สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 1435 หญิงรับใช้ของคุณชายเย่ 1335

ไม่ใช่คนเมื่อจะกี้สักหน่อย จะหาเชื้อเพลิงอะไรกัน มือทั้งสองข้างของติงยียีกำหมัดแน่น สายตาเหลือบมองไปทางเป้ากางเกงของชายหนุ่ม ถ้าหากว่าอีกครู่หนึ่งเขากล้าทำอะไร ก็จัดการให้เขาไร้ผู้สืบสกุลสักหน่อย
ชายหนุ่มเห็นว่าติงยียีคล้ายกับว่าไม่ได้โกรธ จึงก้าวขึ้นมาด้านหน้าอีกก้าว “โฮ่งๆๆ!” สุนัขตัวโตขนสีดำมันเป็นเงาวิ่งมาจากสถานที่ห่างไกลด้วยความรวดเร็ว มันแยกเขี้ยวยิงฟัน เห่าเสียงดังใส่ชายหนุ่ม น้ำลายก็หยดติ๋งๆไปตามฟันอันแหลมคม
“สวรรค์!” ชายหนุ่มวิ่งหนีไปอย่างไร้ทิศทาง แพนด้าวิ่งมาถึงเบื้องหน้าติงยียี ใบหน้าที่เดิมดุร้ายน่ากลัวเปลี่ยนเป็นว่านอนสอนง่ายหลังจากที่ได้เห็นติงยียี เขี้ยวทั้งหมดถูกเก็บซ่อนเอาไว้ และมีใบหน้าท่าทางที่ไร้พิษสงทันที
แพนด้างับหลังมือติงยียี ลากไปทางบาร์เบาๆ ด้านหนึ่งก็ส่งเสียงครวญคราง ติงยียีหมดหนทาง จึงทำได้เพียงแค่ปล่อยให้มันลากไป
เมื่อเข้าไปในบาร์ ติงยียีก็ถูกสูงเสียงดังแสบแก้วหูและการจูบอย่างไม่ยินยอมที่จะห่างกันบริเวณกำแพงของคนสองคนทำให้ตกใจ
แพนด้าที่มุดตัวผ่านกลุ่มคน สร้างเสียงกรีดร้องตกใจขึ้นมาชั่วขณะ ติงยียีเขยิบตามอยู่ด้านหลังมันด้วยความยากลำบาก ครู่หนึ่ง แพนด้าก็หยุดลงและหันหน้ามามองติงยียี
ติงยียีแหวกฝูงชนออกมาก็เห็นเย่เนี่ยนโม่ที่นั่งอยู่บนโซฟา ในมือเขาถือแก้วไวน์แดงนั่งเงียบๆอยู่บนโซฟา เมื่อเทียบกับกลุ่มคนที่กระโดดโลดเต้นอย่างบ้าคลั่งแล้ว ก็ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้เหมาะกับที่แห่งนี้ แต่อุปนิสัยลึกลับกลับหลอมรวมเข้าสถานที่แห่งนี้ได้เป็นอย่างดี
ดาราสาวผมสั้นที่อยู่ด้านข้างอิงแอบอยู่บนร่างเย่เนี่ยนโม่ราวกับไร้กระดูก กระซิบเสียงเบาพูดอะไรกับเขา ฝ่ามือของเย่เนี่ยนโม่ก็เคลื่อนไปตามส่วนโค้งส่วนเว้าที่งดงามของหญิงสาว ตรงลงไปสำรวจสถานที่แห่งความลับและมืดมิด
“โฮ่งๆๆ!” จู่ๆแพนด้าก็กระโจนเข้าไปเห่าเสียงดังใส่หญิงสาวครู่หนึ่ง หญิงสาวตกใจจนใบหน้าเผือดสีทันที กอดแขนเย่เนี่ยนโม่แล้วขดตัวอยู่บนโซฟา
เย่เนี่ยนโม่ไม่ได้กระทำสิ่งใดทั้งนั้น เขายังคงนั่งนิ่ง ท่าทางไม่ได้เปลี่ยนแปลง เงยศีรษะมองค้นหาไปทางกลุ่มคน จึงเห็นว่าติงยียีอยู่ในกลุ่มคนนั้น
เธอนั้นจดจำได้ง่ายจริงๆ มีใครมาที่บาร์แล้วสวมกระโปรงตัวยาวคล้ายกับชุดนอนบ้างกัน?
แพนด้าแยกเขี้ยวยิงฟันใส่หญิงสาว ปากก็คำรามเสียงต่ำไม่หยุด ติงยียีรีบก้าวเข้ามาดึงโซ่จูงสุนัขของแพนด้าเอาไว้ แพนด้ามีท่าทีผิดปกติ หันกลับมาอย่างต้องการจะสะบัดติงยียีให้หลุด
ติงยียีตกใจยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น ข้างกายมีกลิ่นหอมเบาบางของโคโลญจน์โชยมา ในไม่ช้าเธอก็ร่วงเข้าไปในอ้อมแขนอันหนาวเหน็บนี้
เย่เนี่ยนโม่อุ้มติงยียีที่ยืนตกใจนิ่งอยู่ตรงนั้นไปไว้ข้างๆ ปล่อยเธอลง และหาโซฟาเพื่อนั่งดื่มไวน์ต่อไป “เธอเป็นคู่ควงของนาย นายไม่ไปช่วยเธอจะดีหรือ” ติงยียีรีบตะโกนเสียงดังใส่เย่เนี่ยนโม่ที่มีท่าทีนิ่งเฉย
เย่เนี่ยนโม่แกว่งแก้วไวน์แดงในมือ เอ่ยเสียงเรียบ “ฉันสามารถให้ในสิ่งที่เธอต้องการได้ สำหรับสิ่งที่เธอไม่ต้องการนั้น ก็ต้องอาศัยตัวเธอเองในการสลัดให้หลุดพ้นแล้ว!”
“แพนด้า!” ติงยียีเห็นว่าเขาไม่มีทีท่าว่าจะช่วยชีวิตคนก็รีบก้าวขึ้นไปดึงแพนด้า ของเล่นภายในบ้านที่ถูกแพนด้าแทะเล่นจนพังไม่ได้มีแค่ชิ้นสองชิ้นแล้ว แรงกัดของแพนด้านั้นมีมากเสียจนทำให้ผู้คนตกใจ ถ้าหากว่ากัดคนอื่นสักครั้งหนึ่ง คาดว่าจะสามารถกัดจนเนื้อหลุดออกมาได้
“แชะๆๆ!” นักข่าวที่อยู่ในกลุ่มคนถ่ายรูปเย่เนี่ยนโม่ระรัว บางครั้งก็ถ่ายภาพดาราหญิงแบบระยะใกล้ไปสองสามใบ เมื่อหันเลนส์กล้อง แต่ยังหันไปไม่ถึงร่างของติงยียี
ดาราสาวที่มีท่าทางหวาดกลัวโทรศัพท์หาผู้จัดการของตัวเอง ในไม่ช้าหญิงสาวสวมชุดทำงานแบบทางการที่ท่าทางมีความสามารถและเต็มไปด้วยประสบการณ์ในการทำงานก็เดินเข้ามา
“พวกคุณเป็นนักข่าวหน้าใหม่ในวงการบันเทิงสินะ หึๆ ดึกดื่นขนาดนี้แล้วยังต้องออกมาทำงานอีก ลำบากจริงๆ Emilyของพวกเราจะลงสมัครชิงตำแหน่งบทบาทนางเอกในเรื่องมังกรสิบสาม ถึงตอนนั้นก็รบกวนให้พวกคุณช่วยรายงานเยอะๆด้วย!”
นักข่าวก็เป็นคนเจนโลก มีประสบการณ์สูงเช่นกัน เมื่อเห็นสถานการณ์ก็รู้ว่าฝ่ายตรงข้ามกำลังบอกใบ้ให้ตัวเองพยายามเขียนข่าวฉาว จึงยิ้มและจากไป
“พี่ฉีเหวิน ทำไมถึงปล่อยเขาไปล่ะคะ!” Emily ก้าวเข้าไป เอ่ยด้วยความไม่พอใจ ถ้าหากว่ารูปภาพที่เธอขดตัวอยู่บนโซฟาด้วยท่าทางหมดสภาพเมื่อครู่นี้ถูกตีพิมพ์ออกไป จะต้องมีแต่โทษแต่ไม่มีประโยชน์อะไรกับภาพลักษณ์ของเธอแน่นอน
ฉีเหวินอดกลอกตามองบนไม่ได้ หากไม่ใช่ว่าผู้หญิงคนนี้ประสบความสำเร็จในการศัลยกรรมจนมีความเกี่ยวข้องกับโปรดิวเซอร์ที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงในวงการ อีกทั้งช่วงนี้ก็มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับคุณชายตระกูลเย่ของฝ่ายผู้ลงทุนแล้วล่ะก็ เธอก็คร้านจะให้ความสนใจกับหญิงสาวที่มีดีแค่นมโตแต่ไร้สมองคนนี้ แต่คิดๆดูแล้ว เธอก็ยังคงเอ่ยอธิบายเสียงเบาว่า “มีข่าวฉาวกับตระกูลเย่ เธอจะกลัวอะไร ไม่ต้องกลัวว่าจะมีข่าวฉาวมากไป แต่ให้กลัวว่าไม่มีข่าวฉาวจะดีกว่า”
เย่เนี่ยนโม่ลุกขึ้น พลางเลิกคิ้วและเอ่ยว่า “คุยกันเสร็จแล้วสินะ” Emily ยิ้มหวาน รีบก้าวขึ้นไปคล้องแขนเย่เนี่ยนโม่
“เย่เนี่ยนโม่ นายไม่สามารถทำตัวแบบนี้ต่อไปได้แล้วนะ เห็นอยู่ชัดๆว่าเธอไม่เป็นมิตร ไม่ได้ห่วงนายจากใจจริง!” ติงยียีตะโกนเสียงดังอย่างไม่สนใจอะไร กระทั่งเธอยังสามารถมองออกเลยว่าผู้หญิงคนนี้มีเจตนาไม่ดี แล้วเขาจะมองไม่ออกเลยหรือ
“คุณผู้หญิงท่านนี้ คุณมีความสนใจที่จะเข้าร่วมการเทสต์หน้ากล้องหนังเรื่อง มังกรสิบสาม ไหม”
ติงยียีหันหน้าไปเอ่ยกับ ฉีเหวินที่มองมาทางตัวเองด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม พลางเอ่ยถามด้วยความสงสัยว่า “คุณพูดกับฉันหรือคะ”
ฉีเหวินผงกศีรษะ เธออยู่ในวงการบันเทิงมานานขนาดนี้ คนประเภทไหนเป็นคนอย่างไร เธอก็พอเข้าใจ ตอนนี้เหล่านักลงทุนได้ลงทุนกับดารานักแสดงหน้าอกใหญ่ขายาวไปมากแล้ว คิดอยากได้คนที่สดใสสักหน่อย อีกทั้งผู้หญิงคนนี้ก็เหมาะกับบทบาทหนึ่งในหนัง มีศิลปินเพิ่มขึ้นอีกคน เธอก็ไม่ได้ขาดทุน
“ขอโทษด้วยค่ะ สาขาวิชาของฉันคือการออกแบบเครื่องประดับ อ๊ะ! เย่เนี่ยนโม่ นายทำอะไรน่ะ!” ติงยียีที่เพิ่งจะได้รับคำเชิญสะดุ้งตกใจ เธอกำลังพยายามครุ่นคิดอย่างสุดความสามารถในการปฏิเสธเรื่องนี้ แต่ข้อมือก็ถูกบีบแน่น เย่เนี่ยนโม่ดึงเธอจากไป เมื่อไปถึงข้างกายฉีเหวิน ก็มองเธอด้วยสายตาเย็นชาแวบหนึ่งก่อนจะจากไป
สามารถทำให้คุณชายตระกูลเย่ที่เย็นชามาตลอดแสดงความรู้สึกโกรธมากขนาดนี้ ผู้หญิงที่ชื่อติงยียีคนนี้ ดูเหมือนว่าจะมีหวัง!
“เฮ้ นายทำฉันเจ็บแล้วนะ” ติงยียีออกแรงดิ้น เย่เนี่ยนโม่ลากเธอออกมาถึงนอกบาร์ และปล่อยมือออก พลางเอ่ยว่า “กลับไป!”
“นายกลับ ฉันก็กลับ!” ติงยียีถลึงตากลับใส่เขา เย็นชา ใครจะทำไม่เป็น!
“ตามใจเธอ!” เย่เนี่ยนโม่หมุนตัวกลับเข้าไปในบาร์ แต่ก็รู้สึกว่าแผ่นหลังถูกสิ่งแหลมคมบางอย่างตีถูก เขาหันกลับไปอย่างดุร้าย
ติงยียีที่กำเศษหินเอาไว้ในฝ่ามือ ฮัมเพลงหันซ้ายที หันขวาทีอย่างเชื่องช้า เย่เนี่ยนโม่หมดความรู้สึกสนใจกะทันหัน จึงเดินหน้าต่อไป
แต่ก็ถูกขวางทางเอาไว้อย่างรวดเร็ว ติงยียีมีท่าทีไม่เลิกราหาวันนี้พาเขากลับไปด้วยไม่ได้ เย่เนี่ยนโม่มองเธออย่างไม่ใส่ใจ ติงยียีเงยหน้าสบตาเขาอย่างไม่ยอมแพ้
หลังจากนั้นไม่กี่วินาที ติงยียีที่พ่ายแพ้ก็เขยิบไปด้านข้าง ก็ถูก สำหรับเขาแล้ว ตัวเองก็เป็นแค่เพื่อนคนหนึ่งที่ไม่มีค่าอะไรเท่านั้น ไม่แน่ว่ากระทั่งเพื่อนก็ไม่นับด้วย
หลังจากเขาไปแล้ว ติงยียีก็หมุนกายเดินจูงแพนด้าไปด้วยท่าทางหมดอาลัยตายอยาก ยังเดินออกไปได้ไม่กี่ร้อยเมตร ด้านหลังก็มีเสียงแตรรถยนต์ดังขึ้น เธอหลบเข้าข้างทางตามจิตใต้สำนึก เย่เนี่ยนโม่พา Emily ขับขึ้นไปบนทางเท้า
เมื่อเลี้ยวบริเวณหัวมุม เย่เนี่ยนโม่ก็จอดรถ เอ่ยว่า “ลงรถ”
Emily มองไปรอบๆ รอบด้านล้วนมีคนเดินพลุกพล่านและรถราวิ่งกันขวักไขว่ จึงเอ่ยอีกรอบอย่างไม่อยากจะเชื่อว่า “นี่คือ?”
“เนี่ยนโม่ ฉันยังอยากจะอยู่เป็นเพื่อนคุณอีกสักพักนะคะ!” Emily ออดอ้อน จู่ๆเย่เนี่ยนโม่ก็เอ่ยยิ้มๆ “Emily คุณควรจะรู้กฎของการเล่นเกมส์นะ”
Emily กัดริมฝีปาก ตอนแรกเขามีเงื่อนไขเพียงแค่ข้อเดียว นั่นก็คืออย่าพยายามต่อต้านการตัดสินใจของเขา เมื่อยิ้มให้เขาแล้ว Emily ก็ลงจากรถ
เย่เนี่ยนโม่มองนาฬิกาข้อมือ เข็มนาฬิกาบอกเวลาชี้ไปที่เลขสิบสอง เมื่อครุ่นคิดดูแล้วก็ขับกลับไปยังเส้นทางเดิม Emily กลับไปถึงบ้าน โม่เสี่ยวโนก็ก้าวเข้ามาต้อนรับ พลางเอ่ยว่า “ดาราดังซวนหลินของพวกเรากลับมาแล้ว”
“แม่คะ หนูพูดแล้วว่าหลังจากนี้เรียกหนูว่า Emily ซวนหลินชื่อนี้ไม่เพราะเลย!” โม่ซวนหลินหยิบกระจกออกมาส่อง มั่นใจแล้วว่าตัวเองไม่ได้แต่งหน้าถึงได้วางใจ
“ใช่แล้ว ลูกดิสิว่าใครมา?” โม่เสี่ยวโนชี้ไปยังหญิงสาวที่นั่งเรียบร้อยอยู่ในห้องรับแขก
“น้าซือซือ!” โม่ซวนหลินก้าวเข้าไปให้การต้อนรับอย่างสนิทสนม ซือซือมองคนที่ตัวเองเปลี่ยนแปลงกับมือตรงหน้าด้วยความพอใจ เอ่ยยิ้มๆว่า “กับเย่เนี่ยนโม่ มีความคืบหน้าอย่างไรบ้างแล้ว”
“ตอนนี้ขอแค่หนูร้องขอ เขาก็รับปากแล้วค่ะ ใช่แล้ว นี่ล้วนต้องขอบคุณน้าซือซือที่ออกเงินช่วยเหลือหนู หนูถึงสามารถเปลี่ยนจากพนักงานเสิร์ฟคนหนึ่งเป็นดาราได้”
คำพูดนี้ของโม่ซวนหลินนั้นเอ่ยจากใจจริง ตอนที่อยู่โรงแรมตี้เหา เธอเป็นที่ถูกใจของผู้อำนวยการสร้างหนังจริงๆ แต่ผู้อำนวยการหนังเห็นเธอเป็นเพียงแค่ตุ๊กตา ในตอนนี้เองที่ซือซือปรากฎตัวขึ้น มอบเงินจำนวนหนึ่งให้เธอไปทำศัลยกรรม หลังจากผ่านการโฆษณาของผู้อำนวยการสร้างหนังไปหลายตัว เธอก็กลายเป็นนักแสดงในวงการบันเทิงคนหนึ่งแล้ว
“ขอเพียงแค่เธอเชื่อฟังทำตามที่น้าบอก ในไม่ช้าเธอก็จะได้เป็นดาราดังแล้ว” ซือซือเอ่ยยิ้มๆ สองแม่ลูกผู้เต็มไปด้วยความโลภคู่นี้ช่างควบคุมได้ง่ายจริงๆ
ในตอนนี้เองที่เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ซือซือมองเบอร์โทรศัพท์มือถือบนหน้าจอแล้ว ก็เดินไปที่ระเบียง พลางเอ่ยว่า “ทำไมหรือ ตอนนี้ประเทศอังกฤษเป็นช่วงบ่ายแล้วสินะ”
“คุณแม่ หนูคิดถึงเนี่ยนโม่แล้ว คิดถึงจนทนไม่ไหว หนูจะกลับประเทศ” อ้าวเสว่เอ่ยขึ้น ร้องไห้สะอื้น อยู่ที่ประเทศอังกฤษไม่มีตอนไหนที่เธอไม่คิดถึงเย่เนี่ยนโม่
“กลับประเทศมารอให้ถูกตำรวจ จับหรือ” ซือซือเอ่ยอย่างไม่เกรงใจ เสียงร้องไห้สะอื้นจากอีกด้านของโทรศัพท์มือถือหยุดชะงัก ซือซือเอ่ยด้วยเสียงอ่อนโยนว่า “วางใจเถอะ รู้ไหมว่าตอนนี้เขามีสภาพอย่างไร เพื่อลูก เขาไม่กินดื่ม กลายเป็นคนที่เย็นชากว่าเดิม เชื่อในเสน่ห์ของลูกสิ”
“จริงหรือคะ?!” อ้าวเสว่ทั้งเป็นห่วงและประหลาดใจ เย่เนี่ยนโม่รักเธออย่างลึกซึ้งขนาดนั้นเลยหรือ ซือซือคุยกับอ้าวเสว่อีกสองสามประโยค หลังจากปลอบใจเธอแล้วถึงได้วางสายโทรศัพท์ไป
ลูกสาวของฉัน ผู้ชายตระกูลเย่เย็นชาไร้น้ำใจมากแค่ไหน แม่จะให้ลูกได้เห็น
มหาวิทยาลัยZ ติงยียีเอ่ยอย่างไม่อยากเชื่อว่า “เย่เนี่ยนโม่ลาออกจากตำแหน่งรองประธานสหภาพนักศึกษาหรือ”
ซ่งเมิ่นเจ๋ผงกศีรษะ เอ่ยว่า “ตอนนี้เขามาเรียนน้อยมากเช่นกัน ได้ยินมาว่ากำลังจะรับช่วงบริษัทของคุณพ่อ”
สำหรับลูกหลานตระกูลผู้ร่ำรวยแล้ว ความหมายในการเล่าเรียนนั้นห่างไกลจากเด็กทั่วไปเป็นอย่างมาก ส่วนมากแล้วเด็กธรรมดาทำได้เพียงแค่อาศัยการเล่าเรียนเพื่อให้ได้รับความเคารพในสังคม แต่สำหรับคนรวยก็เหมือนกับการโดยสารบันไดเลื่อนที่กระโดดทีเดียวก็ไปถึงจุดสูงสุด
“พวกเธอไม่ได้อ่านข่าวกันหรือ คุณชายตระกูลเย่ใช้ชีวิตเหลวแหลก มั่วโลกีย์กับคนรักคนใหม่ที่เป็นดาราที่เพิ่งจะเข้าวงการบันเทิงคนหนึ่ง!” จางถังที่อยู่ด้านข้างยิ้มยินดีในความโชคร้ายของผู้อื่น เย่เนี่ยนโม่ไม่อยู่ เหยนหมิงเย้า เพื่อนของเขาก็จะได้เป็นรองประธานไปโดยปริยาย
ติงยียีกับซ่งเมิ่นเจ๋ไม่สนใจเขา พากันแยกย้ายกลับไปที่ชั้นเรียนตัวเอง ภายในชั้นเรียน หัวหน้าห้องประกาศรายชื่อคนที่ได้รับทุนการศึกษาจนกระทั่งอ่านชื่อจบแล้ว ติงยียีก็ไม่ได้ค้นพบว่ามีการเรียกชื่อเธอ

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset