สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 1393 หญิงรับใช้ของคุณชายเย่ 1293

คนที่อยู่ในเหตุการณ์มีจำนวนคนไม่น้อยขมวดคิ้วขึ้น มีนักศึกษาหลายคนที่อยู่ในสหภาพนักศึกษามีฐานะทางครอบครัวที่ไม่ค่อยดี การกระทำของจางถังเช่นนี้ ช่างเป็นอะไรที่เพ้อเจ้อสิ้นดี
“ผมคิดว่าแบบนี้ไม่เหมาะ ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง” เย่เนี่ยนโม่เอ่ยปาก อ้าวเสว่ที่อยู่ข้างๆพูดเสริมทัพขึ้น :“ฉันก็คิดว่าสามารถเลือกเมืองบางเมืองที่อยู่รอบๆเมืองzเพื่อทำการท่องเที่ยวระยะสั้น แบบนี้ค่าใช้จ่ายก็จะได้ไม่สูงมาก และก็น่าสนใจกว่าด้วย”
อ้าวเสว่เกิดมามีหน้าตาที่สระสวย และก็มักจะสุภาพต่อผู้อื่น คำพูดเหล่านี้ก็พูดออกมาได้อย่างมีเหตุผล ทำให้คนที่ฐานะทางบ้านไม่ดีเท่าไหร่ได้ยินแล้วรู้สึกสบายใจ ยิ่งทำให้รู้สึกดีต่ออ้าวเสว่ เย่เนี่ยนโม่หันไปมองอ้าวเสว่ อ้าวเสว่หันหน้าไปไม่สนใจเย่เนี่ยนโม่ แต่ว่ากิริยาท่าทางนั้นไม่ได้แข็งกร้าวเหมือนกับก่อนหน้านี้แล้ว
“ทุกคนล้วนคิดแบบนี้เหรอ สหภาพนักศึกษาของพวกเรานั้นเป็นประชาธิปไตยมากนะ” จางถังอยากจะเบียดเย่เนี่ยนโม่ให้ออกจากตำแหน่งนี้ แล้วให้เหยนหมิงเย้าเพื่อนของตัวเองได้เข้ามาแทนที่ เช่นนี้แล้วเวลาพูดอะไรก็จะได้มีคนคอยสนับสนุน
คนที่อยู่ในเหตุการณ์ไม่มีใครตอบ คนส่วนใหญ่มีแต่ปฏิกิริยาที่เฝ้ารอดู เย่เนี่ยนโม่คือดาวมหาวิทยาลัย ได้รับความนิยมสูง ส่วนจางถังไม่ต้องพูดถึง วายร้ายคนหนึ่ง ใครทำให้เคืองก็จะโดนเอาคืน ดังนั้นเอาตัวรอดผ่านสี่ปีให้ได้จะดีกว่า
“ฉันเห็นด้วยกับแผนที่สอง” สายตาของผู้คนหันไปมองติงยียีที่นั่งอยู่ข้างประตู ติงยียีออกความคิดเห็นด้วยสายตาแน่วแน่จริงจัง เธอย่อมไม่หยุดพูดเพียงเพราะเย่เนี่ยนโม่กับอ้าวเสว่นั้นเป็นคนเสนอออกมา เพราะถึงอย่างไรเธอก็ไม่มีเงินเหลือเฟือที่จะไปผลาญตามอำเภอใจ
ทันทีที่ติงยียีอ้าปากคนอื่นก็เห็นด้วย จางถังทำหน้าบูดบึ้งอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นยิ้มแล้วก็พูดขึ้นทันใด:“ตกลง อย่างนั้นเพื่อเป็นการฝึกฝนรองประธานของพวกเรา การออกไปท่องเที่ยวครั้งนี้ขั้นตอนทั้งหมดให้เย่เนี่ยนโม่เป็นคนรับผิดชอบก็แล้วกัน เย่เนี่ยนโม่นายจะต้องจัดการให้ดีๆนะ การไปเที่ยวครั้งนี้จะสนุกหรือไม่สนุกก็ขึ้นอยู่กับคุณแล้ว”
เย่เนี่ยนโม่ไม่รู้ว่าจางถังคิดจะวางแผนอะไร แต่รู้สึกว่าอีกฝ่ายวางแผนแบบนี้ก็ไม่เลวเหมือนกัน จึงได้ตบปากรับคำ
ตอนที่เลิกประชุม อ้าวเสว่ตั้งใจจะหลบเย่เนี่ยนโม่ จึงเดินกับผู้ชายคนหนึ่งในสหภาพนักศึกษา ชายหนุ่มปลาบปลื้มจ้องมองอ้าวเสว่ที่สุภาพและเหินห่างกับตัวเอง จู่ๆทำตัวเป็นกันเองจนน่าประหลาดใจ
อ้าวเสว่มองดูเย่เนี่ยนโม่ที่ไม่มีอาการหึง จึงได้โมโหขึ้นจริงๆ กระทืบเท้าดึงชายหนุ่มแล้วจากไป “เย่เนี่ยนโม่ ฉันคิดว่าอ้าวเสว่อาจจะต้องการความใส่ใจที่ชัดเจน เช่นอาการหึงหวง”
ติงยียีรู้ดีว่าตอนนี้เย่เนี่ยนโม่นั้นไม่อยากจะเจอหน้าตัวเอง แต่ว่าเธอนั้นไม่อยากเป็นสาเหตุให้สองคนนี้ต้องหมางใจกัน
เย่เนี่ยนโม่ได้ยินดังนั้น จึงเงยหน้าขึ้นจากกองเอกสารแล้วพูดเบาๆ:“ความรู้สึกไม่จำเป็นต้องระแวงและตั้งใจเอาอกเอาใจ”
“ที่ยียีแนะนำก็แค่หวังดี” ซ่งเมิ่นเจ๋ที่ไม่เก่งในการแก้ต่าง สามารถทำเพื่อยียีได้ขนาดนี้ถือว่าเธอนั้นได้โมโหจนสุดขีดแล้ว
ติงยียีดึงมือของซ่งเมิ่นเจ๋แล้วส่ายหน้า มนุษย์ไม่ใช่ต้นไม้ต้นหญ้าธรรมดา มีความรู้สึก เย่เนี่ยนโม่ที่เข้าใจผิดตัวเองเช่นนี้ครั้งแล้วครั้งเล่า เป็นมนุษย์ก็ต้องย่อมโกรธเป็นธรรมดา
“อ้าวเสว่ ผมรู้ว่าที่หน้ามหาวิทยาลัยมีร้านชานมร้านหนึ่ง ฟ้ายังเช้าอยู่เลย ให้ผมเลี้ยงคุณดีไหม” ชายหนุ่มที่ถูกอ้าวเสว่ดึงมาถามขึ้นด้วยความดีใจ
อ้าวเสว่ยิ้มอย่างใจลอยแล้วพูดขึ้น:“ขอบคุณคุณมาก ฉันเองก็อยากจะไปเช่นกัน แต่ว่าสาขาที่ฉันเรียนมีการบ้านที่ต้องทำ ฉันอยากจะกลับไปทบทวนน่ะ”
ชายหนุ่มก็ไม่ได้โกรธที่ถูกปฏิเสธ สำหรับพวกเขา ผู้หญิงระดับอ้าวเสว่ เดิมทีก็ได้แค่มองไกลๆไม่อาจจะแตะต้องได้
ชายหนุ่มได้จากไป อ้าวเสว่ได้ถอนหายใจขึ้น หันหลังไปมองทางบันได เย่เนี่ยนโม่ไม่ได้ตามมา อ้าวเสว่กระทืบเท้าแล้วกล่าวขึ้น :“ไอ้ท่อนไม้”
“นักศึกษาอ้าวเสว่ อยู่ที่นี่รอเย่เนี่ยนโม่เหรอ” เสียงของจางถังดังขึ้นจากด้านหลังของอ้าวเสว่ อ้าวเสว่มองจางถังอย่างระมัดระวัง เธอไม่ได้เล่าเรื่องที่จางถังลวนลามตัวเองในวันนั้นให้กับเย่เนี่ยนโม่ เธออยากให้เย่เนี่ยนโม่เข้าใจตลอดไปว่าตัวเองนั้นบริสุทธิ์ผุดผ่อนไร้ตำหนิ
จางถังเข้าใกล้หนึ่งก้าว อ้าวเสว่ก็จะถอยหลังออกหนึ่งก้าว ถอยจนกระทั่งไม่สามารถถอยได้ จางถังสูดลมหายใจเข้าที่ต้นคอของอ้าวเสว่ อ้าวเสว่ขมวดคิ้ว จางถังยิ้มร้ายแล้วกล่าวขึ้น:
“ผมถูกใจเย่ชูฉิง กิจกรรมครั้งนี้ให้คุณคิดหาวิธีนัดเธอออกมาให้ได้ คุณเป็นแฟนของเย่เนี่ยนโม่ เย่ชูฉิงเป็นน้องสาวของเย่เนี่ยนโม่ พี่สะใภ้อย่างคุณแค่นัดคนคงไม่ยากไปหรอกนะ”
จางถังเห็นสีหน้าที่สุขใจของอ้าวเสว่เมื่อได้ยินตัวเองเอ่ยคำว่าพี่สะใภ้ขึ้นสามคำ จึงได้พูดเสริมต่อว่า:“คุณลองคิดดูถ้าเย่ชูฉิงมีคนรัก เธอก็จะไม่สามารถไปเป็นก้างขวางคอให้คุณกับเย่เนี่ยนโม่ได้อีก”
อ้าวเสว่เริ่มรู้สึกอ่อนไหว เธอสามารถรู้สึกได้ว่าเย่ชูฉิงนั้นไม่ชอบเธอ ถ้าหากว่าเย่ชูฉิงมีคนรักได้ อย่างนั้นตัวเองกับเย่เนี่ยนโม่ก็คงจะมีโอกาสมากขึ้น และจางถังก็ยังเป็นหนี้น้ำใจตัวเองอีกด้วย แต่จางถังนั้นไม่ใช่คนดี ส่วนเย่ชูฉิงก็เป็นคนดีซะขนาดนั้น
“ไม่ได้ ต้องขออภัย ฉันเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าตัวเองยังมีธุระ ฉันต้องขอตัวก่อน บาย” อ้าวเสว่หันตัวเพื่อจะจากไป จางถัง คว้าตัวอ้าวเสว่แล้วยันกดชิดกำแพง น้ำเสียงเริ่มไม่ดี เขาใช้ความอดทนกับผู้หญิงคนนี้มามากพอแล้ว จางถังเข้าไปใกล้อ้าวเสว่แล้วพูดขึ้นอย่างหงุดหงิด:
“เมื่อกี้ผมเห็นติงยียีคุยกับเย่เนี่ยนโม่ เย่เนี่ยนโม่โดดเด่นซะขนาดนั้น จะต้องมีคนมากมายมาชอบพอเขา คุณก็อยากจะจับอีกฝ่ายไว้ให้อยู่หมัดไม่ใช่เหรอ เอาไง จะร่วมมือกันไหม”
ไม่รอให้อ้าวเสว่ตอบกลับ จางถังก็ได้ปล่อยมือ เวลาที่ต้องการหลอกล่อสัตว์เลี้ยงนั้นต้องปล่อยให้ผ่อนคลายก่อน เช่นนี้แล้วอีกฝ่ายถึงจะซื่อสัตย์ เชื่อฟังว่านอนสอนง่าย
ในตอนดึก เย่เนี่ยนโม่กำลังนั่งตรวจเช็คหาข้อมูลที่ห้องสำนักงานสหภาพนักศึกษา ประตูถูกเคาะขึ้น อ้าวเสว่เดินเข้ามาพร้อมกับอาหารมื้อดึกทำปากมุ่ยแล้วกล่าวขึ้น:“ร่างกายสำคัญกว่าหรืองานสำคัญกว่า”
เย่เนี่ยนโม่ดึงอ้าวเสว่เข้ามา เขารู้ว่าอ้าวเสว่จะต้องไม่ใจแคบขนาดนั้น กางแผนที่ออก แล้วเย่เนี่ยนโม่ก็ถามอ้าวเสว่ขึ้น:“อยากไปที่ไหน”
อ้าวเสว่เห็นเย่เนี่ยนโม่ไม่เอ่ยถึงเรื่องที่ติงยียีจู่ๆปรากฏตัวที่บ้านตระกูลเย่ และก็ไม่ปลอบใจตัวเอง ในใจนั้นรู้สึกเจ็บปวดมาก แต่ก็ต้องทำเป็นเหมือนไม่ใส่ใจ และพูดแล้วยิ้มขึ้นด้วยท่าทางที่มีความสุข :“ไม่ใช่ให้ทุกคนตัดสินใจกันเหรอ”
“บางทีก็ใช้เส้นใช้สายบ้าง” เย่เนี่ยนโม่พูดแล้วยิ้มให้กับอ้าวเสว่ อ้าวเสว่สุ่มชี้ไปเมืองโบราณแห่งหนึ่งในเมืองหลินเจียง ถอนหายใจแล้วก็เปลี่ยนหัวข้อเรื่องพูด :“ช่วงนี้พวกเราไม่ค่อยได้ทานอาหารร่วมกันดีๆเลยนะ พรุ่งนี้นัดชูฉิงโจ๋ซวนทานข้าวด้วยกันนะ”
เย่เนี่ยนโม่พยักหน้า ดีใจมากที่อ้าวเสว่รู้จักแยะแยะ คิดว่าถ้ากลับมาจากครั้งนี้ก็จะหาโอกาสพาอ้าวเสว่ไปพบแม่อีกครั้งพร้อมอธิบายให้ชัดเจน
อ้าวเสว่เห็นเย่เนี่ยนโม่ที่ไม่คัดค้าน จึงวางอาหารมื้อดึกไว้ที่หน้าของเย่เนี่ยนโม่แล้วพูดอย่างอ่อนโยนขึ้น:“ทานตอนร้อนๆนะ ดูแลตัวเองดีๆ ไม่อย่างนั้นฉันจะเป็นห่วงได้ ฉันขอตัวไปห้องน้ำก่อน”
ในห้องน้ำ อ้าวเสว่ได้โทรหาไห่โจ๋ซวน ไห่โจ๋ซวนรู้สึกประหลาดใจ ตั้งแต่ครั้งแรกที่คลานขึ้นเตียงของเย่เนี่ยนโม่แล้ว นานแล้วที่อ้าวเสว่ไม่เคยมาหาตัวเอง เขารู้ดีว่าอ้าวเสว่นั้นกลัวตัวเองจะเปิดโปงเรื่องราวทุกอย่าง ให้เย่เนี่ยนโม่รู้ว่าอ้าวเสว่กับซือซือนั้นมีความสัมพันธ์กัน
“โจ๋ซวนนอนหรือยัง” อ้าวเสว่ถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ในใจก็คิดแผนการของตัวเอง ถ้าหากว่าตัวเองเสนอความคิดเห็นตรงๆกับเย่เนี่ยนโม่ว่าให้พาเย่ชูฉิงไปท่องเที่ยวด้วยกัน อย่างนั้นถ้าหากว่าเกิดอะไรขึ้น เย่เนี่ยนโม่จะต้องตำหนิติโทษตัวเองได้ แต่ถ้าไห่โจ๋ซวนก็ไปด้วย เย่ชูฉิงก็ต้องตามไปด้วยอย่างแน่นอน
“ยัง อ้าวเสว่หาผมมีเรื่องอะไรหรือ” ไห่โจ๋ซวนที่แน่วนิ่ง อีกฝ่ายไม่เอ่ยแน่นอนว่าตัวเองก็จะไม่ริเริ่มถาม
“คือแบบนี้ เร็วๆนี้สหภาพนักศึกษาของพวกเราจะจัดกิจกรรมไปท่องเที่ยวเมืองข้างๆ ฉันอยากจะถามคุณว่าสนใจไหม ถ้าหากว่าสนใจ พรุ่งนี้พวกเรานัดทานอาหารกันทุกคนสามารถพูดออกมาว่าทุกคนไปด้วยกัน ตอนเด็กๆพวกเราสามคนก็เล่นด้วยกันนิ”
“อ้าวเสว่ ผมคิดว่าระหว่างเราไม่จำเป็นต้องพูดเกรงใจมากมายขนาดนั้น ไห่โจ๋ซวนแอบบอกเป็นนัยๆว่าตัวเองกับอ้าวเสว่นั้นลงเรือลำเดียวกัน พูดให้ถูกก็คือเขานั้นรู้ความสัมพันธ์ของอ้าวเสว่กับซือซือ ถ้าหากพูดเรื่องนี้ออกไป เย่เนี่ยนโม่ที่กตัญญูขนาดนั้นจะต้องตามตรวจสอบให้ถึงที่สุด
ในใจของอ้าวเสว่รู้สึกโกรธ แต่ที่ปากก็ยังต้องเอ่ยพูดอย่างนุ่มนวล :“ความจริงก็ไม่มีอะไรหรอก ก็คือมีนักศึกษาบางคนต้องการอยากจะทำความรู้จักกับชูฉิง คุณเห็นชูฉิงเป็นเหมือนน้องสาว คุณก็อยากจะให้เธอมีความสุขใช่ไหม”
มีคนอยากจีบเย่ชูฉิง บางทีเย่ชูฉิงอาจจะชอบคนอื่นก็ได้ จากนั้นก็แต่งงานกับคนอื่น มีลูก มีชีวิตที่ไม่มีตัวเอง ไห่โจ๋ซวนยิ่งคิดคิ้วก็ยิ่งขมวดแน่น ไม่ได้เธอจะให้อ้าวเสว่จับจุดอ่อนของตัวเองไม่ได้ ยิ่งต้องไม่ให้ตัวเองมีความคิดตามใจตัวเองแบบนี้ เย่ชูฉิงเป็นได้แค่เพียงเครื่องมือที่ตัวเองใช้ในการแก้แค้นเท่านั้น!
“ที่แท้ก็เป็นแบบนี้ แน่นอนว่าชูฉิงสำหรับผมแล้วเป็นน้องสาวที่ดีที่สุด และผมก็ต้องการให้เธอมีความสุข วางใจเหอะ เรื่องนี้ปล่อยให้เป็นหน้าที่ผมในการพูด” ไห่โจ๋ซวนกล่าวอย่างใจเย็น
อ้าวเสว่วางโทรศัพท์ลง เธอต้องการให้ความรักบริสุทธิ์ แต่ก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงการทำบางเรื่องเพื่อปกป้องความรักของตัวเอง ช่างเจ็ยปวดทรมานจริงๆ อ้าวเสว่เจ็บจนกุมขมับไว้
แผนการของเย่เนี่ยนโม่คือเมืองโบราณใกล้เมืองz ในช่วงเช้าตรู่ กลุ่มคนได้ไปรวมตัวกันที่สถานีรถไฟ เมื่อถึงเวลา เย่เนี่ยนโม่ถือรายชื่อไว้ในมือแล้วเริ่มทำการนับจำนวนคน
“วันนี้ต้องรบกวนทุกคนแล้ว” ไห่โจ๋ซวนยิ้มอย่างสดใสอยู่ข้างๆ ปกติแล้วเขาเป็นคนที่ดีมาก ชายหนุ่มหญิงสาวต่างชอบมาลายล้อมอยู่ข้างๆเขา เย่ชูฉิงยืนยิ้มเขินอยู่ข้างๆไห่โจ๋ซวน ถึงแม้ว่าจะไม่ได้คลุกคลีกับพี่โจ๋ซวน แต่ว่าพี่โจ๋ซวนก็เป็นคนเชื้อเชิญตัวเองให้ไปท่องเที่ยว ช่างทำให้คนมีความสุขจริงๆ
“ยียียังมาไม่ถึง” ซ่งเมิ่นเจ๋รีบพูดขึ้นอย่างลนลาน จางถังที่อยู่ข้างๆพูดด้วยท่าทีแปลกๆ :“นักศึกษาเย่ไม่ได้แจ้งให้ครบหรือเปล่า”
นักศึกษาที่รับผิดชอบในการแจ้งคนในกลุ่ม ได้ยืนกรานว่าตัวเองนั้นแจ้งตามใบรายชื่อครบทุกคนแล้ว เย่เนี่ยนโม่หยิบใบรายชื่อมาดู ในใบรายชื่อนั้นไม่มีชื่อของติงยียีจริงๆด้วย
สายตาของอ้าวเสว่หันไปมองจางถังอย่างไม่รู้ตัว ทำไมถึงบังเอิญอะไรขนาดนั้นที่ดันไม่มีรายชื่อของติงยียี จางถังเลิกคิ้ว ใช่ เป็นฝีมือของเขาเอง อย่างแรกไม่เพียงแต่เป็นการทำตามสัญญาที่ให้กับอ้าวเสว่ อย่างที่สองสำคัญมากคือการทำให้เย่เนี่ยนโม่บกพร่องในหน้าที่ ทำให้เขาขายหน้า
“โทรศัพท์หาติงยียีก่อน ถามเธอว่าตอนนี้อยู่ที่ไหน” เย่เนี่ยนโม่มองดูนาฬิกา ยังเหลือเวลาอีก40นาที ถ้าหากว่าอยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟ ก็น่าจะมาทันได้
“เดี๋ยวฉัน/ผมโทรเอง!”ซ่งเมิ่นเจ๋กับไห่โจ๋ซวนหยิบโทรศัพท์ออกมาพร้อมกัน คนที่อยู่ในเหตุการณ์แม้แต่เย่เนี่ยนโม่ต่างมองไห่โจ๋ซวนด้วยความประหลาดใจ ซ่งเมิ่นเจ๋มีเบอร์โทรของติงยียีนั้นไม่แปลกใจ แต่ทำไมไห่โจ๋ซวนก็มีด้วย พวกเขาไปปฏิสัมพันธ์กันดีแบบนี้ตั้งแต่ตอนไหน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset