สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 1431 หญิงรับใช้ของคุณชายเย่ 1331

เย่ชูหวินนั่งสบายๆมองผู้คนผ่านไปผ่านมาอยู่ข้างเธอโดยไม่พูดอะไรจนกระทั่งติงยียีใจเย็นลง เธอเอ่ยขึ้นด้วยความรู้สึกกระอักกระอ่วนอยู่บ้าง “เมื่อสักครู่นี้ต้องขอโทษด้วย ฉันไม่ได้มีเจตนาอย่างนั้น”
“เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือ” เย่ชูหวินถาม เธอเล่าถึงการบ้านปลายเทอมของตัวเอง เมื่อเย่ชูหวินฟังจบแล้วก็ลุกขึ้นยืน คว้ามือเธอเดินออกไปข้างนอก
เดินมาจนถึงถนนที่มีผู้คนเดินพลุกพล่านและรถราวิ่งขวักไขว่ ติงยียีก็มองเขาด้วยความสงสัย เย่ชูหวินที่ยืนอยู่ด้านหลังเธอปิดตาเธอเบาๆ พลางเอ่ยว่า “ซ้ายมือด้านหน้าของเธอมีขอทานคนหนึ่ง เธอสวมเสื้อผ้าสีแดงกำลังนั่งอยู่บนพื้น และมีเด็กน้อยคนหนึ่งวางเหรียญเงินลงในชามของเธอ เหรียญเงินกระทบเข้ากับชามจนเกิดเสียงดังกังวาน”
“ทำไมหรือ” ติงยียีจับต้นชนปลายไม่ถูก ข้างหูก็มีเสียงกระซิบแผ่วเบาลอยมา “ใช้หัวใจสัมผัส จินตนาการถึงสถานการณ์ที่ผมเพิ่งจะพูดไปเมื่อครู่นี้”
ลมหายใจอุ่นร้อนของเขารินรดติ่งหูติงยียี ติ่งหูเล็กได้รูปของเธอแดงระเรื่อขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เย่ชูหวินยิ้มออกมาโดยไม่ทิ้งหลักฐานเอาไว้แล้วปล่อยมือออก
“ตอนนี้คุณมองไปทางขวามือด้านหน้า มีคุณแม่คนหนึ่งกำลังจูงลูกน้อยข้ามถนน ตุ๊กตาของเด็กน้อยหล่นลงบนถนน เดิมไฟจราจรก็เป็นสีแดง แต่กลับไม่มีรถคันใดเคลื่อนตัวเลย ทุกคนล้วนอดทนรอเด็กน้อยเก็บตุ๊กตาขึ้นมา” เย่ชูหวินเอ่ยพูดข้างหูเธอต่อไป เวลาในช่วงบ่ายนั้นผ่านไปอย่างรวดเร็ว เย่ชูหวินส่งเธอถึงบ้านและหมุนตัวจากไป
“เย่ชูหวิน!” ติงยียีเอ่ยเรียก วิ่งเหยาะๆมาจนถึงด้านหน้าเขา หยิบที่เขี่ยบุหรี่ที่ซื้อจากIKEAยัดใส่มือเขาแล้วหมุนตัววิ่งเข้าไปในลานบ้าน
เย่ชูหวินก้มหน้ามองที่เขี่ยบุหรี่บนมือตัวเอง เมื่อได้ยินเสียงประตูเหล็กถูกเปิดออกและปิดลงด้วยความเร่งรีบจนเกิดเสียงเอี๊ยดอ๊าดก็หัวเราะออกมาอย่างอารมณ์ดี
ติงยียีที่กลับมาถึงบ้านก็พุ่งตัวเข้าไปในห้อง แผ่ตัวกลิ้งอยู่บนเตียงสองรอบ เมื่อได้ยินเสียงขับเคลื่อนของรถจักรยานยนต์จึงวิ่งไปแอบอยู่หลังผ้าม่าน และชะโงกศีรษะแอบมองแผ่นหลังของเย่ชูหวินที่จากไปอย่างอดไม่ได้ ในใจล้วนเต็มไปด้วยความรู้สึกหวานซึ้ง
ติงยียีกลับไปนั่งที่หน้าโต๊ะ หยิบพู่กันขึ้นมาใหม่ วันนี้ชูหวินทำเพื่อตัวเองมากมายขนาดนี้ ตัวเองจะต้องวาดแบบร่างที่ยอดเยี่ยมออกมาให้ได้ถึงจะถูก
วันรุ่งขึ้น ติงยียียังคงไปถึงห้องเรียนด้วยสภาพขอบตาทั้งคู่ดำคล้ำเช่นเคย หยิบแบบร่างออกมาวางบนโต๊ะแล้วลงมือแก้ไข อ้าวเสว่ที่เดินผ่านเหลือบมองแวบหนึ่งก็เอ่ยว่า “นี่คือการบ้านปลายเทอมของเธอหรือ ไม่เลวเลยนะ!”
อ้าวเสว่มองแบบร่างของเธอแล้วก็รู้สึกขึ้นมากะทันหันว่าเหมือนกับเครื่องประดับอัญมณีชิ้นหนึ่งซึ่งออกแบบโดยนักออกแบบเฉพาะกลุ่มของตุรกีที่ตัวเองเห็นในนิตยสารอยู่บ้าง
เธอเข้าอินเทอร์เน็ตบนโทรศัพท์มือถือเพื่อค้นหา องค์ประกอบทั้งหมดมีส่วนคล้ายคลึงกันอยู่บ้างจริงๆ เธอรู้ว่าติงยียีคงจะไม่โกง มีความคล้ายคลึงกันอยู่บ้างก็อาจจะเป็นเพราะแนวทางความคิดในการออกแบบชนกันเท่านั้นเอง ถ้าหากว่าผลงานการออกแบบของติงยียีเหมือนกับนักออกแบบคนนั้น เช่นนั้นจะไม่ถูกสงสัยว่าขโมยความคิดมาหรอกหรือ
อ้าวเสว่เดินไปถึงด้านหน้าติงยียี ชี้ไปที่รายละเอียดบางจุดของแบบร่าง “ฉันคิดว่าตรงจุดนี้ออกแบบแบบนี้แล้วจะสวยกว่านะ”
ติงยียีแก้ไขแบบร่างตามความคิดของเธอ พลางเอ่ยทอดถอนใจว่า “อ้าวเสว่ เธอมีพรสวรรค์มากจริงๆ แก้แบบนี้แล้วสวยขึ้นมากเลย”
อ้าวเสว่มองแบบร่างที่ไม่ใช่ก็ใกล้เคียงกับนักออกแบบตุรกีแล้ว ในใจก็คิดว่า ยียี อย่าโทษฉันเลย ถ้าจะโทษ ก็โทษที่เธอแย่งความรักของฉันไปเถอะ
หลังจากนั้นไม่กี่วัน เซี่ยชีหรั่นก็มาที่ห้องเรียนออกแบบเครื่องประดับอัญมณี และปรับแก้คะแนนให้กับนักศึกษาชั้นเรียนการออกแบบหลายสิบคนในชั้นเรียน ใบหน้าของเหล่านักเรียนล้วนเต็มไปด้วยความรอคอยที่จะได้เห็นนักออกแบบเครื่องประดับอัญมณีที่มีชื่อเสียงทั้งในและนอกประเทศคนนี้
เซี่ยชีหรั่นหยิบภาพๆหนึ่งขึ้นมาดูอยู่นานมาก และเงยหน้าจากภาพขึ้นมายิ้ม “อ้าวเสว่ ภาพดาวล้อมเดือนภาพนี้เต็มไปด้วยองค์ประกอบเป็นอย่างมาก การใช้นกสี่ตัวจิกล้อมรอบอัญมณี จะไม่ทำให้รู้สึกว่ารูปร่างของนกเป็นตัวแสดงบทบาทเด่นนี้เสียเอง และแสดงความโดดเด่นของอัญมณีออกมาได้ด้วย”
เพื่อนนักศึกษาที่อยู่รอบๆล้วนหันไปส่งสายตาอิจฉาให้กับอ้าวเสว่ เซี่ยชีหรั่นหยิบแบบร่างขึ้นมาอีกรูปหนึ่ง คราวนี้ใช้เวลาในการดูนานมากที่สุด
ติงยียีเฝ้ามองทุกการกระทำของเธอด้วยความตื่นเต้น เธอรู้ว่าแบบร่างนั้นเป็นของตัวเอง ด้านหลังแบบร่างมีรอยเปื้อนโคลนเล็กน้อย นั่นคือรอยอุ้งเท้าที่แพนด้าออดอ้อนตัวเองเหยียบเมื่อวาน รอยเหยียบนั้นเลือนราง
“นักศึกษาติงยียี” ในที่สุดเซี่ยชีหรั่นก็เอ่ยขึ้น
“ค่ะ” เธอตอบเสียงดัง นักศึกษารอบด้านล้วนอิจฉามาก นึกว่าเซี่ยชีหรั่นเรียกชื่อเพราะต้องการจะชมเชยติงยียี เซี่ยชีหรั่นมองเธอ พลางเอ่ยว่า “พูดแนวทางความคิดที่เธอใช้ออกแบบแบบร่างนี้หน่อยได้ไหม”
“แนวคิดของหนูมาจากคำว่า ความใจกว้าง มีวันหนึ่งหนูเห็นภาพเหตุการณ์แบบนี้ค่ะ ตอนที่เด็กผู้หญิงคนหนึ่งกำลังข้ามถนนนั้น ตุ๊กตาได้หล่นลงไปที่พื้น ตอนนั้นเป็นช่วงที่เปลี่ยนจากไฟเขียวเป็นไฟแดงพอดี เด็กผู้หญิงวิ่งกลับไปเก็บตุ๊กตา ในสถานการณ์นั้นไม่มีรถสักคันหนึ่งที่เคลื่อนตัว หนูคิดว่านี่คือความใจกว้างที่สังคมควรมี ปกติความใจกว้างเช่นนี้จะถูกแอบซ่อนอยู่ภายใต้กฎระเบียบอันเย็นชาของสังคม ซึ่งมันเป็นสิ่งที่มีคุณค่าอย่างเห็นได้ชัด”
ติงยียีเอ่ยพูดถึงเหตุการณ์ที่ตัวเองกับเย่ชูหวินเห็นออกมารวดเดียว เซี่ยชีหรั่นผงกศีรษะ หยิบกระดาษออกมาแล้วเริ่มวาดเขียนภาพร่างออกมา หลังจากนั้นสิบนาทีก็ชูภาพในมือขึ้น พร้อมกับเอ่ยว่า “เธอรู้สึกว่าภาพที่ฉันวาดกับภาพที่เธอวาดมีความแตกต่างกันตรงไหนหรือไม่”
ติงยียีก้าวขึ้นไปด้านหน้าพิจารณามองอย่างละเอียดอยู่ครู่หนึ่งแล้วส่ายศีรษะ “ไม่มีตรงไหนที่ไม่เหมือนค่ะ”
“นี่คือผลงานของนักออกแบบอัญมณีเฉพาะกลุ่มของตุรกีที่มีชื่อว่าความหวัง สามปีก่อนหน้านี้ได้ลงนิตยสารแฟชั่นอัญมณี ในภายหลังถูกฉันซื้อเก็บเอาไว้ ตอนนี้ก็วางอยู่ในห้องนอนของฉัน”
นี่หมายความว่าอะไรกัน กำลังพูดว่าตัวเองโกงหรือ ติงยียีมองภาพทั้งสองภาพนั้นอย่างไม่อยากจะเชื่อ เธอไม่ได้โกงอย่างแน่นอน ไม่ได้ทำแน่นอน
เสียงกริ่งเลิกเรียนดังขึ้น เซี่ยชีหรั่นเอ่ยเสียงดังว่า “นักศึกษาทุกคน คาบเรียนแรกในชั้นเรียนการออกแบบอัญมณีของพวกเราไม่ใช่การออกแบบเครื่องประดับอัญมณีอย่างไรให้สวยงาม แต่เป็นการควบคุมความปรารถนาของพวกเรา เคารพยกย่องในความสำเร็จของผู้อื่น นี่เป็นการสอบปลายภาคครั้งแรก ดังนั้นพวกเธอยังมีโอกาสที่จะเปลี่ยนแปลง แต่ถ้าหากว่าพวกเธอเดินเข้าสู่เส้นทางอาชีพนี้แล้วถูกค้นพบเข้าครั้งหนึ่งก็จะไม่มีโอกาสให้หันหลังกลับแล้ว”
ติงยียียืนนิ่งค้างอยู่ที่เดิม มีนักศึกษาก้าวเข้ามาพิจารณามองเธอไม่หยุด เธอไม่สามารถยอมรับผลลัพธ์เช่นนี้ได้ จึงหมุนตัววิ่งตามไปยังทิศทางที่เซี่ยชีหรั่นจากไป
“อาจารย์เซี่ย!” ติงยียีตะโกนเรียกเซี่ยชีหรั่นที่กำลังจะขึ้นรถ เซี่ยชีหรั่นหันไปโบกมือให้กับคนขับรถเป็นสัญญาณว่าไม่ต้องสนใจ สิ่งที่เธอไม่สามารถให้อภัยได้มากที่สุดก็คือมีคนไม่ให้เกียรติงานศิลปะ
รถยนต์เคลื่อนตัว ติงยียีทุบกระจกรถพลางวิ่งตามมา ผู้คนที่อยู่รอบด้านมองมาด้วยสายตาอยากรู้อยากเห็นไม่หยุด คนขับรถมองผ่านกระจกหลักแล้วก็เอ่ยว่า “นายหญิง นี่?”
เซี่ยชีหรั่นหันหน้าไปมองติงยียีที่อยู่นอกบานหน้าต่างแล้วก็ทำใจร้ายไม่ลง จึงเอ่ยขึ้นว่า “ช่างมันเถอะ จอดรถ”
รถยนต์จอดนิ่ง หน้าต่างรถค่อยๆเคลื่อนตัวลดลง เซี่ยชีหรั่นเอ่ย “เรื่องครั้งนี้ช่างมันเถอะ ครั้งหน้าอย่าทำผิดอีก”
“อาจารย์เซี่ย หนูไม่ได้โกงจริงๆนะคะ” เธอรีบอธิบาย เซี่ยชีหรั่นถาม “พูดแบบนี้ก็หมายความว่าเธอยืนยันว่าภาพนั้นทั้งหมดล้วนเป็นเธอที่เป็นผู้ออกแบบอย่างนั้นหรือ”
เซี่ยชีหรั่นผิดหวังเป็นอย่างมากเมื่อเห็นเธอพยักหน้า ก่อนหน้านี้ที่เด็กผู้หญิงคนนี้บกพร่องต่อหน้าที่ทำให้เชินหลินได้รับบาดเจ็บ เธอยังสามารถเห็นแก่ที่อายุของเธอยังน้อย ให้อภัยเธอได้ แต่เมื่อเกี่ยวข้องกับจรรยาบรรณในวิชาชีพ เธอกลับปากแข็งเช่นนี้
“เด็กน้อย ฉันผิดหวังมากจริงๆ” เซี่ยชีหรั่นหมุนบานหน้าต่างรถขึ้น เอ่ยกับคนขับรถว่า “ไป!”
ติงยียีมองดูรถยนต์ที่ไกลออกไปเรื่อยๆแล้วก็คุกเข่าลงอย่างหมดหนทาง เธอไม่ได้โกงจริงๆนะ มีใครที่จะเชื่อเธอบ้าง
ตกดึก กระทั่งข้าวเธอก็ไม่ได้กิน ขดตัวอยู่บนเตียงเปิดเพลงเพลงหนึ่งครั้งแล้วครั้งเล่า แพนด้าหมอบอยู่ข้างกายเธออย่างน่ารัก เลียหลังมือเธอ ในตอนนี้เองที่เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เธอรับสาย ซ่งเมิ่นเจ๋ที่อยู่ในสายโทรศัพท์เอ่ย “เธอดูกระดานข่าวของมหาวิทยาลัยหรือยัง”
ติงยียีส่ายศีรษะ ตอนนี้เธอมีอารมณ์ที่ไหนกัน ซ่งเมิ่นเจ๋เอ่ย “เธอไปดูกระดานข่าวก่อน ตอนนี้เธออยู่หน้าแรกแล้ว!”
เธอปีนขึ้นมาเปิดคอมพิวเตอร์ กรอกชื่อหน้าเว็บของมหาวิทยาลัย พาดหัวข้อแรกที่ปรากฏขึ้นบนหน้าเว็บไซต์มีชื่อว่า “เพื่อนนักเรียนในชั้นเรียนการออกแบบเครื่องประดับอัญมณีที่ลอกเลียนแบบถูกเปิดเผย ถูกโพสต์โดย ‘ผู้เปิดเผย’
หลังโพสต์ยังมีการแนบผลงานสองภาพ ด้านล่างมีข้อความที่ถูกฝากเอาไว้สารพัด หนึ่งในนั้นมีคนที่ใช้ชื่อ ID ว่า ‘ฝันฝัน’ คอยปกป้องติงยียีตลอด ก็ถูก ‘ผู้เปิดเผย’ ที่เป็นผู้นำ ID อื่นๆพากันโจมตี
“ฉันช่วยพูดให้เธอมาตลอด ไม่ต้องไปสนใจพวกเขา ไม่อย่างนั้นเธอก็เข้าไปอธิบายสักครั้งเถอะ” ซ่งเมิ่นเจ๋ที่อยู่ในสายโทรศัพท์เอ่ย
“แบบร่างทั้งสองภาพล้วนเป็นของจริง” หยดน้ำตาของติงยียีหยดกระทบลงบนแป้นคีย์บอร์ด ซ่งเมิ่นเจ๋ฟังออกถึงเสียงสะอื้นของเธอ จึงคิดจะพูดอะไรอีกแต่โทรศัพท์ก็ถูกตัดสายไปเสียแล้ว
บนระเบียงกว้างของตระกูลเย่ อ้าวเสว่มองข้อความตอบโพสต์ที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆอย่างพึงพอใจ เย่เนี่ยนโม่ที่เดินเข้ามาใกล้เอ่ยขึ้น “ทำไมวันนี้ถึงอารมณ์ดีนัก”
อ้าวเสว่รีบพับคอมพิวเตอร์ลงทันที เย่เนี่ยนโม่เลิกคิ้ว เธอรีบเบนหัวข้อสนทนา “ใช่แล้ว เรื่องศูนย์จัดแสดงนิทรรศการตรวจสอบเป็นอย่างไรบ้างแล้ว”
เย่เนี่ยนโม่ส่ายศีรษะ พลางเอ่ยว่า “คุณลุงBakerเป็นคนตรวจสอบเอง แต่ไม่ว่าอะไรเขาก็ไม่ยอมพูด เพราะงั้นก็ยกให้พวกเขาจัดการเถอะ”
อ้าวเสว่ผงกศีรษะ และไม่กล้าเอ่ยถามอะไรอีก เย่เนี่ยนโม่เห็นว่าเธอไม่ได้มีความสนใจมากนักก็หมุนตัวเดินจากไป อ้าวเสว่ถอนหายใจ ตัวเองควรจะอารมณ์ดีสักหน่อย แต่ว่าเธอหวาดกลัวมากเกินไป ทุกสิ่งล้วนมีสภาพคลื่นลมเงียบสงบแบบนี้ นี่ทำให้เธอรู้สึกถึงวิกฤตก่อนพายุมรสุมจะมาเยือนประเภทหนึ่ง
เมื่อปฏิเสธการรับส่งของเย่เนี่ยนโม่ อ้าวเสว่ก็ขับรถมายังตึกพักอาศัยที่ทรุดโทรมแห่งหนึ่ง ตึกพักอาศัยมีอายุมานาน พื้นกระเบื้องเคลือบที่เดิมมีสีขาวก็เปลี่ยนเป็นสีเหลืองแก่ เหนือท่อน้ำที่ส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งไปทั่วล้วนเต็มไปด้วยแมลงวัน
อ้าวเสว่ยืนอยู่นิ่ง เมื่อเห็นเงาร่างคนปรากฏที่ปากทางบันไดก็รีบหลบทันที ผู้มาคือหญิงตั้งครรภ์คนหนึ่งที่กำลังถือกระเป๋าสำหรับหญิงตั้งครรภ์ใบใหญ่เดินกะโผลกกะเผลก ชุมชนมืดเกินไป ชั่วครู่หนึ่งเธอก็ยังยืนได้ไม่มั่นคงและเหยียบลงบนพื้นกระเบื้องที่นูนขึ้นมา ร่างกายจึงเอียงไปข้างหน้า
“ระวัง!” อ้าวเสว่รีบพุ่งออกมาประคองเธอ ในระยะอันใกล้ถึงได้เห็นว่าหญิงตั้งครรภ์คนนี้ก็คือคนที่ตัวเองเห็นในโรงพยาบาลคนนั้น
“ขอบคุณจ้ะ แม่หนู เธอเป็นคนดีจริงๆ” หญิงตั้งครรภ์ยืนได้อย่างมั่นคงภายใต้ความช่วยเหลือของเธอ เมื่อผงกศีรษะให้แล้วก็จะจากไป อ้าวเสว่มองเธอเดินจากไป ก้มหน้ามองบัตร ATM ที่ตกอยู่บนพื้น
อ้าวเสว่แอบจำหมายเลขบัตร ATM เอาไว้ หลังจากนั้นก็ตามไปคืนบัตร ATM ให้กับหญิงตั้งครรภ์คนนั้น เมื่อเห็นท่าทางซาบซึ้งใจที่หญิงตั้งครรภ์คนนั้นมีต่อตัวเองแล้ว เธอก็รู้สึกเหมือนกับว่าใบหน้าจะไหม้ขึ้นมา
เหยนหมิงเย้าที่ได้รับสายโทรศัพท์จากอ้าวเสว่ยังอยู่ในอาการตะลึงอยู่บ้าง “เธอจะขายรถยนต์ของเธอ ทำไมล่ะ” เขาถามด้วยความแปลกใจ
“นายไม่ต้องถามเหตุผลหรอก ฉันคิดว่านายมีงานอดิเรกเป็นการซื้อรถแบรนด์ดังมีชื่อ ราคาก็ควรจะขายแพงมากกว่านี้ถึงจะถูก หมายเลขบัตรส่งให้นายแล้ว” อ้าวเสว่มองกระดาษโน้ตที่เขียนเลขบัตรเอาไว้ในมือ

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset