สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่302 สาวใช้ตัวแสบ206

ตอนที่302 สาวใช้ตัวแสบ206
“เขาเป็นคนของคุณ ถึงแม้ว่าจะเป็นลูกน้องของคุณ คุณก็ไม่สนงั้นหรอ?แต่ว่าไปการที่ได้เห็นคนใกล้ตัวคุณต้องทนทุกข์ คุณก็คงจะชินแล้วล่ะสิ”เย่เชินหลินพูดอย่างเย็นชา คราวนี้ฝู้เฟิ่งหยีตะคอก“หลิน อย่าพูดจาเลอะเทอะ!ถ้าแกยอมที่จะคุยกับพ่อแกดีดี ก็คุยไป แต่ถ้าคุยกันดีดีไม่ได้งั้นแกก็กลับห้องแกไปเลย!”
เย่เชินหลินลุกขึ้น พูดกับฝู้เฟิ่งหยี“‘งั้นแม่ก็พักผ่อนนะครับ ผมกลับห้องก่อน มีอะไรเรียกผมนะครับ”
เขาเดินไปถึงหน้าประตูแล้วหันมาพูดว่า “ประธานเย่ครับ คดีที่หวีซานซานฆ่าโม่เสี่ยวจุน คุณไม่ต้องสืบแล้ว สืบไปก็หาหลักฐานอะไรไม่เจออยู่ดี เซี่ยชีหรั่นเป็นผู้หญิงของผม ผมมีวิธีจัดการของผมเอง ถ้าเธอถามขึ้นมาก็บอกว่าหลักฐานไม่เพียงพอก็แค่นั้น แน่นอนว่ามันก็เป็นเรื่องจริง”
พูดจบเขาก็เปิดประตูเดินออกไปทันที
กลับมายังห้องนอนของเขา เซี่ยชีหรั่นยังคงหลับสนิท เขากวาดสายตาทั่ว และเขาก็มานั่งลงที่โต๊ะคอมฯ ดึงลิ้นชักออกแล้วหยิบบุหรี่ขึ้นมาสูบ
เขารู้สึกหงุดหงิดทุกครั้งหลังที่เขาแกล้งยั่งโมโหเย่เฮ่าหรัน เขากลับรู้สึกหงุดหงิดมากกว่าเดิมเข้าไปอีก
เขาหยิบไฟแช็กขึ้นมาจุดบุหรี่ พอจุดติดเขาก็สูบเข้าไปอย่างหนัก เซี่ยชีหรั่นได้กลิ่นบุหรี่ จึงเผลอไอออกมา เขาเลยดูดอีกสองทีแล้วขยี้ลงบนที่เขี่ยบุหรี่เพื่อดับ
เซี่ยชีหรั่นกลับตื่นขึ้น เธอค่อยๆลืมตาขึ้นมาอย่างยากลำบากเธอกวาดสายตาไปทั่วห้อง ในขณะนั้นฟ้าก็เริ่มสว่างแล้ว ในห้องไม่ได้เปิดไฟแต่ว่ายังคงเห็นได้อย่างชัดเจนว่าเย่เชินหลินนั่งอยู่ที่โต๊ะคอมฯ
“คุณยังไม่ได้นอนหรอคะ?”เธอถามเขาเบาๆ
“อื้ม”เย่เชินหลินตอบกลับ
เขาคงต้องมีเรื่องในใจอยู่แน่ๆเซี่ยชีหรั่น แอบคิดเงียบๆ หลังจากนั้นก็ลุกขึ้นนั่ง
เธอลุกขึ้นนั่งถึงได้รู้ว่า เรือนร่างเธอถูกปิดด้วยผ้าห่มเพียงผืนเดียว คงจะเพื่อให้เธอนอนสบายขึ้น หลังจากที่เขานวดให้เธอเสร็จแล้วเขาก็ไม่ได้ใส่อะไรให้เธอเลย เธอเป็นห่วงเย่เชินหลินเลยไม่มัวมาเขินอาย เธอหยิบกระโปรงที่ถอดไปเมื่อคืนมาใส่อย่างทุลักทุเล ไม่ทันได้ใส่รองเท้าก็รีบร้อนลงจากเตียงวิ่งไปหาเขาที่นั่งอยู่  
“คุณเป็นอะไรรึเปล่าคะ?”เธอถามเขาเสียงอ่อน
“ไม่มีอะไร ไปนอน!”เขาออกคำสั่งเสียงหนัก แต่เซี่ยชีหรั่นกลับไม่ยอมไป เธอยังคงยืนอยู่ข้างๆเขา มือเล็กของเธอยื่นไปที่หน้าของเขา มือทั้งสองข้างของเธอประคองหน้าเขาขึ้น มองเขาด้วยความละเอียดลออ พูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนว่า “คุณรู้ไหมคะ?ว่าทุกครั้งที่ฉันเห็นคุณเป็นทุกข์แบบนี้ ฉันเองก็พลางทุกข์ใจไปด้วย ถ้าคุณไม่ยอมบอกฉันว่าคูณมีเรื่องอะไรในใจที่ทำให้คุณไม่สบายใจ ฉันก็จะไม่ถามค่ะ แต่ให้ฉันอยู่เป็นเพื่อนคุณแบบนี้เถอะนะคะ โอเคไหม?”
ใบหน้าของเธอเต็มเปี่ยมไปด้วยความจริงใจ เขาซึ้งใจมากแต่สีหน้าก็ยังคงไม่ค่อยดีนัก
“ไปนอนเถอะ ผมไม่ได้มีเรื่องทุกข์ใจอะไรเยอะแยะขนาดนั้นสักหน่อย”
“มีค่ะ!”เธอดื้อรั้นพูดต่อ
พูดจบ เธอละมือออกจากหน้าขาและอ้าแขนโอบกอดเขาไว้
หัวของเธอถูไปมาอยู่ที่แผงอกเขา อย่างดกับลูบลูกแมวน้อยอยู่ยังไงยังงั้น ทำเอาเขารู้สึกจั้กกะจี้อยู่ในใจ แต่ก็รู้สึกเพลินดี
“เธอมายั่วฉันแต่เช้าแบบนี้ ไม่กลัวฉันจะจัดการกับเธอหรอ?”เขากระซิบเบาๆที่ข้างหูเธอ
เขาคิดว่าเด็กน้อยนี่คงจะตกใจกลัวแล้ววิ่งหนีไปอย่างกับกระต่ายน้อย แต่เขาคิดไม่ถึงว่าเธอจะผละออกจากเขาและกล้าที่จะสู้สายตาเขาแล้วพูดอย่างแน่วแน่ว่า“ไม่กลัวค่ะ แรงฉันกลับมาแล้วค่ะ”
“นี่เธอท้าฉันหรอ?”เขากระตุกยิ้ม
ถูกต้องแล้ว เธอกำลังท้าทายเขา เธอจงใจที่จะเบี่ยงเบนความสนใจเขา เธอไม่สนว่าเขาจะทำอะไรกับตัวเอง เธอเพียงแค่ต้องการให้เขาลืมเรื่องทุกข์ใจเมื่อครู่นี้ไป
เซี่ยชีหรั่นกระพริบตาใส่เขาอย่างทะเล้น และใช้น้ำเสียงที่ไม่เคยดูมีเสน่ห์แบบนี้มาก่อน ย้อนถามเขา “คุณคิดว่าไงล่ะค่ะ?”
สายตานี้ เห็นได้ชัดว่ามีแรงเหลือหลาย เย่เชินหลินบ่นเสียงต่ำ“เธอมันสมควรตายจริงๆ!”
เขาลุกขึ้นอย่างเร็วแล้วอุ้มเธอขึ้น เดินก้าวไปยังเตียงนอน แล้วโยนเธอขึ้นบนเตียง จนกระโปรงเธอเลิกขึ้น นัยน์ตาเขาลุกโชนไปด้วยไฟราคะและความต้องการ ตอนนี้มองไม่เห็นความโกรธในสายตาเขาแล้วความทุกข์ทั้งหมดที่เขามีมันได้ถูกเธอขับไล่ออกไปจนหมดแล้ว
แน่นอนว่า เธอเองก็ต้องชดใช้ จนแทบหายใจไม่ออกเลยทีเดียว
……
“นอนต่ออีกหน่อยเถอะ”เขาบอกเธออย่างเป็นห่วง เขาเอื้อมมือไปลูบผมที่เต็มไปด้วยเหงื่อของเธอ ท่าทีของเขาอ่อนโยนมาก
“อื้ม”เธอพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง และหลับตาลง
เขานั่งอยู่ริมเตียงนอนอยู่สักพักถึงลุกขึ้นไปอาบน้ำ ได้ยินเธอละเมอพูดพึมพำอยู่ด้านหลัง “ทุกๆนาทีนั้นฉันมีความสุขมาก พอคุณยิ้มขึ้นมามันช่างหน้าหลงไหลเอามากๆเลย”
เขาหันกลับมามองเธอ เธอยังคงหลับตาอยู่ ขนตาเธอทั้งยาวทั้งดกมันกำลังขยับอยู่ แสดงว่าเธอนั้นยังไม่ได้หลับ
เขาเผลอยกมุมปากอมยิ้ม จู่ๆเธอก็ลืมตาขึ้นมา ค่อยๆยิ้มและพูดเบาๆออกมาว่า “แบบนี้สิ มีเสน่ห์ที่สุด”
เขานิ่งไป และเอ่ยขึ้น“เหอะ มีเสน่ห์อะไร รีบนอนเลย!ถ้ายังไม่หลับล่ะก็ฉันจะลงโทษเธอ”
เซี่ยชีหรั่นแลบลิ้นหลอกทะเล้น ท่าทีน่ารัก แต่พอเห็นแววตาเขานิ่งขรึมเธอก็รีบหลับตาลง พูดออกมาอย่างไว “ฉันหลับแล้ว ฉันจะหลับทันทีเลย คุณรีบไปอาบน้ำเถอะ”
เย่เชินหลินเดินไปอาบน้ำอย่างมีความสุข พอเขากลับมาก็พบว่าเธอนอนหลับสนิทไปแล้ว แถมยังมีเสียงกรนออกมาเบาๆด้วย ยัยเด็กน้อยนี่ดูท่าคงจะเหนื่อยจริงๆ
เขานั่งอยู่ริมเตียงครู่นึงก็ลุกเดินไปที่ห้องของมารดา ยาลดไข้ออกฤทธิ์ค่อนข้างไว ตอนนี้หน้าเธอที่แดงเพราะพิษไข้ก็ค่อยๆหายไปแล้ว ดูรวมๆก็ไม่ค่อยน่าเป็นห่วงเท่าเมื่อคืนนี้แล้ว
“คุณแม่ครับ ตอนนี้รู้สึกอย่างไรบ้างครับ?เช้านี้ห้องครัวได้เตรียมโจ๊กกับซาลาเปาผักไว้ให้ คุณแม่ จะทานตอนนี้เลยหรือว่า?”
เจ้าเด็กนี่ดูแลเอาใจใส่แม่ของเขาอย่างละเอียดรอบคอบขนาดนี้ แต่แม่เขากลับเฉยชา เย่เฮ่าหรันหน้าเคร่งเครียด ครุ่นคิดอยู่ในใจและเขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าชาตินี้เขาจะสามารถรอถึงวันที่เขาทั้งคู่จะปรองดองดีกันได้อย่างพ่อลูกคู่อื่นๆได้หรือไม่
ฝู้เฟิ่งหยีพึ่งจะเตือนเขาไปพักใหญ่ เขาเองก็รู้อยู่ว่าเหตุผลที่เย่เชินหลินเคืองเขาคืออะไร ดูจากนิสัยและอารมณ์เขาแล้ว ถ้าไม่ใช่ว่ารู้สึกผิดกับพวกเขาแม่ลูก เขาก็คงจะซัดเย่เชินหลินไปไม่รู้กี่รอบแล้ว
ตอนนั้นใครให้ความผิดพลาดของเขาทำให้ เย่จื่อห้านหายตัวไปล่ะ หลายปีที่ผ่านมาไม่มีวันไหนที่เขาไม่รู้สึกผิดและคิดโทษตัวเองเลย
เย่เชินหลินเองก็เหนื่อยมามากแล้ว เขาไร้ซึ่งคำพูดคำจาดีๆสีหน้าก็ไม่ค่อยดีนัก และฝู้เฟิ่งหยีเองบางครั้งที่ได้ข่าวคราวของเย่จื่อห้าน เธอก็จะล้มป่วยลงอยู่เรื่อย ทำให้เขาที่คอยอยู่ข้างเธอเสมอก็พลอยเป็นห่วงไปด้วย
เขาไม่เคยละความพยายามที่จะตามหาเย่จื่อห้าน แต่ว่ามันไม่มีเบาะแสอะไรเลยแม้แต่น้อย อายุเขาก็มากขึ้นเรื่อยๆ เขาหวังว่าลูกชายอีกคนเขาจะกลับมา
“ฉันยังไม่อยากกิน พวกเธอกินก่อนเถอะเดี๋ยวฉันค่อยกิน อาหลิน พ่อแกมาตั้งแต่เช้ามืดขนาดนี้ เขาคงยังไม่ได้กินอีกสักพักแกก็พาเขาไปทานข้าว”
เย่เชินหลินเหร่ไปมองไปที่เย่เฮ่าหรัน แต่กลับตอบรับอย่างรวดเร็ว “ได้ครับ แม่วางใจได้”
ไม่นานนักพ่อบ้านก็มาเคาะประตู บอกว่าได้จัดเตรียมอาหารเช้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว เชิญประธานเย่และคุณเย่ไปรับประทานอาหาร
พอด้านนี้ตอบรับ เขาก็เดินไปยังห้องอื่นเพื่อบอกกับทุกคนให้รับประทานอาหารเช้า
เซี่ยชีหรั่นเองก็ถูกเสียงของพ่อบ้านที่เรียกอยู่หน้าห้องปลุกให้ตื่น เธอรู้ว่าถ้าเธอนอนต่อเดี๋ยวเย่เชินหลินก็ให้จิ่วจิ่วเอาอาหารเช้ามาเสิร์ฟให้
ทั้งร่างกายและจิตใจของฝู้เฟิ่งหยีนั้นไม่ค่อยสู้ดีนัก เธอก็ไม่อยากจะทำให้เธอไม่พอใจ ดังนั้นเธอจึงหอบร่างที่ปวดเมื่อยนั้นลุกขึ้นมา ถ้าจะให้อาบน้ำก็คงไม่ทันเธอจึงทำได้แค่หลังทานอาหารแล้วค่อนว่ากัน
เธอห่อตัวด้วยผ้าขนหนูผืนเดียวเดินกลับห้องไปเปลี่ยนชุด แปรงฟัน และก็จัดการกับภาพลักษณ์ของตัวเองเสร็จ เธอก็ดิ่งไปที่ห้องอาหารทันที ปรากฏว่าทุกคนมาถึงแล้ว
ฝู้เฟิ่งหยีบอกแล้วว่ายังมาทาน อีกสักครู่เย่เชินหลินก็คงจะให้คนจัดสำรับไปให้เธอที่ห้อง นอกจากฝู้เฟิ่งหยีแล้ว ทุกคนก็อยู่กันครบ
เย่เชินหลินตั้งใจจัดการให้เป็นเรื่องใหญ่ ดังนั้นคนรับใช้ทุกคน ไม่ว่าจะเป็นคนเก่าหรือคนมาใหม่ก็รวมตัวกันอยู่ที่ห้องอาหาร รวบไปถึงรปภ.เองกต่างมายืนรอรับฟังคำสั่งอยู่ ณ ที่นี้ บรรยากาศรอบๆห้องอาหารนั้นราวกับว่าอัดแน่นไปด้วยผู้คนมากมาย
เซี่ยชีหรั่นสงสัยว่าทำไมต้องทำให้มันเอิกเกริก ขนาดนี้ แต่พอมองไปยังโต๊ะอาหารก็เห็นเย่เฮ่าหรัน เธอจึงรู้ว่าทั้งหมดนี้เป็นเพราะ เย่เฮ่าหรันอยู่
เธอรีบเดินไปนั่งยังที่นั่งที่เธอนั่งประจำอย่างรวดเร็ว เห็นว่าสองพ่อลูกกำลังจ้องกันไปมาตาเขม็ง สีหน้าก็ไม่ค่อยดีนัก
เธออยากที่จะพูดอะไรกับเย่เชินหลินนิดหน่อย แต่สถานการณ์เธอตอนนี้มันทำให้เธอไม่มีสิทธิ์พูดอะไร
ทำได้แค่ส่งสายตาสื่อสารกับเขา แต่เย่เชินหลินก็ไม่แม้แต่จะมอง เขามัวแต่จ้องหน้าเย่เฮ่าหรันอยู่พลางยิ้มเยาะเย้ย
เย่เฮ่าหรันตอนนี้โมโหมาก โมโหที่เย่เชินหลินจัดการได้สิ้นเปลืองแบบนี้หลายครั้งที่เขาคิดอยากที่จะตำหนิเย่เชินหลิน แต่ทุกครั้งเขาก็พยายามที่จะอดกลั้นเอาไว้
เย่เชินหลินก็มองออกว่าเขานั้นใกล้จะระเบิดออกมาเต็มทีแล้ว และสิ่งที่เขาอยากเห็นก็คือพ่อของเขาระเบิดอารมณ์ออกมานั้นเอง และเขาเองก็กำลังจะหาโอกาสนั้นอยู่
สถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวานเช่นนี้ยังคงดำเนินต่อไป บรรยากาศค่อนข้างที่จะน่าอึดอัด พ่อบ้านทำได้แค่ร้อนใจ แต่ก็ไม่มีใครที่จะกล้าออกมาพูดอะไร ส้งหลิงหลิงเห็นทั้งคู่กำลังจะตีกันอยู่ลอมล่อ เธอจึงรีบยิ้มออกมาและพูดด้วยย้ำเสียงอ่อนโยน “คุณลุงเย่คะ ทานอาหารเช้ากันเถอะนะคะ”
เขามองไปยังลูกสะใภ้ในอนาคตของตน เย่เฮ่าหรันจึงตัดสินใจ ปล่อยไป ช่างมันเถอะไม่เอาเรื่องเจ้าเด็กเหลือขอนี่แล้ว
“โอเค งั้นทานข้าวเถอะ”เย่เฮ่าหรันพูดเสียงหนัก ในขณะที่มือของทุกคนกำลังจะยื่นไปยังอาหารที่อยู่เบื้องหน้า เย่เชินหลินกล่าวพูดขึ้นมาว่า “อย่ารีบร้อน ผมยังไม่ได้แนะนำอย่างเป็นทางการเลย”
เขาพูดเสร็จก็หันไปยังเย่เฮ่าหรัน และกวาดสายตาไปยังหญิงสาวบางคนที่นั่งอยู่ในที่นี้ แล้วก็ค่อยๆพูดอย่างช้าๆ“ท่านนี้ทุกคนรู้จักดีนะครับ คือท่านประธานแห่งเมืองหลินเจียงของพวกเราเองครับและก็เป็นคุณพ่อของผมด้วย และพวกคุณทั้งหลายควรที่จะเรียกเขาว่า คุณพ่อ เอ้า เรียกพร้อมกันนะครับว่าคุณพ่อ เพื่อเป็นการต้อนรับท่านประธานเย่นะครับ!”
เมื่อเขาพูดจบ มือของเย่เฮ่าหรันเริ่มสั่น
เย่เฮ่าหรันลุกพรวดขึ้นมามองลูกชายตัวเองด้วยความโกรธ น้ำเสียงฟังดูไม่ค่อยดีนัก “ไหนแกพูดใหม่สิว่า พวกเธอเป็นอะไรของแกนะ?”
“เป็นผู้หญิงของผมไงครับ ทั้งหมดเป็นผู้หญิงของผม นี่คือคู่หมั้นผม พ่อรู้จักอยู่ และก็ยังมีนี่คือเซี่ยชีหรั่น คนที่เมื่อคืนนอนอยู่ที่ห้องผม คนนั้นเหอเหวิน ผมพากลับมาจากไนท์คลับ ส่วนคนนี้ ฟางลี่น่าเดิมทีเป็นคนใช้ของผม แต่หลังจากได้นอนกับผมแล้ว เธอก็กลายมาเป็นผู้หญิงของผม เป็นยังไงบ้างครับสามารถที่จะควบคุมบรรดาผู้หญิงไว้ได้อย่างอยู่หมัดแบบนี้ ผมก็มีความสามารถเหมือนกันใช่ไหมล่ะ”เย่เชินหลินมองตอบเย่เฮ่าหรันกลับไปอย่างท้าทาย ทำเอาเย่เฮ่าหรันโมโหจนตบโต๊ะดังปัง

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset