สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 1372 หญิงรับใช้ของคุณชายเย่ 1272

เมื่อเย่เนี่ยนโม่ได้ยินข้างใจก็รู้สึกไม่พอใจขึ้น ลูกสาวตัวเองไม่สบายแท้ๆ ยังจะยุ่งอยู่กับการทำงานอีก ลุงสวีไม่เห็นเป็นแบบนี้!
เย่เนี่ยนโม่จึงแอบโทรศัพท์หาสวีเห้าเซิง ไม่นาน สวีเห้าเซิงก็ได้รีบมาหาอย่างรวดเร็วทันที
“ชูฉิงไม่เป็นอะไรใช่ไหม” สวีเห้าเซิงรีบถามขึ้น เซี่ยชีหรั่นส่ายหน้า
“ใครเป็นผู้ปกครองคะ รบกวนมาทำเรื่องเข้าพักโรงพยาบาลด้วยค่ะ” แพทย์ที่ถือใบเข้าพักโรงพยาบาลไว้ พ่อบ้านถูกเซี่ยชีหรั่นไล่กลับไปเอาของเล่นชิ้นโปรดของเย่ชูฉิง เซี่ยชีหรั่นจึงเตรียมตัวที่ไปดำเนินการด้วยตัวอเอง แต่กลับถูกสวีเห้าเซิงแย่งใบเข้าพักโรงพยาบาลไป
“เดี๋ยวผมจะไปดำเนินการเอง จำได้ว่าเมื่อก่อนที่เนี่ยนโม่ไม่สบาย คุณนั้นถือแผ่นกระดาษเดินวนไปวนมา”
“ลุงสวี เมื่อก่อนที่ผมไม่สบายลุงสวีอยู่ด้วยตลอดเหรอครับ” เย่เนี่ยนโม่ถามขึ้นด้วยความสงสัย
สวีเห้าเซิงพยักหน้าอย่างอ่อนโยน เซี่ยชีหรั่นกับเย่เนี่ยนโม่คือคนที่สนิทชิดเชื้อที่สุดของเขาตลอดไป
ตกตึก เซี่ยชีหรั่นที่พยุงตัวเองไม่ไหวจึงได้ซบพิงเข้าไปที่ไหล่ของสวีเห้าเซิง สวีเห้าเซิงหันไปมองใบหน้าด้านข้างของเซี่ยชีหรั่นอย่างอ่อนโยน
ประตูถูกผลักออก เย่เชินหลินได้เดินเข้ามา แล้วมองเห็นเย่ชูฉิงที่นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย วัดอุณหภูมิร่างกายของเย่ชูฉิงด้วยตัวเองแล้วถึงวางใจ
สวีเห้าเซิงชักสีหน้าเย็นชาแล้วค่อยๆวางเซี่ยชีหรั่นไปพิงเข้ากับเก้าอี้ข้างหลัง แล้วส่งสัญญาณให้เย่เชินหลินตามตัวเองออกไปด้านนอก
“เย่เชินหลิน ป่านนี้คุณเพิ่งมา เป็นผู้ชายประสาอะไร!” สวีเห้าเซิงที่ยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห จึงปล่อยหมัดใส่เย่เชินหลิน
เย่เชินหลินยื่นมือมารับหมัดของสวีเห้าเซิงไว้ อารมณ์ที่ถูกเก็บกดไว้นานได้ระเบิดปะทุออกมา คว้าคอของสวีเห้าเซิงแรงๆมาบีบไว้แน่น จากนั้นพูดขึ้นว่า:“ถ้าหากวันหนึ่งที่ผมไม่สามารถดูแลเซี่ยชีหรั่นได้ ช่วยผมดูแลเธอด้วย!”
“พูดบ้าอะไร!” สวีเห้าเซิงดึงมือของเย่เชินหลินออก แล้วต่อยเข้าที่แก้มของเย่เชินหลิน
ความเร็วของเย่เชินหลินที่ต้องการจะหลบนั้นได้เชื่องช้าลง จึงถูกหมัดของสวีเห้าเซิงต่อยเข้าอย่างจัง จนทั้งตัวเซไถลไปข้างหน้า
สวีเห้าเซิงก็สังเกตถึงความผิดปกติของเย่เชินหลิน จึงเดินไปหยุดอยู่หน้าเย่เชินหลินและพูดด้วยความสงสัย “คุณเป็นอะไรไป”
“พาผมออกไปจากที่นี่ก่อน” เย่เชินหลินลุกยืนขึ้น ก้าวเดินไปข้างหน้าหนึ่งก้าวแล้วชนเข้ากับเก้าอี้ จึงได้ถอยหลังไปสองสามก้าว
“ นี่คุณ” สวีเห้าเซิงมองเย่เชินหลินอย่างลังเลใจ ในห้องได้มีเสียงดังลอยออกมา เย่เชินหลินจึงร้องขึ้นอย่างลนลาน:“รีบเข้าสิ!”
สวีเห้าเซิงจึงไม่ลังเลใจอีก คว้าแขนของเย่เชินหลินเดินมุ่งไปที่ทางออกบันได ทั้งหมดนี้ล้วนอยู่ในสายตาของเซี่ยชีหรั่น
เชินหลิน เมื่อไหร่คุณจะบอกเรื่องราวทั้งหมดนี้กับฉัน น้ำตาที่เอ่อซึมอยู่ในเบ้าตาที่สุดก็ร่วงหล่นลง
ระเบียงทางเดินมีเสียงฝีเท้าก้าวเดินดังขึ้น เซี่ยชีหรั่นรีบแสร้งทำเป็นหลับ สวีเห้าเซิงได้เดินเข้ามาใกล้แล้วจ้องเซี่ยชีหรั่น จากนั้นได้ถอนหายใจ โชคชะตาชอบเล่นตลกกับคู่รักคู่นี้ที่รักกันมาก
วันรุ่งขึ้น เซี่ยชีหรั่นแสร้งพูดคุยเฮฮากับสวีเห้าเซิงเป็นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น หลินหลิงที่พาไห่โจ๋ซวนมาเยี่ยมเย่ชูฉิง
“ชีหรั่น ผมอยากจะไปเที่ยวต่างประเทศสักพัก คุณอยากจะไปกับผมด้วยไหม”สวีเห้าเซิงที่พลางปอกแอปเปิลพลางแสร้งถามอย่างไม่ใส่ใจขึ้น
“ไม่ได้” หลินหลิงแย่งพูดขึ้นก่อน พูดตลกอะไรกัน ตอนนี้เย่เชินหลินต้องการกำลังใจจากเซี่ยชีหรั่นที่สุด เซี่ยชีหรั่นจะไปเที่ยวต่างประเทศกับสวีเห้าเซิงได้อย่างไร
“ทำไมอยู่ๆก็แนะนำเรื่องนี้ขึ้น” เซี่ยชีหรั่นคิดว่าเป็นความคิดของเย่เชินหลินหรือเปล่า จึงยิ้มแล้วถามขึ้น
หลินหลิงรู้สึกไม่พอใจที่เซี่ยชีหรั่นไม่ปฏิเสธสวีเห้าเซิงในทันที น้ําเสียงในการพูดจึงไม่ค่อยรื่นหูสักเท่าไหร่:“ชีหรั่น อย่าบอกนะว่าเธอจะนำไปคิดไตร่ตรอง”
“ตอนนั้นที่คุณตอบตกลงการขอแต่งงานของผมนั้น ผมก็ได้วางแผนไว้แล้วว่าหลังจากที่แต่งงานจะพาคุณกับเนี่ยนโม่ไปท่องเที่ยวทั่วโลก ถึงแม้ว่าบทบาทในตอนนี้จะต่างกัน แต่ผมก็ยังอยากจะทำเรื่องนี้กับคุณ”
สวีเห้าเซิงนั้นพูดออกมาจากใจ แม้ว่าเย่เชินหลินจะต้องการให้ตัวเองพาเซี่ยชีหรั่นไปอยู่ต่างประเทศสักพัก แต่ว่าคำพูดเมื่อสักครู่นั้นเป็นสิ่งที่เขาต้องการอยากจะพูดจริงๆ
เซี่ยชีหรั่นพยักหน้า ไม่ได้ให้คำตอบที่ชัดเจนแก่สวีเห้าเซิง มองดูนาฬิกาก็เป็นเวลาเกือบประมาณบ่ายสามโมงแล้ว
เซี่ยชีหรั่นได้ฝากชูฉิงให้สวีเห้าเซิงแล้ว ก็รีบมุ่งไปทางกลับบ้าน แต่ไม่ได้กลับบ้านตระกูลเย่ แต่กลับโค้งเข้าไปในอาคารที่ปลูกเต็มไปด้วยดอกไวโอเล็ตที่อยู่ไม่ไกลจากบ้าน
สิบสามรออยู่ที่ประตูตั้งแต่เนิ่นๆแล้ว เมื่อเห็นเซี่ยชีหรั่นก็ไม่พูดพร่ำทำเพลง ได้พาเซี่ยชีหรั่นขึ้นตึกไป
“อีกไม่กี่วันนายท่านก็จะทำการผ่าตัดแล้ว” สิบสามพูดกับเซี่ยชีหรั่นเบาๆ
ชั้นสามที่อบอวลด้วยกลิ่นจางๆของยาสมุนไพร ในห้องที่เปิดโล่ง เย่เชินหลินยังคงหันหน้ามองไปทิศทางบ้านตระกูลเย่ เซี่ยชีหรั่น ได้เดินเข้ามาใกล้ และยังคงยืนข้างๆเย่เชินหลินอย่างเงียบๆ
“ สิบสาม” เย่เชินหลินเรียกขึ้นฉับพลัน เซี่ยชีหรั่นลนลานขึ้น เธอไม่สามารถส่งเสียงได้ ถ้าส่งเสียงเย่เชินหลินก็จะจำได้ทันที
“นายท่านดิฉันมาแล้วค่ะ” สิบสามรีบวิ่งเข้ามายืนข้างเย่เชินหลินทันที แล้วโบกมือให้กับเซี่ยชีหรั่น
“วันนี้ชีหรั่นทำอะไรบ้าง”
สิบสามมองเซี่ยชีหรั่น แล้วโน้มตัวไปหาเย่เชินหลินจากนั้นพูดขึ้น :“นายหญิงอยู่ดูแลคุณหนูที่โรงพยาบาลค่ะ”
เย่เชินหลินพยักหน้า แล้วพูดเบาๆ:“ อย่างนั้นก็ดี”
เซี่ยชีหรั่นอยู่เป็นเพื่อนเย่เชินหลินจนกระทั่งถึงเวลาให้ยา จงใจเตร็ดเตร่อยู่ข้างนอกเป็นเวลานานแล้วถึงกลับบ้าน
เย่เชินหลินยังคงนั่งอยู่บนโซฟา ที่หว่างคิ้วหมองเศร้าเล็กน้อย อากาศในนั้นถูกพ่นโอเดอโคโลญให้เข้มข้นอย่างจงใจ
เซี่ยชีหรั่นได้นั่งลงข้างๆเย่เชินหลิน เย่เชินหลินอยากที่จะเขยิบไปนั่งข้างๆก็คว้าจับมือของเย่เชินหลินไว้
“พี่สวีชวนฉันไปท่องเที่ยวต่างประเทศ ฉันอยากจะรับปากเขา” เซี่ยชีหรั่นรีบมองเส้นลายมือของเย่เชินหลิน
“นายหญิงครับ ไม่เหมาะสมมั้ง” พ่อบ้านที่นำน้ำชามาเสิร์ฟพอดี ได้ยินคำพูดของเซี่ยชีหรั่นจึงอดใจไม่ได้ที่จะพูดขึ้น ไม่ต้องกล่าวถึงความรู้สึกของสวีเห้าเซิงที่มีต่อเซี่ยชีหรั่นจนทุกคนรู้ต่างรู้กันดี ตอนนี้ใครๆก็ดูออกว่าจิตใจของเย่เชินหลินค่อนข้างแย่ เซี่ยชีหรั่นมาจากไปตอนนี้ ดูไม่เหมือนกับเป็นเรื่องที่เซี่ยชีหรั่นจะทำออกมาได้
เย่เชินหลินมองพ่อบ้านแวบหนึ่ง พ่อบ้านรู้ตัวว่าตัวเองนั้นพูดมากเกินไปแล้ว จึงไม่กล้าพูดอะไรอีกแล้วก็ถอยออกไป
เย่เชินหลินกุมมือของเซี่ยชีหรั่นไว้แล้วพูดเบา:“อยากทำอะไรก็ไปทำเลย ผมยังคงรอคุณอยู่ที่นี่เสมอ”
“อยากทำอะไรก็ทำอย่างนั้นเหรอ” เซี่ยชีหรั่นถามขึ้น
เย่เชินหลินลังเลสักพักก่อนพยักหน้า เซี่ยชีหรั่นเอียงหน้าเข้าไปใกล้ใบหูของเย่เชินหลิน แล้วกระซิบเบาๆด้วยคำพูดที่ทำให้คนรู้สึกเขินอาย
บรรยากาศในค่ำยืนที่หอมหวานได้แผ่กระจายไปทั่วห้อง เย่เชินหลินแน่นิ่งจ้องเซี่ยชีหรั่น มองท่าทางอีกฝ่ายที่ออดอ้อนออเซาะดุจแมวน้อย
“ห้ามมอง” เซี่ยชีหรั่นที่ต้องการจะปิดหน้าตัวเอง แต่ถูกเย่เชินหลินแกะมือเซี่ยชีหรั่นออก แล้วพูดเบาๆขึ้น:“ชีหรั่น ผมอยากจนแทบจะเป็นบ้าอยู่แล้ว”
เซี่ยชีหรั่นปริปากยิ้ม ริมฝีปากแดงระเรื่อได้ประกบอุดปากเย่เชินหลินไว้ จูบอย่างดูดดื่มแล้วกระซิบเข้าที่ใบหูของเย่เชินหลินเบาๆ:“เย่เชินหลินหากฉันไปกับพี่สวี คุณจะไม่รั้งฉันใช่ไหม”
“อย่าไป ชีหรั่นอย่าไป” เย่เชินหลินซุกไซ้อยู่ที่ซอกคอเนียนขาวของเซี่ยชีหรั่นแล้วเปล่งพูดซ้ำๆเบาๆ มองไม่เห็นหยดน้ำตาหนึ่งหยดของเซี่ยชีหรั่นที่ค่อยๆไหลออกจากหางตา
วันรุ่งขึ้น เย่ชูฉิงออกจากโรงพยาบาล หลินหลิงตามเซี่ยชีหรั่นกลับถึงบ้านตระกูลเย่ ในบ้านหลังใหญ่ของตระกูลเย่ หลินหลิงได้ขวางเซี่ยชีหรั่นแล้วถามขึ้นอย่างจริงจัง:“ชีหรั่น เธอไม่มีทางรับปากสวีเห้าเซิงใช่ไหม”
เซี่ยชีหรั่นส่ายหน้า:“ไม่ ฉันได้ตัดสินใจแล้ว”
“นี่เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า เธอรู้ไหมว่าประธานเย่เขา!”หลินหลิงรีบหุบปากทันที คำสั่งของเย่เชินหลินน้อยมากที่เธอจะฝ่าฝืน ครั้งนี้ก็ไม่เว้นเช่นกัน
“เซี่ยชีหรั่นถ้าครั้งนี้เธอจะไปจริงๆ ถือซะว่าฉันมองเธอผิดไปก็แล้วกัน!”หลินหลิงโกรธจนหันหลังกลับ เซี่ยชีหรั่นมองแผ่นหลังของหลินหลิงแล้วถอนหายใจขึ้น จากนั้นพึมพำเบาๆ:“ในเมื่อเป็นความต้องการของเขา แน่นอนว่าฉันอยากให้เขาเข้ารับการรักษาอย่างหมดห่วงไร้ความกังวล”
พลบค่ำ เซี่ยชีหรั่นเก็บสัมภาระยัดเสื้อผ้าใส่ลงในกระเป๋าเดินทางลวกๆ ประตูห้องถูกเคาะขึ้น จากนั้นพ่อบ้านก็เดินเข้ามา
พ่อบ้านเห็นเซี่ยชีหรั่นพี่กำลังเก็บสัมภาระ ลังเลอยู่สักพักแล้วก็พูดออกมา :“ นายหญิงครับ ผมรู้สึกว่าพักนี้นายท่านดูไม่ค่อยปกติ อย่าเพิ่งไปเดินทางไปท่องเที่ยวจะได้ไหมครับ อยู่เป็นเพื่อนนายท่านก่อน”
พ่อบ้านคิดว่าตัวเองอุตส่าห์พูดมาถึงขนาดนี้แล้ว เซี่ยชีหรั่นคงน่าจะรับปาก เซี่ยชีหรั่นกดกระเป๋าเดินทางไว้ แล้วพูดขอโทษกับพ่อบ้านว่า :“อย่างไรฉันก็ต้องไป”
พ่อบ้านพยักหน้าแล้วก็จากไป เซี่ยชีหรั่นเดินไปที่ห้องหนังสือ เย่เชินหลินที่กำลังนั่งอยู่หน้าหน้าต่างที่จรดถึงพื้น เมื่อเห็นเซี่ยชีหรั่น ได้โบกมือเรียกให้เซี่ยชีหรั่นเข้ามา
“เตรียมพร้อมแล้วเหรอ” เย่เชินหลินถามขึ้น
“พวกเราจะไปท่องเที่ยวสถานที่ต่างๆมากมาย สถานที่แรกคือกรุงโรม” เซี่ยชีหรั่นยิ้มแล้วเดินไปที่ข้างๆเย่เชินหลิน
ดวงตาของเย่เชินหลินเคลื่อนไหวตามเสียงของเซี่ยชีหรั่น การเคลื่อนไหวที่ค่อนข้างแข็งทื่อ เซี่ยชีหรั่นจึงชะงัก ดวงตาประกายความเจ็บปวด ในใจคิดถึงคำพูดของชายชราชาวต่างชาติที่เคยพูดไว้ ดวงตาของเย่เชินหลินจะสามารถตาบอดฉับพลัน จากนั้นจึงได้ใช้เสียงที่ดังขึ้นวิ่งเข้ามาหาเย่เชินหลิน แล้วจับมือของเย่เชินหลินไว้พูดออเซาะขึ้น:“ ดวงดาวในคืนนี้ช่างสวยงามเหลือเกิน ไปดูดาวด้วยกันเถอะ”
จูงเย่เชินหลินมาที่ดาดฟ้าโดยไม่เว้นช่วงให้ได้พูด ชั้นดาดฟ้าที่ถูกออกแบบสไตล์ยุโรป ด้านหนึ่งเป็นบ่อน้ำพุร้อนและอีกด้านเป็นวางเก้าอี้หวายไว้
“คุณรู้ไหมว่าตอนเด็กๆนั้นเสี่ยวจุนกับฉันได้วิ่งออกจากบ้านเพื่อไปดูฝนดาวตก ต่อมาฝนดาวตกก็ไม่ได้เห็น ซ้ำก็คนถูกคนส่งตัวกลับมาอีก ก้นของฉันถูกตีจนลายเลย” เซี่ยชีหรั่นมองดวงดาวบนท้องฟ้าแล้วยิ้มอย่างระรื่น ส่วนเย่เชินหลินนั้นมองเซี่ยชีหรั่นอย่างอ่อนโยน
เซี่ยชีหรั่นมองดวงดาวบนท้องฟ้า น้ำตาไหลเอ่อจากหางตา คนที่นั่งอยู่ข้างๆตัวเองนั้น ถึงแม้ว่าตอนนี้จะมองไม่เห็น แต่ก็ยังสามารถจ้องมองเธอได้อย่างอ่อนโยน
ดวงดาวที่ระยิบระยับใต้แสงจันทร์ เงาของทั้งคู่ที่แนบชิดสนิทกัน ฝ่ายหญิงพูดเจื้อยแจ้วตลอดไม่หยุด ฝ่ายชายตอบรับเป็นบางครั้ง ควบคู่เสียงลมที่พัดโชยมาในปลายฤดูใบไม้ร่วงผสมผสานกับเสียงใบไม้พัดวี๊ดวิ้ว กลมกลืนกันจนกลายมาเป็นเสียงทำนองเพลง
“นายหญิงท่านจะไปจริงๆเหรอครับ” พ่อบ้านที่ถือกระเป๋าของเซี่ยชีหรั่นไว้อดไม่ได้ถามขึ้นเพื่อควานแน่ใจอีกครั้ง
เซี่ยชีหรั่นพยักหน้า ลูบเข้าที่ศีรษะของเย่เนี่ยนโม่จากนั้นพูดขึ้น:“เนี่ยนโม่จะต้องเป็นเด็กดีรู้ไหม”
เย่เนี่ยนโม่พยักหน้า ในใจของเขาสวีเห้าเซิงนั้นเป็นคนที่เหมาะสมเซี่ยชีหรั่นที่สุด เซี่ยชีหรั่นจะไปกับสวีเห้าเซิง เขานอกจากมีอารมณ์อาวรณ์ไม่อยากจากแต่ก็เห็นด้วยที่สุด
“เซี่ยชีหรั่น เธอมากับฉันหน่อย” หลินหลิงดึงเซี่ยชีหรั่นเดินมาถึงศาลาในสวนด้วยสีหน้าที่ดำเขียวปัด
“ดวงตาของประธานเย่มีปัญหา สามารถตาบอดฉับพลันได้ ฉันคิดว่าตอนนี้สิ่งที่เขาต้องการที่สุดคืออยากให้เธอนั้นอยู่ข้างๆ” หลินหลิงยอมที่ฝ่าฝืนความคำสั่งของเย่เชินหลินก็จะรั้งเซี่ยชีหรั่นไว้

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset