สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 1371 หญิงรับใช้ของคุณชายเย่ 1271

เซี่ยชีหรั่นพยักหน้า หันไปทักทายสวีเห้าเซิงกับจิ่วจิ่วแล้วก็นั่งลงไปในรถตำรวจ
ในโรงพยาบาล เซี่ยชีหรั่นได้ถอนหายใจยาว ชายชราชาวต่างชาตินั่งอยู่ข้างเซี่ยชีหรั่นได้พูดด้วยภาษาจีนที่ไม่ค่อยคล่องแคล่วว่า:“ผมรู้จักคุณ”
เซี่ยชีหรั่นมองสำรวจชายชราที่อยู่ตรงหน้าด้วยความมึนงง ไม่รู้สึกคุ้นเคยกับชายชราชาวต่างชาติคนนี้แม้แต่น้อย
“เย่เชินหลิน” ชายชราพูดเพียงสั้นๆว่า
“คุณรู้จักเชินหลินเหรอ!” เซี่ยชีหรั่นเมื่อได้ยินเย่เชินหลินก็รู้สึกประหลาดใจ
“เขาเป็นคนไข้ของผม”
“โรคอะไรคะ”
เซี่ยชีหรั่นรู้สึกหัวใจตัวเองเริ่มหน่วงๆ เย่เชินหลินมีเรื่องปิดบังเธอจริงๆด้วย ซ้ำยังเป็นเรื่องเจ็บป่วยอีกต่างหาก
ชายชราชาวต่างชาติได้บอกเล่าเรื่องราวตั้งแต่ต้นจนจบทั้งหมดโดยไม่ปิดบัง เซี่ยชีหรั่นยิ่งฟังยิ่งตกใจ “เหตุผลที่ผมมาประเทศจีนได้หลักๆคือสิบสามให้ผมมา อีกสักครู่เขาต้องรับการรักษาพอดี คุณจะไปดูสักหน่อยไหม”
ชายชราชาวต่างชาติพาเซี่ยชีหรั่นโค้งไปโค้งมา เซี่ยชีหรั่นพบว่าทางที่ไปนั้นคุ้นเคยมาก นี่ไม่ใช่บ้านที่ตัวเองพักอาศัยอยู่เหรอ
รถจอดที่ลานที่เต็มไปด้วยดอกไม้สีม่วง และสิบสามออกไปต้อนรับชายชรา เมื่อเห็นเซี่ยชีหรั่นก็ตกตะลึงไป
“นายหญิง!นายท่านได้บอกท่านแล้วหรือ” สิบสามจำได้ว่าเย่เชินหลินเคยกำชับย้ำหนักย้ำหนาว่าห้ามใครเปิดเผยข้อมูลให้เซี่ยชีหรั่นทราบแม้แต่นิดเดียว
“ยังไม่รีบไปเตรียมพร้อมอีก เดี๋ยวก็ไม่ทันเวลาหรอก” ชายชราชาวต่างชาติช่วยเซี่ยชีหรั่นจากการถูกห้อมล้อม สิบสามแลบลิ้นใส่ชายชราแล้วก็วิ่งเข้าบ้านไป
เซี่ยชีหรั่นเดินตามชายชราตรงขึ้นไปชั้นสาม ไม่ว่าจะเป็นห้องรับแขกหรือทางเดิน ล้วนว่างเปล่า มีเพียงราวบันไดเท่านั้น
“ดวงตาของเขาบางทีอาจเกิดการบอดฉับพลัน และเขาก็ไม่ยอมไปรักษาที่ลอสแองเจลิส และก็ไม่ยอมไปที่โรงพยาบาล ต้องการจะอยู่แต่ที่นี่ ดังนั้นตรงนี้จึงไม่สามารถวางสิ่งของได้ เพื่อหลีกเลี่ยงการชนกระแทก” ชายชราพลางเดินพลางอธิบาย
เบ้าตาของเซี่ยชีหรั่นคอลเปียกซึม รู้สึกรางๆถึงเหตุผลที่เย่เชินหลินทำไมถึงไม่ยอมไปลอสแองเจลิส หรือแม้แต่เหตุผลที่ต้องการรักษาตัวอยู่ที่นี่ ที่แท้เย่เชินหลินก็แบกรับความทุกข์ทรมานมากมายมาโดยตลอด แต่ตัวเองนั้นกลับไม่เคยรู้เรื่อง
ชายชราผลักประตูเข้ามา ในห้องที่มีกลิ่นยาสมุนไพรที่ส่งกลิ่นฉุนทั่วห้อง เซี่ยชีหรั่นมองชายชราชาวต่างชาติจัดวางวัตถุดิบยาสมุนไพรจีนด้วยความประหลาดใจ
“ผมชอบแพทย์แผนจีนมาก ตั้งแต่เด็กผมก็เริ่มศึกษายาสมุนไพรจีน อย่าดูถูกชาวต่างชาติ “ ชายชราต่างชาติกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“นายท่าน วันนี้นายท่านมาแต่เช้าเลยนะคะ “ เสียงของสิบสามดังลอยมาจากด้านนอก
ชายชราชาวต่างชาติยัดตัวเซี่ยชีหรั่นเข้าไปในผ้าม่านที่ใช้ในการตรวจสอบ ประตูถูกผลักออก เซี่ยชีหรั่นเห็นเย่เชินหลินเดินเข้ามาผ่านช่องว่างของผ้าม่าน
“ในเทศกาลไหว้พระจันทร์ตาผมได้บอดฉับพลันไปครั้งหนึ่ง เมื่อวานก็เช่นกัน” เย่เชินหลินรายงานสถานการณ์ของเขาทันทีที่เดินเข้ามา เขาให้ความใส่ใจในโรคของตัวเองมากกว่าใครๆ เมื่อนึกถึงตัวเองผลักไสเซี่ยชีหรั่นไปให้สวีเห้าเซิงดูแล หัวใจของเย่เชินหลินก็บีบรัดขึ้นมา
“ทายาต่อ” ชายชราหยิบผ้าก๊อซมาผืนหนึ่ง หยิบสมุนไพรสีเขียวที่เหนียวหนืดจากขวดมาป้ายลงบนผ้าก๊อซ จากนั้นนำผ้าก๊อซมาพันรอบดวงตาของเย่เชินหลิน
เย่เชินหลินที่ถูกพันตาไว้เดินไปที่หน้าต่างอย่างคุ้นชินทาง นั่งอยู่ที่พนักเก้าอี้ริมหน้าต่าง สิบสามถอนหายใจแล้วกล่าวขึ้น:“ต่อให้ไม่สามารถมองเห็นได้ นายท่านก็อยากที่จะอยู่ใกล้ๆกับนายหญิง”
สิบสามจงใจตั้งใจพูดให้เซี่ยชีหรั่นที่อยู่หลังม่านได้ยิน จากนั้นสะกิดชายชราให้เดินออกข้างนอก เซี่ยชีหรั่นจึงได้เดินออกมาจากหลังผ้าม่านลูกปัดแล้วเดินมาอยู่ข้างๆเย่เชินหลินที่ดวงตาถูกพันด้วยยา
เย่เชินหลินมองออกไปนอกหน้าต่างขณะที่ดวงตาถูกพันด้วยยา เซี่ยชีหรั่นมองตามสายตาของเย่เชินหลิน สามารถมองเห็นห้องเปียโนของตัวเองที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล เซี่ยชีหรั่นชอบนอนพักกลางวันที่นี่
“สิบสาม ช่วยไปเปิดเพลงให้ผมหน่อย” เย่เชินหลินคิดว่าคนที่ยืนอยู่ข้างตัวเองเป็นสิบสาม จึงได้สั่งกำชับ
เซี่ยชีหรั่นกลั้นน้ำตาไว้แล้วเดินไปถึงหน้าเครื่องเล่นแผ่นเสียง เป็นเครื่องเล่นแผ่นเสียงที่เก่าแก่มาก เมื่อนำแผ่นเสียงวางเข้าไป เสียงเพลงเสนาะไพเราะก็ดังขึ้นในห้อง
เย่เชินหลินมองห้องเปียโนของเซี่ยชีหรั่นจากระยะไกลอย่างเงียบๆ เซี่ยชีหรั่นมองเขาอยู่ข้างๆอย่างเงียบๆ นึกถึงเย่เชินหลินที่นั่งคนเดียวอยู่ในคืนไหว้พระจันทร์ที่มืดมิด น้ำตาของเซี่ยชีหรั่นก็ไหลออกมาอย่างไร้เสียง และไม่สามารถทต่อไปได้อีก เซี่ยชีหรั่นจึงรีบหันหลังจากไป
ในระเบียงทางเดิน เซี่ยชีหรั่นร้องไห้อย่างเงียบๆ สิบสามเดินเข้ามาข้างๆเซี่ยชีหรั่นแล้วพูดขึ้นเบาๆ:“ ดิฉันเคยได้ยินนายท่านบอกไว้ ถ้าหากวันหนึ่งที่มองไม่เห็นแล้ว ก็จะจัดการกับคนเลวที่กลั่นแกล้งนายหญิงให้หมดสิ้นซาก นายหญิง นายท่านนั้นใส่ใจนายหญิงมากเลยนะคะ นายหญิงอย่าทิ้งนายท่านไปจะได้ไหม”
เซี่ยชีหรั่นแทบอยากจะเข้าไปใส่หมัดใส่เย่เชินหลิน หรือว่าในสายตาของเขา ตัวเองเหมือนคนที่จะทอดทิ้งและจากเขาไปในยามที่เขามีปัญหาอย่างนั้นหรอ! เห็นเซี่ยชีหรั่นเธอเป็นผู้หญิงแบบไหนกัน!
เมื่อจากสถานที่ที่เย่เชินหลินทำการรักษา เซี่ยชีหรั่นก็เดินวนไปวนมาอยู่ข้างนอก จนกระทั่งพลบค่ำถึงได้เดินกลับบ้านไป
เย่เชินหลินที่กำลังนั่งอยู่บนโซฟาดูหนังสือพิมพ์ด้วยสีหน้าเป็นปกติเช่นอย่างเคย เซี่ยชีหรั่นข่มอารมณ์อยากจะร้องไห้ไว้ ยิ้มแล้วเดินไปหาเย่เชินหลิน ทำท่าจะกอดเย่เชินหลิน
เย่เชินหลินหลบด้วยการลุกขึ้น ตั้งใจยืนให้ห่างจากเซี่ยชีหรั่นหนึ่งช่วงแขน มองดูนาฬิกาแล้วก็ดุเซี่ยชีหรั่นเบาๆ:“ไปไหนมา ออกไปกับสวีเห้าเซิงจนถึงตอนนี้เหรอ”
หากเป็นเมื่อก่อน การกระทำของเย่เชินหลินที่จงใจทำเหินห่างใส่เซี่ยชีหรั่น จะทำให้เซี่ยชีหรั่นเจ็บปวดทุกข์ใจ แต่ว่าตอนนี้ที่เขาทำตัวห่างเหินตัวเองคงเป็นเพราะไม่อยากให้ตัวเองนั้นได้กลิ่นยาจากตัวเขากระมัง
“ ฉันไปหาพี่สวีมา วันนี้พวกเราสนุกกันมาก สมใจคุณแล้วสิ ฉันขอตัวขึ้นไปพักผ่อนก่อน” เซี่ยชีหรั่นยืนยิ้มอยู่ข้างเย่เชินหลินที่ห่างกันหนึ่งช่วงแขน หลังพูดจบจากนั้นก็หันหลัง
วินาทีที่หันหลังนั้นน้ำตาก็ได้ไหลออกมา เชินหลิน ถ้าทำเช่นนี้แล้วคุณสบายใจ อย่างนั้นฉันก็จะทำต่อไป
วันรุ่งขึ้น ที่เซี่ยชีหรั่นตื่นขึ้นมา เย่เชินหลินนั้นไม่ได้อยู่แล้ว เห็นพ่อบ้านที่ท่าทางอ้ำๆอึ้งๆอยู่ตรงหน้า เซี่ยชีหรั่นจึงหัวเราะขึ้น ตอนนี้เธอจิตใจนั้นสงบมาก เธอตั้งหน้ารอ รอวันหนึ่งที่เย่เชินหลินจะหันมาพึ่งพาเธอ
ตลอดทั้งวัน เซี่ยชีหรั่นหมกมุ่นอยู่แต่ในห้องเปียโน เขียนหนังสือบ้าง เล่นเปียโนบ้าง ให้แน่ใจว่าตัวเองอยู่ในสายตาเสมอ
ในช่วงเวลาทานอาหารเย็น เย่เชินหลินได้โทรศัพท์มาบอกว่าที่บริษัทมีเรื่องไม่สามารถกลับมาทานอาหารเย็นได้ เซี่ยชีหรั่นจึงยิ้มแล้วตอบรับ เพิ่งลงมาจากตึกไห่โจ๋ซวนก็ได้เดินเข้ามา เย่ชูฉิงที่สะพายกระเป๋าใบเล็กๆไว้เมื่อเห็นไห่โจ๋ซวนก็ดุ๊กดิ๊กรีบล้วงขนมออกจากกระเป๋ามาให้ไห่โจ๋ซวน
“โจ๋ซวน เนี่ยนโม่ล่ะ” เซี่ยชีหรั่นที่มองออกไปข้างนอกแล้วไม่เห็นเงาของเย่เนี่ยนโม่
“เนี่ยนโม่กับยี่ซวนอยู่ที่โรงเรียนครับ เห็นบอกว่าจะกลับบ้านเย็นๆหน่อย” ไห่โจ๋ซวนตอบกลับคำถามเซี่ยชีหรั่นอย่างน่าเอ็นดู แต่ในความเป็นจริงในใจนั้นไม่ชอบเซี่ยชีหรั่น แทบอยากจะให้เซี่ยชีหรั่นหายสาบสูญไปในทันที
พี่เลี้ยงเดินมาข้างเย่ชูฉิงแล้วจูงมือเล็กๆของเย่ชูฉิงจากนั้นพูดว่า:“คุณหนู พวกเราไปอาบน้ำให้ตัวหอมๆกันดีไหม อาบน้ำตัวหอมแล้วจะได้ทานๆข้าวกัน”
เย่ชูฉิงจับมือไห่โจ๋ซวนไว้ไม่ยอมปล่อย ไห่โจ๋ซวนจึงพูดปลอบขึ้น:“วางใจเถอะ พี่อยู่ที่นี่ไม่ไปไหน” เมื่อเย่ชูฉิงได้ยินคำยืนยันแล้วถึงได้หันหลังเดินตามพี่เลี้ยงไป
ในห้องอาบน้ำ โทรศัพท์พี่เลี้ยงดังขึ้น:“แม่พั่นพั่น อะไรนะ ท่อน้ำบ้านเรารั่วอย่างนั้นเหรอ รอแป๊บเดียวฉันจะบอกเธอให้” พี่เลี้ยงหันหลังแล้วจากห้องอาบน้ำไป
หน้าต่างในห้องอาบน้ำไม่ได้ปิด ฤดูนั้นได้เข้าสู่ต้นเดือนสิบ ในอ่างอาบน้ำ เป็ดยางตัวน้อยของเย่ชูฉิงได้ล้นออกมาจนหลุดร่วงออกจากอ่างอาบน้ำ เย่ชูฉิงจึงปีนดุ๊กดิ๊กออกมาจากอ่างอาบน้ำ
ทานอาหารเสร็จ เซี่ยชีหรั่นยังคงไปที่ห้องเปียโน ไห่โจ๋ซวนได้พาเย่ชูฉิงไปที่ห้องของเล่น ในห้องของเล่นนั้นได้ออกแบบให้เป็นสีชมพูทั้งหมดและกองเต็มไปด้วยตุ๊กตา
ไห่โจ๋ซวนนั่งอยู่ข้างๆมองดูเย่ชูฉิงที่อยู่ในกองตุ๊กตา ในใจของเขานั้นเย็นชา แต่เขาต้องแสร้งทำดีกับเย่ชูฉิง เมื่อเติบโตขึ้น เขาจะต้องแก้แค้นอย่างแน่นอน!
“พี่โจ๋ซวน อะให้” เย่ชูฉิงนำตุ๊กตาตัวโปรดใส่ในมือของไห่โจ๋ซวน
ไห่โจ๋ซวนรับมา และมือไปแตะโดนหน้าผากที่ร้อนมากของเย่ชูฉิงจนตกใจขึ้น
“ชูฉิงเธอยังโอเคอยู่ไหม” ไห่โจ๋ซวนจึงรีบแตะที่แขนขาของไห่โจ๋ซวน ร้อนจริงๆด้วย
ใบหน้าเล็กๆของเย่ชูฉิงแดงขึ้น ริมฝีปากแห้งลอกเล็กน้อย เมื่อได้ยินไห่โจ๋ซวนถามตัวเอง เย่ชูฉิงเอียงศีรษะครุ่นคิดสักครู่แล้วพูดขึ้น:“ ไม่โอเค ร้อนๆ”
ไห่โจ๋ซวนจึงอุ้มเย่ชูฉิงขึ้นแล้วจะเดินออกข้างนอกเพื่อไปเรียกพ่อบ้าน เมื่อสาวเท้าก้าวออกจากประตูก็เกิดลังเลขึ้น
ลมหายใจที่ร้อนผ่าวของเย่ชูฉิงรดใส่ช่วงคอของไห่โจ๋ซวน ไห่โจ๋ซวนจึงถอยหลังกลับแล้ววางเย่ชูฉิงลงบนเตียง
คิ้วบางๆของเย่ชูฉิงขมวดขึ้น เปิดปากเล็กๆอ้าหายใจ ไห่โจ๋ซวนมองเย่ชูฉิงอย่างเงียบๆ ถ้าหากเย่ชูฉิงเป็นขึ้นสูงแล้วเสียชีวิตไป เซี่ยชีหรั่นจะต้องเจ็บปวดเสียใจสินะ เย่เชินหลินก็คงจะเจ็บปวดเสียใจเช่นกันสินะ
เมื่อนึกถึงความเจ็บปวดของมารดาที่อยู่ที่บ้าน พี่เลี้ยงที่แอบซุบซิบคุยกัน และเห็นครอบครัวที่มีความสุขกันของเย่เนี่ยนโม่กับหลี่ยี่ซวน
ไห่โจ๋ซวนยืนนิ่งไม่ไหวติง กัดริมฝีปากจนแทบเลือดจะไหลออกมา
“พี่โจ๋ซวน”
ปลายนิ้วถูกจับ อุณหภูมิที่ร้อนผ่าวทำให้ไห่โจ๋ซวนตกใจ เย่ชูฉิงจับมือของไห่โจ๋ซวนแล้วยิ้มให้อย่างสบายใจ และดวงตาก็ค่อยๆเคลิ้มหลับไป
มือที่เย็นเยียบของไห่โจ๋ซวนจับกับมือที่ร้อนผ่าวของเย่ชูฉิง เย่ชูฉิงที่จับอยู่เบาๆ หากไห่โจ๋ซวนถอยหลังเพียงหนึ่งเก้า ก็จะสามารถคลายออกจากกันได้อย่างง่ายดาย แล้วก็แสร้งทำเป็นหลับไป ปล่อยเย่ชูฉิงเป็นไข้ขึ้นสูง จากนั้นตัวเองก็สามารถแก้แค้นครอบครัวนี้ได้แล้ว
ความคิดชั่วร้ายได้วกวนอยู่ในหัวสมองของไห่โจ๋ซวน มือเย่ชูฉิงที่จับไห่โจ๋ซวนไว้ได้คลายออก
อุณหภูมิที่ร้อนผ่าวได้จางหาย จิตใจของไห่โจ๋ซวนสับสน โน้มตัวไปอุ้มตัวเย่ชูฉิงที่ร้อนผ่าวแล้ววิ่งออกมาข้างนอก
“เร็วเข้า!ชูฉิงไม่สบาย!”
“ชูฉิงป่วยไม่สบายเหรอ” เย่เนี่ยนโม่กับหลี่ยี่ซวนที่เพิ่งเดินเข้า เห็นเย่ชูฉิงซบอยู่ที่อ้อมกอดของไห่โจ๋ซวน หลี่ยี่ซวนจึงรีบไปเรียกพ่อบ้าน
“ชูฉิง!”เซี่ยชีหรั่นรีบออกจากบ้านอย่างรวดรวด ทุกคนมุ่งหน้าไปที่โรงพยาบาลเด็ก
ในโรงพยาบาล เย่ชูฉิงที่ต้องให้น้ำเกลือได้จับไห่โจ๋ซวนไว้ไม่ยอมปล่อย หลี่ยี่ซวนจ้องมองอยู่ข้างๆด้วยความเป็นห่วง
เย่เนี่ยนโม่เดินออกไปหาเซี่ยชีหรั่น ได้ยินเซี่ยชีหรั่นคุยกับเย่เชินหลินพอดี
“ไม่เป็นไร ทำงานไปเหอะ ชูฉิงไม่เป็นอะไรแล้ว ไข้ได้ลดไปแล้ว” เซี่ยชีหรั่นกล่าวอย่างอ่อนโยน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset