สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 1434 หญิงรับใช้ของคุณชายเย่ 1334

เย่ชูหวินส่ายศีรษะ เมื่อเห็นท่าทางที่ว้าวุ่นใจของเธอก็ยื่นมือออกไปลูบผมเธอ พลางเอ่ยว่า “รีบเข้าไปเถอะ”
ติงยียียังอยากจะพูดอะไรอีก แต่เย่ชูหวินหมุนตัวเดินจากไปอย่างรวดเร็วเสียแล้ว
“พี่ยียี!” เย่ชูฉิงเห็นพ่อบ้านพาติงยียีเดินเข้ามาก็รีบรุดเข้าไปต้อนรับ จูงมือติงยียีขึ้นวิ่งขึ้นไปยังชั้นบนโดยไม่ฟังคำอธิบายใดๆ
ภายในห้อง เงาร่างของคนสองคนที่ประสานร่างนัวเนียกันอยู่บนเตียงที่สั่นไหว และเสียงลมหายใจกระชั้นถี่นั้นสามารถมองออกเลยว่ากิจกรรมบนเตียงในครั้งนี้ร้อนแรงมากเพียงใด
หญิงสาวครางเสียงหอบ เรือนผมหยักเป็นลอนแผ่กระจายไปบนผ้าปูเตียงสีขาว ขาเพรียวยาวได้รูปขยับไปมาอย่างรู้สึกยากจะทนไหว มือทั้งสองข้างคล้องอยู่ที่ลำคอเย่เนี่ยนโม่อย่างต้องการจะจุมพิต
เย่เนี่ยนโม่เบนหน้าหลบจุมพิตของหญิงสาว เร่งความเร็วขึ้น ไร้ซึ่งความทะนุถนอม หญิงสาวเบิกตาโพลงอย่างทนไม่ไหว และค้นพบสิ่งที่น่าประหลาดใจ แม้ว่าแววตาของเย่เนี่ยนโม่จะมีความปรารถนา แต่ที่มีมากยิ่งกว่าคือความเย็นชา ราวกับว่าไม่ได้มีความรู้สึกสุขสมจากการมีเซ็กส์กันในครั้งนี้เลยแม้แต่น้อย
“ปังๆๆ! เย่เนี่ยนโม่ นายอยู่ไหม” ติงยียีตะโกนเสียงดังอยู่ด้านนอกประตู หญิงสาวเขินอาย คิดจะลุกขึ้น แต่ถูกเย่เนี่ยนโม่ดันกลับลงไป
“เย่เนี่ยนโม่!” ติงยียีได้ยินเพียงแค่เสียงเคลื่อนไหวภายในห้อง ภายใต้สถานการณ์อันเร่งรีบจึงเริ่มกระแทกประตู เย่เนี่ยนโม่ขมวดคิ้วพิจารณาสีหน้าหญิงสาวที่อยู่ใต้ร่าง ตอนที่ตัวเองไม่เอ่ยวาจาแม้แต่คำเดียวนั้น หญิงสาวผู้นี้คล้ายกับว่าหวาดกลัวตัวเองมากขึ้น หรือว่าผู้หญิงล้วนเป็นเช่นนี้! ทำเป็นมองไม่เห็นความอ่อนโยน และกระหายที่จะแย่งชิงความเลือดเย็นกัน?
“ปัง!” ประตูถูกกระแทกให้เปิดออก เย่เนี่ยนโม่ยืดตัวลุกขึ้นและหันไปมองติงยียีอย่างไม่หลบเลี่ยง “นาย…พวกนาย!” ติงยียีถอยหลังไปหลายก้าว ใบหน้าแดงก่ำ หัวใจเจ็บปวดจนแทบทนไม่ไหว ที่เขาทำแบบนี้ก็เพื่อแก้แค้นหรือ
เย่เนี่ยนโม่ยืนขึ้นและพันผ้าเช็ดตัวรอบกาย เดินไปยังห้องอาบน้ำราวกับว่าไม่มีใครอยู่รอบด้าน หลังออกมาจากห้องอาบน้ำก็ไม่เหลือบมองคนที่ขวยอายอยู่บนเตียงสักแวบหนึ่ง คว้ากุญแจรถขึ้นมาแล้วเดินลงไปที่ชั้นล่าง
“พี่ชาย!” เย่ชูฉิงที่ยืนอยู่หน้าบันไดมองมาที่เขาอย่างขลาดเขลา เธอรู้สึกแปลกหน้ากับพี่ชายที่เป็นแบบนี้ เดิมเย่เนี่ยนโม่คิดอยากจะยื่นมือออกไปลูบศีรษะเธอ แต่เมื่อเห็นแววตาหวาดกลัวของเธอแล้วก็หยุดเท้า ภายในค่ำคืนหนึ่ง กระทั่งน้องสาวตัวเองก็หวาดกลัวตัวเองเช่นกันหรือ
โรงจอดรถตระกูลเย่ รถปอร์เช่สีฟ้าคันหนึ่งค่อยๆเคลื่อนตัวออกไปจากประตูใหญ่บ้านตระกูลเย่ ติงยียีพุ่งตัวออกมาจากตัวบ้าน เตะเข้าที่ตัวรถอยู่พักหนึ่ง
เย่เนี่ยนโม่ลงจากรถ เหลือบตามองรอยขีดข่วยบนตัวรถแล้วเอ่ยว่า “เธออาจจะต้องใช้เวลาทำงานหลายสิบปีถึงจะสามารถชดใช้ค่าซ่อมแซมรถคันนี้ได้!”
“เย่เนี่ยนโม่ นายมันคนห่วยแตก ก็แค่สูญเสียความรักไปเท่านั้นเอง ถึงกับต้องหมดอาลัยตายอยากขนาดนี้เลยหรือ!” ติงยียีโวยวายเสียงดัง หลังเกิดเรื่องลอกเลียนการออกแบบจบการศึกษา การเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันของเย่เนี่ยนโม่ทำให้เธอรู้สึกยากที่จะยอมรับได้ หยดน้ำตาเม็ดใหญ่รินไหลลงมา
เย่เนี่ยนโม่เดินมาถึงด้านหน้าเธอ ขมวดคิ้วมองเธอ ในใจก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงร้องไห้? เพื่อตัวเองอย่างนั้นหรือ? แต่ว่าความรักของตัวเองเกี่ยวข้องอะไรกับเธอ?
เย่เนี่ยนโม่ยื่นมือออกไปรับหยดน้ำตาที่รินไหลลงมาของเธอเอาไว้โดยไม่รู้ตัว ติงยียีมองฝ่ามือเขาที่แนบลงอย่างแผ่วเบาด้วยความตะลึง พลางขมวดคิ้วและเอ่ยว่า “ขมจริงๆ!”
ติงยียีลืมตอบสนองไปในทันที เย่เนี่ยนโม่หมุนกายกลับไปที่รถ ผ่านไปครู่หนึ่งก็ขับรถ SUV อีกคันออกไป ติงยียีวิ่งขึ้นไปขวางด้านหน้ารถ SUV ตะโกนเสียงดังว่า “หยุดรถนะ!”
รถยนต์ยังคงขับตรงมาทางเธอโดยไม่หยุด เย่เนี่ยนโม่ที่อยู่ในห้องคนขับมีสีหน้าเคร่งขรึม ไฟส่องทางส่องลงบนตัวติงยียี ระยะห่างระหว่างตัวรถและเธอใกล้ขึ้นเรื่อยๆ
“พี่ยียี!” เย่ชูฉิงโผเข้ามาผลักติงยียีที่ยืนตะลึงค้างออกไปในวินาทีสุดท้าย รถยนต์ขับผ่านจุดที่ติงยียียืนอยู่ไป หลังจากนั้นก็เหยียบเบรก
“เย่เนี่ยนโม่ ถ้าหากว่านายจะหมดอาลัยตายอยากแบบนี้ต่อไปอีก ฉันจะไม่สนใจนายแล้ว!” ติงยียีมองไปที่เขาด้วยความเสียใจ ถ้าหากว่าไม่มีเย่ชูฉิง เมื่อครู่นี้เขาจะขับผ่านร่างของตัวเองไปใช่หรือไม่!
“เป็นตามที่ปรารถนา” เย่เนี่ยนโม่สตาร์ทรถใหม่อีกครั้ง เคลื่อนตัวออกไป ภายในคฤหาสน์ตระกูลเย่ พ่อบ้านมองหญิงสาวที่ห่อตัวเองอยู่บนเตียงอย่างมิดชิดโดยไม่เอ่ยอะไร
“อย่ามองฉันอย่างนั้น ทุกคนล้วนเล่นสนุกกันที่บาร์ เห็นแล้วถูกใจก็ขึ้นเตียงได้แล้ว ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรสักหน่อย!” หญิงสาวเห็นสายตาของพ่อบ้านที่มองมาอย่างลึกซึ้งจนคาดเดาไม่ถูกแล้วก็เอ่ยด้วยความระมัดระวัง
พ่อบ้านผงกศีรษะ นายหญิงและนายท่านไม่อยู่ เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นกับคุณชาย แน่นอนว่าเขาต้องจัดการให้ดี เขาโบกมือขณะที่เอ่ยอะไรบางอย่างกับคนรับใช้ คนรับใช้จากไปอย่างรวดเร็ว และตอนที่กลับมาอีกครั้ง ในมือก็มีบัตร ATM ใบหนึ่งมาด้วย
“คุณผู้หญิง ในนี้มีเงินห้าพันหยวน คืนที่ผ่านมาคุณเอาใจคุณชายของพวกเรา เพียงแต่ผมหวังว่าเมื่อคุณออกจากประตูบ้านไปแล้ว ก็ให้ลืมเรื่องเมื่อคืนไปทันที” พ่อบ้านยื่นบัตรไปด้านหน้าหญิงสาว
นัยน์ตาหญิงสาวกลอกมองไปรอบห้อง เมื่อเห็นเฟอร์นิเจอร์แล้วก็เกิดอาการหวั่นไหวเล็กน้อย ตั้งแต่ที่เข้าประตูมา เธอก็รู้ว่าครอบครัวนี้ร่ำรวยเป็นอย่างมาก เมื่อสายตามองไปยังร่างพ่อบ้านที่ยืนอยู่ด้านข้างแล้ว เธอก็ถูกสายตาที่เผยความเย็นยะเยือกของพ่อบ้านทำให้ตกใจ ความคิดเมื่อครู่นี้เลือนหายวับไปในทันที
หญิงสาวที่ห่อตัวด้วยผ้าห่มกระโดดลงจากเตียง รับบัตร ATM เอาไว้ ฝืนกดความรู้สึกหวาดกลัวในใจที่มีต่อพ่อบ้านเอาไว้ พลางเอ่ยเสียงดัง “ถ้าหากว่าเขามาหาฉัน อย่างนั้นฉันจะไม่สนใจนะคะ!”
เมื่อเห็นหญิงสาวออกมาหลังจากเข้าไปในห้องอาบน้ำ และกรีดกรายจากไป พ่อบ้านก็ถอนหายใจอย่างไร้เสียง ควรจะจัดการอย่างไรกับสภาพของคุณชายในตอนนี้ดีนะ!
ติงยียีไม่ได้ไปหาเย่เนี่ยนโม่อีก ตลอดระยะเวลาครึ่งฤดูร้อนแทบจะหมกตัวอยู่ในบ้าน ช่วงเย็น รู้ว่านอกบานหน้าต่างมีเสียงเห่าไม่หยุด อากาศเริ่มเย็นสบายขึ้นมา แพนด้าเอาจมูกดุนเธอ เมื่อเห็นว่าติงยียีไม่สนใจตัวเอง จึงตัดสินใจไปนั่งขวางช่องทางระบายลมของพัดลมที่มีอยู่แห่งเดียวในห้องเสียเลย
ติงยียีมองแพนด้าอย่างหมดคำพูด แพนด้าโตเร็วเกินไปแล้ว เพิ่งจะเป็นระยะเวลาสั้นๆเพียงไม่กี่เดือน เธอก็อุ้มมันไม่ไหวแล้ว เพราะเกี่ยวข้องกับอาหารการกิน ตอนนี้เส้นขนของแพนด้าก็ดำเป็นเงาขึ้นมา ร่างกายก็เติบโตขึ้นเรื่อยๆ นอกจากติงต้าเฉินกับติงยียีแล้ว เมื่อพบหน้าใครก็ล้วนมีท่าทางดุร้าย
“โฮ่งๆ!” แพนด้าเห็นเธอไม่สะทกสะท้านจึงก้าวเข้ามาใช้ปากงับหลังมือติงยียี มองมาทางเธอด้วยท่าทางน่าสงสาร
“โอเคๆ! อยากไปเดินเล่นสินะ!” ติงยียีปีนลงจากเตียงมาเปลี่ยนเสื้อผ้า แพนด้าดีใจจนวิ่งพล่านไปทั่วห้อง ครู่หนึ่งก็มุดเข้าไปใต้เตียง ผ่านไปครู่หนึ่งก็คาบม้วนกระดาษหนึ่งออกมา
ติงยียีรับม้วนกระดาษนั้นมากางออก ด้านบนเป็นแบบร่างที่ตัวเองถูกตัดสินว่าลอกเลียนแบบ ถ้าหากว่าตอนนั้นตัวเองกล้าที่จะสู้ ไม่ใช่เลือกที่จะยอมรับเงียบๆ เช่นนั้นเรื่องจะไม่เหมือนกันหรือไม่นะ?
เธอหัวเราะเยาะตัวเอง ตบศีรษะแพนด้าเบาๆ “ไปเถอะ! จะพาแกไปเดินเล่น!”
เมื่อแพนด้าออกจากบ้าน สุนัขพันธุ์ผสมที่ร้องเห่าอยู่ตลอดของเพื่อนบ้านก็รีบเก็บเสียงมุดเข้าไปในบ้านสุนัขทันที แพนด้าเดินวางมาดเปิดทางให้กับติงยียีด้วยท่าทางของเจ้าแห่งหุบเขา
หนึ่งคน หนึ่งสุนัขเดินไปตามถนนสายใหญ่เบื้องหน้า เสียงเครื่องยนต์ดังสะเทือนเลือนสั่นมาจากเบื้องหลัง อาศัยแค่การฟังก็รู้แล้วว่าฝ่ายตรงข้ามขับมาด้วยความเร็วสูง
“ดูสิ ผู้ชายคนนั้นหน้าตาไม่เลวเลย!”
“จะต้องเป็นลูกคนรวยที่ไม่เล่าเรียนหนังสืออย่างแน่นอน”
ติงยียีฟังเงียบๆ ถ้าหากว่าเป็นก่อนหน้านี้ เธออาจจะมีความคิดต่อลูกคนรวยแบบเดียวกัน ถูกตามใจจนเหลิง นึกว่ามีเงินแล้วจะสามารถซื้อได้ทุกสิ่ง ในสายตาไม่มีใคร แต่เมื่อได้รู้จักกับเย่ชูฉิงและไห่โจ๋ซวนแล้ว เธอถึงพบว่าความจริงแล้วตัวเองคิดผิดเกินไปมาก
หมวกของลูกคนรวยใบนี้ถูกสังคมขนาดใหญ่บีบบังคับสวมให้กับเด็กๆเหล่านั้น จนถึงขั้นไม่มีโอกาสให้พวกเขาได้อธิบาย เมื่อมีข่าวไม่ดีเกี่ยวกับลูกคนรวย เช่นนั้นพวกคนหัวรุนแรงก็จะโยนความผิดพลาดทั้งหมดให้กับพวกเขาที่เป็นลูกคนรวย
ติงยียีกำลังคิดฟุ้งซ่าน จู่ๆแพนด้าก็ดิ้นหลุดออกจากโซ่ในมือของตัวเองแล้ววิ่งไปด้านหลัง เธอรีบหมุนตัวกลับไป ก็เห็นเย่เนี่ยนโม่
เย่เนี่ยนโม่ขับรถสปอร์ตคันสีแดง มองไฟจราจรสีแดงด้วยสีหน้านิ่งเฉย ข้างกายมีหญิงสาวผมสั้นนั่งอยู่ด้วยคนหนึ่ง หญิงสาวยิ้มอย่างอารมณ์ดี ติงยียีตั้งสติมอง หญิงสาวคนนั้นไม่ใช่ดาราคุณภาพรองจากแนวหน้าที่กำลังมีชื่อเสียงอยู่ในช่วงนี้หรอกหรือ!
ไฟจราจรสีแดงสว่างขึ้น รถของเย่เนี่ยนโม่เคลื่อนตัวออกไปไกลในเสี้ยววินาที ติงยียีจึงเห็นเพียงแค่ใบหน้าด้านข้างที่ผ่านไปอย่างรวดเร็วของเขา
จู่ๆแพนด้าก็วิ่งตามหลังรถที่พุ่งตัวออกไปไกลหลายเมตร “แพนด้า!” ติงยียีรีบวิ่งตามไป และรู้สึกตื่นตระหนกว่าแพนด้าคล้ายกับว่าไม่เหมือนสุนัขตัวอื่นๆ มันวิ่งเร็วเกินไปแล้ว!
เย่เนี่ยนโม่พบว่าด้านหลังมีสุนัขกำลังวิ่งตามตัวเอง จึงลดความเร็วที่เหยียบมาจนสุดอย่างช้าๆ หญิงสาวที่อยู่ด้านข้างซบแขนเขา ใช้หน้าอกอวบอิ่มเบียดไปมา พลางเอ่ยว่า “โม่ ครั้งนี้มังกรสิบสามจะเริ่มคัดเลือกนางเอกแล้ว ได้ยินมาว่าบริษัทคุณพ่อคุณเป็นผู้ลงทุนหลักในครั้งนี้”
ความคิดของดาราหญิงนั้นง่ายมาก ตอนนี้เย่เนี่ยนโม่เอาใจตัวเองขนาดนี้ บทบาทนางเอกจะไม่ได้มาง่ายๆได้อย่างไร สิ่งสำคัญสำหรับดาราที่เพิ่งจะเข้าวงการก็คือหาที่พึ่งพิง ตอนนี้ดาราคุณภาพระดับรองมีมากขนาดนี้ เธอไม่รีบปีนขึ้นมาก็คงจะถูกวงการบันเทิงเตะออกไปในเร็ววัน เธอเบื่อหน่ายกับคืนวันก่อนหน้านี้เต็มทีแล้ว!
“ที่รัก” นิ้วเรียวยาวของเย่เนี่ยนโม่ม้วนเส้นผมสั้นของเธอในมือเล่น หญิงสาวแหงนศีรษะขึ้นคิดจะขอจูบด้วยความอ่อนหวาน แต่ถูกเย่เนี่ยนโม่เบี่ยงหลบ
เธอก็ไม่สนใจ คนรวยมักจะมีนิสัยบางอย่าง และนิสัยของคุณชายที่อยู่เบื้องหน้าเธอในตอนนี้ก็คือไม่ชื่นชอบการจูบกับผู้อื่น เธอยักไหล่และมองทางเขาอย่างเฝ้าคอย
“ถ้าหากว่าผมไม่รับปากคุณ คุณจะไปจากผมไหม?” จู่ๆเย่เนี่ยนโม่ก็เอ่ยขึ้นมา ดาราสาวตะลึงค้าง พลางเอ่ยว่า “แน่นอนว่าไม่ ฉันรักคุณค่ะ!”
มือของเย่เนี่ยนโม่ค่อยๆผละออกจากร่างของหญิงสาว มุมปากฉีกยิ้มเยาะเฉยชา แต่น้ำเสียงที่เอ่ยพูดกลับอ่อนโยนเป็นอย่างมาก “ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ผมจะให้ทุกสิ่งที่คุณต้องการ”
หญิงสาวแหงนศีรษะขึ้นด้วยความตกตะลึง มองใบหน้าด้านข้างของเย่เนี่ยนโม่แล้วก็รู้สึกหนาววูบในใจ ผู้ชายที่อยู่เบื้องหน้าคนนี้เย็นชาเกินไปแล้ว แม้ว่าพวกเขาจะทำเรื่องราวที่สนิทสนมใกล้ชิดกันอย่างที่สุด แต่ฝ่ายตรงข้ามทำราวกับว่ามองทะลุทุกสิ่ง
รถยนต์จอดอยู่หน้าประตูบาร์ หญิงสาวยังคงไม่รู้สึกตัว เย่เนี่ยนโม่ตบแก้มหญิงสาว ในใจก็ยิ้มเยาะ พยายามอย่างเต็มที่ที่จะให้เขาเป็นคนโง่ เขายังอยากจะเห็นว่าผู้หญิงคนนี้จะสามารถเล่นด้วยได้อีกนานแค่ไหน
ติงยียีหาแพนด้าไม่พบ รอบด้านล้วนเป็นผับบาร์ที่ถูกตกแต่งด้วยแสงสีหลากหลายและพิลึกพิลั่น มีชายคนหนึ่งที่กำลังเมามายผิวปากใส่เธอ เธอถลึงตาใส่เขาอย่างดุร้าย
“คุณผู้หญิง มีไฟแช็กหรือไม่ จะจุดบุหรี่สักหน่อย” ชายคนหนึ่งเดินมาตรงหน้าเธอ เอ่ยยิ้มๆ จงใจเอนร่างเขาหาเธอ
“ฉันไม่มี” ติงยียีขมวดคิ้ว ร่างกายของฝ่ายตรงข้ามเต็มไปด้วยกลิ่นฉุนของแอลกอฮอล์ กลิ่นฉุนเสียจนเธอรู้สึกแย่ “คุณผู้หญิง ถ้าอย่างนั้นคุณยินยอมที่จะไปหาเชื้อเพลิงกับผมไหม” ชายหนุ่มเอ่ยเย้าต่อ

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset