สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 1374 หญิงรับใช้ของคุณชายเย่ 1274

ดอกไม้ไฟขนาดใหญ่ดังขึ้นบนท้องฟ้า ประกายแสงระยิบระยับหลากหลายสีสัน ผู้คนต่างถูกแสงดอกไม้ไฟที่งดงามดึงดูดตา จนต้องแหงนหน้าขึ้นเชยชม
เซี่ยชีหรั่นมาถึงนอกห้องหนังสือที่อยู่ชั้นสอง เย่เชินหลินยืนอยู่ที่ระเบียง ในมือถือไวน์แดง ก็กำลังจ้องมองบนท้องฟ้าที่วิบวับสว่างไสวด้วยแสงดอกไม้ไฟที่จุดประกายอย่างต่อเนื่อง
“ทำไมไม่ลงไปล่ะ”เซี่ยชีหรั่นยืนยิ้มอยู่ข้างๆเย่เชินหลิน ดอกไม้ไฟที่ปะทุขึ้นบนท้องพอดี ความสว่างไสวได้สะท้อนเข้าที่ใบหน้าวิจิตรของเซี่ยชีหรั่น
เย่เชินหลินดึงเซี่ยชีหรั่นเข้ามาในอ้อมกอด โดยที่ศีรษะแนบชิดผมที่นุ่มสลวยของเซี่ยชีหรั่น แล้วมองดูดอกไม้ไฟบนท้องฟ้าจากนั้นพูดเบาๆ:“พวกเราไปท่องโลกกันเถอะ”
“คุณพูดอะไรนะ” เสียงดอกไม้ไฟดังมาก เซี่ยชีหรั่นได้ยินไม่ชัดเจน จึงต้องตะโกนถามกลับดังๆ
เย่เชินหลินหงายตัวเซี่ยชีหรั่นลง จากนั้นริมฝีปากประกบเข้ากับริมฝีปาก จูบกันอย่างดื่มด่ำท่ามกลางแสงดอกไม้ไฟ จนกระทั่งเซี่ยชีหรั่นหายใจไม่ออก
ริมฝีปากอันอบอุ่นประกบจูบอยู่ที่ริมฝีปากอันงดงามของเซี่ยชีหรั่น แล้วเปล่งคำพูดออกมาทีละคำๆ:“ผมบอกว่า! อยากจะพาคุณไปท่องเที่ยวทั่วโลก ! กันสองต่อสง!”
แสงดอกไม้ไฟระยิบระยับวิบวับปะทุอยู่ด้านหลังพวกของเขาสองคน ทำให้ครึ่งท้องฟ้านั้นส่องสว่างไสว และยังส่องประกายให้เห็นถึงน้ำตาใสๆที่คลออยู่ในดวงตาของเซี่ยชีหรั่น
ท่ามกลางเสียงประทัดที่ดังตูมตาม เซี่ยชีหรั่นตะโกนอย่างเสียงดังใส่เย่เชินหลิน:“ฉันตกลง!”
สิบสี่ปีต่อมา
ในห้องจัดงานที่แพงที่สุดของโรงแรมตี้เหา ชายหนุ่มที่สวมชุดไหมสีดำนอนเล่นอยู่บนโซฟาอย่างขี้เกียจ กำลังควงมีดพับสวิสเล่มหนึ่งเล่นอยู่ในมือ ใบหน้าที่หล่อเหลาบนไม่แพ้ให้กับดาราดังคนใด
“เนี่ยนโม่ วันนี้เป็นวันเกิดของนาย ป้าเซี่ยกับลุงเย่ยังอยู่ที่ป่าอเมซอนเหรอ”
ไห่โจ๋ซวนวางแก้วเครื่องดื่มลงบนโต๊ะหญิงสาวที่อยู่ข้างตัวเอง จากนั้นเอนตัวเข้าไปใกล้เย่เนี่ยนโม่ยิ้มแล้วกล่าวขึ้น ไห่โจ๋ซวนซึ่งได้รับการจัดเป็นดาวมหาวิทยาลัยของมหาวิทยาลัยZร่วมกับเย่เนี่ยนโม่ เทียบความหล่อเหลาสูงยาวของเย่เนี่ยนโม่แล้วดูเป็นเด็กเรียนกว่าเยอะ จี้ต่างหูไพลินทำให้รูปร่างหน้าตาของไห่โจ๋ซวนที่อ่อนโยนดูเป็นเด็กเรียนแลดูเนือยๆ
เย่เนี่ยนโม่ปรายตามองหญิงสาวที่อยู่ข้างไห่โจ๋ซวน และพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยพอใจ:“วันนี้ชูฉิงจะกลับมาจากฝรั่งเศส”
“จริงเหรอ ทำไมไม่บอกตั้งแต่แรก ผมจะได้ไปรับเธอด้วยตัวเอง” ไห่โจ๋ซวนยิ้มขึ้นอย่างอ่อนโยนและจริงใจ
“ผมไม่รู้จริงๆว่านายไม่เข้าใจจริงๆหรือแสร้งทำเป็นไม่เข้าใจ ถ้าหากให้ชูฉิงเห็นเข้าเธอจะต้องทุกข์ใจอีกแน่!” เย่เนี่ยนโม่โมโหเพื่อนรักที่เติบโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็กจนต้องกัดฟัน คนทั้งโลกต่างรู้ว่าเย่ชูฉิงนั้นชอบไห่โจ๋ซวนมาตั้งแต่เล็ก ไห่โจ๋ซวนเองก็ดีกับเย่ชูฉิงเช่นกัน แต่ว่าให้ตายอย่างไรก็ไม่ยอมสารภาพความรู้สึกออกมา !
ไห่โจ๋ซวนพูดอย่างเคร่งขรึม: “เมิ่นเจ๋เรียนอยู่ในชั้นเดียวกันกับพวกเรา และเป็นเพื่อนที่เติบโตมาด้วยกันตั้งแต่เล็กๆ ดังนั้นเราจึงได้ชวนเธอมางานวันเกิดของนายด้วย”
ซ่งเมิ่นเจ๋เป็นลูกนอกสมรสของส้งซูหาว จุดนี้ไห่โจ๋ซวนกับเย่เนี่ยนโม่ต่างรู้กัน ผู้หญิงโดยปกติเป็นคนเงียบ ดังนั้นจึงไม่ได้สมาคมเท่าไหร่เย่เนี่ยนโม่
ซ่งเมิ่นเจ๋ได้ยินไห่โจ๋ซวนเอ่ยถึงตัวเอง จึงเงยหน้าขึ้นแล้วยิ้มเบาๆ จากนั้นก็ก้มหน้ามองแก้วเครื่องดื่ม
“อืม ตามใจนายก็แล้วกัน” เย่เนี่ยนโม่ที่นอกจากเซี่ยชีหรั่น สวีเห้าเซิง และไห่โจ๋ซวน หลี่ยี่ซวนเพื่อนที่รู้จักมักจี่กันมาตั้งแต่เด็กๆแล้ว นอกเหนือจากนั้นไม่ว่าจะกับใครก็มักมีเย็นชาใส่
ประตูห้องจัดงานถูกผลักออก หญิงสาวที่มีหน้าตางามวิจิตรมากได้เดินเข้ามา
หญิงสาวที่มีผมลอนยาวสลวยสีน้ำตาล สวมใส่ชุดลูกแพร์สีขาวที่เข้ากับฤดูร้อน มุมปากที่ยิ้มขึ้นก็ปรากฏลักยิ้มจางๆ
“พี่โจ๋ซวน!”เย่ชูฉิงเมื่อลงจากเครื่องบินก็รีบมุ่งหน้ามาที่โรงแรมตี้เหาอย่างเหน็ดเหนื่อย เพื่อแค่อยากจะเจอกับไห่โจ๋ซวนเร็วๆ
“อาหารบนเครื่องบินไม่ค่อยอร่อย แน่นอนว่ายังไม่ได้ทานอาหารอะไรมาใช่ไหม” ไห่โจ๋ซวนลูบศีรษะของเย่ชูฉิงแล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล
เย่ชูฉิงพยักหน้ารับอย่างเคอะเขิน ไห่โจ๋ซวนถอนหายใจแล้วพูดขึ้น:“ร้านฉังเซียนมีเมนูอาหารใหม่ อีกสักครู่ผมจะพาคุณไปชิม”
เย่ชูฉิงได้ยินไห่โจ๋ซวนบอกว่าจะพาตัวเองไปทานของอร่อยดวงตาก็เป็นประกาย ไห่โจ๋ซวนหันหน้ามาพูดกับซ่งเมิ่นเจ๋ที่ก้มหน้าจ้องมองแก้วเครื่องดื่มตลอดเวลา :“เมิ่นเจ๋คุณก็ไปด้วยกันสิ”
ซ่งเมิ่นเจ๋รีบเงยหน้าขึ้น ตอบรับอย่างเร็วพลันแล้วก็ก้มหน้าลงต่อ
สีหน้าของเย่ชูฉิงซีดขาวขึ้น อารมณ์ที่ดีเมื่อสักครู่ค่อยๆจมดิ่งอยู่ในก้นบึ้ง
หลี่ยี่ซวนที่ติดตามหลังเย่ชูฉิงมาโดยตลอด มองเย่ชูฉิงด้วยความสงสาร ได้กำหมัดแน่นขึ้น แต่ก็ไม่สามารถก้าวมาข้างหน้าได้
เย่ชูฉิงเห็นตัวเองเป็นแค่เพื่อนที่เชื่อใจได้เท่านั้น ปกติก็มักจะคุยแต่เรื่องทุกเรื่องของไห่โจ๋ซวนตัวเองฟัง ถ้าหากว่าตัวเองนั้นสารภาพความรู้สึกออกมา อย่างนั้นเย่ชูฉิงก็คงจะตกใจแล้วหนีไป หลี่ยี่ซวนจึงได้แต่ทนกลั้นอย่างขมขื่นแล้วดื่มXOจนหมดแก้วในอึกเดียว สักพักสำลักออกมา
“ถ้าผมจำไม่ผิดปีนี้นายเพิ่งจะขึ้นปีหนึ่ง” เย่เนี่ยนโม่ย้ายแก้วเครื่องดื่มออกไปอย่างเงียบๆ
หลี่ยี่ซวนเริ่มรู้สึกมึนนิดๆ และตบเข้าที่ไหล่ของเย่เนี่ยนโม่จนเสียงดังป้าบ ส่ายศีรษะแล้วพูดขึ้น :“ถ้าหากผมจำไม่ผิด ผมกับนายเข้าเรียนพร้อมกัน!”
:“มาๆๆ! อย่ามัวแต่พูดคุยกันอยู่เลย วันนี้เรามาฉลองกันที่สามารถเข้าเรียนมหาวิทยาลัยZ และฉลองวันเกิดให้กับเนี่ยนโม่ พวกเราทุกคนหมด!”
ไห่โจ๋ซวนยิ้มแล้วยื่นแก้วเหล้าให้กับเย่เนี่ยนโม่ หลี่ยี่ซวนและซ่งเมิ่นเจ๋
“ทำไมฉันไม่มีล่ะ” เย่ชูฉิงที่นั่งมองอยู่ข้างๆ แม้แต่ซ่งเมิ่นเจ๋ก็มีแก้วเหล้า แต่ตัวเองกลับไม่มี รู้สึกว่าไห่โจ๋ซวนจะให้ความสำคัญซ่งเมิ่นเจ๋มากกว่าตัวเอง ใบหน้าจึงเศร้าเล็กน้อย
ไห่โจ๋ซวนชะงัก ในความทรงจำของตัวเอง มักจะมองเย่ชูฉิงเป็นเด็กผู้หญิงในตอนนั้นเสมอ จึงคิดว่าอีกฝ่ายนั้นดื่มเหล้าไม่เป็น
เย่ชูฉิงหงุดหงิด ยื่นมือไปหยิบเหล้าเอง แล้วพูดเสียงดังขึ้น:“พี่ สุขสันต์วันเกิดค่ะ!”
ดื่มหมดแก้วภายในอึกเดียว คนในงานอยากจะเข้าไปแย่งแต่ก็ไม่ทันแล้ว เย่ชูฉิงเดินวนอยู่สองสามรอบ จากนั้นก็เดินเซไปข้างหน้า หลี่ยี่ซวนอยากจะเข้าไปคว้า แต่ไห่โจ๋ซวนที่เร็วกว่าคว้าเอวของเย่ชูฉิงไว้
เนื้อหนังที่นุ่มนวลของเย่ชูฉิงทำให้หน้าผากของไห่โจ๋ซวนร้อนแผ่วขึ้น จนต้องละสายตาจากตัวของเย่ชูฉิง จากนั้นไห่โจ๋ซวนยิ้มแล้วยกแก้วขึ้นชน
“มา! วันนี้ทุกคนจะต้องดื่มสามแก้ว เจ้าของวันเกิดจะต้องดื่มหกแก้ว!”
โรงแรมตี้เหาเป็นโรงแรมที่หรูหราที่สุดในเมืองตงเจียง ราคาเหล้าหนึ่งขวดในนั้นสามารถเทียบกับเงินเดือนหนึ่งเดือนของชาวบ้านธรรมดาทั่วไป แต่ในสายตาของคนรวยนี่เป็นเพียงแค่เหล้าขวดเดียวเท่านั้น
ปกติเย่เนี่ยนโม่นั้นคอค่อนข้างแข็ง แต่ว่าวันนี้ไม่รู้เป็นอะไร เพราะมีความสุขมากเกินไปหรือด้วยเหตุผลอะไรก็ไม่ทราบชัด หลังถูกไห่โจ๋ซวนยุยงให้ดื่มสองสามแก้ว ก็รู้สึกมึนๆศีรษะ จึงขอตัวเข้าห้องน้ำเพื่อให้หายสร่างเมา
ที่ระเบียงทางเดินมีลมเย็นๆพัดโชยมา เย่เนี่ยนโม่ถึงได้รู้สึกดีขึ้น ประคองศีรษะที่ค่อนข้างปวดอื้อเข้าไปในห้องน้ำ เย่เนี่ยนโม่ต้องการจะถอดกางเกงใน ข้างๆก็มีเสียงหญิงสาวกรีดร้องเสียงแหลมดังขึ้นในห้องน้ำ
“ไอ้โรคจิต!” ติงยียีคิดไม่ถึงว่าทำงานวันแรกจะเจอกับโรคจิตในห้องน้ำผู้หญิง ตกใจจนร้องกรี๊ดขึ้น
เย่เนี่ยนโม่ถูกเสียงแหลมของติงยียีทำให้ตกใจจนสร่างเมาขึ้นไม่น้อย “ขอโทษครับๆ” เย่เนี่ยนโม่ขอโทษอย่างต่อเนื่องแล้วก็รีบวิ่งออกไป
เมื่อออกมาจากห้องน้ำ ด้วยความเคยชินเย่เนี่ยนโม่เงยหน้าขึ้น เมื่อเห็นป้ายของห้องน้ำแล้วก็ชะงักชึ้น นิสัยที่สงบเยือกเย็นเช่นอย่างเคยก็ไม่มีผลภายใต้ฤทธิ์ของแอลกอฮอล์
ติงยียีเห็นชายหนุ่มที่จากไปเมื่อสักครู่สาวก้าวยาวเดินเข้ามาหาตัวเอง ยังไม่ทันได้ส่งเสียงร้องกรี๊ดก็ถูกมืออุดปากไว้
ติงยียีมองชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าด้วยความกลัว อายุที่ไม่ค่อยมาก อีกทั้งยังมีหน้าตาที่หล่อเหล่ากว่าดาราใช้มือปิดปากตัวเองไว้ จากนั้นก็ดึงกระชากแขนตัวเองให้ลากออกมานอกห้องน้ำ
“ดูดีๆสิ ใครกันแน่ที่เดินเข้าผิด!”เย่เนี่ยนโม่ชี้ไปที่ป้ายห้องน้ำแล้วถามขึ้น
ติงยียีถูกบังให้คับมองป้ายห้องน้ำ เป็นห้องน้ำผู้ชายจริงๆ ทันใดนั้นก็นึกขึ้นได้ว่าตัวเองนั้นรับงานพาร์ทไทม์ทำความสะอาดห้องน้ำ อีกทั้งผู้จัดการยังกำชับด้วยว่า แขกที่มาใช้บริการโรงแรมตี้เหานั้นเป็นแขกที่ร่ำรวยมาก อย่าได้ไปทำให้พวกเขาไม่พอใจได้
“ขออภัยค่ะ” ติงยียีกลัวว่าจะกระทบต่องานที่ตัวเองไม่ได้หามาได้ง่ายๆ จึงรีบพูดขึ้น
มือของเย่เนี่ยนโม่ที่ยังไม่คลายออกจากปากของติงยียี เมื่อติงยียีอ้าปากก็เลียโดนฝ่ามือของเย่เนี่ยนโม่อย่างไม่ตั้งใจ
การสัมผัสที่อุ่นๆทำให้ทั้งคู่ต่างตกใจ เย่เนี่ยนโม่รีบปล่อยมือ จ้องติงยียีแล้วถามขึ้นด้วยความโมโห:“คุณทำอะไร!”
“ฉันไม่ได้ตั้งใจสักหน่อย!”ติงยียีเห็นเย่เนี่ยนโม่ดุใส่ตัวเอง เมื่ออารมณ์ฉุนขึ้นก็จะไม่สนใจว่าอีกฝ่ายนั้นเป็นมหาเศรษฐีหรือข้าราชการมีชื่อเสียง จ้องเขม็งเย่เนี่ยนโม่อย่างดุดันด้วยแววคู่งาม
ขมับของเย่เนี่ยนโม่ปวดอื้อด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ หญิงสาวที่อยู่ตรงหน้ายังพูดจ้อน่ารำคาญ
สมองจึงไม่สามารถคิดไตร่ตรองอะไรได้ เย่เนี่ยนโม่ต้องการให้อีกฝ่ายนั้นสงบลง สมองที่ว่างเปล่าจึงดึงแขนของอีกฝ่ายขึ้น
ติงยียีจึงเซไถลมาทางเย่เนี่ยนโม่ และเข้าสู่อ้อมกอดอันอบอุ่นที่คละคลุ้งด้วยกลิ่นแอลกอฮอล์จางๆ วินาทีต่อมา รอยจูบได้ประทับลงมา
หัวสมองของติงยียีเหมือนกับลูกระเบิดที่ดังตูมขึ้น คู่ดวงตาเบิกกว้างด้วยความตกใจ สายตาอดไม่ได้ที่จะจ้องไปที่ดั้งจมูกโด่งของชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้า ที่ก้มลงมามองแววตาที่แจ่มใสและขนตาที่งามงอนของตัวเอง
จิตใจของเย่เนี่ยนโม่ไม่ได้หนักแน่นเหมือนอย่างที่คิด! นี่เป็นจูบแรกของเขา! คิดไม่ถึงว่าถูกพรากไปแบบนี้ แต่ว่าริมฝีปากของหญิงสาวคนนี้นุ่มนิ่ม หอมหวานเหมือนกันนะ ไม่เลวเลย
เป็นครั้งแรกของทั้งคู่ที่จูบกัน ริมฝีปากประกบริมฝีปาก ไม่มีการกระทำที่เกินเลยกว่านี้ เย่เนี่ยนโม่ที่รู้สึกตัวก่อน รีบถอนริมฝีปากออกจากติงยียี แววตาเลื่อนลอยแล้วพูดอย่างวางหน้าไม่สนิทว่า:“อย่างนั้นเมื่อสักครู่นั้นผมก็ไม่ได้ตั้งใจ!”
ติงยียีเบิกตาโตอย่างไม่น่าเชื่อ ชายหนุ่มคนนี้เพื่อต้องการจะพิสูจน์ว่าตัวเองนั้นไม่ได้ตั้งใจ ถึงกับใช้วิธีนี้! นี่เป็นจูบแรกของตัวเองเลยนะ!
“เนี่ยนโม่!ทำไมนายมาอยู่ตรงนี้!” ไห่โจ๋ซวนตามหาจนทั่ว จนเจอตัวเย่เนี่ยนโม่ที่นี่
หันไปยิ้มให้กับติงยียีอย่างสุภาพ จากนั้นไห่โจ๋ซวนก็ตบไหล่เย่เนี่ยนโม่เบาๆแล้วพูดขึ้น:“ไปกันเถอะ ทุกคนรอนายตัดเค้กอยู่ในห้องนะ”
เย่เนี่ยนโม่พยักหน้า เมื่อดื่มเหล้าแล้วสมองก็เลอะเลือนไปหมด เหลือบมองติงยียีที่ยืมขบริมฝีปากอยู่ข้างๆแวบหนึ่ง เย่เนี่ยนโม่ที่เหมือนอยากจะพูดอะไรบางอย่าง ลูกกระเดือกกลอกกลิ้ง สุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไรแล้วก็เดินจากไป
ติงยียีเบิกตากว้างมองเย่เนี่ยนโม่จากไป ในใจนั้นเกิดความรังเกียจคนรวยเหล่านี้ขึ้นมาทันที คิดว่ามีเงินแล้วจะรังแกใครก็ได้อย่างนั้นรึ!

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset