สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 1404 หญิงรับใช้ของคุณชายเย่ 1304

“โม่ซวนหลิน คนนั้นต้องการผู้ชายจนเป็นบ้าไปแล้วจริงๆ เมื่อกี้นี้ถึงกับวิ่งเข้าไปอุทิศตัวเองเลยนะ”
“ไม่มีทาง ห้องไหน? ทำไมหิวกระหายขนาดนั้น?”
“ได้ยินว่าห้องส่วนตัวหมายเลข 2 เฮ้ เสี่ยวติง เธอจะวิ่งทำไมน่ะ?”
ติงยียีวิ่งออกไปโดยไม่รู้ตัว หายใจกระหืดกระหอบกลับไปที่ห้องส่วนตัวหมายเลข 2 แล้วผลักประตูอย่างแรง โม่ซวนหลินถอดเสื้อผ้าของเธอออกเรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงแต่เสื้อชั้นใน เมื่อเห็นติงยียีผลักประตูเข้ามา ก็ส่งเสียงร้องแล้วซ่อนตัวอยู่ด้านข้าง
ติงยียีเขย่าตัวเย่เนี่ยนโม่อย่างแรง : “เฮ้ รีบตื่นเร็ว!”
“ติงยียี เธอเป็นบ้าไปแล้วเหรอ!” โม่ซวนหลิน สวมเสื้อผ้าอย่างสับสนอลหม่านแล้วขบเขี้ยวเคี้ยวฟันใส่ติงยียีด้วยความเกลียดชัง ตนเองเกือบจะทำสำเร็จอยู่แล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะติงยียี ผู้หญิงคนนี้!
“โม่ซวนหลิน เขาคือเพื่อนของฉัน ฉันไม่อนุญาตให้เธอใช้เล่ห์กลใส่เขา” ติงยียีพูดอย่างดุดันและข่มขู่ ที่ปากประตูมีพนักงานเสิร์ฟคนหนึ่งที่ชะเง้อคอมองดูด้วยความสงสัย โม่ซวนหลินเสียหน้า เธอก้มหน้าลงแล้วมองติงยียีอย่างชั่วร้ายก่อนจะวิ่งหนีไป
ติงยียีเดินไปปิดประตู เมื่อหันกลับมาก็สะดุ้งตกใจ เมื่อเย่เนี่ยนโม่ที่ควรจะเมาแล้วมองตนเองด้วยสายตาที่แหลมคม ไม่มีลักษณะของอาการเมาแม้เพียงครึ่ง
ติงยียีเปิดประตู เย่เนี่ยนโม่ผู้นี้รู้สึกว่าตนเองถูกทำให้เหมือนเป็นคนโง่ ไม่แน่ว่าบางทีเมื่อกี้นี้เขาอาจจะรอคอยให้โดนขึ้นขย่มอยู่ก็เป็นได้!
“ฉันถามเธอว่า ถ้าเธอชอบคนที่ไม่ชอบเธอ เธอจะทำยังไง?” เย่เนี่ยนโม่ถามพร้อมกับเขย่าแก้วเบียร์ในมือของเขา
มือของติงยียีหยุดชะงักที่ลูกบิดประตูแล้วพูดอย่างไม่สบอารมณ์ว่า : “ถ้าชอบก็ไปจีบสิ เขาไม่ชอบฉันหนึ่งวัน ฉันก็จะตามจีบหนึ่งวัน เขาไม่ชอบครึ่งเดือน ฉันก็จะตามจีบครึ่งเดือน ตราบใดที่ฉันชอบเขา ฉันก้จะตามจีบเขาไปเรื่อยๆ”
“อย่างงั้นเหรอ?” เย่เนี่ยนโม่ยิ้ม ถ้าชูฉิงได้ยินอาจจะมีความสุขมากก็ได้นะ น่าเสียดายที่เขาไม่คิดแบบนี้ ยิ่งให้มากยิ่งไม่ยอมแพ้ ยิ่งไม่กล้ายอมแพ้
เมื่อเห็นว่าเย่เนี่ยนโม่ไม่พูดอะไรจึงเปิดประตูแล้วจากไป ทัศนคติที่เย่เนี่ยนโม่มีต่อพ่อของเธอเมื่อตอนเช้าทำร้ายเธอและเธอจะไม่ยกโทษให้เขาสำหรับเรื่องนี้
ออกจากประตูมาแล้ว ติงยียีได้ยินเสียงขวดเหล้ากลิ้งไปมาอยู่ในห้อง เธอถอนหายใจแล้วส่งข้อความหาอ้าวเสว่ : “เย่เนี่ยนโม่อยู่ในห้องส่วนตัวตี้เหา อีกอย่าง พ่อของฉันไม่มีทางขโมยกระเป๋าเงินของเธอแน่นอน”
ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า อ้าวเสว่มองดูข้อความของติงยียี อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว ทำไมติงยียีถึงได้รู้โดยบังเอิญขนาดนี้ว่าเย่เนี่ยนโม่อยู่ที่ไหน หรือว่าทั้งหมดทั้งมวลนี้ตัวเองจะคิดมากเกินไปแล้ว?
อ้าวเสว่อดไม่ได้ที่จะไปที่โรงแรมตี้เหา ไม่ว่าเย่เนี่ยนโม่จะทำร้ายตนเองเช่นไร ตัวเธอไม่อาจจะปล่อยเขาไปได้เลย ทันทีที่ลงจากรถก็เจอกับจางถังและเหยนหมิงเย้าที่อออกมาจากโรงแรม
“นี่อ้าวเสว่ไม่ใช่เหรอ ทำไมเย่เนี่ยนโม่ไม่อยู่เธอล่ะ?” จางถังจ้องมองอ้าวเสว่ขึ้นลงทั้งตัว ดวงตาที่จ้องราวกับแมลงวันทำให้อ้าวเสว่รู้สึกไม่ชอบเสียเลย
“อาถังเตรียมตัวไปได้แล้ว คนอื่นๆรอพวกเราอยู่นะ” เหยนหมิงเย้าก้าวมาข้างหน้าแล้วพูดด้วยใบหน้าสงบนิ่ง สายตาของเขาเพียงแต่กวาดทั่วตัวอ้าวเสว่อย่างเรียบเฉย จางถังคนนี้เป็นพวกชอบตักตวงเอาผลประโยชน์ ถ้าหากรู้ว่าตนเองรู้จักกับอ้าวเสว่ ไม่แน่ว่าอาจจะมีแผนการร้ายอะไรอีก
จางถังพยักหน้า แล้วเดินไปจนถึงด้านข้างของอ้าวเสว่แล้วพ่นควันบุหรี่ในปากใส่ที่ข้างตัวเธอแล้วพูดน้ำเสียงทุ้มลึกว่า : “ฉันอยากให้เธอทำเรื่องหนึ่งให้ฉัน บอกที่อยู่ของเย่ชูฉิงให้กับฉัน”
อ้าวเสว่ส่ายหัวแล้วก้าวถอยหลัง เธอเคยทำพลาดมาแล้วครั้งหนึ่ง ไม่มีทางที่จะพลาดอีกเป็นครั้งที่สอง “ไม่มีทาง นายเลิกคิดได้แล้ว”
“ฮ่าๆ อย่าปฏิเสธเร็วขนาดนั้นได้ไหม? ฉันขอเตือนเธอเลยนะ ถ้าหากเย่เนี่ยนโม่รู้ว่าครั้งก่อนที่ไปเมืองโบราณเป็นเธอที่วางแผนหลอกน้องสาวของเขาไปล่ะก็ เธอคิดว่าเขาจะให้อภัยผู้หญิงที่ใจร้ายแบบนี้งั้นเหรอ?” จางถังพูดพร้อมกับสนใจในท่าทางการแสดงออกของอ้าวเสว่
อ้าวเสว่อยากจะวางมือแต่ก็ทำไม่ได้ เธอได้ทำข้อตกลงกับปีศาจไปแล้วจริงๆ แล้วนี่ควรจะทำอย่างไรดี เธอจะกำจัดการข่มขู่ของจางถังได้อย่างไร?
จางถังก้าวมาข้างหน้าแล้วตบหน้าอ้าวเสว่และพูดเบาๆ : “รอจนฉันไล่ตามเย่ชูฉิงได้แล้ว ความจำในสมองของฉันก็จะถูกล้างโดยอัตโนมัติเช่นกัน”
จนเมื่อจางถังและเหยนหมิงเย้าขับรถออกไปแล้ว อ้าวเสว่ถึงได้เดินเข้าไปในโรงแรมอย่างงุนงง จากนั้นเธอก็เริ่มวิ่งอย่างบ้าคลั่ง เธอไม่อยากถูกข่มขู่ และเธอก็ไม่อยากโดนข่มขู่ เธอจะบอกทั้งหมดกับเย่เนี่ยนโม่ เขาจะต้องให้อภัยเธออย่างแน่นอน
“เนี่ยนโม่!” อ้าวเสว่เปิดประตูห้องส่วนตัว สายตามองไปที่ห้องอันว่างเปล่าและขวดเหล้าที่วางระเกะระกะอยู่บนพื้น เย่เนี่ยนโม่ออกไปนานแล้ว อ้าวเสว่ทรุดลงมาที่แผงประตู พ้นวันนี้ไป เธอไม่มีความกล้าที่จะพูดถึงอีกเลย
ทั้งหมดนี้ล้วนแต่อยู่ในสายตาของโม่ซวนหลิน ฮึ ที่แท้แฟนของเย่เนี่ยนโม่ก็ไม่ใช่คนดีอะไร รอให้มีโอกาส เธอจะบอกเรื่องพวกนี้ทั้งหมดให้กับเย่เนี่ยนโม่ ผู้ชายที่เธอไม่ได้ เธอก็จะให้เหตุการณ์มันเตลิดเปิดเปิงจนคนอื่นก็ไม่ได้เหมือนกัน
พอถูกติงยียีก่อกวนแล้วโม่ซวนหลินก็กลับบ้านไปเลย และภายในบ้านมีเสียงเล่นไพ่กระจอก หลังจากแต่งงานตามใจตัวเองแล้วหย่าร้าง ต่อจากนั้นโม่เสี่ยวหนงก็หมกมุ่นอยู่กับการเล่นไพ่นกกระจอกแล้วปรับปรุงบ้านให้เป็นโรงไพ่นกกระจอก พึ่งพารายได้เข้ามา
“แม่ หยุดเล่นได้แล้ว หนวกหูคนอื่นจะแย่!” โม่ซวนหลินปิดประตูอย่างหงุดหงิด เป็นเพราะมีพ่อแม่ที่น่าผิดหวังแบบนี้ ตนเองถึงได้มีชีวิตที่เหน็ดเหนื่อย
โม่เสี่ยวหนงเสียพนันและไม่คิดที่จะเล่นแล้ว นานๆทีเธอถึงจะเดินเข้ามาแล้วสนใจโม่ซวนหลิน เธอยิ้มและถามว่า : “ลูกสาวของฉันเป็นอะไรไปเนี่ย โกรธแล้วไม่สวยนะ”
“แม่ แม่ว่าฉันสวยไหม?” โม่ซวนหลิน ส่องกระจก ตัวเธอไม่ได้ขี้เหร่แล้วทำไมไม่มีผู้ชายรวยๆมามาชอบเธอบ้างล่ะ?
โม่เสี่ยวหนงยิ้มแล้วบีบแก้มลูกสาวของตน : “ซวนหลินของพวกเราสวยที่สุดเลย”
“เดิมทีวันนี้ฉันจะจับลูกชายของตระกูลเย่ได้แล้ว คิดไม่ถึงเลยว่าจะถูกผู้หญิงชั่วร้ายอีกคนชิงตัดหน้าไปเสียก่อน” โม่ซวนหลินยิ่งพูดก็ยิ่งโกรธ และแทบรอไม่ไหวที่จะเอาชนะติงยียี
“ลูกชายของตระกูลเย่ ที่ลูกพูดถึงคือเย่เนี่ยนโม่ใช่ไหม?” โม่เสี่ยวหนงใจสั่นระรัว ถ้าจะพูดถึงคนที่เธอตกหลุมรักละก็ เย่เชินหลินเป็นเพียงคนเดียว หรือว่าลูกสาวของเธอก็ชอบลูกชายของเย่เชินหลินงั้นเหรอ?
โม่ซวนหลินพยักหน้าและหดหู่ใจอย่างที่สุดจนไม่เห็นความแน่วแน่ในสายตาของแม่
“ลูกรัก ลูกชอบลูกชายของตระกูลเย่ แม่สามารถคิดหาวิธีส่งลูกไปอยู่ข้างกายเขาได้ แต่ต่อจากนั้นมันขึ้นอยู่กับลูกเองแล้ว” โม่เสี่ยวหนงคิดถึงเซี่ยชีหรั่น ผ่านมานานขนาดนี้แล้ว เธอไม่ควรที่จะถือโทษโกรธเรื่องเหล่านั้นแล้วล่ะ
“แม่ แม่พูดจริงเหรอ? หรือว่าแม่รู้จักคนในอะไรแบบนี้ใช่ไหม?” โม่ซวนหลินกระโดดผลุงขึ้นทันที ในหัวอดไม่ได้ที่จะจินตนาการถึงภาพที่ตนเองกับเย่เนี่ยนโม่อยู่ด้วยกัน
โม่เสี่ยวหนงลูบหัวโม่ซวนหลินโดยไม่พูดอะไร โดยมีความคิดอยู่ในใจแล้ว
วันรุ่งขึ้น โม่เสี่ยวหนงแต่งตัวแล้วไปยังชุมชนที่ตระกูลเย่อาศัยอยู่
“สวัสดีครับ ที่นี่ไม่อนุญาตให้เข้าโดยเสรีนะครับ” เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยขวางโม่เสี่ยวหนงเอาไว้ โม่เสี่ยวหนงเท้าสะเอวแล้วพูดอย่างโกรธเคือง : “น้องสาวของฉันเซี่ยชีหรั่นเป็นเจ้าของที่นี่ ก็เท่ากับเป็นเจ้าของที่นี่ครึ่งหนึ่ง แกมาขวางฉันไว้ทำไม”
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยยังขวางโม่เสี่ยวหนงไม่ให้เข้าไปแล้วหัวเราะขำ คุณเซี่ยชีหรั่นเป็นคนอ่อนโยนขนาดนั้น ญาติพี่น้องของเธอจะเป็นคนก้าวร้าวแบบนี้ได้ยังไง เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนหนึ่งไปโทรศัพท์และครึ่งนาทีต่อมาก็อธิบายเล็กๆน้อยๆกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอีกคน
โม่เสี่ยวหนงมาถึงบ้านตระกูลเย่ โดยเธอเดินวนไปรอบๆภายนอกบ้านของตระกูลเย่ก่อน หลังจากที่เห็นโครงสร้างอาคารของตระกูลเย่แล้ว ดวงตาของเธอก็แดงก่ำด้วยความอิจฉา
“คุณผู้หญิงโม่ โปรดตามฉันมา” แม่บ้านมองดูผู้หญิงคนนี้อย่างดูถูกเพราะทุกอย่างที่เธอทำเมื่อกี้นี้กล้องวงจรปิดล้วนบันทึกเอาไว้หมดแล้ว
“พี่สาว ฉันคิดถึงเธอมากจริงๆ” ทันทีที่โม่เสี่ยวหนงเข้ามาในห้องก็รีบเข้าไปหาเซี่ยชีหรั่นที่นั่งอยู่บนโซฟาทันที
เซี่ยชีหรั่นรู้สึกประหลาดใจกับความกระตือรือร้นของโม่เสี่ยวหนงจึงเบี่ยงตัวไปเล็กน้อยโดยไม่รู้ตัว
โม่เสี่ยวหนงหยุดไปครึ่งทางอย่างกระอักกระอ่วน แล้วย้ายไปนั่งบนโซฟาและถามเซี่ยชีหรั่นอย่างเป็นห่วง : “พี่สาว เธอสบายดีไหม?”
เซี่ยชีหรั่นยิ้มและพยักหน้า เธอไม่รู้ว่าเย่เชินหลินจงใจปิดกั้นข่าวคราวของโม่เสี่ยวหนง ดังนั้นเซี่ยชีหรั่นถึงไม่เคยได้รับข้อมูลของโม่เสี่ยวหนง ไม่ได้เจอกันเป็นเวลานาน เซี่ยชีหรั่นย่อมที่จะปล่อยวางเรื่องราวในอดีตเรียบร้อยแล้ว เธอยิ้มและทักทายโม่เสี่ยวหนง : “ฉันสบายดี เธอสบายดีไหม?”
“ไม่ดีเลยสักนิด เธอไม่รู้ว่าลูกสาวของฉันซวนหลินยังหางานไม่ได้เลย ยิ่งไปกว่านั้นเธอไม่รู้ว่าแขกเหล่านั้นมักจะมือไม้อยู่ไม่สุขกับเธอขนาดไหน ฉันกังวลมากจริงๆ”
โม่เสี่ยวหนงมองไปที่การแสดงออกของเซี่ยชีหรั่นอยู่ตลอด เซี่ยชีหรั่นใจอ่อนง่ายดายขนาดนั้นย่อมที่จะทนเห็นคนตายต่อหน้าไม่ได้อย่างแน่นอน
และในใจของเซี่ยชีหรั่นก็รู้สึกสะเทือนใจจริงๆ ไม่ว่ายังไง บุญคุณความแค้นของคนรุ่นก่อนก็ไม่อาจเกี่ยวข้องกับคนรุ่นต่อไป แต่ว่าผิดเป็นครูย่อมรู้จักเข็ดหลาบ เซี่ยชีหรั่นมีสีหน้าเรียบเฉยและพูดว่า : “เป็นเช่นนี้เหรอ?”
โม่เสี่ยวหนงผิดหวังอย่างมาก ทัศนคติของเธอเกินกว่าความคาดหวังของเธอไปมาก ขณะที่ครุ่นคิดว่าจะพูดอย่างไรดี แม่บ้านเดินเข้ามาแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า : “คุณผู้หญิง คุณชายกลับมาแล้วค่ะ”
เย่เนี่ยนโม่เข้าประตูมาและเหลือบมองโม่เสี่ยวหนง สายตาของฝ่ายตรงข้ามมองแว้บแรกก็รู้แล้วว่าไม่ใช่คนดี แม่จะไม่ถูกรังแกใช่ไหม?
เนื่องจากการจงใจปิดกั้นของเย่เชินหลิน ทั้งเย่เนี่ยนโม่ยังจากไปอยู่ข้างนอกกับเซี่ยชีหรั่นอีกสองปี จึงไม่เคยรู้ถึงความสัมพันธ์ของเซี่ยชีหรั่นและโม่เสี่ยวหนงเลย
เซี่ยชีหรั่นกำลังจะเรียกเย่เนี่ยนโม่และโม่เสี่ยวหนงกำลังจะกล่าวทักทาย โทรศัพท์เย่เนี่ยนโม่ได้ดังขึ้น
หลังจากรับสายแล้ว ท่าทางของเย่เนี่ยนโม่ดูจริงจังขึ้นมา เซี่ยชีหรั่นพูดอย่างกังวลว่า : “เกิดเรื่องอะไรหรือเปล่าจ๊ะ?”
เย่เนี่ยนโม่ยิ้ม โรงพยาบาลโทรมา ชูฉิงหายไปแล้ว ถ้าแม่รู้จะต้องร้อนใจมากแน่ๆ “ไม่มีอะไรครับ แค่ปัญหาในมหาวิทยาลัย” เย่เนี่ยนโม่รีบเข้ามากอดแม่ และเมื่อเดินไปถึงโถงทางเดินด้านนนอก เขากระซิบบอกแม่บ้านว่า : “ผมคิดว่าผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่คนดี ช่วยผมดูแม่หน่อยนะครับ อย่าให้เธอถูกรังแก”
ทันทีที่เย่เนี่ยนโม่ออกมาจากประตูบ้านตระกูลเย่ และตรงไปที่มหาวิทยาลัยโดยตรง สัญชาตญาณบอกกับเขาว่า น้องสาวที่น่าโง่คนนั้นของเขาจะต้องไปหาไห่โจ๋ซวนแน่ๆ
ห้องภาษานานาชาติกำลังอยู่ในคาบเรียน เย่เนี่ยนโม่วิ่งไปที่ประตูด้านหลังแล้วก็เห็นเย่ชูฉิงนั่งนิ่งอยู่ที่มุมห้อง ดูน่าสงสารอย่างมาก
“กลับไปกับฉัน” เย่เนี่ยนโม่จับมือของเย่ชูฉิงแล้วลากออกมา เนื่องจากพูดไปแล้ว เย่เนี่ยนโม่ก็หวังว่าน้องสาวของตนเองจะหลุดพันจากอาการแอบรักที่ไม่มีทางเป็นไปได้นี้โดยเร็วที่สุด
เย่ชูฉิงเม้มริมฝีปากแล้วสลัดจนหลุดจากพันธนาการของเย่เนี่ยนโม่ แล้วหันกลับมาและวิ่งกลับเข้าไปในชั้นเรียน ทุกคนล้วนแต่มองอย่างประหลาดใจเมื่อเห็นสาวน้อยแสนสวยวิ่งเข้ามา
ไห่โจ๋ซวนตกตะลึง หลังจากคืนนั้นที่เขาแอบไปพบเย่ชูฉิงที่โรงพยาบาล เขาก็ไม่เคยไปพบเธออีกเลยจริง ๆ คิดไม่ถึงเลยว่าเด็กผู้หญิงขี้อายขนาดนี้อย่างเย่ชูฉิงจะมาที่โรงเรียนเพื่อพบกับตน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset