สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 1447 หญิงรับใช้ของคุณชายเย่ 1347

อ้าวเสว่หันไปมองดูเขา การแสดงออกของเธอเฉื่อยเนือย สวีเห้าเซิงจึงพูดด้วยเสียงที่แหบแห้งว่า “หนู หนูอย่าทำเรื่องโง่เด็ดขาดนะ ลงมาก่อน ลงมาก่อน ตกลงไหม?”
อ้าวเสว่ส่ายหน้า และมองดูข้อมือที่มีรอยเลือดของตัวเองด้วยสายตาเหม่อลอย แล้วพูดด้วยเสียงแหบแห้งเล็กน้อยเนื่องจากไม่ได้ดื่มน้ำเป็นเวลานานว่า “หนูเป็นโรคซึมเศร้า ไม่มีเนี่ยนโม่ก็ไม่สามารถรักษามันให้หายได้ ถ้าไม่สามารถได้เขามา หนูก็จะยอมจากไปแบบนี้แหล่ะ บางทีเขาอาจจะยังจำหนูได้บ้าง”
“หนูอย่าหุนหันพลันแล่นนะ ฉันจะโทรหาเย่เนี่ยนโม่เดี๋ยวนี้เลย!” สวีเห้าเซิงหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาอย่างสั่นระรั่ว ในขณะที่อ้าวเสว่ที่สยายผมเป็นกระเซิงกำลังมองดูการเชื่อมต่อของโทรศัพท์มือถืออยู่ รอยยิ้มจางๆก็ปรากฏขึ้นที่มุมปากของเธอ
“ลุงสวี?” เย่เนี่ยนโม่เห็นสายที่ไม่ได้รับของติงยียี เขาจึงคิดจะโทรกลับ แต่ในขณะนี้มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นเขาก็เลยถือโอกาสรับสาย
“เนี่ยนโม่ เธอรีบมาที่วิลล่าเฟิงจิ่งย่วนเลยนะ อ้าวเสว่เธอ เกิดเรื่องขึ้นกับเธอนิดหน่อยน่ะ” สวีเห้าเซิงให้ความสนใจกับอ้าวเสว่ที่อยู่บนระเบียงอย่างใกล้ชิด พร้อมกดเสียงต่ำพูดกับเขาไปด้วย
“เรื่องอะไรเหรอครับ? ทำไมคุณลุงถึงได้อยู่กับอ้าวเสว่?” เย่เนี่ยนโม่ถามด้วยความแปลกใจ สวีเห้าเซิงมองร่างของอ้าวเสว่เอนไปเอนมาด้วยความหวาดกลัว เธอน่าจะประคองตัวไม่อยู่แล้ว เขาจึงรีบพูดโดยไม่คิดอะไรออกไปว่า “เฮ่าหรัน ลุงไม่เคยขออะไรเธอเลย ตอนนี้เธอช่วยลุงหน่อย รีบมาที่นี่เถอะ! อ้าวเสว่ อ้าวเสว่เธอจะฆ่าตัวตาย!”
“อ้าวเสว่จะฆ่าตัวตาย! ผมจะไปเดี๋ยวนี้ครับ” เย่เนี่ยนโม่วางสายโทรศัพท์ ในชั่วพริบตาเดียวเขาก็ไม่มีสติ เหตุผลที่อ้าวเสว่ต้องการจะฆ่าตัวตายจะเป็นอย่างที่เขาคิดไหมนะ? เขาหยิบเสื้อคลุมและกระเป๋าเงิน เปิดประตูแล้วเดินลงไปข้างล่าง
“เน่ยนโม่ ดึกขนาดนี้แล้วลูกจะไปไหน?” เซี่ยชีหรั่นอยู่ในห้องรับแขกพอดี และสายตาของเย่เชินหลินก็จ้องมองมาด้วยเช่นกัน และพูดว่า “จะไปหาเพื่อนเหรอ?”
“หรือว่าจะเป็นติงยียี เนี่ยนโม่ แม่น่าจะเคยพูดกับลูกแล้วนะ แม่จะไม่ห้ามอิสระในการคบเพื่อนของลูก แต่เด็กผู้หญิงคนนั้นความประพฤติใช้ไม่ได้จริงๆนะ” เซี่ยชีหรั่นพูดอย่างจริงจัง
“แม่ครับ แม่อย่าพูดถึงเธอแบบนั้นนะ ความประพฤติของเธอผมรู้ดีที่สุด เธอเป็นคนจิตใจดี แม่คงเข้าใจเธอผิดไปแล้วแน่ๆ!” เย่เนี่ยนโม่อดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นเสียง
เซี่ยชีหรั่นตะลึงงัน เขาไม่เคยพูดเสียงดังกับตัวเองขนาดนี้มาก่อน เย่เชินหลินที่อยู่ข้างๆจึงพูดอย่างเคร่งขรึมเด็ดขาดว่า “ตรวจสอบท่าทีของเธอสักหน่อยก่อนเถอะเย่เนี่ยนโม่”
“แม่ครับ ผมขอโทษ ผมมีธุระที่จะต้องออกไปทำเดี๋ยวนี้” เย่เนี่ยนโม่รีบเดินจากไป เบ้าตาของเซี่ยชีหรั่นร้อนผ่าว เธอทำอะไรไม่ถูกเล็กน้อย เย่เชินหลินจึงโอบกอดเธอเอาไว้ แล้วกระซิบว่า “เดี๋ยวผมจะช่วยคุณอบรมสั่งสอนเขาเอง”
เซี่ยชีหรั่นส่ายหน้า และเอาว่าฝ่ามือตบไปบนหลังมือที่กำลังโอบไหล่ของตัวเองอยู่แล้วพูดว่า “ฉันดีใจมากที่เขามีความคิดเป็นของตัวเอง และสามารถยึดติดกับความคิดของตัวเองได้ แต่ติงยียีเด็กคนนั้นน่ะ ไม่ใช่ว่าฉันใจดำนะ แต่เธอไม่เหมาะสมจริงๆ”
เย่เชินหลินลู่สายตามองดูคนรักที่มีสีหน้าทุกข์ใจ ดูเหมือนว่าในเวลาจำเป็นเขาทำได้เพียงเข้าไปแทรกแซงด้วยการใช้วิธีบีบบังคับเสียแล้ว
รถกำลังแล่นอยู่บนทางหลวง มีสายเรียกเข้าสายหนึ่งโทรเข้ามาอีกสาย เย่เนี่ยนโม่จึงรับสายขึ้นมา “ลุงสวี อีกเดี๋ยวผมก็จะถึงแล้วครับ ทำให้อ้าวเสว่อยู่นิ่งๆไปก่อนนะครับ”
“เนี่ยนโม่” น้ำเสียงของติงยียีในโทรศัพท์เป็นน้ำเสียงที่ทั้งประหลาดใจและดีใจระคนกันไป เธอเกือบจะยอมแพ้ที่จะโทรไปหาเขาแล้ว
“ยียีเหรอ?” เย่เนี่ยนโม่วางโทรศัพท์ไว้ทีแอ่งไหล่และรับฟังอย่างลำบาก “เนี่ยนโม่ นายมาที่นี่หน่อยได้ไหม ฉันอยู่ที่ถนนหลงฉวน”
เขามองดูGPS ถนนหลงฉวนอยู่ห่างจากตำแหน่งที่เขาอยู่ตอนนี้มากเหลือเกิน เขาก็เลยจำต้องพูดว่า “เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือเปล่า? ตอนนี้ฉันเดินทางออกไปไม่ได้นะ”
“ถือว่าฉันขอร้องนาย นายมาเดี๋ยวนี้เถอะ พ่อของฉันเขา…” รถวิ่งเข้าไปในอุโมงค์พอดี โทรศัพท์จึงมีเสียงติดขัดอยู่พักหนึ่ง เย่เนี่ยนโม่ถือโทรศัพท์เอาไว้ รอให้ผ่านอุโมงค์ไปแล้วเขาจึงวางไว้ข้างหูใหม่อีกครั้ง แต่เขากลับไม่ได้ยินคำพูดสุดท้ายของติงยียี
“ดังนั้น นายมาที่นี่ตอนนี้ได้ไหม?” ติงยียีพยายามอย่างเต็มที่ที่จะพูดด้วยน้ำเสียงที่มั่นคง และนิ้วที่ถือโทรศัพท์อยู่ก็มีเหงื่อเย็นๆไหลออกมา
“ยียี ตอนนี้ฉันมีเรื่องสำคัญมากที่ต้องไปทำจริงๆ ไว้ฉันไปหาเธอที่บ้านในภายหลังนะ” มีกล้องวงจรปิดอยู่ข้างหน้า เย่เนี่ยนโม่จึงจำเป็นต้องพูดสรุปแบบสั้นๆแล้วก็วางสายไป
เขาฟังออกว่าน้ำเสียงของติงยียีในโทรศัพท์มีความหวาดกลัวที่แสร้งทำเป็นสงบเยือกเย็นอยู่ เขาจึงหยุดรถทันที เขาจะกลับไปหาติงยียีแล้วถามให้ชัดเจนว่าเกิดอะไรขึ้น? หรือว่าจะมุ่งหน้าตอไปเพื่อช่วยอ้าวเสว่ที่ชีวิตกำลังแขวนอยู่บนเส้นด้าย?
“เนี่ยนโม่ เธอมาถึงหรือยัง!” ทันใดนั้นโทรศัพท์ของสวีเห้าเซิงก็ดังขึ้น เย่เนี่ยนโม่กัดฟัน ลุสวีคือคนที่เขาสนิทที่สุด เพื่อเขาแล้ว เขาก็เลยต้องเลือกทางที่ในใจของเขาไม่อยากเลือก
แล้วรถวิ่งไปได้สักพัก เย่เนี่ยนโม่ก็หยุดรถ แล้วทุบไปที่พวงมาลัยด้วยความเจ็บปวดใจ และหยิบโทรศัพท์ออกมา “โจ๋ซวน นายช่วยไปที่ถนนหลงฉวนให้ฉันหน่อยได้ไหม นายไปที่นั่นก่อน”
ข้างถนนหลงฉวน ติงยียีร้องไห้ในขณะที่กำลังคืนโทรศัพท์ให้คนขับรถ เธอกอดศีรษะของพ่อและร้องไห้สะอึกสะอื้น เลือดที่อยู่ในโพรงจมูกของติงต้าเฉินแข็งตัวแล้ว กลางคืนอากาศอบอ้าว แต่ร่างกายของเขากลับเย็นเยือกไปทั้งตัว
“สาวน้อย อย่าร้องไห้เลย! ไม่มีใครช่วยคุณ ผมจะช่วยคุณเอง ไปเถอะ ไปโรงพยาบาลกัน!” ในที่สุดคนขับรถที่อยู่ข้างๆก็ทนดูไม่ไหวแล้ว ผู้ชายคนนั้นที่คุยโทรศัพท์เมื่อกี้เป็นผู้ชายแบบไหนกันนะ ผู้หญิงก็บอกไปแล้วว่าพ่อของตัวเองประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์แล้ว คิดไม่ถึงว่าเขาจะยังคงไม่สะทกสะท้านได้แบบนี้ ติงยียีมองเงยหน้ามองเขาด้วยน้ำตาคลอเบ้า ความสิ้นหวังที่อยู่ภายในใจจึงได้จางหายไปเล็กน้อย ทันทีที่ทั้งสองคนช่วยติงต้าเฉินเข้าไปในแท็กซี่ เสียงรถพยาบาลก็ดังขึ้นมาจากระยะไกล
ภายในบริเวณวิลล่า เย่เนี่ยนโม่ขมวดคิ้วในขณะที่มองดูคราบเลือดที่น่าสยดสยองอยู่ตรงประตูทางเข้า แล้วก็ขึ้นไปบนชั้นสอง สวีเห้าเซิงรีบลากเขามาที่มุมห้องแล้วพูดว่า “ภาวะซึมเศร้าน่ะ คราวก่อนลุงก็พบยากล่อมประสาทมากมายในตู้ของเธอด้วย”
“เนี่ยนโม่ เนี่ยนโม่” ทันใดนั้นอ้าวเสว่ที่ก้มศีรษะมาโดยตลอดก็เงยหน้าขึ้นมา แล้วยื่นมือไปทางเขา ซึ่งบนแขนของเธอมีคราบเลือดที่น่าสยดสยอง
“คนดี คุณอย่าขยับนะ ผมจะเดินไปหาคุณ” เย่เนี่ยนโม่เห็นเธอโอนเอนไปมา จึงรีบพูดออกไป พอเดินมาถึงครึ่งทาง ทันใดนั้นอ้าวเสว่ก็กรีดร้องเสียงแหลมขึ้นมา แล้วทรุดตัวนั่งลงไปเล็กน้อย จากนั้นก็ยื่นร่างกายครึ่งตัวออกมาจากระเบียง “ไม่ อย่าเข้ามานะ ฉันไม่อยากให้คุณเห็นฉันที่มีเจตนาแน่วแน่ในการฆ่าตัวตายอย่างนี้ ขอโทษนะ แต่ฉันควบคุมตัวเองไม่ได้ ในสมองของฉันมักจะมีสิ่งแปลกๆโผล่ขึ้นมามากมาย พวกมันกำลังไล่ตามฉันอยู่ตลอดเวลาเลย”
บนใบหน้าของอ้าวเสว่เต็มไปด้วยสีหน้าของความเจ็บปวด เย่เนี่ยนโม่มองดูด้วยความเศร้าโศกเสียใจ เธอที่เคยเป็นคนอ่อนโยนและเย่อหยิ่งเป็นอย่างมาก เขาจึงพูดด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลขึ้นว่า “คนดี พวกเราลงมาก่อนดีไหม?”
“เราไม่เคยเลิกกันใช่ไหม?” อ้าวเสว่จ้องมองมาที่เขา เย่เนี่ยนโม่นิ่งเงียบ เขาไม่อยากโกหกเธอ สวีเห้าเซิงจึงรีบก้าวไปข้างหน้าแล้วพูดว่า “ใช่ พวกเธอไม่เคยเลิกกันเลย”
สวีเห้าเซิงหันไปมองเขา ในดวงตาของเขามีคำขอร้องอยู่ เย่เนี่ยนโม่มองเขา นั่นคือแววตาที่คุ้นเคยที่เคยเล่นเป็นเพื่อนตัวเองตอนเด็กๆ แต่เขากลับรู้สึกเหนื่อยล้าทั้งกายใจเล็กเป็นอย่างมาก สวีเห้าเซิงอ้าปาก แล้วพูดอย่างไม่มีเสียงออกไปสองคำว่า “เนี่ยนโม่”
“ลงมาก่อนค่อยคุยกัน” เย่เนี่ยนโม่หลบสายตาของเขา แล้วสาวเท้าก้าวไปข้างหน้าและดึงอ้าวเสว่มาไว้ในอ้อมแขนของตัวเอง อ้าวเสว่กรีดร้องด้วยความตกใจ เพราะเสียเลือดมากเกินไปเธอจึงทรุดตัวลงไปในอ้อมแขนของเขา
ในขณะที่อ้าวเสว่กำลังหลับลึกอยู่ในห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาล รถเข็นคันหนึ่งแล่นผ่านประตูห้องฉุกเฉินไป พยาบาลและหมอก็กำลังสาวเท้าก้าวเดินอย่างรวดเร็ว พยาบาลรายงานว่า “อุบัติเหตุทางรถยนต์บนถนนหลงฉวนมีเลือดออกในปอด ได้รับบาดเจ็บบริเวณศีรษะ และกระดูกเท้าแตกร้าว มีความเป็นไปได้ที่สมองจะได้รับกระทบกระเทือนค่ะ”
ถนนหลงฉวนเหรอ? ยียีบอกว่าเธออยู่ที่ถนนหลงฉวนไม่ใช่เหรอ? เย่เนี่ยนโม่รีบลุกขึ้นยืนและหยิบโทรศัพท์ออกมาในทันที ไม่มีใครรับสายโทรศัพท์เลย
สายที่เขาโทรกลับไปเมื่อสักครู่นี้ไม่มีใครรับเลย เขาจึงหันไปมองอ้าวเสว่ที่กำลังหลับลึกอยู่ เขาอยู่ที่นี่ไม่ได้แล้ว จึงลุกขึ้นมา ทันใดนั้นสวีเห้าเซิงก็ผลักประตูเข้ามา แล้วไปดูอ้าวเสว่ก่อน จากนั้นก็หันไปกวักมือเรียกเขา
ในระเบียงทางเดิน ในขณะที่สวีเห้าเซิงกำลังจุดบุหรี่อย่างช้าๆ เย่เนี่ยนโม่ก็ถามด้วยความตกใจว่า “ไม่ใช่ว่าลุงสวีไม่สูบบุหรี่หรอกหรือครับ?”
สวีเห้าเซิงพยักหน้า แล้วพูดขึ้นมาทันทีว่า “เธอจะต้องแปลกใจมากว่าทำไมฉันถึงได้เป็นห่วงเป็นใยอ้าวเสว่ขนาดนั้นแน่ๆ” เย่เนี่ยนโม่พยักหน้าไปมาอย่างลังเล ตั้งแต่เล็กจนโต เขาไม่เคยเห็นลุงสวีผิดปกติขนาดนี้มาก่อนเลย
“อ้าวเสว่เป็นลูกสาวของฉัน” สวีเห้าเซิงสูบบุหรี่เข้าไป แล้วเอาก้นบุหรี่วางลงไปในถาดรองบุหรี่ที่อยู่ข้างๆ ในขณะที่กำลังมองเย่เนี่ยนโม่ที่มีสีหน้าประหลาดใจอยู่
“ในตอนแรกลุงเมาและดื่มเหล้ากับผู้หญิงคนหนึ่งทั้งคืน แล้วลุงก็มีเธอ ลุงไม่รู้เลยว่ามีลูก จนกระทั่งได้พบกับลูกและแม่ของเธอก่อนหน้านี้ไม่นาน”
“ดังนั้นความรู้สึกของคุณที่มีต่อแม่ของผมมันไม่จริงใช่หรือเปล่า?” เย่เนี่ยนโม่พูดด้วยน้ำเสียงที่ขมขื่น เขาคิดเสมอว่าคนเดียวในโลกที่ดีต่อแม่ของเขามีเพียงลุงสวีเท่านั้น หรือว่าจะไม่สามารถซื่อสัตย์ต่อคนๆหนึ่งไปตลอดชีวิตได้จริงๆ? เพราะว่าลุงสวีไม่เคยคิดจะทิ้งแม่ไปไหน และเธอก็ดื้อรั้นในเรื่องความรักเป็นอย่างมาก ตอนนี้ทุกอย่างกำลังจะพังทลายแล้ว
“ลุงรักแม่ของเธอมาก ไม่เคยเปลี่ยนแปลง แต่ความรักก็เหมือนสายน้ำ บางครั้งลุงก็ต้องจับท่อนไม้ที่ลอยมาสักท่อนเพื่อหายใจเมื่อรู้สึกหายใจไม่ออก” ในขณะที่สวีเห้าเซิงมองเขา แสงของน้ำตาก็เปล่งประกายอยู่ภายในดวงตา
ทันใดนั้นเย่เนี่ยนโม่ก็ตระหนักขึ้นมาได้ว่า มันก็ใช่นะ ทำไมเขาจะต้องบังคับให้ลุงสวีเป็นของแม่เพียงคนเดียวด้วยล่ะ เรื่องต่างๆที่เขาทำเพื่อตัวเองกับแม่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมานั้นมันก็มากเกินพอแล้ว
“ลุงสวีครับ ยินดีด้วยนะครับ” เย่เนี่ยนโม่พูดอย่างใจจริง สวีเห้าเซิงตกตะลึง แล้วเอียงศีรษะ สักพักหนึ่งจึงหันไปพูดว่า “ลุงติดค้างลูกสาวคนนี้มากเกินไปจริง ลุงอยากจะใช้ชีวิตทั้งชีวิตชดเชยให้เธอ แต่เนี่ยนโม่ ชีวิตที่เธอต้องการก็คือเธอไม่ใช่ลุง”
ภายในใจของเย่เนี่ยนโม่เต้นตึกตักไปครู่หนึ่ง แล้วสวีเห้าเซิงก็พูดต่อไปว่า “ต่อให้ลุงจะขอร้องไห้หลานอยู่ด้วยกันกับเธอ และต่อให้เธอจะแกล้งทำยังไงก็แล้วแต่ รอจนกว่าเธอฟื้นขึ้นมาแล้วลุงก็จะพาเธอไปอยู่ที่ต่างประเทศ”
จิตใต้สำนึกของเย่เนี่ยนโม่อยากจะปฏิเสธ ภายในใจของเขาเต็มไปด้วยติงยียี เขาไม่อาจยอมรับคนอื่นได้อีกแล้ว ขาของเขาถูกใครบางคนดึงเอาไว้ พอเขาหันหน้าไปก็สบตาของลุงสวีเข้าพอดี บนเปลือกตาซ้ายของเขายังมีรอยแผลเป็นตื้นๆ นั่นคือแผลเป็นที่เกิดจากการช่วยให้เขารอดพ้นจากการได้รับบาดเจ็บ
“เนี่ยนโม่ ลุงสวีรู้ว่าเธอลำบากใจมาก แต่ว่า แต่ว่าลุงเสียเธอไปไม่ได้จริงๆ” สวีเห้าเซิงเกลียดตัวเองที่พลาดโอกาสในช่วงเวลาชีวิตที่ผ่านมาของอ้าวเสว่ และเกลียดตัวเองที่เพิ่มแรงกดดันให้เนี่ยนโม่
“ลุงสวีครับ ลุงอย่าทำแบบนี้เลย ผมรับปากลุงครับ” เย่เนี่ยนโม่พูดด้วยน้ำเสียที่แหบแห้ง เขาสามารถเห็นแก่ตัวต่อคนอื่นได้ แต่มีเพียงลุงสวี นั่นคือคนที่เขาสาบานว่าจะเคารพรักไปทั้งชีวิต เขาทำเป็นเลือดเย็นขนาดนั้นไม่ได้จริงๆ
“ตูม!” ภายในห้องมีเสียงดังขึ้นมา ทั้งสองคนมองหน้ากัน แล้วรีบวิ่งเข้าไปในห้อง สวีเห้าเซิงลังเลสักพักก่อนจะเปิดประตู และเขายังพูดว่า “อย่าบอกเรื่องนี้กับแม่ของเธอนะ และห้ามบอกใครทั้งนั้น มันจะไม่ช่วยให้อาการของเธอดีขึ้น”
เย่เนี่ยนโม่พยักหน้า แล้วเปิดประตู เมื่อเห็นเขาอ้าวเสว่ก็รีบดึงเข็มที่หลังมือของตัวเองออก และเดินกะโผลกกะเผลกมาจากเตียง บาดแผลที่อยู่บนข้อมือจึงฉีกขาดเนื่องจากเคลื่อนไหวมากเกินไป

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset