สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 1413 หญิงรับใช้ของคุณชายเย่ 1313

“พ่อบ้าน นำน้ำเปล่าไปให้เธอสักขวด แล้วอย่าบอกว่าฉันเป็นคนให้” เซี่ยชีหรั่นเห็นความมุ่งมั่นของตัวเองในตอนนั้นบนตัวติงยียี เมื่อสักครู่เธอก็แค่พูดไปอย่างนั้น คิดไม่ถึงว่าผู้หญิงคนนี้จะทำเช่นนี้จริงๆ
“น้าเชี่ยหนูขอเอาไปให้นะคะ เห็นติงยียีแบบนี้แล้วรู้สึกสงสารจับใจ” อ้าวเสว่มองติงยียีที่เหงื่อไหลดุจน้ำฝน ในใจก็รู้สึกสะใจมาก แต่เมื่อเห็นความใจอ่อนของเซี่ยชีหรั่น อ้าวเสว่ก็แบ้ปากขึ้นอย่างไม่พอใจ
ไปที่ร้านค้าในโรงพยาบาลซื้อน้ำเปล่ามาหนึ่งขวดและเกลือมาหนึ่งถุง อ้าวเสว่บิดฝาขวดออกแล้วเทเกลือลงในขวดน้ำ
ติงยียีรู้สึกแขนขาของตัวเองนั้นเย็นยะเยือก อากาศนั้นที่ร้อนจัด ตัวเองต้องเป็นลมแดดไปแล้วแน่ๆ อ้าวเสว่วิ่งมาที่ด้านหน้าติงยียีแล้วยื่นได้น้ำเปล่าให้ จากนั้นกล่าวขึ้น:“น้าเชี่ยฝากมาให้”
คุณน้าเชี่ย? ติงยียีเองก็คอแห้งกระหายน้ำแล้วจริงๆ จึงรับน้ำมาดื่ม! เมื่อน้ำเข้าปากเท่านั้นก็อ้วกพุ่งกระฉูดออกมาทันที เนื่องจากทนความเค็มของน้ำไม่ไหว แล้วน้ำก็พุ่งรดใส่ใบหน้าของอ้าวเสว่เต็มๆ
“อ้าวเสว่ขอโทษนะ!ติงยียีรีบค้นหากระดาษทิชชูในกระเป๋า อ้าวเสว่ยังคงชะงักค้างอยู่กับที่ เดิมทีอยากจะโมโหวีนใส่ แต่สายตาเหลือบไปมองเซี่ยชีหรั่นที่ยังคงยืนอยู่ที่หน้าต่าง น้ำเสียงจึงเปลี่ยนเป็นใจเสียใจขึ้น:“ยียี ฉันก็แค่เอาน้ำดื่มมาให้เธอ ทำไมเธอต้องอ้วกใส่เต็มตัวฉันด้วย”
“ไม่ใช่อย่างนั้นนะ เป็นเพราะน้ำขวดนี้มีปัญหาต่างหาก!” ติงยียีรีบอธิบาย อ้าวเสว่กลับกล่าวเบาๆ :“เป็นไปไม่ได้มั้ง น้ำขวดนี้น้าเชี่ยเป็นคนมอบให้ ยังบอกว่าอีกว่าเธอจะต้องดื่มหมดอย่างแน่นอน”
ติงยียีเข้าใจแล้ว คุณแม่ของเย่เนี่ยนโม่คงคิดว่าโทษที่ตัวเองได้รับนั้นเบาเกินไป ดังนั้นจึงจงใจให้ตัวเองดื่มน้ำเกลือนี้อย่างนั้นเหรอ ติงยียีวางขวดน้ำไว้ที่ปาก ในเมื่อเป็นการขอโทษ อย่างนั้นตัวเองก็จะยอมทำทุกอย่าง
เซี่ยชีหรั่นยืนอยู่ริมหน้าต่างเห็นอ้าวเสว่ที่ถูกอ้วกใส่เต็มตัว และยังเห็นใบหน้าของติงยียีที่ดื่มน้ำเข้าไปอย่างทรมาน ในใจก็ยิ่งโกรธ ผู้หญิงที่หยิ่งยโสโอหังเช่นนี้ช่างทำให้ชอบไม่ลงจริงๆ
เมื่อดื่มน้ำเสร็จ อ้าวเสว่ก็จากไปอย่างมีความสุข ติงยียีจะต้องอยู่ในตำแหน่งที่ต่ำมากๆอย่างแน่นอนสำหรับในใจของน้าเชี่ย ต่อให้ต่อไปตัวเองไม่สามารถแต่งงานกับเนี่ยนโม่ได้ ติงยียีก็ไม่มีโอกาสเช่นกัน
ซ่งเมิ่นเจ๋โทรศัพท์หาติงยียี และก็ถูกน้ำเสียงของติงยียีที่แหบแห้งทำให้ตกใจ แต่ก็ไม่ได้ถามไถ่ ซ่งเมิ่นเจ๋ได้กล่าวขึ้นอย่างรวดเร็ว
“ยียีเธอรีบมาที่มหาวิทยาลัยเลย เธอรู้จักคนที่หน้าตาหล่อๆอย่างกับดาราที่ชื่อเย่ชูหวินใช่ไหม เขาฉีกป้ายประกาศของมหาวิทยาลัยที่เกี่ยวกับเธอทั้งหมดทิ้งไปหมดแล้ว จึงได้ถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสองสามคนจับตัวไปแล้วทุบตีทำร้าย
ในห้องสำนักงานของมหาวิทยาลัย
“นี่มันอะไรกัน! การทำลายป้ายประกาศของมหาวิทยาลัยอย่างเปิดเผย ถือเป็นการท้าทายอำนาจของมหาวิทยาลัย นักศึกษาติงยียีสมรู้ร่วมคิดกับภายนอกมาทำแบบนี้ เกินที่จะให้อภัยได้” อาจารย์ใหญ่โกรธจนใบหน้าที่เนื้อจ้ำม่ำนั้นถึงกับสั่น เขาเป็นอาจารย์ใหญ่มาตั้งนานขนาดนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่เกิดเรื่องเช่นนี้ในมหาวิทยาลัยZ
ในใจเย่เนี่ยนโม่นั้นเข้าใจดี เรื่องนี้ไม่ใช่ฝีมือติงยียีอย่างแน่นอน น่าจะเป็นเพราะเย่ชูหวินที่ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่ชั่วขณะ ตอนนี้อาจารย์ใหญ่ตั้งใจที่จะโยนทุกเรื่องไปให้กับติงยียี ทำให้เรื่องราวทั้งหมดยิ่งยากขึ้นไปอีก
“อาจารย์ใหญ่ครับ ความจริงเรื่องนี้ผมเป็นคนทำเองครับ ไม่ได้เกี่ยวกับติงยียีแต่อย่างใด อีกอย่างถ้าหากท่านยืนกรานที่จะทำโทษติงยียี ผมรู้สึกว่าในฐานะที่เป็นหัวหน้าสหภาพนักศึกษา ผมก็ต้องมีส่วนรับผิดชอบ ผมยินยอมจะสละตำแหน่งนี้ครับ!” เย่เนี่ยนโม่ไตร่ตรองดีแล้ว หากต้องให้โทษของติงยียีเพิ่มหนักขึ้น สู้ตัวเองนั้นแบกรับไว้เองดีกว่า
ถึงแม้ว่าอาจารย์ใหญ่จะไม่รู้ความคิดของเย่เนี่ยนโม่ แต่ก็รู้ว่าเย่เนี่ยนโม่นั้นไม่สามารถแตะต้องได้ จึงกล่าวปฏิเสธไปว่า:“นักศึกษาเย่ คุณไม่ต้องพูดเรื่องนี้อีกแล้ว อีกสองวันหนังสือแจ้งให้ทราบก็จะออกมา นักศึกษาที่เลวเช่นนี้ต้องขจัดให้ออกจากมหาวิทยาลัยZ
สำหรับคำยืนกรานของอาจารย์ใหญ่ เป็นครั้งแรกที่ทำให้เย่เนี่ยนโม่ก็รู้สึกถึงความพ่ายแพ้ เมื่อออกมาจากประตูห้องสำนักงานก็อยากจะโทรหาเย่ชูหวิน เพราะอย่างไรก็เป็นญาติกัน อย่างไรเสียก็ต้องไปรับสักหน่อย
“เย่ชูหวินคุณไม่เป็นอะไรใช่ไหม!” โทรศัพท์เพิ่งถูกกดรับสาย เย่เนี่ยนโม่ก็ได้ยินเสียงของติงยียีดังขึ้นอย่างร้อนรน เย่เนี่ยนโม่ไม่พูดไม่จาแล้วฟังอย่างเงียบๆ
ที่มุมปากของเย่ชูหวินเห็นได้ชัดว่าได้รับบาดเจ็บ ข้างๆมีใบประกาศที่ม้วนเป็นแผ่นๆ ติงยียีจมูกฟึดฟัดขึ้น แล้วเดินมาที่ข้างๆเย่ชูหวินจากนั้นกล่าวขึ้น:“เจ้าบื้อ อยากจะฉีกก็ไม่ชวนฉันสักคำ!”
เย่ชูหวินที่เหมือนอยากจะพูดอะไร มุมปากที่แตกฉีกได้เจ็บปวดขึ้น ทนไม่ได้จนขมวดคิ้วขึ้น ติงยียีกล่าวกับคุณหมอที่ประจำอยู่ในห้องปฐมพยาบาลของมหาวิทยาลัยว่า:“ขออนุญาตถามหน่อยว่ามีทิงเจอร์ไอโอดีนกับสำลีก้านไหมคะ”
“เอือมกับคู่รักอย่างพวกคุณจริงๆ ก่อเรื่องมากมายขนาดนั้น” คุณหมอยื่นทิงเจอร์ไอโอดีนกับสำลีก้านใส่มือของติงยียี ติงยียีจึงนำสำลีชุบกับทิงเจอร์ไอโอดีนแล้วมาเช็ดที่มุมปากของเย่ชูหวิน
เย่ชูหวินรู้สึกเกร็งๆจึงเอนตัวไปด้านหลัง ติงยียีนึกว่าอีกฝ่ายนั้นเจ็บปวดจากการแต้มยา จึงโน้มตัวเข้าไปใกล้ยิ่งขึ้น แล้วทำการเป่าหนึ่งทีเข้าที่มุมปากของเย่ชูหวิน จากนั้นยังกล่าวปลอบโยน:“เพี้ยง หายแล้ว”
เย่เนี่ยนโม่ยืนอยู่ที่หน้าห้องทำงานของอาจารย์ใหญ่ ลมพัดเบาๆทำให้อากาศที่อบอ้าวนั้นเย็นสบาย ฟังการโต้ตอบปฏิสัมพันธ์กันของทั้งคู่ที่อยู่ในโทรศัพท์กันอย่างเงียบๆ เย่เนี่ยนโม่ทนไม่ได้จนกำนิ้วมือตัวเองแน่นขึ้น ขอบมุมของโทรศัพท์ทิ่มฝ่ามือจนรู้สึกเจ็บ ทันใดนั้นโทรศัพท์ได้ดังขึ้น เย่เนี่ยนโม่คลายมืออกอย่างลนลาน นี่ตัวเองโมโหทำไมกัน
“คุณชายน้อย นายท่านเรียกหาคุณชายน้อยครับ” พ่อบ้านกล่าวอยู่ในโทรศัพท์ เย่เนี่ยนโม่กลับไปที่โรงพยาบาล เย่เชินหลินได้ทำงานอยู่ที่ห้องหนังสือในห้องผู้ป่วย เมื่อเห็นเย่เนี่ยนโม่มาถึงแล้ว เย่เชินหลินจึงถอดแว่นตาลง จากนั้นบอกเย่เนี่ยนโม่นั่งให้รอที่โซฟา
เวลาค่อยๆผ่านไปเรื่อยๆ หลังจากหนึ่งชั่วโมงผ่านไป เย่เชินหลินเคาะที่แป้นพิมพ์แล้วก็หยุดมือลง “ได้คิดหรือยังว่าเมื่อไรจะสืบทอดสานต่อบริษัทเย่ซื่อ”
“พ่อครับ บริษัทเย่ซื่อนั้นเป็นของพ่อ ไม่ใช่ของผม ผมไม่เคยคิดที่อยากจะรับช่วงสานต่อ” เย่เนี่ยนโม่นั้นได้คิดไตร่ตรองคำถามนี้ไว้ตั้งแต่เนิ่นๆแล้ว เมื่อได้ตอบขึ้นมาจึงค่อนข้างชัดเจนไม่คลุมเครือ
“รถหรูสิบคันในลานจอดรถของแกใช้เงินของฉันซื้อมา ค่าเล่าเรียนหนังสือของแกฉันเป็นคนส่งเสีย เงินที่แกใช้ถลุงทั้งหมดก็ล้วนมาจากฉัน ตอนนี้แกมาบอกฉันว่าบริษัทเย่ซื่อเป็นของฉัน แกไม่คิดที่จะรับผิดชอบอย่างงั้นเหรอ” เย่เชินหลินกล่าวเบาๆ
เย่เนี่ยนโม่โมโหขึ้น:“ถ้าหากพ่อแน่ใจที่จะพูดแบบนี้ อย่างนั้นพ่อก็สามารถเอาทุกอย่างคืนไปได้เลย สำหรับบริษัทเย่ซื่อผมไม่มีทางที่จะสืบทอดโดยปราศจากความต้องการของผม และยอมรับชีวิตที่ปราศจากความรู้สึกโดยเด็ดขาด”
เย่เนี่ยนโม่พูดจบก็กระแทกประตูอย่างแรงแล้วจากไป เย่เชินหลินรู้สึกปวดศีรษะจึงทำการนวดขมับ เด็กคนนี้ยังเด็กนัก เมื่อวันหนึ่งที่เขารู้ว่าอำนาจนั้นคือเครื่องมือที่ดีที่สุดบนโลกใบนี้ เขาจะไม่มีวันปล่อยไปอย่างง่ายดาย คนอื่นโหยหาอำนาจและเงินตรามาตลอดทั้งชีวิตก็ไม่เคยได้ ตอนนี้จึงต้องค่อยๆให้เขาได้ลิ้มรสความหอมหวานของอำนาจ
ในคลับบาร์ เย่เนี่ยนโม่ดื่มเหล้าแก้วแล้วแก้วเล่า การสนทนากับพ่อในวันนี้ทำให้เขารู้สึกกดดัน ใช่ ตอนนี้เขาไม่มีความสามารถเลยสักนิด
“อันที่จริงการการรับช่วงสืบทอดต่อบริษัทเย่ซื่อก็ดีเหมือนกัน พวกเราที่เกิดมาในสถานะแบบนี้ เดิมทีทุกอย่างก็ไม่ได้ขึ้นอยู่กับพวกเรา มีบริษัทเย่ซื่อ ก็จะมีคนมากมายเชื่อฟังนาย ก้มหัวรับใช้นาย มีอะไรที่ไม่ดีอย่างนั้นเหรอ” ไห่โจ๋ซวนเขย่าแก้วไวน์ในมือ เแววตาภายใต้แสงไฟที่ไม่ชัดเจน
“นายจะหลบชูฉิงไปถึงเมื่อไร” เย่เนี่ยนโม่ไม่ตอบแต่กลับถามย้อนขึ้น มีเพียงเวลาที่เอ่ยถึงชูฉิงเท่านั้นใบหน้าที่หล่อเหลาของไห่โจ๋ซวนจึงแปรเปลี่ยนเป็นสีหน้าที่แย่
“เนี่ยนโม่ ผมกับเธอไม่มีทางจะเป็นไปได้หรอก ” เสียงเปล่งเบาๆออกมาจากปากของไห่โจ๋ซวน ไห่โจ๋ซวนตั้งใจเลี่ยงการสนทนาหัวข้อนี้ :“เรื่องของติงยียี นายคิดจะจัดการอย่างไร”
เย่เนี่ยนโม่เองก็ไม่รู้เหมือนกัน วันมะรืนนี้ก็เป็นวันตัดสินแล้วว่าจะอยู่หรือไปจากมหาวิทยาลัย ควรคิดหาวิธีทำให้ติงยียีละเว้นการถูกลงโทษ
“เคยคิดที่จะใช้อำนาจของบริษัทเย่ซื่อช่วยไหม” ไห่โจ๋ซวนกล่าว เย่เนี่ยนโม่ขมวดคิ้ว ใช้อำนาจบริษัทเย่ซื่อ ก็เป็นการก้มหัวให้กับบริษัทเย่ซื่อไม่ใช่เหรอ มิตรภาพระหว่างตัวเองกับติงยียีดีถึงขั้นที่ต้องทำแบบนี้หรือ
เกิดความรู้สึกแปลกๆขึ้นในหัวใจเป็นระยะๆอีกแล้ว เย่เนี่ยนโม่ไม่ชอบความรู้สึกแบบนี้ที่ไม่ตัวเองไม่สามารถควบคุมได้ และก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร
วางแก้วเหล้าลง เย่เนี่ยนโม่ตบเข้าที่หลังของไห่โจ๋ซวน ไห่โจ๋ซวนถามขึ้นด้วยความสงสัย:“นายจะไปไหน” เย่เนี่ยนโม่ไม่แม้แต่จะหันหลังมามอง“:ไปหาคำตอบ”
อ้าวเสว่ที่เพิ่งจะอาบน้ำเสร็จ เสียงกริ่งของประตูได้ดังขึ้น จึงไปเปิดประตูด้วยความสงสัย สายตาเบลอขึ้นจากนั้นซบเข้าไปที่อ้อมกอดอันอบอุ่น “เนี่ยนโม่”
เย่เนี่ยนโม่โอบกอดอ้าวเสว่อย่างเงียบๆ ร่างที่นุ่มนวลของอ้าวเสว่ก็ซบอยู่ในอ้อมกอดของเย่เนี่ยนโม่อย่างเงียบๆและผ่อนคลาย เย่เนี่ยนโม่รู้สึกถึงอารมณ์ของตัวเองที่เงียบสงบราวกับการได้งีบหลับพักตอนกลางวัน ช่างรู้สึกสบายมาก
อ้าวเสว่เป็นผู้หญิงที่อ่อนโยน เมื่ออยู่กับเธอแล้วรู้สึกสบายใจมาก เพราะเธออ่อนหวานและเอาใจเก่ง แต่ว่าในใจนั้นกลับไม่มีความรู้สึกที่แปลกๆแบบนั้น
อ้าวเสว่ตบเบาๆที่ไหล่ของเย่เนี่ยนโม่ ค่อยๆเอียงหน้ามายิ้มให้แล้วกล่าวขึ้น:“มาหาดึกขนาดนี้ มีอะไรเหรอ”
“คิดถึงคุณ” เย่เนี่ยนโม่คลายตัวอ้าวเสว่ออก ถึงได้สังเกตเห็นว่าบนตัวของอ้าวเสว่นั้นถูกพันด้วยผ้าเช็ดตัวผืนเดียวเท่านั้น เนินอกที่วับๆแวมๆ
เย่เนี่ยนโม่จึงรีบหันหลังให้กับอ้าวเสว่ทันที แล้วกล่าวเบาๆขึ้น:“ทำไมถึงเปิดประตูสุ่มสี่สุ่มห้า ถ้าหากว่าเป็นคนไม่ดีจะทำอย่างไร!”
ไม่มีเสียงตอบรับจากด้านหลัง มีแต่มือคู่หนึ่งที่นุ่มนิ่มไร้กระดูกค่อยๆถูไถอยู่ที่ไหล่ของเย่เนี่ยนโม่ จากนั้นลูบไล้ผ่านใต้รักแร้มาถึงทรวงอก อ้าวเสว่แนบกอดอยู่ที่แผ่นหลังของเย่เนี่ยนโม่แล้วส่งเสียงออดอ้อนบาๆ:“เนี่ยนโม่ เนี่ยนโม่”
เย่เนี่ยนโม่ไม่ได้หันหลังกลับ อ้าวเสว่จึงเดินไปที่ด้านข้างของเย่เนี่ยนโม่ จากนั้นดึงผ้าเช็ดตัวตัวบางออก เผยให้เห็นถึงเรือนร่างที่อวบอิ่มงดงามของหญิงสาว ผิวพรรณที่ขาวเนียนตัดกับเงาที่มืดสลัว ทั้งหมดช่างชวนหลงไหลราวกับเทพนิยายกรีก
“เนี่ยนโม่” อ้าวเสว่ก้มหน้าลงไม่กล้าเงยหน้าขึ้นสบตากับเนี่ยนโม่ที่อยู่ตรงหน้า เธออุตส่าห์ทำถึงขนาดนี้แล้ว เรือนร่างถูกคลุมด้วยเสื้อแขนยาว อ้าวเสว่ตกใจเงยหน้าขึ้น
“ระวังเป็นหวัดนะ” เย่เนี่ยนโม่หน้าแดงผิดธรรมชาติเล็กน้อย นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นเรือนร่างของผู้หญิงอย่างชัดเจนภายใต้แสงไฟที่สว่างจ้าเช่นนี้
“เนี่ยนโม่ คุณไม่อยากได้ฉันเหรอ” อ้าวเสว่ที่น้อยใจและอับอาย หรือว่าเรือนร่างของตัวเองไม่สามารถยั่วยวนความสนใจของเนี่ยนโม่ได้
“คุณพูดอะไรของคุณ! ผมเคยบอกแล้ว ถ้าหากสุดท้ายผมนั้นลงเอยกับคุณ ผมก็จะอยากเก็บช่วงเวลาที่งดงามที่สุดไว้ในตอนสุดท้าย คุณเข้าใจไหม” เย่เนี่ยนโม่มองอ้าวเสว่อย่างตั้งใจ ได้รับอิทธิพลจากมารดาของเขา เขาเองก็คิดว่าชีวิตของคนคนหนึ่งนั้นมีแค่รักเดียวก็เพียงพอแล้ว
คุณพ่อกับคุณแม่ที่อยู่ด้วยกันนั้นลำบากขนาดไหนเขาเห็นเองกับตา ดังนั้นเขาจึงสัญญากับตัวเองว่าหากต่อไปพบเจอคนที่ใช่จะไม่ทำให้เธอต้องเสียใจอย่างแน่นอน เห็นแขนขาที่แดงก่ำของหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าโดยที่ไม่รู้ว่าจะเอาไปซุกไว้ที่ไหน แววตาเย่เนี่ยนโม่ก็อ่อนโยนลง ผู้หญิงที่อ่อนโยนจิตใจดีคนนี้บางทีอาจจะเป็นคนที่ใช่ก็ได้
“อย่าคิดมาก ฝันดีนะ” เมื่อเย่เนี่ยนโม่คิดได้แล้วจิตใจก็รู้สึกผ่อนคลายลงไม่น้อย ทำการจูบที่หน้าผากของอ้าวเสว่แล้วเตรียมพร้อมจะจากไป

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset