สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่289สาวใช้ตัวแสบ 193

ตอนที่289 สาวใช้ตัวแสบ 193
ตอนที่เดินขึ้นดอยเดินได้ไม่เร็ว ลงดอยก็เดินลงช้า เมื่อลงมาถึงตีนดอยเลยเวลาบ่ายสี่โมงแล้ว
“แม่ครับ คืนพวกเรายังคงพักที่เดิม พรุ่งนี้เช้าออกเดินทาง ไปภูเขาถัดไป”
“ได้” ฝู้เฟิ่งหยีตอบ
เย่เชินหลินหันไปมอง เหมือนแม่ของตนจะอารมณ์ไม่ค่อยดี พูดจาก็ดูหงุดหงิด เขากวาดตาไปมองส้งหลิงหลิง ไม่รู้ว่าเธอเล่าให้แม่ฟังเรื่องที่เขาไล่เธอกลับบ้านแล้วหรือเปล่า จึงทำให้ท่านโกรธ
ครั้งนี้เป็นการเข้าใจส้งหลิงหลิงผิดแล้วจริงๆ ที่จริงเธอก็อยากจะพูด แต่เธอยังไม่ทันได้พูดอะไร ก็เห็นฝู้เฟิ่งหยีไม่พอใจ เธอจึงไม่กล้าพูด
“แม่ครับ เป็นอะไรหรือครับ? ท่านดูเหมือนไม่สบายใจ”
“ไม่มีอะไร” ฝู้เฟิ่งหยีส่ายหัว
เย่เชินหลินมองดูสีท่านแม่ของเขาอย่างละเอียด แล้วครุ่นคิดดู ก็เข้าใจแล้ว เรื่องวันนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับส้งหลิงหลิง แม่ของเขาคิดถึงเย่จื่อห้านอีกแล้ว
เขามองข้ามเรื่องนี้ไปเลย ที่จริงทุกครั้งที่ฝู้เฟิ่งหยีมาจุดธูปไหว้พระที่วัด ล้วนทำเพื่อเย่จื่อห้าน แต่เพราะหลายปีมานี้ ท่าทางของท่านไม่ค่อยแสดงออก จุดธูปไหว้พระเสร็จแล้วก็ไม่เห็นจะเศร้าขนาดนี้
“แม่ครับ พวกเรากลับตงเจียงกันก่อนไหม ผ่านไปสักพัก พวกเราค่อยพาท่านไปยังภูเขาพวกนั้น ดีไหม?”
“ไม่ได้” ฝู้เฟิ่งหยีปฏิเสธอย่างจริงจังขึ้นมาทันที
“โอเค ถ้าท่านยืนยันเช่นนั้น พวกเราก็เดินทางตามกำหนดการเดิม ไป พวกเราไปพักผ่อนกัน”
เย่เชินหลินกับส้งหลิงหลิง ประคองแขนของฝู้เฟิ่งหยีแล้วค่อยๆเดินไปที่โรงแรม ทุกคนที่กำลังเดินอยู่ต่างก็ได้ยินเสียงพระสวด ไม่ใกล้ไม่ไกล เมื่อเสียงที่ได้ยินเข้ามาใกล้ ทุกคนต่างก็หันไปมอง เห็นเป็นคนพิการ มือเท้าโดนตัดขาด ดูแล้วผิดรูปผิดร่าง ใครเห็นล้วนต่างก็รู้สึกปวดใจอย่างทรมาน เขานั่งกองอยู่บนสเกตบอร์ดแผ่นไม้ ข้างล่างสเกตบอร์ดมีล้อ เขาใช้แขนที่ไม่มีมือผลักไปข้างหน้า
บนสเกตบอร์ด ข้างกายเขามีลำโพงเล็กๆเปิดบทสวดมนต์อยู่ ทำนองอามีทอฝอ
ปกติอยู่ในเมืองภาพแบบนี้ก็นับว่าเห็นได้บ่อยๆ เย่เชินหลินรู้ว่าแม่ของเขาชอบทำทาน จึงพูดขึ้นว่า “แม่ครับ รอผมแปบนึง ผมไปช่วยเขา”
เย่เชินหลินหยิบเงินออกมาจากกระเป๋าปึกหนึ่ง แล้ววางใส่ในถ้วยให้ขอทานนั่น ขอทานนั่นคงไม่เคยเห็นใครให้เงินเยอะขนาดนี้ จึงรีบขอบคุณอย่างดีใจ
ยังไม่ทันรอให้เย่เชินหลินกลับมา ก็ได้ยินเสียงฝีมือของแม่กำลังเดินมาอย่างรีบร้อน ที่แท้เธอสะบัดมือส้งหลิงหลิงออก แล้ววิ่งมาหาขอทานอย่างร้อนรน มองสำรวจดูเขาขึ้นลง ถามเขาด้วยเสียงสั่นเครือว่า “เด็กน้อย อายุเท่าไหร่แล้ว บ้านเดิมอยู่ที่ไหน? ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้?”
“แม่ครับ” เย่เชินหลินประคองฝู้เฟิ่งหยีไว้ พูดขึ้นว่า “อย่าถามเลย ไม่ใช่หรอก ท่านดูเขาสิอย่างน้อยยังไงก็ดูอายุมากกว่าจื่อห้านเป็นสิบปี เป็นไปไม่ได้”
“อย่าเสียงดัง ลูกจะไปรู้อะไร? วันวันขอทานอยู่แต่ข้างนอก ตากแดดตากลม ทำให้คนแก่เร็ว ลูกไม่รู้หรือ? อย่าพูดว่าแก่สิบปี ต่อให้ยี่สิบสามสิบปีก็ถือเป็นเรื่องปกติ” ฝู้เฟิ่งหยีค่อนข้างตื่นเต้น จนขอทานงงไปหมด
“คุณครับ รบกวนคุณตอบคำถามแม่ของผมหน่อยได้ไหมครับ?” เย่เชินหลินพูดขึ้นเสียงอ่อน เพราะรู้ว่ายังไงแม่ก็จะต้องถามให้ถึงที่สุด เป็นแบบนี้มาตลอด ถึงแม้จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าอายุน้อยกว่าเย่จื่อห้านเป็นสิบปี แม่ก็ยังจะถามคนอื่น แม่บอกว่าบางทีหลังจากที่เย่จื่อห้านหายตัวไปอาจจะป่วยเป็นอะไรสักอย่าง แล้วหยุดการเจริญเติบโตอะไรประมาณนั้น อะไรก็อาจเป็นเป็นได้ จะไม่ปล่อยความหวังใดๆไปอย่างเด็ดขาด
ความดื้อดึงของแม่นี้ มักทำให้เย่เชินหลินไม่รู้จะทำยังไงและเสียใจ
ขอทานคนนั้นขอบคุณในความใจกว้างและมีเมตตาของเย่เชินหลิน และตนเองก็เจออะไรมาตั้งมากมาย จึงเล่าให้ฟังอย่างอ้ำอึ้งน่าสงสาร
“บ้านเดิมผมอยู่ไกลมาก มีชื่อเรียกว่าอะไรผมจำไม่ได้แล้ว”
เมื่อพูดประโยคนี้เสร็จ ร่างกายฝู้เฟิ่งหยีก็สั่นเทา เย่เชินหลินรีบโอบไหล่แม่ของเขาไว้ และพูดปลอบว่า “แม่ครับ ท่านอย่าเพิ่งร้อนใจ ฟังเขาพูดจบก่อน”
“ผมโดนหลอกลวงออกมา”
ในใจเย่เชินหลินรีบร้อนมาก คิดในใจ ทำไมไม่พูดให้เร็วๆหน่อย พูดคำว่าโดนหลอกลวงออกมา ต้องกระทบกับความรู้สึกของแม่เขาแน่ มือของแม่เขากำลังเย็นเฉียบ
“ผมจำได้ว่าตอนที่อายุเก้าขวบ เพราะผมชอบเล่น จึงโดนคนหลอกออกมาจากบ้าน ต่อมาก็โดนจับบีบบังคับไป ร่างกายผมเป็นแบบนี้ ก็เป็นฝีมือของคนเลวพวกนั้น ใช้ร่างกายที่พิการของผมไปขาทานมาให้พวกเขา ต่อมาผมค่อยๆคิดค้นสิ่งนี้ขึ้นมา รอจังหวะหนีออกมาตอนที่พวกเขาไม่ทันระวัง เฮ้อ คนพวกนั้นสารเลวมาก ผมขอทานไม่ได้เงินมา ก็จะโดนทุบตี โดนด่า เฮ้อ ไม่พูดละ ขอบคุณท่านมาก ขออวยพรให้สมหวังดั่งปรารถนาในทุกประการ อยู่ดีมีสุขตลอดไป”
“ไม่ใช่ ไม่ใช่ แม่ได้ยินไหม? เขาบอกว่าเขาออกจากบ้านมาตอนอายุเก้าขวบ พวกยังจำเรื่องทุกอย่างได้เป็นอย่างดี ไม่ใช่”
เย่เชินหลินพูดกับฝู้เฟิ่งหยีอย่างอดทน แม่ก็ยังคงส่ายหัว น้ำตาเต็มดวงตา
“ลูกเห็นไหม? ลูกเห็นไหม? เด็กทุกคนที่หายตัวไป ล้วนต้องประสบกับเหตุการณ์แบบนี้ ทุกคน” น้ำเสียงของเธอเปลี่ยนไป เย่เชินหลินโอบกอดแม่ไว้อย่างเห็นใจ อีกขึ้นด้วยเสียงเบาอีกว่า “ผมขอโทษ แม่ครับ ผมขอโทษ เป็นเพราะลูกไม่เอาไหน นานขนาดนี้แล้วก็ยังไม่สามารถตามหากลับมาให้แม่ได้ ทำให้แม่ต้องคิดมากแบบนี้”
ส้งหลิงหลิง จิ่วจิ่วกับเซี่ยชีหรั่นยืนอยู่ไม่ไกล และก็ไม่ได้ยินว่าเย่เชินหลินพูดอะไรกับฝู้เฟิ่งหยี แต่ก็ดูออกว่าทั้งสองคนเศร้าเสียใจมาก

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset