สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 1390 หญิงรับใช้ของคุณชายเย่ 1290

จางถังโบกมือตบน้องเล็กที่อยากจะจับตัวอ้าวเสว่ แล้วหันไปพูดกับเหยนหมิงเย้าว่า “หมิงเย้า คนพวกนี้มือเท้าหยาบกระด้างคนเคยชินไปแล้ว ฉันไม่ไว้วางใจ นายช่วยงานพี่ใหญ่สักงานหน่อยสิ”
เหยนหมิงเย้าพยักหน้าอย่างไม่แยแส เช็ดปาก คว้าตัวอ้าวเส่มาแล้วก็เดินออกไป บนรถ อ้าวเสว่กลัวจนอยากจะดิ้นรนขัดขืน เหยนหมิงเย้าจึงพูดด้วยความหงุดหงิดออกมาว่า “อย่าพยายามดิ้นรนเลย ผู้หญิงที่ข้างนอกสวยงามข้างในฟุ้งเฟ้อแบบเธอฉันเห็นมาเยอะแล้ว หลังจากที่จัดการเรื่องนี้สำเร็จเขาจะให้เงินค่าปิดปากเธอก้อนหนึ่ง เธอก็เอาเงินก้อนนี้ไปวางแผนการใช้ดูละกัน”
“ไม่เอา ฉันไม่ต้องการ!” น้ำตาของอ้าวเสว่ร่วงหล่นลงมา ในใจก็คิดถึงเย่เนี่ยนโม่จนจะตายอยู่แล้ว
“ทำไมเธอถึงเอาแต่เรียกชื่อฉันตลอดเวลาเลย เธอรู้จักฉันเหรอ?” เหยนหมิงเย้าเหลือบมองอ้าวเสว่ผ่านกระจกมองหลัง อ้าวเสว่พยักหน้า แม้ว่าในใจก็ไม่ค่อยแน่ใจสักเท่าไหร่ แต่เธอก็ยังพูดออกไปว่า “นายจำได้หรือเปล่าว่าตอนเด็กๆนายมีเพื่อนร่วมชั้นคนหนึ่งก็ชื่อว่าอ้าวเสว่เหมือนกัน มีอยู่ครั้งหนึ่งเรายังเคยไปสวนสาธารณะด้วยกันด้วยนะ แล้วต่อมานายก็ย้ายโรงเรียนไปนายจำได้ไหม?”
เหยนหมิงเย้ายกมุมปากขึ้น แล้วย้อนถามว่า “หลังจากนั้นก็เจอลุงแปลกหน้าคนหนึ่งในสวนสาธารณะด้วยถูกต้องไหม!”
“นายคือเขาจริงๆ!” อ้าวเสว่พูดออกมาด้วยความประหลาดใจ
ในหัวสมองของเหยนหมิงเย้าล้วนมืดดำไปหมด รู้สึกว่าตอนเด็กๆอ้าวเสว่หน้าตาน่ารักนุ่มนิ่มมากๆเลย แล้วยังโดดเรียนไปที่สวนสาธารณะกับเธอโดยเฉพาะ สุดท้ายไม่เพียงแต่จะถูกคุณลุงแปลกหน้าอบรมสั่งสอนเท่านั้นเขายังโดนแม่ตบหูอีกด้วย ต่อมาพอย้ายบ้านไปก็จำเรื่องเหล่านี้ไม่ได้เสียแล้ว
“งั้นนายก็ปล่อยฉันไปได้แล้วใช่ไหม?” อ้าวเสว่ถามด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล เหยนหมิงเย้าหมุนพวงมาลัยไป มองดูอ้าวเสว่ แล้วพูดกับอ้าวเสว่ว่า “เห็นรถที่อยู่ข้างหลังแล้วหรือยัง พอเธอลงรถไปเขาก็จะมัดเธออีก”
พออ้าวเสว่หันหน้าไปดูก็มีรถมอเตอร์ไซค์จำนวนหนึ่งขับตามหลังมาจริงๆด้วย เหยนหมิงเย้าขับตรงไปข้างหน้า และตัดสินใจอยู่ในใจแล้วว่าจะพาอ้าวเสว่ไปที่บ้านของตัวเอง
ทันใดนั้นความเร็วของรถก็ช้าลง แล้วจู่ๆเหยนหมิงเย้าก็คร่ำครวญออกมาว่า “สวรรค์อ่า ทำไมวันนี้ถึงได้ซวยขนาดนี้นะ!!”
ห้าร้อยเมตรข้างหน้ารถ ตำรวจจราจรกำลังตรวจรถอยู่ อ้าวเสว่เข้าใจ จึงถามว่า: “ไม่ได้เอาใบขับขี่มาด้วยหรอ?”
“ไม่ใช่ไม่ได้เอาใบขับขี่มา แต่ฉันไม่มีเลยต่างหาก!” เหยนหมิงเย้าร้องไห้โดยไม่มีน้ำตาในขณะขับรถ แล้วมองไปรอบๆเพื่อดูว่าจะหนีไปที่ไหนได้
อ้าวเสว่ถอนหายใจแล้วพูดว่า “หรือจะฉันขับให้ก็ได้นะ ฉันมีใบขับขี่”
“เธอเต็มใจเหรอ?” เหยนหมิงเย้าประหลาดใจเล็กน้อย อันที่จริงอีกฝ่ายไม่ได้พบตัวเองมานานกว่าสิบปีแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องช่วยตัวเองก็ได้
“มาเถอะ ฉันขับเอง” อ้าวเสว่ยิ้มอย่างอ่อนโยน วิธีการที่สามารถใช้มาผูกมัดหัวใจคนได้มองยังไงๆก็คุ้มค่ามากทีเดียว สายตาที่เหยนหมิงเย้ามองไปที่อ้าวเสว่นั้นมีความรู้สึกซาบซึ้งใจเล็กน้อยอย่างที่คาดไว้จริงๆด้วย
“สวัสดีครับ กรุณาแสดงใบขับขี่ด้วยครับ” ตำรวจจราจรกำลังมองสองคนนี้ด้วยความแปลกใจเล็กน้อย หรือว่าจะดื่มเหล้ามา ทำไมสีหน้าถึงได้แดงนิดหน่อยทุกคนเลย
อ้าวเสว่ยื่นใบขับขี่ให้ตำรวจจราจรอย่างสงบเยือกเย็น เมื่อสักครู่นี้เธอได้ก้าวจากด้านหลังไปนั่งยังตำแหน่งคนขับที่อยู่ด้านหน้าโดยตรง จึงทำให้ทั้งสองคนมีเหงื่อออกมาเต็มไปหมด
ตำรวจจราจรมองไปมองมาสักพัก แล้วจึงคืนใบขับขี่ให้อ้าวเสว่ และโบกมือไปมา เหยนหมิงเย้าก็โบกมือไปมาให้ตำรวจจราจรตามท่าทางของตำรวจจราจร
ตำรวจจราจรมองดูรถวิ่งออกไปด้วยความมึนงงเล็กน้อย แล้วส่ายหน้าไปมาอย่างตลกขบขัน “มีสถานการณ์อะไรไหม?” เนื่องจากBakerรับปากเย่เนี่ยนโม่เอาไว้แล้ว แน่นอนว่าเขาต้องออกมาตรวจสอบด้วยตัวเอง เขาสืบมาอย่างชัดเจนแล้ว เพราะว่าถนนเส้นนี้ไม่ค่อยมีคน วัยรุ่นกลุ่มนั้นจึงมักจะปรากฏตัวที่นี่
“ไม่มีอะไรครับ มีแค่นักศึกษาสองคน ผู้หญิงหนึ่งคนกับผู้ชายอีกหนึ่งคน ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาทำอะไรกัน สีหน้าท่าทางดูไม่เป็นธรรมชาติมากเลยครับ” เห็นได้ชัดว่าตำรวจจราจรคิดไปอีกแง่มุมหนึ่ง
Bakerขมวดคิ้วหลังจากที่ฟังจบ โยนก้นบุหรี่ลงกับพื้นและขยี้สองสามครั้ง แล้วสั่งการออกไปว่า “ให้คนสองคนตามไปดูสักหน่อย ถ้ามีสถานการณ์อะไรให้มาบอกผมทันที”
“รับทราบ!”
ในลานบ้านเล็กๆที่เงียบสงบและเต็มไปด้วยดอกไม้ มีผู้หญิงที่ตัดผมสั้นมากคนหนึ่งกำลังถือฝักบัวรดน้ำให้ดอกไม้อยู่อย่างคล่องแคล่ว เมื่อได้ยินเสียงเปิดประตูเหล็กเปิดออกเธอก็พูดโดยไม่หันกลับมามองว่า “ไอ้ลูกเวร ในที่สุดก็ตัดสินใจกลับบ้านแล้วเหรอ? ลูกมัวแต่ยุ่งอยู่กับของที่มันเละเทะเหล่านั้นแม่ก็จะเอาพวกมันทั้งหมดไปขายที่สถานีรับซื้อของเก่าซะเลย”
“แม่ แล้วพ่อล่ะ แม่ไล่คนไปอีกแล้วเหรอ?” เหยนหมิงเย้าวิ่งเข้าไปในห้องรับแขกก่อน และเห็นว่าไม่มีรองเท้าผู้ชายอยู่ที่โถงทางเดินเลย ก็เลยแน่ใจว่าแม่ของเขาคงไล่คนออกไปอีกแล้ว
จิ่วจิ่วยืดเอวขึ้นแล้วหันมาพูดว่า “แม่เคยพูดมากี่ครั้งแล้ว ว่าแม่กับเหยนชิงเหยียนหย่ากันแล้ว มันไม่เหมาะหรอกที่เขาจะอาศัยอยู่ที่นี่ เอ๊ะ เธอคือ?”
จิ่วจิ่วมองหญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างหลังลูกชายอย่างสงสัยใคร่รู้ เลิกคิ้วขึ้นและถือไม้กวาดที่อยู่ข้างๆขึ้นแล้วก็หวดออกไป “ไอ้หนู คิดไม่ถึงเลยว่ามีแฟนแล้วก็ไม่เคยบอกแม่สักคำ”
“แม่ แม่พูดอะไรเนี่ย! นั่นไม่ใช่แฟนผมนะ!” เหยนหมิงเย้ากระโดดไปมาเหมือนกบ อ้าวเสว่เดินไปอยู่ข้างหน้าจิ่วจิ่วอย่างสง่าผ่าเผย ยิ้มหวานแล้วพูดว่า “สวัสดีค่ะคุณป้า หนูชื่ออ้าวเสว่ค่ะ เป็นเพื่อนของเหยนหมิงเย้า”
ในขณะที่จิ่วจิ่วกำลังจ้องมองอ้าวเสว่ ก็รู้สึกว่าอ้าวเสว่หน้าตาเหมือนสวีเห้าเซิงที่เคยตามจีบเซี่ยชีหรั่นมาโดยตลอดอยู่เล็กน้อย เหยนหมิงเย้าที่อยู่ข้างๆจึงโวยวายขึ้นมาว่า “แม่ แม่มองอะไรมองอะไรเล่า!”
จิ่วจิ่วเก็บไม่กวาดและมองไอ้ลูกเวรของตัวเองอย่างขู่ขวัญ แล้วยิ้มและพูดกับอ้าวเสว่ว่า “ในเมื่อเป็นเพื่อนกัน ก็มานั่งเถอะ”
อ้าวเสว่ตอบรับอย่างอ่อนหวาน แล้วเข้าไปในบ้าน ส่วนเหยนหมิงเย้าก็ถูกแม่ของตัวเองเร่งให้ไปเก็บเสื้อผ้า จิ่วจิ่วชี้ไปที่คุกกี้บนโต๊ะและพูดกับอ้าวเสว่ว่า “กินคุกกี้สิจ๊ะ ป้าทำเองเลยนะ”
อ้าวเสว่ทานไปสองสามชิ้น ก็กล่าวชมว่า “คุณป้าคะ อร่อยมากเลยค่ะ”
พอจิ่วจิ่วได้ยินอ้าวเสว่ชมคุกกี้ของตัวเอง ก็รู้สึกดีใจอยู่ในใจ จึงอดไม่ได้ที่จะเข้าไปในห้องครัวแล้วถือออกมาอีกเยอะๆ พอเดินกลับมาจากห้องครัว จิ่วจิ่วกำลังจะเดินเข้าประตูไป ก็เห็นอ้าวเสว่โยนคุกกี้กลับเข้าไปในกล่องคุกกี้ด้วยสีหน้าที่เมินเฉย และขมวดคิ้วพูดว่า “รสชาติแย่จริงๆ”
ความประทับใจของจิ่วจิ่วที่มีต่ออ้าวเสว่ก็ลดลงในทันที เธอจะไม่ชอบทานก็ได้ เช่นนั้นก็พูดออกมาตรงๆว่าไม่ชอบ เป็นคนมีอะไรก็ควรพูดออกมาอย่างนั้นสิ ผู้หญิงแบบนี้ไม่เหมาะกับลูกชายของพวกเขาเลยจริงๆ
“ปังปังปัง!” ประตูลานบ้านถูกเปิดออก และตำรวจกลุ่มหนึ่งก็วิ่งเข้ามา และหยานหมิงเย้ารีบวิ่งลงไปข้างล่าง Bakerคาบบุหรี่อยู่ในปากและมองไปที่เหยนหมิงเย้า แล้วพูดว่า “ตอนนี้เราสงสัยว่าคุณมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีลักพาตัว กรุณาไปให้ตรวจสอบกับเราหน่อยครับ”
“ไอ้ลูกเวร! ตกลงแกทำอะไรมากันแน่!” จิ่วจิ่วถามด้วยริมฝีปากที่สั่นเทา และทำท่าทางที่จะเป็นลมก็ไม่เป็น ทันใดนั้นภายในบ้านหลังนี้ก็วุ่นวายขึ้นมา
ในสถานีตำรวจ เย่เนี่ยนโม่รีบสาวเท้าก้าวเข้าไปในสถานีตำรวจอย่างรวดเร็ว อ้าวเสว่พุ่งกระโจนเข้าไปในอ้อมแขนของเย่เนี่ยนโม่ด้วยน้ำตาที่คลอเบ้า แล้วร้องไห้เสียงดังขึ้นมา
เย่เนี่ยนโม่ค่อยๆตบไปที่ไหล่ของอ้าวเสว่ แล้วกระซิบปลอบใจเธอ “เนี่ยนโม่!”
จิ่วจิ่วเดินขึ้นไปด้วยความตื่นเต้น ตอนที่หมิงเย้าอยู่มัธยมต้นจิ่วจิ่วได้ขอไปเป็นอาสาสมัครที่แอฟริกากะทันหัน และได้พาหมิงเย้าไปด้วย แต่เธอก็ยังส่งอีเมลถึงเซี่ยชีหรั่นเป็นประจำ ดังนั้นจิ่วจิ่วจึงยังคงคุ้นเคยกับลูกทูนหัวคนนี้ของตัวเองเป็นอย่างมาก
“น้าจิ่ว!” หลังจากที่เย่เนี่ยนโม่แปลกใจก็รู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก ตอนเด็กๆนอกจากแม่กับลุงสวีแล้ว ก็มีน้าจิ่วนี่แหล่ะที่ตัวเองชอบมากที่สุด
“แม่ เด็กคนนั้นก็คือเด็กที่แม่ส่งผ้าเช็ดหน้าไปให้ใช่ไหม!” เหยนหมิงเย้าโวยวายเสียงดังขึ้นมา จิ่วจิ่วจึงพูดอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “ยังไม่มาทักทายกันอีก”
เหยนหมิงเย้าจับมืออย่างไม่เต็มใจแม้ว่าเขาจะกล่าวทักทายแล้วก็ตาม สายตาของจิ่วจิ่วมองลงไปที่อ้าวเสว่ที่หดตัวอยู่ในอ้อมแขนของเย่เนี่ยนโม่ตลอดเวลา แล้วจึงถามด้วยน้ำเสียงที่สงบเยือกเย็นมากว่า “เนี่ยนโม่ นี่เป็นแฟนของเธอเหรอ?”
เย่เนี่ยนโม่ยอมรับ ตอนนี้เขาเต็มไปด้วยความรู้สึกเสียใจอย่างลึกซึ้งต่ออ้าวเสว่ เมื่อเห็นว่าอ้าวเสว่ร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่ในอ้อมแขนของตัวเองตลอดเวลาด้วยความหวาดกลัว เย่เนี่ยนโม่ก็ตำหนิตัวเองเป็นอย่างมาก ในฐานะที่เป็นผู้ชายคนหนึ่ง เขากลับไม่ได้ปกป้องดูแลผู้หญิงของตัวเองให้ดี
“แม่ของเธอรู้เรื่องนี้ไหม?” จิ่วจิ่วยิ่งมองอ้าวเสว่ก็ยิ่งไม่ชอบใจ ลูกชายของตัวเองพามาที่บ้านด้วยโดยที่ไม่ได้ทำอะไรเลยไม่ใช่เหรอ เธอทำเป็นเป็นเศร้าเสียใจแบบนี้มันมากเกินไปแล้วนะ
เย่เนี่ยนโม่รู้สึกได้ว่าน้าจิ่วเหมือนจะไม่ชอบอ้าวเสว่มาก จึงพูดเข้าข้างอ้าวเสว่ด้วยสีหน้าที่สงบเยือกเย็นว่า “น้าจิ่วครับ ผมยังเรียนอยู่ ไว้ผมจะหาโอกาสเหมาะๆไปพูดกับแม่เองครับ แม่ของผมกำลังจะกลับมาเร็วๆนี้ พอพวกท่านมาถึงแล้วจะต้องมาพบปะกันสักหน่อยครับ”
เย่เนี่ยนโม่กับน้าจิ่วพูดคุยกันอย่างเรียบง่ายไม่กี่ประโยค ในเมื่อเป็นลูกของน้าจิ่วเขาก็ไม่ติดใจเอาความอะไร แล้วไปส่งอ้าวเสว่กลับไปที่สถานสงเคราะห์ และอ้าวเสว่จับมือของเน่เนี่ยนโม่เอาไว้ไม่ยอมให้เย่เนี่ยนโม่จากไป
“คนดี กลับไปนอนพักผ่อนให้ดีดีโอเคไหม” เย่เนี่ยนโม่ถามด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน
“เนี่ยนโม่ นายบอกฉันมาตรงๆ ว่านายคิดยังไงกับติงยียี” อ้าวเสว่ถามด้วยความน้อยใจ ไม่ใช่ว่าเธอคิดไปเอง แต่เป็นเพราะว่าแฟนของเธอไล่ตามผู้หญิงคนอื่นออกไปในตอนกลางคืน หลังจากนั้นก็ทำให้ตัวเองตกอยู่ในอันตราย
“ติงยียีเหรอ? จะไปพูดถึงเธอทำไม?” เย่เนี่ยนลูบศีรษะของอ้าวเสว่อย่างอ่อนโยน อ้าวเสว่เพียงแค่กลัวเกินไปดังนั้นจึงคิดฟุ้งซ่านไปเอง
“ฉันจะไม่พูดถึงเธอได้ยังไง! คิดไม่ถึงเลยว่าเพื่อเธอแล้วนายจะทิ้งฉันไว้ แล้วปล่อยให้ฉันไปเผชิญกับคนเลวพวกนั้น!” อ้าวเสว่ไม่ยอมฟังและไม่ให้อภัยเขา แล้วน้ำตาก็เอ่อล้นอยู่ในดวงตา
เย่เนี่ยนโม่ไม่ค่อยชอบท่าทางที่บีบบังคับคนของอ้าวเสว่สักเท่าไหร่ แต่พอเห็นท่าทางน้ำตาอาบแก้มของอ้าวเสว่แล้วเขาก็โกรธเธอไม่ลง เขาจึงถอนหายใจแล้วพูดว่า “ฉันไม่ได้ชอบเขา”
“งั้นนายก็จูบฉันสิ” อ้าวเสว่เข้าไปใกล้ๆเย่เนี่ยนโม่ เย่เนี่ยนโม่จูบริมฝีปากของอ้าวเสว่เบาๆ แล้วผละออกมาอย่างรวดเร็ว อ้าวเสว่มองเย่เนี่ยนโม่อย่างไม่พอใจ เย่เนี่ยนม่จึงพูดด้วยความเขินอายเล็กน้อยออกไปว่า “ฉันไม่ชินกับการจูบน่ะ”
อ้าวเสว่ปล่อยเย่เนี่ยนโม่ด้วยสีหน้าที่เหยเก เช็ดน้ำตาออกแล้วก็กลายเป็นอ้าวเสว่ที่อ่อนโยนคนนั้นอีกครั้ง แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่เคยร้องไห้ออกมาว่า “เนี่ยนโม่ ฉันอยากย้ายออกไปจากสถานสงเคราะห์ เร็วๆนี้ไปดูห้องเป็นเพื่อนฉันได้ไหม”
เย่เนี่ยยนโม่ไม่ได้คัดค้านอะไร คำขอนี้ไม่มากเกินไปในฐานะที่เป็นผู้หญิงของตัวเอง เขาจึงพยักหน้าและพูดว่า “วางใจเถอะ เรื่องนี้ฉันจะรับผิดชอบเอง”
อ้าวเสว่จูบไปที่แก้มของเย่เนี่ยนโม่อยย่างมีความสุข แล้วจึงวิ่งเข้าไปในสถานสงเคราะห์อย่างร่าเริงแจ่มใส ทันใดนั้นเย่เนี่ยนโม่ก็อดยิ้มไม่ได้ “ทำไมยังทำตัวเหมือนเด็กอยู่เลยนะ” พอนึกถึงติงยียีที่นอนคว่ำหน้าอยู่บนหลังของตัวเองตอนที่อยู่บนเขื่อน เย่เนี่ยนโม่ก็อดไม่ได้ที่จะพึมพำขึ้นมาว่า “ทำไมถึงคิดว่าฉันจะชอบติงยียีล่ะ? ผู้หญิงที่ดุมากคนนั้นเนี่ยนะ?”
อ้าวเสว่กลับมาแล้ว แต่ติงยียียังไม่รู้อะไรเลย ติงยียีนั่งยองคนเดียวที่ประตูโรงแรมในตอนกลางคืน และกำลังคิดว่าเธอจะได้พบเย่ชูหวินหรือไม่ เธอรอมาทั้งวันแล้ว เย่เนี่ยนโม่ก็ไม่ได้โทรหาตัวเองเลย นั่นก็หมายความว่ายังหาอ้าวเสว่ไม่เจอสินะ ผู้หญิงที่อ่อนโยนอย่างอ้าวเสว่ คงจะกลัวมากน่าดู
ในขณะที่ติงยียีกำลังคิดเพ้อเจ้อไปเองอยู่นั้น ซ่งเมิ่นเจ๋ก็โทรมาบอกว่า “ยียี เธออยู่ที่ไหน เมื่อกี้ฉันโทรไป คุณลุงบอกว่าวันนี้เธอทำงานล่วงเวลา แต่หลายวันมานี้ไม่ใช่ว่าเธอต้องหมุนเวียนกันพักผ่อนหรอกเหรอ?

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset