สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 1402 หญิงรับใช้ของคุณชายเย่ 1302

“ฮ่าๆๆ” เย่เนี่ยนโม่ใช้ช้อนตักอีกคำ แล้วกินอย่างสบายๆ โดยไม่รู้สึกลำบากกับการกลืนลงไปเลย
อ้าวเสว่ทั้งทนไม่ได้ทั้งมีความสุข เธอลุกขึ้นเพราะอยากจะเทน้ำผลไม้ให้เขา
เดินไปได้ไม่กี่ก้าวหลังจากเทน้ำผลไม้แล้ว ตาของอ้าวเสว่ก็พร่ามัว เดินโซเซอยู่ชั่วครู่ เย่เนี่ยนโม่คว้าตัวเธอเอาไว้ได้ทันเวลา น้ำผลไม้ก็หกรดตัวเธอ
“ทำไมจู่ๆถึงได้เวียนหัว วันนี้เธอกินข้าวหรือเปล่า?” เย่เนี่ยนโม่อุ้มอ้าวเสว่ไปวางไว้บนโซฟาแล้วก้มหน้าถาม ใบหน้าของอ้าวเสว่เป็นสีแดงขึ้นมาเล็กน้อยและส่ายหน้า เมื่อเห็นเย่เนี่ยนโม่ขมวดคิ้วก็รีบพูดว่า : “กินข้าวเช้าแล้วค่ะ”
เพื่อทำเค้กชิ้นนี้ให้เย่เนี่ยนโม่กิน กินข้าวเช้าเสร็จแต่เช้าตรู่ก็ไปหาซื้อวัตถุดิบแล้วก็ยุ่งทั้งวันจนลืมกินข้าวไปเลย
เย่เนี่ยนโม่ถอนใจแล้วถอดชุดนอกที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำผลไม้มาวางไว้บนเก้าอี้ เขาหยิบกุญแจออกมาแล้วพูดกับอ้าวเสว่ : “ตอนนี้ถ้ากินเค้กจะไม่ดีกับท้องของเธอ ฉันจะไปซื้อโจ๊กมาให้”
อ้าวเสว่มองเย่เนี่ยนโม่ออกประตูไปด้วยสายตาหวานฉ่ำ เนี่ยนโม่ไม่ได้ตำหนิตนเองที่โกหกเขาแล้วยังออกไปซื้อโจ๊กให้อีก ในใจของเธอรู้สึกอยู่ตลอดว่าความสุขที่เกิดขึ้นนี้ไม่ใช่เรื่องจริง
ตอนนี้ดูเหมือนว่าตนเองสามารถเชื่อใจเนี่ยนโม่ได้แล้วล่ะและเชื่อว่าเขาสามารถนำความสุขมาให้เธอได้
และในเวลานี้เอง เสียงโทรศัพท์ได้ดังขึ้น : “แม่ มีอะไรเหรอคะ?”
“แกเป็นลูกสาวของฉัน ไม่มีเรื่องอะไรก็มาหาแกไม่ได้งั้นเหรอ?” เสียงของซือซือนั้นค่อนข้างคลุมเครือ อ้าวเสว่รู้ว่าแม่ของตนเองจะต้องเมาอีกแล้ว ตอนเป็นเด็กเอาตัวเธอจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าไปเลี้ยงเป็นลูกแล้วส่งกลับมาอีกครั้ง ตอนนี้ก็นึกอยากจะเชื่อมสัมพันธ์กับเธอ ความรักในครอบครัวแบบนี้ช่างน่าเศร้าจริงๆ
“แม่ ถ้าไม่มีอะไร ฉันจะวางสายแล้ว ฉันเหนื่อยจริงๆ” อ้าวเสว่ทำท่าจะวางสาย
“คืนนี้ฉันเห็นเย่เนี่ยนโม่อยู่กับผู้หญิงคนอื่น แกบอกว่าเย่เนี่ยนโม่จะต้องชอบแก ฉันคิดว่าความชอบแบบนี้มันอันตรายมากนะ ฉันเคยบอกแล้วว่าผู้ชายของตระกูลเย่จะไม่มีทางลงหลักปักฐานเร็วขนาดนั้น” ซือซือพูดอธิบายอย่างช้าๆและไม่รีบร้อน เนื่องจากลูกสาวที่บ่มเพาะมาอย่างยากลำบากไม่เชื่อฟัง ถ้าอย่างนั้นตนเองต้องค่อยๆล้างความสุขของเธอไปทีละน้อยทำให้เธอต้องพึ่งพาได้แค่ตัวเธอเท่านั้น
หัวใจของอ้าวเสว่เต้นแรงขึ้นมาในทันใด เธอตื่นตระหนกอย่างไม่อาจควบคุมได้ เนี่ยนโม่อยู่กับผู้หญิงคนอื่นงั้นเหรอ? แล้วทำอะไรกันเหรอ? ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร?
สายตามองไปยังเสื้อนอกที่เย่เนี่ยนโม่วางไว้บนเก้าอี้ด้วยใจที่ตื่นตระหนก เย่เนี่ยนโม่ไม่คิดหยุมหยิมที่ตนเองหลอกเขา และกินเค้กที่ไม่อร่อยเลย แถมยังออกไปซื้อโจ๊กด้วย ที่เขาทำทั้งหมดนี้ไม่ใช่เธองั้นเหรอ? ถ้าฉันยังสงสัยเขาอยู่ที่นี่ มันไม่ยุติธรรมกับเขาเลยจริงๆ
อ้าวเสว่เห็นแสงสว่างในทันทีแล้วพูดอย่างหนักแน่นว่า : “แม่คะ ฉันเชื่อเนี่ยนโม่ ถ้าหากว่าเขาอยู่กับผู้หญิงคนอื่นจริงๆ ฉันเชื่อว่าจะต้องมีเหตุผลว่ามีเรื่องจำเป็นที่ต้องพูดคุยด้วย”
ซือซือผงะไปแล้วเปล่งเสียงหัวเราะออกมาอย่างรวดเร็ว : “ลูกเอ๋ย แม่เพียงแค่อยากให้ลูกได้รู้ว่าในโลกใบนี้มีแต่แม่เท่านั้นที่คิดถึงลูก ในเมื่อลูกคิดอย่างนี้แล้ว ถ้าอย่างนั้นก็ให้กาลเวลาพิสูจน์คนเถอะ”
ซือซือวางสายแล้วมองร่างเปลือยเปล่าในห้องน้ำ บนหน้าอกมีรอยแผลเป็นยาวแล้วยังมีจุดบกพร่องที่ทำให้ตนเองไม่อาจจะเงยหน้าขึ้นได้ตลอดชีวิต ถ้าต้องการให้อ้าวเสว่เชื่อฟังตนเองอย่างถึงที่สุด หนทางยังอีกยาวไกลทำจะทำให้เธอกลายเป็นหมากในการล้างแค้นตระกูลเย่ และเธอรอแทบจนไม่ไหวแล้ว
อ้าวเสว่ขว้างโทรศัพท์ไปอย่างไม่ใส่ใจ ในใจรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย ไม่ได้เลือกที่จะมีแม่แบบนี้เลย เธอพลิกตัวไปหยิบโทรศัพท์ที่อยู่บนพื้น ทันใดนั้นสายตาก็ถูกใบเสร็จซื้อสินค้าแผ่นเล็กๆที่อยู่บนพื้นดึงดูด
เมื่อหยิบขึ้นมาดูแล้วเป็นร้านเสื้อผ้าหรูหราระดับสากล น่าแปลก ยี่ห้อนี้ผลิตแต่เสื้อผ้าผู้หญิงเท่านั้นนี่นา อ้าวเสว่พลิกใบเสร็จ บนใบเสร็จยังมีการ์ดใบเล็กๆที่เป็นสไตล์ของชุดติดอยู่ หรือว่าเนี่ยนโม่วางแผนจะซื้อเสื้อผ้าให้เธองั้นเหรอ?
อ้าวเสว่เอาใบเสร็จใส่กลับคืนไปในเสื้อคลุมของเย่เนี่ยนโม่ ในเมื่อต้องการที่จะเซอร์ไพรส์ตนเอง แน่นอนว่าตัวเธอจะต้องไม่รู้อะไรเลย ชุดนี้เป็นสไตล์ที่ฉันชอบจริงๆ ต้องใส่สร้อยคอและรองเท้าแบบไหนถึงจะเข้ากันล่ะ?
เนี่ยนโม่กลับมาพร้อมกับโจ๊ก อ้าวเสว่กินไปพลางพร้อมกับมองเขาไปพลาง รอให้อีกฝ่ายเอ่ยปากพูด
เนี่ยนโม่เพิ่งจะโทรหาชูฉิงเมื่อกี้นี้ ดูเหมือนว่าน้ำเสียงของอีกฝ่ายจะผิดปกติ จึงไม่ได้สังเกตสายตาที่คาดหวังของอ้าวเสว่
“เนี่ยนโม่คะ พรุ่งนี้วันเสาร์ พวกเราไปสวนสัตว์ดีไหม?” อ้าวเสว่กัดช้อนแล้วเสนอแนะ เนี่ยนโม่อาจจะอยากมอบของขวัญชิ้นนั้นให้ตนเองเนื่องในโอกาสพิเศษก็เป็นได้?
“สวนสัตว์เหรอ? อืม ก็ดีนะ แต่ว่าฉันต้องไปหาชูฉิงก่อน เธอโทรหาฉัน” เย่เนี่ยนโม่ยังคงพูดถึงคำพูดของชูฉิงจึงเหม่อลอยอยู่เล็กน้อย
วันรุ่งขึ้น ประตูห้องเปิดออก ติงยียีนอนสะลึมสะลืออยู่ ติงต้าเฉินถือโทรศัพท์ที่ตกอยู่ในห้องนั่งเล่นแล้วเขย่าปลุกติงยียีด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
“ยียีเอ๊ย แฟนของลูกโทรมาน่ะ”
“แฟน? ฉันมีแฟนที่ไหนกัน พ่อคะไม่ต้องมาใช้แผนการนี้บังคับให้ฉันตื่นเลย” ติงยียีพลิกตัวแล้วนอนต่อ
ติงต้าเฉินร้อนใจแล้ว ชายหนุ่มยังคงรอสายอยู่นะ เขาเปิดผ้าห่มของติงยียีแล้ววางโทรศัพท์ไว้ข้างหูของเธอ
“ยียีเหรอ?” เสียงของเย่ชูหวินดังออกมา ติงยียีตื่นขึ้นมาในทันที ดวงตาของเธอเบิกกว้าง เขาต้องได้ยินบทสนทนาทั้งหมดที่เธอคุยกับพ่อเมื่อกี้แล้วแน่ๆ ครั้งนี้ดวงซวยแบบสุดๆจริงๆ
เสียงของเย่ชูหวินในโทรศัพท์ไม่เย็นชาเหมือนในความเป็นจริง ตรงกันข้ามกลับมีความทุ้มลึกเป็นพิเศษ เสียงเฉยเมยที่เอ่ยถามนั้นมีร่องรอยของรอยยิ้ม : “ให้ฉันไปรับเธอไหม?”
“รับฉันงั้นเหรอ?” ติงยียีถึงได้มีปฏิกิริยาตอบสนองว่าวันนี้คือวันเสาร์ ก่อนหน้านี้ตอนที่กลับมาจากเมืองโบราณ ได้สัญญากับเขาไว้ว่าจะไปสวนสัตว์!
“ไม่ต้องหรอก ฉันไปเองได้” ติงยียีพลิกตัวและลุกขึ้น เมื่อวางสายแล้วเรียบร้อย หัวใจก็เริ่มเต้น ปึงๆปังๆขึ้นมา หันหน้าไปก็เห็นว่าพ่อยังไม่ไป มองดูตัวเองด้วยอารมณ์ขำขัน
“เป็นเด็กผู้ชายที่มาส่งลูกที่บ้านเมื่อคราวก่อนเหรอ? แต่ว่าพ่อฟังเสียงแล้วว่าไม่ค่อยเหมือนเลย!”
ติงยียีไม่ต้องการอธิบายอะไรมาก เพื่อป้องกันไม่ให้พ่อคิดเพ้อเจ้อ เธอสวมรองเท้าแตะเดินเข้าไปในห้องน้ำเพื่ออาบน้ำ
ติงต้าเฉินคิดๆแล้วก็ยังไม่วางใจ นี่เป็นครั้งแรกที่ลูกสาวคนสวยของเขาจะไปออกเดท ควรจะจับตาดูเสียหน่อยไม่ใช่เหรอ ยิ่งคิดยิ่งรู้สึกว่าเป็นเรื่องจำเป็น ติงต้าเฉินปิดประตูพร้อมกับความคิดหลากหลาย
ติงยียีอาบน้ำเสร็จแล้วและเดินเข้าไปภายในตู้เสื้อผ้า สายตาจับอยู่บนชุดเดรสที่เย่เนี่ยนโม่ซื้อให้ หรือว่าจะใส่ชุดนี้ดีนะ? ชุดนี้ซื้อมาด้วยน้ำใจในราคาหนึ่งหมื่นแปดพันหยวนเลยนะ
สวมชุดเดรสแล้ว ติงยียีมองดูตัวเองในกระจกด้วยความประหม่าเล็กน้อย เธอรวบผมขึ้นมัดแล้วทาลิปสติก ตนเองในกระจกดูแปลกตาไปเล็กน้อย ติงยียีถอนใจแล้วเช็ดลิปสติกออกถึงได้ออกประตูไป
เดินไปถึงหัวมุม เสียงบีบแตรได้ดึงดูดความสนใจของติงยียี
ติงยียีหันหน้าไปมองเย่ชูหวินด้วยความประหลาดใจ เขามองเธออย่างสงบเยือกเย็นเช่นกัน
ต้องยอมรับว่าเสี้ยววินาทีที่ติงยียีปรากฏตัวทำให้เขาประหลาดใจจริงๆ
หันหน้าไปพยักหน้าให้ติงยียีที่เขามองว่าเป็นทอมบอยมาตลอด เธอมักจะสวมกางเกงยีนส์ คิดไม่ถึงว่าวันนี้จะสวมชุดเดรส ถ้าอย่างนั้นวันนี้ก็นั่งรถจักรยานยนต์ไม่ได้แล้ว เย่ชูหวินต่อสายโทรออก
ไม่นานนัก รถAudiก็มาจอดอยู่ตรงหน้าทั้งสองคน
เย่ชูหวินเปิดประตูให้เธอ ติงยียีมองไปทางเขาอย่างขอบคุณ เมื่อกี้นี้เธอกังวลจริงๆว่าจะซ้อนรถอย่างไร
ติงต้าเฉินขมวดคิ้วมองดูอยู่อีกด้าน เด็กหนุ่มคนนี้ไม่ใช่ที่คนที่เห็นในครั้งแรกนี่นา เป็นไปไม่ได้ที่ลูกสาวของตนเองจะเหยียบเรือสองแคม! เห็นทั้งสองคนนั่งรถจากไปแล้ว ติงต้าเฉินรีบขับรถบรรทุกตามไปเงียบๆ
ติงต้าเฉินขับรถตามรถของเย่ชูหวิน ในตอนที่อยู่ตรงสัญญาณไฟจราจรได้บังเอิญหันหน้าไปเห็น จังหวะนี้เขาจ้องจนตาแทบถลน คนที่นั่งอยู่ในรถหรูคันข้างๆนี้เป็นเด็กผู้ชายที่ติดต่อกับลูกสาวของตนเองหลายครั้งไม่ใช่เหรอ? แล้วเด็กผู้หญิงที่นั่งอยู่ข้างๆคือใคร!
“เนี่ยนโม่ คุณไม่ชอบออกมาเที่ยวเหรอ?” อ้าวเสว่มองดูสีหน้าเย่เนี่ยนโม่อย่างระมัดระวัง หรือว่าการที่ตนเองขอให้เขาไปเที่ยวสวนสัตว์มันน่าอึดอัดมากงั้นเหรอ?
เย่เนี่ยนโม่คิดถึงเรื่องของเย่ชูฉิงอยู่ตลอดเวลา เมื่อได้ยินจึงยื่นมือลูบหัวอ้าวเสว่ แล้วพูดอย่างช่วยไม่ได้ว่า : “เธอคิดอะไร ฉันกำลังคิดถึงเรื่องอื่นอยู่”
“คุณบอกฉันได้ไหมว่าเรื่องอะไร? ฉันก็อยากจะช่วยแบ่งเบาคุณ” อ้าวเสว่ร้อนใจอยากจะรู้เรื่องทุกอย่างที่ชายหนุ่มที่นั่งข้างๆเธอกำลังคิดอยู่ จะดีหรือร้ายก็ได้ทั้งนั้น อย่างนั้นแล้วตนเองถึงจะรู้สึกว่าคว้าเขาเอาไว้ได้
เย่เนี่ยนโม่ขมวดคิ้ว ทำไมอ้าวเสว่ต้องถามละเอียดขนาดนี้ เรื่องพวกนี้เป็นรายละเอียดเล็กๆน้อยๆที่เขายังตะขิดตะขวงใจแค่นั้นเอง ถึงแม้จะไม่ค่อยชอบใจนักแต่เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายผิดหวัง เย่เนี่ยนโม่จึงพูดออกมาว่า : “เมื่อวานชูฉิงอารมณ์ไม่ค่อยดี ฉันเป็นห่วงเธอ”
ที่แท้เป็นเพราะเย่ชูฉิงนี่เอง อ้าวเสว่ถอนใจยาว จากนั้นก็ตกอยู่ในความตื่นกลัวมากยิ่งขึ้น เนี่ยนโม่ไม่อยากให้ตนเองถามอะไรที่ละเอียดและรบกวนตัวเขาสินะ
ดังนั้น อ้าวเสว่จึงนั่งอยู่ตรงที่นั่งข้างคนขับแล้วคิดฟุ้งซ่านไปตลอดทางจนถึงโรงพยาบาล
เย่ชูฉิงนั่งอยู่บนเตียงผู้ป่วยแล้วมองออกไปนอกหน้าต่างอย่างเฉยชา เมื่อเย่เนี่ยนโม่และอ้าวเสว่เปิดประตูเดินเข้ามา เธอหันหน้าไปแล้วฝืนยิ้มออกมาพลางพูดกับอ้าวเสว่ว่า : “พี่อ้าวเสว่คะ ฉันมีเรื่องจะพูดกับพี่ชายค่ะ”
อ้าวเสว่ยิ้มแล้วพยักหน้า แต่ในใจรู้สึกอึดอัดอย่างมาก ตนเองเป็นแฟนของเนี่ยนโม่แล้ว เมื่อไหร่ที่ชูฉิงถึงจะปฏิบัติต่อเธอในฐานะพี่สะใภ้เสียที?
“ชูฉิง ดีขึ้นบ้างไหม” เย่เนี่ยนโม่อยากจะเข้าไปใกล้เพื่อวัดอุณหภูมิที่หน้าผากของชูฉิง แต่ว่าเธอหลบเลี่ยง
“พี่ชาย พี่บอกฉันมาตรงๆ พี่ทำให้พี่โจ๋ซวนไม่มาเจอฉันงั้นเหรอ?” เย่ชูฉิงเจ็บปวดมาก ด้านหนึ่งก็พี่ชายของเธอ อีกด้านก็เป็นคนที่เธอรัก
เย่เนี่ยนโม่ยืดตัวขึ้นแล้วมองน้องสาวด้วยท่าทางจริงจัง “ถูกต้อง ฉันขอเขาเอง ถ้าหากเขาถูกกำหนดมาว่ารักเธอไม่ได้ก็อย่าอ่อนโยนกับเธอตั้งแต่แรก ”
“ไม่ๆ ไม่ใช่นะคะ” เย่ชูฉิงส่ายหน้าทันที มันไม่ใช่แบบนี้ เธอรักไห่โจ๋ซวนไม่ใช่เพียงแค่ความอ่อนโยนของเขาเท่านั้น แต่รักที่ตัวเขาด้วย เมื่อเขาปรากฏตัวต่อหน้าเธอ เธอมีความสุขมาก เรื่องนี้ไม่เกี่ยวเลยว่าอีกฝ่ายจะยอมรับรักหรือไม่
พี่คะ ฉันชอบพี่โจ๋ซวนมาก ฉันหวังว่าพี่จะไม่ก้าวก่ายเรื่องระหว่างเราสองคน” เย่ชูฉิงกัดฟันแล้วพูดการตัดสินใจของเธอออกมา
“เธอพูดอีกครั้งซิ” ใบหน้าของเย่เนี่ยนโม่เป็นสีเขียว เขาให้ความสำคัญกับญาติพี่น้องมากที่สุด แต่ตอนนี้ญาติของเขาบอกเขาว่า ต้องการให้ตนเองเลิกมายุ่มย่ามได้แล้ว

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset