สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 322 สาวใช้ตัวแสบ 226

ตอนที่ 322 สาวใช้ตัวแสบ 226
จิ่วจิ่วก็นึกถึงเรื่องโทรศัพท์ขึ้นได้ แถมยังมองอารมณ์ของเซี่ยชีหรั่นออก เธอหัวเราะและพูดออกมา: “คุณเย่คงไม่ได้จงใจให้เธอ ออกไปซื้อโทรศัพท์ให้ฉันหรอกนะ? ดูจากสถานการณ์แล้วคุณนายใหญ่ของเราก็มีหน้ามีตาเหมือนกันนะเนี่ย ไม่งั้นสาวใช้ธรรมดาอย่างฉัน จะมีโอกาสแบบนี้ได้ที่ไหน”
ช่วงนี้หลินหลิงกลายเป็นผู้จัดการพิเศษฝ่ายหญิงให้เย่เชินหลินไปแล้ว เดี๋ยวก็ให้เสื้อผ้าผู้หญิงคนนี้ เดี๋ยวก็ให้เสื้อผ้าผู้หญิงคนนั้น เธอค่อนข้างจะเบื่อ แต่ก็ไม่สามารถตอบโต้อะไรได้
“ให้ คุณเย่ให้ฉันเอามาให้เธอ แล้วก็ คุณเย่ยังบอกอีกว่า ต่อไปนี้เธอสามารถเข้าออกบ้านได้ตามใจ ถ้าเธอต้องการ ไม่ต้องบอกเหตุผล เธอสามารถบอกกับพ่อบ้านได้เลย เรียกให้เขาเอารถให้เธอ”
“ไม่จริงใช่มั้ย?” จิ่วจิ่วรับโทรศัพท์จากหลินหลิง รู้สึกไม่น่าเชื่อ
“นี่ เธอไม่ได้เข้าใจผิดใช่มั้ย? น่าจะเป็นคุณนายใหญ่ที่สมควรมีอิสระเข้าออกแถมใช้รถได้ตามใจ ทำไมเป็นฉันล่ะ?”
หลินหลิงทำท่าทางเชิงธุรกิจ พูดออกมาเสียงเรียบ: “ฉันได้รับคำสั่งมา ว่าให้จิ่วจิ่วสามารถเข้าออกได้ตามใจ อย่างอื่นถ้าเธอสงสัยสามารถไปถามคุณเย่ได้ด้วยตัวเอง ฉันพูดหมดเรียบร้อยแล้ว ขอตัวก่อน”
“นี่ ผู้ช่วยหลิน…” จิ่วจิ่วยังไม่รู้เรื่อง อยากจะยิงคำถามต่อ แต่ว่าเซี่ยชีหรั่นดึงเธอไว้ พูดว่า: “รีบขอบคุณผู้ช่วยหลิน เธอต้องเดินทางตั้งไกล เพื่อที่จะเอาโทรศัพท์มาให้เธอนะ”
“มันก็จริง ขอบคุณค่ะผู้ช่วยหลิน”
“ไม่จำเป็น ฉันก็ไม่ได้มาเพราะเธอ ฉันมาเพราะคุณเย่สั่งฉัน” หลินหลิงดูเหมือนจะเริ่มหงุดหงิด พูดจบก็ไม่ได้ทำท่าทีว่าจะอยู่ต่อ แล้วจึงเดินออกไป
หลังจากที่เธอเดินออกไป จิ่วจิ่วก็ไม่ได้รีบร้อนที่จะดูโทรศัพท์ เธอยังคงมองเซี่ยชีหรั่นด้วยความสับสน และถามเธอ: “ไหนเธอลองพูด นี่มันเกิดอะไรขึ้นอ่ะ ทำไมฉันยังคิดอยู่ว่าเธอเข้าใจผิดหรือเปล่า มันน่าจะเป็นเธอที่ควรมีอิสระออกไปไหนมาไหน”
“ยัยนี่ เมื่อกี้เธอยังบอก ให้ฉันไปเป่าหูเขาว่า ให้เธอได้ออกไปข้างนอกเดินๆบ้างไม่ใช่เหรอ?”
“อุ้ย ที่เธอพูดก็ไม่ผิด แต่เธอยังไม่ได้ไปเป่าหูเขาเลยนี่ อยู่ดีๆเขาก็มาทำดีกับฉัน ฉันไม่ค่อยชิน รู้สึกกลัวๆ”
คำพูดของจิ่วจิ่วทำให้เซี่ยชีหรั่นนึกถึงคำพูดของเย่เชินหลินเมื่อครั้งก่อน ว่าให้ไปทำงานกะกลางคืนที่ห้องเขา
สิ่งที่นึกขึ้นได้ทำให้เธอรู้สึกไม่ค่อยดี แต่ว่าไม่นานเธอก็สะบัดความคิดนี้ทิ้งไปได้ เย่เชินหลินคนนี้ถึงแม้จะทำอะไรไม่เหมือนที่คนปกติเขาทำกัน แต่จิ่วจิ่วเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเธอนะ เขาคงจะไม่ทำอะไรเกินไปนะ?
“ไม่เป็นไร เขาอาจจะคิดว่าเธอน่ารักดี ไม่รู้สึกอันตราย เพราะงั้นจึงให้สิทธิพิเศษกับเธอ ไม่ต้องคิดมาก เสี่ยวหนงก็เป็นแบบนี้เหมือนกัน อยากมาก็มา อยากไปก็ไป แค่พูดคำเดียวก็สามารถไปเอารถที่พ่อบ้านได้เลย”
เหตุผลนี้ใช้เพื่อพูดให้จิ่วจิ่วสบายใจ เธอพยักหน้ารัวๆ “ใช่ใช่ใช่ เป็นแบบนี้แหละ เสี่ยวหนงเป็นน้องสาวของเธอ ฉันเป็นเพื่อนที่ดีของเธอ คุณชายใหญ่ทำแบบนี้ ทั้งหมดก็เพราะคุณนายใหญ่ ไม่มีทางมีความหมายอื่น เป็นฉันที่คิดอะไรไร้สาระ เฮ้อ นิสัยชอบคิดไปเองของฉันคงต้องแก้ดีๆแล้วแหละ”
“โอเค รีบไปดูโทรศัพท์เครื่องใหม่เถอะ ดูว่ากล้องพิกเซลเยอะไหม อย่าให้ฝีมือของช่างภาพมืออาชีพอย่างเธอเสียเปล่า” เซี่ยชีหรั่นยิ้มแล้วจึงตบไปที่มือของจิ่วจิ่ว
จิ่วจิ่วอารมณ์เปลี่ยนอย่างรวดเร็ว แล้วเดินไปดูอย่างเร็วเหมือนกัน ตอนนี้เธอเบี่ยงเบนความสนใจไปที่โทรศัพท์เครื่องใหม่
“ชีหรั่น แบบนี้เราก็สะดวกแล้ว บอกเบอร์เธอมา ฉันก็จะบอกเบอร์ให้เธอ ต่อไปตอนที่ฉันไม่ได้อยู่ข้างเธอ มีเรื่องอะไรเธอก็โทรหาฉันได้แล้ว”
“โอเค” เย่เชินหลินเคยสั่งไว้ว่า โทรศัพท์ของเธอสามารถติดต่อเขาได้เพียงคนเดียว เธอคิดว่า เขาก็รู้สึกดีกับจิ่วจิ่ว แถมพวกเธอก็ยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน เขาคงจะไม่โกรธหรอกมั้ง
ทั้งสองได้แลกเบอร์กัน จิ่วจิ่วหยิบกล่องโทรศัพท์ขึ้นแล้วกลับไปห้องพักพนักงาน เธอบอกจะกลับไปศึกษา คุณสมบัติสูงๆพวกนั้น
เมื่อเงียบลง เซี่ยชีหรั่นก็คิดถึงแต่เย่เชินหลินวนไปวนมา แต่ว่าจนถึงเย็นเขาก็ไม่ได้กลับมา
ตกดึก เซี่ยชีหรั่นลุกขึ้นไปยังหน้าประตูห้องเขาครั้งนับไม่ถ้วน แต่ก็ไม่ได้ยินเสียงของเขาเลย เขาดึกดื่นไม่ยอมกลับบ้าน
เพราะว่าเมื่อตอนสายมีเรื่องที่หลินหลิงเอาโทรศัพท์มาให้ อย่างน้อยก็ยังรู้ว่าเขาปลอดภัย ดังนั้นเธอจึงคิดว่า เขาอาจจะแค่โกรธ จึงจงใจหลบหน้าเธอ
ตอนตีสี่ เป็นเวลาที่มืดที่สุดก่อนพระอาทิตย์จะขึ้น เซี่ยชีหรั่นก็ลุกขึ้นจากเตียงไปดูที่หน้าห้องของเย่เชินหลินอีกครั้ง เขาก็ยังไม่กลับมา ในขณะที่เธอกำลังจะหันหลังกลับห้องไปนั้น อยู่ดีๆก็มีเสียงสะอื้นดังขึ้น
บ้านทั้งหลังอยู่ในความเงียบ เสียงร้องไห้นี้จึงฟังดูน่ากลัว เซี่ยชีหรั่นตกใจ แต่ก็ไม่ได้วิ่งกลับห้อง แต่ว่าเธอตั้งใจฟังเสียงนั้นอย่างเงียบๆ เหมือนมันจะดังออกมาจากห้องของเหอเหวิน
ดึกขนาดนี้ ทำไมเธอถึงร้องไห้เสียใจขนาดนี้?
เซี่ยชีหรั่นเดินไปทางห้องของเธอ และหยุดลงที่หน้าประตูห้องแล้วจึงเคาะประตูอย่างเบามือ
“เหอเหวิน ฉันชีหรั่น เธอมีอะไรให้ฉันช่วยมั้ย?”
เสียงร้องไห้ข้างในหยุดลง ผ่านไปไม่นาน เธอก็ได้ยินเสียงของเหอเหวินแนบประตูพูดกับเธอ: “ชีหรั่น เธอกลับไปนอนเถอะ ไม่เป็นไร ฉันแค่ฝันร้าย”
“กลัวหรอ? ฉันอยู่เป็นเพื่อนนะ!”
ถึงแม้เซี่ยชีหรั่นไม่ได้ยกให้เหอเหวินเป็นเพื่อนที่ดีนัก แค่เป็นเพราะว่าเธอก็เป็นผู้หญิงของเย่เชินหลิน ระหว่างพวกเธอจึงมีความขุ่นเคืองใจกันเล็กน้อย
แต่เธอก็มองออกว่าเหอเหวินไม่ได้มีเจตนาร้ายกับเธอ แม้แต่ข้าวที่ตัวเองไม่กิน ก็ยังยกมาให้เธอ ได้ยินเหอเหวินดึกดื่นร้องไห้ แถมยังได้ยินเธอบอกว่าฝันร้าย เซี่ยชีหรั่นก็อดไม่ได้
“ไม่เป็นไร ฉันโอเค” เสียงของเหอเหวินอู้อี้มาก ฟังดูก็รู้ว่าร้องไห้หนักมาก
“ถ้ามีอะไรก็บอกฉันนะ ยังไงฉันก็ยังไม่ได้นอน” เซี่ยชีหรั่นพูดอีกครั้ง เหอเหวินก็ยังพูดคำเดิม: “ไม่เป็นไรจริงๆ ฉันโอเค เธอรีบกลับไปเถอะ”
“งั้นก็โอเค ถ้าเธออยากได้คนอยู่เป็นเพื่อน เธอก็มาหาฉันได้ตลอดนะ ฉันกลับก่อนนะ”
“อืม”
เซี่ยชีหรั่นกลับถึงห้อง ในใจก็ยังคิดว่าทำไมเหอเหวินถึงต้องร้องไห้นะ พูดว่าฝันร้าย ตื่นแล้วก็ไม่น่าจะร้องไห้เสียใจขนาดนี้
เธอเหมือนจะนึกขึ้นมาได้เรื่องที่เคยพูดกับเหอเหวิน ว่าต้องถนอมความรู้สึกที่มีต่อเย่เชินหลินไว้ พรหมลิขิตไม่ได้รอใคร หรือว่าจะเป็นเพราะเรื่องความรัก?
เธอเสียใจอย่างช่วยไม่ได้ เรื่องที่สามารถทำให้ผู้หญิงเสียใจที่สุดในโลกนี้ และทำให้ผู้หญิงดีใจ ไม่มีอะไรนอกจากความรัก
เซี่ยชีหรั่นไม่ได้รู้สึกง่วงเลย เธอมองเพดานห้องอย่างเหม่อลอย ไม่นาน เธอได้ยินประตูห้องของเธอถูกเคาะเบาๆ เดาว่าเหอเหวินน่าจะทนไม่ไหว อาจจะมาหาเธอเพื่อระบาย เธอลุกขึ้นจากเตียงอย่างรีบร้อน ด้วยความเคยชิน เธอถามออกไปว่าเป็นใคร พอได้ยินว่าเป็นเหอเหวินจริงๆ เธอจึงเปิดประตูอย่างลุกลี้ลุกลน
ตาของเหอเหวินที่ร้องไห้ทั้งแดงทั้งบวม ทั้งตัวดูซีดเซียว พูดได้ว่าคงร้องไห้มาทั้งคืนแล้ว แค่ตัวเธอไม่ได้รู้สึกตัว
“เข้ามาสิ!” เซี่ยชีหรั่นพูด เห็นเธอสวมชุดบางๆตัวเดียว เซี่ยชีหรั่นจึงพูดกับเธอ: “ไปที่เตียงของฉันเถอะ พวกเรานั่งห่มผ้าแล้วคุยกันเถอะ”
“อือ!” เหอเหวินพยักหน้า
ทั้งสองนั่งห่มผ้า กลัวว่าเธอจะหนาว เซี่ยชีหรั่นจึงหยิบผ้าอีกผืนมาห่มคลุมเท้าเธอไว้
“ชีหรั่น ฉันอยากจะบอกความจริงกับเธอ” เหอเหวินอยู่ดีๆก็เอ่ยขึ้น
“อือ โอเค พูดเถอะ”
“เธอต้องรักและใส่ใจคุณเย่ดีๆนะ พวกเราทั้งหมดดูออก เขาชอบเธอด้วยใจจริง ฉันจะบอกเธอว่า ที่เขามาหาฉัน ก็เพื่อจะให้เธอกระวนกระวาย ทำให้เธอหึง คืนนั้นฉันโดนด่าที่หน้าประตูไนท์คลับ ถึงได้เจอคุณเย่กับหลินต้าฮุยเดินผ่านมาพอดี คุณเย่รู้ว่า เพื่อที่จะพาพ่อไปหาหมอ ฉันขาดเงินเพราะงั้นถึงได้ไปที่ไนท์คลับ เขาจึงเรียกให้หลินต้าฮุยยื่นข้อเสนอให้ฉัน แลกกับการที่เขาจะดูแลรักษาพ่อ ฉันต้องมาเป็นผู้หญิงของเขาที่นี่ แต่ว่าผู้หญิงที่ว่านี้ไม่ใช่อย่างที่เธอคิด พวกฉันไม่เคยมีความสัมพันธ์อะไรแบบนั้นเลย ครั้งเดียวก็ไม่มี ตอนนั้นเขาก็บอกกับฉันอย่างละเอียด ก็แค่แกล้งทำ”
เธอพูดถึงตรงนี้ เซี่ยชีหรั่นรู้สึกแปลกใจจริงๆ เป็นเพราะหลายครั้งที่เธออยู่ในห้องของเขา แถมยังมีเสียงอย่างว่าดังออกมา และ เธอก็คิดไม่ถึงว่าเย่เชินหลินจะพยายามทำเพื่อเธอขนาดนี้
“ที่จริงฉันก็อยากบอกเธอตั้งนานแล้ว ครั้งก่อนในสวนฉันก็อยากจะพูดกับเธอเรื่องนี้ เสียดายที่ฉันรับปากคุณเย่ไว้ ว่าต้องเก็บเป็นความลับ แต่ว่าตอนนี้….” เหอเหวินส่ายหน้าไปมา แล้วพูดว่า: “สรุปว่า ฉันรู้สึกขอบคุณคุณเย่มาก และก็ขอบคุณเธอด้วย ได้โปรดเธอต้องคบกับเขาดีๆนะ ไม่งั้นฉันคงจะรู้สึกไม่ดีต่อเขามากๆ”
เหอเหวินพูดออกมาหมดทำให้เซี่ยชีหรั่นไม่ค่อยเข้าใจ แต่ว่าเธอสามารถเห็นความลนลานได้จากสายตาของเหอเหวิน บางทีอาจเป็นเพราะเธอกำลังสับสนอยู่ เซี่ยชีหรั่นไม่อยากจะยิงคำถามต่อ เธออยากจะฟังเหอเหวินพูดมากกว่า
เซี่ยชีหรั่นพยักหน้า แล้วตอบรับอย่างให้ความร่วมมือ “อือ ฉันจะรักและใส่ใจเขา เธอบอกฉันได้มั้ย ว่าทำไมเธอถึงร้องไห้?”
“เพราะว่า! เพราะว่า!” เหอเหวินเริ่มลนลาน ถึงกับพูดเพราะว่าออกมาสองครั้งติด พอพูดจบ เซี่ยชีหรั่นคิดว่าเธอจะบอก ใครจะรู้เธอทำปากขมุบขมิบ สุดท้ายก็ไม่พูด
“โอเคชีหรั่น ขอบคุณที่ฟังฉันพูดนะ ฉันกลับและ จำสิ่งที่ฉันพูดกับเธอไว้นะ ต้องรักและเอาใจใส่คุณเย่ดีๆนะ”
เซี่ยชีหรั่นเป็นคนที่ไม่ชอบบังคับให้ใครพูดในสิ่งที่เขาอึดอัดใจ ที่เธอไม่พูด แสดงว่าเธอก็มีเหตุผลของตัวเอง
ดังนั้นถ้าเธอจะกลับ ชีหรั่นก็ไม่ได้ยื้อเธอ เธอแค่ไปส่งเหอเหวินกลับถึงห้องเพื่อความอุ่นใจ
“เหอเหวิน ถ้าเธอนอนไม่หลับ แล้วอยากจะหาเพื่อนคุย เธอก็กลับไปหาฉันนะ ฉันนอนไม่หลับ”
“อือ ขอบคุณนะชีหรั่น ได้รู้จักเธอและคุณเย่ฉันรู้สึกเป็นเกียรติที่สุดในชีวิต” เหอเหวินพูดพลางยิ้มไป ลึกไปในตาของเธอยังมีความรู้สึกเศร้าสร้อย เซี่ยชีหรั่นอยู่ดีๆก็รู้สึกถึงลางไม่ดี
“เธอเป็นอะไร? มีอะไรก็พูดออกมาเถอะ อย่าเอาแต่เก็บไว้ในใจเลย”
เหอเหวินส่ายหัวไปมา พลางพูดว่า: “ไม่มีอะไร ไม่มีอะไรจริงๆ เธอรีบไปนอนเถอะ”
เซี่ยชีหรั่นออกมาจากห้องของเหอเหวิน จนเมื่อกลับไปถึงห้องเธอก็ยังรู้สึกไม่วางใจ รู้สึกได้ว่าเหอเหวินแปลกๆ ผ่านไปสักพัก เธอก็ลุกขึ้นจากเตียงไปฟังเสียงของเหอเหวิน ไม่ได้ยินเสียงร้องไห้แล้ว
เธอคิดว่า บางทีช่วงนี้เธอกับเย่เชินหลินเกิดเรื่องด้วยกันขึ้นมากมาย จนตัวเองเหมือนประสาทเล็กน้อย

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Recommended Series

Comment

Options

not work with dark mode
Reset