงอ้างว่าต้องทำงานล่วงเวลาอยู่ที่บริษัท แต่ในใจกลับรู้สึกเจ็บปวดจนใกล้จะเป็นตะคิวขึ้นมาอยู่แล้ว และเขาสามารถจินตนาการได้เลยว่าเซี่ยชีหรั่นน่าจะโดดเดี่ยวมากแค่ไหน
“ติ๊งๆๆ” เสียงสัญญาณเตือนดังขึ้นเมื่อประตูใหญ่ถูกผลักออก ทำให้เย่เชินหลินตื่นตัวขึ้นมา
“ทำไมถึงได้มืดขนาดนั้น? เชินหลินคุณอยู่ไหมคะ?” เสียงที่อ่อนโยนดังขึ้นมา
“ชีหรั่น?” ทันใดนั้นเย่เชินหลินก็ลุกขึ้นมาอย่างร้อนรนเล็กน้อย แล้วเท้าของเขาก็เหยียบมือถือที่หล่นอยู่ข้างๆจนเกิดเสียงดังขึ้นมา
“เชินหลิน?” เซี่ยชีหรั่นหรี่ตามองและอาศัยแสงจันทร์ในการแยกแยะคนที่ยืนอยู่ในความมืด หลังจากที่ว่าเป็นเย่เชินหลินเธอจึงถอนหายใจออกมา แล้วถามว่า “เชินหลินทำไมคุณไม่เปิดไปล่ะคะ?”
“ไฟดับน่ะ” เย่เชินหลินตอบกลับมาอย่างรวดเร็ว เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าของเซี่ยชีหรั่นใกล้เข้ามา เขาก็รู้สึกประหม่าในใจเล็กน้อย และเล็บของเขาจมลงไปในผิวหนังและเนื้อ
ในขณะที่เย่เชินหลินกำลังคิดว่าจะอธิบายกับเซี่ยชีหรั่นอย่างไรว่าทำไมตัวเองถึงอยู่บริษัทไม่ยอมกลับบ้าน เสียงหัวเราะของเซี่ยชีหรั่นก็ดังแทรกเข้ามาข้างๆหู
“เชินหลินสุขสันต์วันไหว้พระจันทร์นะคะ”
“อ๊ะ! เชินหลินขนมไหว้พระจันทร์หล่นแล้ว” เซี่ยชีหรั่นมองเย่เชินหลินอย่างประหลาดใจทันทีที่เขาดึงตัวเองเข้ามาอยู่ในอ้อมแขน แล้วพูดอย่างหัวเราะไม่ออกร้องไห้ไม่ได้ว่า “เชินหลินกล่องขนมไหว้พระจันทร์โดนเท้าฉัน เจ็บจัง!”
เย่เชินหลินถอยกลับอย่างรวดเร็ว แล้วเซี่ยชีหรั่นก็หัวเราะออกมาแล้วจูงมือเย่เชินหลินไปที่ระเบียง สายลมในฤดูใบไม้ร่วงพัดเข้ามาจนทำให้ใบหน้าของเซี่ยชีหรั่นเย็นลงเล็กน้อย เสื้อสูทที่มีกลิ่นบุหรี่จางๆตัวหนึ่งถูกวางไว้บนไหล่ของเซี่ยชีหรั่นอย่างแม่นยำ
“ถ้าผมได้ยินเสียงคุณจามผมจะไม่ให้อภัยคุณแน่” เย่เชินหลินจ้องมองเซี่ยชีหรั่นอย่างจดจ่อ แสงจันทร์สาดส่องดวงตาที่สว่างใสของเย่เชินหลิน คิดไม่ถึงเลยว่าเซี่ยชีหรั่นจะซื่อบื้ออยู่บ้างเล็กน้อย
เสียงประทุที่ดังก้องและเสียงกระโดดโลดเต้นที่เกิดจากเซี่ยชีหรั่นเห็นดอกไม้ไฟดังขึ้นมาข้างๆหู เย่เชินหลินกับเซี่ยชีหรั่น ประสานมือกัน แล้วหัวใจที่เย็นชาแต่เดิมก็อบอุ่นขึ้นมา
วันต่อมา เซี่ยชีหรั่นถูกเลขาฯปลุกขึ้นมา เย่เชินหลินออกไปตั้งนานแล้ว หลังจากที่รับประทานอาหารเช้าที่เลขาฯไปซื้อให้เสร็จ เซี่ยชีหรั่นก็นึกขึ้นได้ว่าตัวเองทิ้งหลี่เหอไท้กับโม่เสี่ยวจุนและคนอื่นๆไว้ที่บ้าน
เธอจึงรีบหยิบโทรศัพท์ออกมา โทรศัพท์ถูกเย่เชินหลินเปลี่ยนเสียงให้กลายเป็นเสียงเงียบไปแล้ว จากนั้นก็มีข้อความจำนวนหนึ่งเด้งขึ้นมา
โม่เสี่ยวจุน: ชีหรั่น ผมกับฉิงฉิงไปก่อนนะ ต่อไปถ้าเย่เชินหลินรังแกคุณอีกคุณจะต้องบอกผมนะ
เซี่ยชีหรั่นยิ้มไปยิ้มมา โมเสี่ยวจุนมักจะกลัวตัวเองโดนรังแกแบบนี้ตลอดเลย
แล้วเธอก็เปิดข้อความอื่นต่อ เป็นอย่างที่คาดเอาไว้คือหลี่เหอไท้เขียนข้อความมาบอกว่า “สุขสันต์วันไหว้พระจันทร์ ผมกับหยุนซางขออวยพรให้พวกคุณนะครับ ใช่แล้ว จู่ๆชูหยุนก็บอกว่าเขาอยากจะย้ายไปเรียนที่โรงเรียนของเนี่ยนโม่ด้วยแหล่ะ ฮ่าๆ”
เซี่ยชีหรั่นยิ้มและเก็บคําอวยพรเหล่านี้เอาไว้ทั้งหมด แล้วเก็บขนมไหว้พระจันทร์ที่ไม่ได้กินเมื่อวานเตรียมโยนทิ้งลงถังขยะ หนังสือพิมพ์ที่ถูกโยนทิ้งลงไปในทั้งขยะตามใจชอบได้ดึงดูดความสนใจของเซี่ยชีหรั่นเข้าแล้ว
“ลูกสาวของหลัวกุ้ยเหยาฝ่าอันตรายเจตนาฆ่าคน…” เซี่ยชีหรั่นหยิบหนังสือพิมพ์ขึ้นมาแล้วกางออก ในขณะที่กำลังอ่านอย่างละเอียดถี่ถ้วน แววตาของเธอก็แสดงความประหลาดใจออกมา
หลัวหมี่เสว่ ถูกตัดสินโทษข้อหาปล้นทรัพย์และยังเจตนาทำร้ายคนเหรอ? เซี่ยชีหรั่นนึกถึงคำที่Bakerบอกกับตัวเองขึ้นมาว่าเย่เชินหลินเคยปล่อยตัวหลัวหมี่เสว่ไป หรือว่าระหว่างพวกเขามีอะไรเกี่ยวข้องกัน?
เซี่ยชีหรั่นส่ายหน้าไปมา แล้วทิ้งหนังสือพิมพ์ลงถังขยะไป เย่เชินหลินไม่มีเจตนาที่จะทำแบบนี้ หรือบางทีหลัวหมี่เสว่อาจจะปลงไม่ตกเองล่ะมั้ง เซี่ยชีหรั่นถอนหายใจเฮือกหนึ่ง แล้วจึงเดินจากไป

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset