สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 1407 หญิงรับใช้ของคุณชายเย่ 1307

เมื่อเดินออกจากร้านอาหาร อ้าวเสว่ต่อสายอย่างลังเล : “แม่ แบบนี้มันจะไม่เป็นไรจริงๆเหรอ?”
ซือซือพูดเบาๆว่า : “ลูกโง่ เพียงแค่บังคับให้เย่เนี่ยนโม่เลือกระหว่างลูกกับติงยียี แบบนี้แล้วเขาถึงจะใจร้ายและตัดขาดผู้หญิงคนนั้นได้ยังไงล่ะ อดทนรอหน่อยเถอะนะ”
ซือซือวางสาย ไห่โจ๋ซวนที่นั่งอยู่ข้างๆเอ่ยปากพูดว่า “คุณรู้ดีว่านิสัยของเนี่ยนโม่ไม่ชอบการถูกข่มขู่แบบนี้จะมีแต่เพิ่มความขัดแย้งระหว่างคนสองคนให้มากขึ้นเท่านั้น”
ซือซือพูดอย่างมีความนัยลึกซึ้งว่า : “ขอเพียงแค่ได้รับความเจ็บปวดแล้วเท่านั้น ถึงจะสูญเสียสติสัมปชัญญะ แล้วถึงจะมองหาที่พึ่งพิง ถึงเวลานั้นมันจะเป็นช่วงเวลาที่ดีในการเข้าควบคุมของพวกเรา”
ติงยียีรู้สึกได้ว่าอ้าวเสว่ดูไร้อารมณ์ ตลอดหลายวันที่ผ่านมาและจะอยู่ห่างจากตนเองให้มากที่สุดเท่าที่จะห่างได้
อาจารย์บนเวทีถือผลงานการออกแบบในชั่วโมงเรียนแล้วพูดว่า : “ครั้งนี้การออกแบบของนักศึกษาอ้าวเสว่ยังคงยอดเยี่ยมอย่างมาก คู่ควรที่จะเป็นนักศึกษาอันดับหนึ่งในการสอบวัดผลความรู้ความรู้เข้าใจเฉาพะทางของชั้นเรียน แต่ว่างานครั้งนี้ของติงยียีก็เต็มไปด้วยจิตวิญญาณเช่นกัน
อ้าวเสว่รู้สึกหดหู่ ตอนนี้เย่เนี่ยนโม่กับติงยียีก็พัวพันกัน แม้แต่การศึกษาที่ทำให้ตนเองภาคภูมิใจก็ดูเหมือนจะถูกอีกฝ่ายแซงไปแล้ว ข้อความปรากฏขึ้น เป็นไห่โจ๋ซวน เชิญเธอร่วมงานเลี้ยงออกจากโรงพยาบาลของเย่ชูฉิง เหตุผลคือให้โอกาสตัวเธอได้พบกับเย่เนี่ยนโม่
วันนั้นเธอใจร้ายกับเย่เนี่ยนโม่มาก อีกฝ่ายยังเต็มใจที่จะเจอเธองั้นเหรอ? ความพัวพันในใจพ่ายแพ้ให้กับความคิดอย่างรวดเร็ว อ้าวเสว่ตอบตกลง
คฤหาสน์ตระกูลเย่
ในห้องของเย่ชูฉิง เสียงในสายของหลี่ยี่ซวนนั้นผิดปกติมาก : “วันนี้เธอจะสารภาพรักกับไห่โจ๋ซวนหรือเปล่า?”
“อืม ยี่ซวน ฉันถือว่านายเป็นเพื่อนที่ดี ฉันอยากจะถามความเห็นของนายนายคิดว่าพูดแบบไหนดีกว่ากัน พูดอ้อมๆหน่อย หรือว่าพูดไปเลยตรงๆ?” เย่ชูฉิงเลือกเสื้อผ้าอย่างประหม่า แต่ไม่มีเสียงตอบจากปลายสายทางด้านนั้นเป็นเวลานาน เย่ชูฉิงเอ่ยถามอย่างแปลกใจ : “ยี่ซวน นายยังอยู่ไหม?”
“อยู่ ฉันกำลังดูหนังดังอยู่ เลยไม่มีเวลาคุยกับเธอ” เสียงที่ไร้หัวใจของหลี่ยี่ซวนดังขึ้น
เย่ชูฉิงออดอ้อน : “นายเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของฉันเลยนะ ให้คำแนะนำฉันหน่อย ฉันต้องการมันจริงๆนะ!”
“ฉันชอบเธอ” ทันใดนั้นหลี่ยี่ซวนก็โพล่งคำนี้ออกมาจากในโทรศัพท์
เย่ชูฉิงหยุดเลือกเสื้อผ้าทันที ในใจรู้สึกแปลกๆ น้ำเสียงของหลี่ยี่ซวนจริงจังอย่างมาก
“ฮ่าๆ! บอกเขาไปตรงๆแบบนี้เลยสิ คนแสนดีอย่างเขาแค่พูดตรงๆเลยก็ได้ เอาล่ะ เลิกรบกวนฉันดูหนังได้แล้ว มันน่าตื่นเต้นจริงๆ!” หลี่ยี่ซวนพูดอย่างรีบร้อนจบแล้วก็วางสาย
ตระกูลหลี่ หลี่ยี่ซวนทิ้งโทรศัพท์ในมือ แล้วนอนหงายอยู่บนเตียง ใช้แขนปิดตาที่กำลังมีของเหลวไหลออกมาเอาไว้และพูดพึมพำว่า : “ชูฉิง เธอมันโหดร้ายเหลือเกิน”
คฤหาสน์ตระกูลเย่ที่หรูหราในเวลานี้แสงไฟสว่างไสว เหล่าคนใช้ก็ยิ้มแย้มแจ่มใส
เย่ชูฉิงมองดูอะไรบางอย่างด้านนอกอย่างประหม่าแล้วถูกตบที่ด้านข้าง เย่ชูฉิงหันไปมองแล้วร้องว่า : “แม่”
เซี่ยชีหรั่นสวมชุดกระโปรงยาวและยืนอยู่กับเย่ชูฉิงที่สนาม มีเสียงรถดังขึ้นอยู่ไม่ไกล ชูฉิงเงยหน้าขึ้นพร้อมดวงตาคาดหวัง หลังจากที่เห็นติงยียีเดินเข้าประตูมา ดวงตาหม่นลงไปเล็กน้อย จากนั้นจึงเข้าไปกล่าวต้อนรับอย่างยินดี
“พี่ยียี!” ติงยียีถูกชูฉิงดึงให้เดินมาที่เซี่ยชีหรั่น เธอรู้สึกอายขึ้นมาเล็กน้อยเมื่อมองเห็นทุกคนในห้องล้วนแต่สวมชุดกระโปรง มีแค่ตนเองเท่านั้นที่ใส่กางเกงยีนส์
“สวัสดีค่ะคุณน้า” เดินไปถึงด้านของเซี่ยชีหรั่น ติงยียีเรียกอย่างตรงไปตรงมาและเธอยังคงจำการเผชิญหน้าที่น่าอับอายกับเซี่ยชีหรั่นที่บ้านตระกูลเย่คราวก่อนได้
“เล่นให้สนุก ไม่ต้องเกร็งนะจ๊ะ” เซี่ยชีหรั่นพูดอย่างอ่อนโยน เธอจะไม่ยุ่งเรื่องของพวกเด็กๆให้มากเกินไป เธอเชื่อว่าเนี่ยนโม่สามารถจัดการได้ดี
เย่ชูหวินได้ยินเสียงของเซี่ยชีหรั่นก็เงยหน้าขึ้นด้วยความแปลกใจ ไห่ฉิงฉิงรู้สึกได้อย่างลึกซึ้งเลยว่าลูกชายของตนที่เหม่อลอยทั้งคืนเมื่อได้ยินเสียงของติงยียีก็เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด และก็เริ่มสงสัยเกี่ยวกับติงยียีขึ้นมา
“น้าเซี่ย ลุงเย่” ไห่โจ๋ซวนเดินเข้ามา ตามมาด้วยอ้าวเสว่ที่ยิ้มหวานหยดย้อย
“โจ๋ซวน อ้าวเสว่!” เซี่ยชีหรั่นมีความสุขจริงๆ เธอพาไห่โจ๋ซวนและอ้าวเสว่เข้าไปในบ้านทันที อ้าวเสว่และเย่เนี่ยนโม่ที่กำลังลงมาชั้นล่างพบหน้ากันเข้าพอดี ไห่โจ๋ซวนจงใจก้าวไปข้างหน้าแล้วดึงเย่เนี่ยนโม่ : “คนรักกันมาเจอกันแล้วยังจะอายอยู่อีก? วางใจเถอะ พวกเราทุกคนเข้าใจ พวกนายแค่เปิดใจซื่อตรงต่อความรักเถอะ!”
เย่เนี่ยนโม่ถูกไห่โจ๋ซวนดึงและไปด้านข้างของอ้าวเสว่ อ้าวเสว่ไม่รู้ว่าจะเอ่ยปากพูดอย่างไรดี เย่เนี่ยนโม่เดินผ่านอ้าวเสว่แล้วพูดเบาๆว่า : “ไปกันเถอะ”
เย่ชูฉิงมองไห่โจ๋ซวนอย่างขี้ขลาด มองเห็นเขาพูดคุยอย่างสนุกสนาน ในใจก็รู้สึกเศร้าขึ้นมาอีกครั้ง เธอแอบดึงติงยียีมาอีกด้าน แล้วกระซิบถามเสียงเบาว่า : “พี่ยียี พี่คิดว่าพี่โจ๋ซวนชอบผู้หญิงแบบไหนเหรอคะ”
ติงยียีคิดอยู่นานและพูดอย่างลังเลว่า : “บางทีอาจจะชอบคนอ่อนโยนมั้ง” ไห่โจ๋ซวนเป็นสุภาพบุรุษที่อ่อนโยนต่อผู้หญิงทุกคน ข้อนี้ติงยียีไม่ได้พูดออกไป เพราะพูดไปก็จะทำให้เย่ชูฉิงเสียใจเปล่าๆ
“พี่ยียี พี่ช่วยเป็นกุนซือของฉันได้ไหม?” เย่ชูฉิงพูดจุดประสงค์ที่วันนี้เชิญติงยียีออกมาแล้ว ติงยียีเพียงแค่ผงะไปแล้วตอบตกลงอย่างรวดเร็ว เย่ชูฉิงเป็นเพียงแค่เด็กคนหนึ่งเท่านั้น เป็นเจ้าหน้าที่คงไม่เป็นไร
ไห่โจ๋ซวนเดินเข้ามาแล้วกวักมือเรียกติงยียีแล้วพูดอย่างประหม่าเล็กน้อย : “ยียี ซ่งเมิ่นเจ๋เพิ่งขอให้ฉันไปหาที่สหภาพนักศึกษา บอกว่ามีเรื่องจะขอความช่วยเหลือ เธอจะไปด้วยกันไหม?”
ติงยียีมองไปที่เย่ชูฉิงที่ก้มหน้าอยู่ด้านข้าง เธอรู้ว่าถ้าไห่โจ๋ซวนไปหาซ่งเมิ่นเจ๋ ชูฉิงจะต้องปวดใจมาก ถึงแม้ว่าซ่งเมิ่นเจ๋จะมีความรู้สึกดีๆต่อไห่โจ๋ซวนเช่นกัน แต่ว่าวันนี้เป็นวันที่เย่ชูฉิงออกจากโรงพยาบาลก็ขอทำให้เธอมีความสุขตลอดทั้งคืนแล้วกัน
“ถ้าอย่างงั้นฉันไปเองแล้วกัน ฉันมีเรื่องอยากไปหาซ่งเมิ่นเจ๋พอดีเลย แถมยังเป็นเรื่องระหว่างสาวๆด้วยน่ะ” ติงยียีหันไปขยิบตาให้เย่ชูฉิงที่กำลังมองเธออย่างซาบซึ้ง เมื่อเดินออกไปด้านนอก เย่ชูหวินที่ให้ความสนใจในทุกย่างก้าวของติงยียีมาโดยตลอด เมื่อเห็นติงยียีออกไปรีบโกยแนบตามไปทันที
ที่ลานบ้าน เย่เนี่ยนโม่มองอ้าวเสว่ที่ลังเลและก้มหน้าไม่พูดอะไรแล้วกระซิบถามว่า : “ที่เธอบอกเลิกกันวันนั้นเป็นจริงเหรอ?”
อ้าวเสว่ดึงริมฝีปากกลับแล้วต้องการจะตอบว่า “ใช่” แต่ไม่ว่าจะทำอย่างก็พูดไม่ออก เย่เนี่ยนโม่ค่อยๆเร่งฝีเท้าเข้าหา : “อ้าวเสว่ นี่เป็นครั้งสุดท้ายแล้วนะ ถ้าหากว่าเธอยืนยัน ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็ปล่อยมือจากกัน”
เย่เนี่ยนโม่เอาจริงแล้ว! อ้าวเสว่ไม่ต้องการฟังแม่ของเธออีกต่อไปแล้ว เธอส่ายหน้าสุดชีวิตทั้งน้ำตา เย่เนี่ยนโม่สวมกอดอ้าวเสว่ไว้ในอ้อมแขนของเขาแล้วพูดกระซิบว่า : “ขอโทษนะ ที่ไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกปลอดภัยเลย ฉันกับติงยียีเราเป็นแค่เพื่อนกันจริงๆ”
อ้าวเสว่พยักหน้าอย่างแรง เธออยากเชื่อเย่เนี่ยนโม่ เธอจะไม่อ่อนไหวขนาดนี้อีกแล้ว อ้าวเสว่ร้องไห้สะอึกสะอื้นแล้วอายจนต้องไปห้องน้ำเพื่อแต่งหน้า ไห่โจ๋ซวนเดินเข้าไปใกล้แล้วพูดว่า : “เนี่ยนโม่ สหภาพนักศึกษาของนายมีปัญหาอะไรหรือเปล่า เมื่อกี้นี้ติงยียีรีบร้อนไปที่สหภาพนักศึกษาทันทีเลย”
เย่เนี่ยนโม่นึกย้อนกลับไป ดูเหมือนว่าที่สหภาพฯจะไม่มีเรื่องอะไรนะ? ไห่โจ๋ซวนที่อยู่ข้างๆกระตุ้นว่า : “นายไปดูหน่อยเถอะ ฉันเห็นติงยียีกังวลมากเลย เดี๋ยวรออ้าวเสว่มาฉันจะบอกเธอเอง”
งานแข่งกีฬากำลังจะเริ่มแล้ว ช่วงรอยต่อที่สำคัญนี้จะมีปัญหาไม่ได้ เย่เนี่ยนโม่พยักหน้าแล้วตบไหล่ไห่โจ๋ซวน แล้วสั่งเขาว่าจะต้องอ้าวเสว่ว่าเขาไปที่สหภาพฯเพื่อจัดการธุระ แล้วจึงได้ออกเดินทาง
“เนี่ยนโม่! คุณเหรอ?” อ้าวเสว่เดินกลับมาอย่างมีความสุข เมื่อพบว่าเป็นไห่โจ๋ซวนก็ผงะไป ไห่โจ๋ซวนพูดอย่างแปลกใจว่า : “เนี่ยนโม่บอกว่าเขาจะไปที่สหภาพนักศึกษา ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ติงยียีก็ไม่อยู่”
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ไห่โจ๋ซวนเหลือบมองอ้าวเสว่อย่างมีความหมายลึกซึ้งแล้วเดินไปเลย เมื่อได้ยินเสียงวิ่งตามหลังไปสุดกำลัง ไห่โจ๋ซวนก็ยิ้มอย่างไม่มีพิษภัย ติงยียี เธอก็เสียสละตัวเองกลายเป็นมือที่สามหน่อยแล้วกันนะ
“พี่โจ๋ซวนคะ” เย่ชูฉิงเรียกไห่โจ๋ซวนให้หยุด ใบหน้าเล็กๆนั้นแดงก่ำ เธอตัดสินใจแล้วว่าคืนนี้จะสารภาพรักกับไห่โจ๋ซวน ก็แค่ทำตามคำแนะนำของยี่ซวนที่ให้สารภาพรักอย่างเด็ดขาดไปเลยไงล่ะ!
เย่ชูฉิงเปลี่ยนจากสไตล์น่ารักก่อนหน้านี้เป็นชุดราตรีเกาะอกท่อนบน ไห่โจ๋ซวนอึ้งไปเล็กน้อยชั่วขณะกับเสน่ห์ที่ส่องประกายในยามค่ำคืน
“ชูฉิง? ข้างนอกลมแรง ยังก็รีบเข้าไปในบ้านก่อนเถอะ เป็นหวัดมันจะไม่ดีนะ” ไห่โจ๋ซวนได้สติกลับคืนมาทันทีพร้อมกับปกปิดอาการลืมตัวของเขา
“ฉันมีเรื่องจะพูดกับคุณค่ะ!” เย่ชูฉิงไม่อยากจะพลาดโอกาสอีกแล้ว ไม่อยากเจ็บปวดอีกต่อไปแล้ว เธอมองไห่โจ๋ซวนแล้วพูดอย่างหนักแน่น
ไห่โจ๋ซวนมองดูใบหน้าที่ตั้งใจจริงของเย่ชูฉิงแล้ว เขาคาดเดาได้อย่างคลุมเครือว่าอีกฝ่ายต้องการจะพูดอะไร ในใจกลับรู้สึกต่อต้านอย่างมาก เขายิ้มพร้อมกับขัดจังหวะเย่ชูฉิงที่กำลังจะพูด : “ดูฉันสิ รับปากเมิ่นเจ๋ว่าจะไปหาเธอ ไว้คุยกันคราวหน้านะ”
ไห่โจ๋ซวนหันกลับไป แค่เพียงดึงซ่งเมิ่นเจ๋ออกมาเท่านั้น เย่ชูฉิงก็จะไม่พูดคำนั้นออกมาแล้วสินะ เย่ชูฉิง กลับเข้าไปในกระดองเต่าของเธอซะ ไม่ต้องพูดมัน
“พี่โจ๋ซวน ฉันชอบคุณ!” เย่ชูฉิงพูดเสียงดังอยู่ข้างหลังของไห่โจ๋ซวน ก้าวเท้าอย่างรวดเร็วแล้วกอดเขาจากด้านหลัง เย่ชูฉิงแนบศรีษะด้านข้างกับแผ่นหลังกว้างของไห่โจ๋ซวน เมื่อพูดสิ่งสำคัญที่สุดออกมาแล้ว ในใจก็สงบลง
สองมือของเย่ชูฉิงที่โอบรอบตัวไห่โจ๋ซวนถูกดึงออก ไห่โจ๋ซวนหันหน้ามาแล้วใช้นิ้วมือจับคางของเธอแล้วยกขึ้น ในดวงตาปรากฏร่องรอยของการเย้ยหยันอยู่ลางๆ ลักษณะที่สง่างา มแตกต่างกับในอดีตราวกับเป็นคนละคน
“เย่ชูฉิง?” ไห่โจ๋ซวนกล่าวเสียงแผ่วเบาพร้อมกับเฝ้าดูความหวาดกลัวที่ปรากฏขึ้นในดวงตาของเย่ชูฉิงในตอนนี้ ไห่โจ๋ซวนรู้สึกได้ถึงความสดชื่นของการแก้แค้นอย่างอธิบายไม่ถูกแล้วพูดต่อไปว่า : “เย่ชูฉิง พี่โจ๋ซวนที่เธอชอบคนนั้นคือคนที่แสดงห่วงใยต่อเธอ แต่ถ้าพี่โจ๋ซวนของเธอเป็นคนเลวที่คิดแต่จะตักตวงผลประโยชน์ เธอยังจะชอบเขาอยู่ไหม?”
ไห่โจ๋ซวนปล่อยเย่ชูฉิงแล้วหันหลังกลับอย่างรวดเร็ว บ้าเอ๊ย ทำไมเขาถึงสูญเสียการควบคุมด้วย!
ในสำนักงานของสหภาพนักศึกษาของมหาวิทยาลัยZ
ติงยียีกำลังช่วยซ่งเมิ่นเจ๋พิมพ์รายชื่ออย่างรวดเร็ว อีตานั่นกับเมิ่นเจ๋ ที่แท้วันนี้ก็ออกไปเที่ยวกับโจ๋ซวนทั้งวัน แล้วจำได้ว่าตนเองลืมทำงานของสหภาพฯ
ประตูถูกเคาะ แล้วเย่เนี่ยนโม่ก็กอดอกมองติงยียี เธอมากเหมือนนิ้วทั้งสิบลอยอยู่และหาช่วงว่างเอ่ยถามว่า : “ไม่ต้องอยู่เป็นเพื่อนอ้าวเสว่แล้วเหรอ?”
“เกิดอะไรขึ้น?” เย่เนี่ยนโม่ถามกลับ ติงยียีพูดสั้นๆถึงสถานการณ์ โดยปกปิดความจริงว่าซ่งเมิ่นเจ๋นั้นลืม แล้วรับเอาสถานการณ์นี้มาไว้ที่ตัวเอง
“หลังจากนี้ไม่ว่าเรื่องอะไรจะต้องมีการวางแผนนะ” เย่เนี่ยนโม่ฟังจบแล้วก็ขมวดคิ้วและเดินกลับไปที่ตำแหน่งของตนเอง ในเมื่อมาแล้วก็แค่ทำงานไปแล้วกัน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset