สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 326 สาวใช้ตัวแสบ 230

ตอนที่ 326 สาวใช้ตัวแสบ 230
ในขณะที่เธอกำลังคิดอยู่นั้น ก็มีหมาตัวนึงวิ่งเข้าไปหาเธอ หมาน้อยตัวเล็กมาก ก้อนสีขาวนุ่มๆ เหมือนกับกระต่ายน้อยสีขาว ไม่ต้องให้พูดว่าน่ารักขนาดไหน อาจจะเป็นเพราะว่ายังเล็กอยู่ ถึงวิ่งไม่แข็ง แต่ว่ายิ่งเป็นแบบนี้ยิ่งทำให้เห็นแล้วรู้สึกดีสุดๆ
จิ่วจิ่วนั่งยอง กำลังจะเล่นกับเจ้าตัวน้อย แต่ยังไม่ทันได้จับมัน เจ้าตัวน้อยก็โดนมือดำใหญ่อุ้มขึ้น
“นี่ เขายังเล็กอยู่ นุ่มนวลหน่อยไม่ได้…..” จิ่วจิ่วพูดได้แค่ครึ่งประโยค เธอเงยหน้าขึ้นมอง พระเจ้าคะ ทำไมเป็นนายหห้ามุ่ยอีกแล้ว เขาไม่ชอบผู้หญิงนะ ทำไมต้องบังเอิญเจอเขาตลอดเลยด้วยเนี่ย ทำเหมือนเธอกำลังสะกดรอยตามเขาอย่างงั้นแหละ
ใครจะรู้ว่าอีกฝ่ายไม่ได้สนใจว่าเธอจะตามมาหรือเปล่าเลย ครั้งนี้ก็ไม่ได้ชายตามองเธอเหมือนเดิม เขาหันหลังเดินกลับไปพร้อมกับถือน้องก้อนกลมสีขาวนั้นในมือ
สิ่งที่อยู่ในมือใหญ่ของเขา เหมือนยังอยากที่จะเล่นกับเธอ ดวงตากลมโตสีดำมองเธออย่างละห้อย แถมยังครางออกมา: “หงิงๆ….”
ใจของจิ่วจิ่วโดนเสียงร้องของน้องหมาตัวนั้นทำให้อ่อนยวบ เหมือนสัญชาตญาณความเป็นแม่ทำนองนั้น ตอนนี้เธอตัดสินใจแล้วว่าจะพาน้องหมากลับบ้าน เลี้ยงด้วยกันกับเซี่ยชีหรั่น
ชายผู้นั้นเดินก้าวไปข้างหน้าไม่กี่ก้าว ก็เข้าไปในร้านร้านหนึ่ง จิ่วจิ่วเดาว่าหมาน้อยตัวนั้นเอาไว้ขาย ไม่ใช่น้องหมาที่ผู้ชายเย็นชาคนนั้นเลี้ยงไว้ แล้วก็เป็นแบบนั้น เธอเดินเข้าไปในร้าน ก็เห็นว่าในร้านไม่ได้มีเพียงแค่หมาน้อยตัวเมื่อกี้ตัวเดียว ยังมีตัวอื่นอยู่อีก
ร้านนี้ก็ดูกว้างขวาง ในตลาดขายนกนี้ ก็ถือว่าเป็นอันดับหนึ่งอันดับสอง
ในร้านไม่ได้มีแค่น้องหมา ยังมีเต่า ปลาทองแล้วก็สัตว์เลี้ยงอื่นๆ แถมยังมีดอกไม้และพวกพืชอีก
จิ่วจิ่วเดาว่าผู้มีพระคุณของเขาต้องเป็นพนักงานทั่วๆไปอยู่ที่นี่แน่ๆ หลังจากที่เข้ามาในร้านก็พาน้องหมากลับไปไว้ในกรงเล็กๆ จากนั้นจึงหันกลับมาวุ่นกับกระถางอันใหญ่สุดๆที่เขาเพิ่งยกกลับมา
จิ่วจิ่วนั่งยองลง แล้วพูดกับน้องหมาผ่านกรง ด้วยเสียงเบา: “หนูน่ารักจังเลย พี่สาวพาหนูกลับบ้านดีมั้ยเอ่ย?”
“หงิงๆ…” น้องหมายังเล็กอยู่จริงๆ ร้องออกมาก็ไม่ใช่โฮ่งๆแบบหมาที่โตแล้วเห่า แต่กลับเป็นเสียงเหมือนเด็กน้อยที่กำลังอ้อน
จิ่วจิ่วสรุปเองว่าน้องหมาตกลงแล้ว จึงยืนขึ้นแล้วหันไปพูดกลับผู้ชายหน้ามุ่ย: “หมาตัวนี้ราคาเท่าไหร่? ฉันซื้อ”
ชายผู้นั้นไม่สนใจเธอ
“นี่ นายเปิดร้านไม่ใช่จะทำธุรกิจหรอกเหรอ? ฉันถามนายว่าหมาสีขาวตัวนั้นราคาเท่าไหร่ ฉันจะซื้อ!”
“ฉันไม่ขายให้เธอ!” ชายผู้นั้นแม้แต่หน้าก็ยังไม่เงย ก็กระแทกคำพูดเย็นชาออกไป
“โอ้โห นายนี่ยังไง ฉันไม่ได้มาก่อกวนนายนะ และก็ไม่ใช่เพราะว่านายถึงซื้อด้วย ทำไมถึงไม่ขาย? ฉันชอบมันแล้ว ฉันจะซื้อ! ถ้านายไม่ขาย ฉันก็จะนั่งอยู่ตรงนี้ รอเจ้าของร้านนายกลับมา ฉันจะฟ้องเขาถึงสิ่งที่นายทำ บอกเขาว่านายปฏิเสธลูกค้า!”
จิ่วจิ่วได้โอกาสเถียงกลับ และดึงเชิงกลับมาแล้ว
เธอเอามือเท้าเอวและจ้องไปยังผู้ชายหน้ามุ่ย ไม่ทันได้ยินเสียงฝีเท้าจากด้านหลัง
“ผมเป็นเจ้าของร้านนี้ครับ คุณผู้หญิงท่านนี้ มีเรื่องอะไรงั้นเหรอครับ?” จิ่วจิ่วหน้ากลับไป ก็เห็นผู้ชายผิวขาวเดินมาทางเธอ เขามีรอยลักยิ้มน้อยๆอยู่บนหน้า เหมือนกับเธอ ทั้งที่ไม่ได้ยิ้มแต่ก็ดูเหมือนว่ากำลังยิ้มอยู่ ถึงแม้จะมีลักยิ้ม แต่ก็เป็นลักยิ้มน้อยๆ ไม่ได้ทำให้เขาดูสาว
“พนักงานคนนี้ของร้านคุณ ไม่มีใจบริการ ฉันถามเขาว่าน้องหมาสีขาวตัวนี้ราคาเท่าไหร่ เขาก็ไม่บอกฉัน แถมยังปฏิเสธฉันอีก!”
ถึงแม้ผู้ชายหน้าขาวจะดูอบอุ่นและเป็นมิตร แต่ก็ไม่ได้พัดความไม่พอใจของจิ่วจิ่วให้หายไป
เธอไม่เชื่อว่าต่อหน้าเจ้าของร้าน ผู้ชายคนนั้นจะวางมาดต่อไปได้ เธอรอให้เขาขอโทษเธอที่เสียมารยาท ทำให้เขาเสียใจที่เสียมารยาทต่อผู้ที่สวยและใจดีแบบนี้
ผู้ชายหน้าขาวหัวเราะออกมา แล้วพูดว่า: “เขาไม่ใช่พนักงานของที่นี่หรอกครับ เขาเป็นหุ้นส่วนของร้านครับ ปกติเขาเป็นคนที่ไม่ค่อยชอบพูดคุยกับผู้หญิง ขออภัยด้วยนะครับ คุณต้องการน้องหมาตัวนี้หรอครับ? ตาดีจริงๆเลย งั้นเอาแบบนี้ ผมจะขายให้คุณราคาพิเศษเลยครับ”
หุ้นส่วน….จิ่วจิ่วกัดริมฝีปากอย่างไม่ชอบใจ ในใจคิด ถ้าเป็นหุ้นส่วน ก็เลิกคิดว่าเขาจะขอโทษเธอไปได้เลย
ความหงุดหงิดนี้ไม่มีที่ลง จิ่วจิ่วจึงพูดกับชายหน้าขาว “ปฏิเสธการขาย นี่มันรังแกลูกค้าไม่ใช่เหรอ นายบอกขายฉันราคาพิเศษ ฉันจะรู้ได้ไงว่ามันเป็นราคาพิเศษจริงหรือเปล่า นายก็แค่ปกป้องเขา”
ชายหน้าขาวยังยิ้มอยู่เหมือนเดิม และพูดกับเธออย่างอ่อนโยน: “งั้นผมยกให้คุณเลย ถือว่าเป็นการไถ่โทษ แบบนี้โอเคมั้ยครับ?
เขาทำแบบนี้ ทำให้จิ่วจิ่วรู้สึกเกรงใจขึ้นมา หน้าแดงๆ พูดเสียงอ่อย: “ฉันล้อเล่นหรอกน่า ฉันไม่ชอบเอาเปรียบคนอื่น”
“เป็นคนดีจังนะครับ ผู้หญิงแบบนี้น่ารักที่สุดเลย” ชายหน้าขาวพูดชมเธออย่างอัตโนมัติ
จิ่วจิ่วเริ่มใจเย็นลง เอามือเท้าเอวและมองไปยังผู้มีพระคุณหน้ามุ่ย พลางพูดในใจ เป็นความดีของฉันหรือยัง
แต่สิ่งที่ทำให้เธอท้อใจก็คือ เขาไม่ได้มองเธอเลย และก็ไม่ได้ฟังที่เธอพูดเลยสักนิด พอเขาจัดแจงกระถางดอกไม้เสร็จก็ยกมันออกไป ทิ้งไว้แค่เงาของแผ่นหลัง
จิ่วจิ่วถอนหายใจ เป็นเวลาที่ผู้ชายหน้าขาวอุ้มน้องหมามาพอดี เขายื่นให้เธอ บอกเธอว่าไม่ได้ล้อเล่น เขายกให้เธอจริงๆ
“ถ้าจะยกให้ฉันไม่เอา ราคาเท่าไหร่ คุณรีบบอกฉันมาเถอะ ฉันรีบนะ”
ผู้ชายหน้าขาวคนนั้นก็ไม่ได้ยัดเยียดต่อ สุดท้ายก็ขายราคาพิเศษให้กับจิ่วจิ่ว เจ้าก้อนกลมสีขาวนั้นก็เป็นของจิ่วจิ่วแล้ว
“เขามีชื่อมั้ยอ่ะ?” จิ่วจิ่วถาม
ชายหน้าขาวมองไปยังแผ่นหลังผู้มีพระคุณของจิ่วจิ่ว และถามขึ้น: “เชอเฮ่า ชื่อของเด็กคนนั้นเหรอ?”
เชอเฮ่า…..คือชื่อที่เธอถามไปหลายรอบแต่ก็ไม่ได้คำตอบ สุดท้ายก็ได้รู้แล้ว แต่ว่าพอมาคิดๆดู ทำไมถึงรู้สึกแปลกๆ ชื่อนี้ทำไมเหมือนชื่อของคนเกาหลีเลยล่ะ?
จิ่วจิ่วคิดว่าเขาเก็ก คงไม่ตอบคำถามเธอหรอก ไม่คิดว่าเขาจะพูดขึ้นเสียงเรียบ: “ชื่อเสี่ยหรงฮัว”
โอ้พระเจ้า ชื่อที่โรแมนติคแบบนี้ แน่ใจนะว่าเขาไม่ชอบผู้หญิง? จิ่วจิ่วงงเล็กน้อย
“ดูแลเสี่ยหรงฮัวดีๆนะ เธอยังเด็ก เลี้ยงไม่ง่ายเลย ถ้าเธอมีปัญหาอะไร ก็โทรมาปรึกษาฉันได้ นี่นามบัตรของฉัน แต่ฉันก็ไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่ คงต้องถามเชอเฮ่าเอา” ชายหน้าขาวยื่นนามบัตรให้ แล้วกระซิบกับจิ่วจิ่ว: “อย่าตกใจเลยที่เขาเป็นแบบนี้ ที่จริงเขาเป็นคนดีนะ”
จิ่วจิ่วมองไปที่ เชอเฮ่าแล้วฝืนยิ้ม จากนั้นจึงมองไปที่นามบัตรในมือ และอ่านออกเสียง: “เฟ่ยจื่อเถิง!”
“นั่นฉันเอง” เฟ่ยจื่อเถิงอ้าปากหัวเราะออกมา
“ฉันกลับก่อนนะ ขอบคุณนะ คุณเฟ่ยเจ้าของร้าน” จิ่วจิ่วพูดจบ ก็เก็บนามบัตรเข้ากระเป๋า จ่ายเงินและถือกรงที่ใส่เสี่ยหรงฮัวไว้
เมื่อเดินไปถึงหน้าประตู เธอหันหลังกลับไปมอง เห็นว่าเชอเฮ่าไม่ได้มองเธอ เธอจึงมองไปยังเฟ่ยจื่อเถิง แล้วพูดกับเขาพลางยิ้มไป: “คุณเฟ่ยเจ้าของร้าน คุณอย่าสูบบุหรี่นะ ระวังปอดคุณด้วย”
พูดจบ เธอก็กะพริบตา แล้วรีบเดินออกไปอย่างเร็ว
เฟ่ยจื่อเถิงยืนงงไปครึ่งวัน ในหัวค่อนข้างสับสน จึงเดินไปที่ข้างๆเชอเฮ่าแล้วถามขึ้น: “ไหนนายลองบอกสิว่าทำไมผู้หญิงสาวคนนั้นต้องบอกให้ฉันระวังปอดด้วย? ไม่ใช่ว่าเธอเห็นฉันเป็นคนอบอุ่น แล้วตกหลุมรักฉันตั้งแรกเห็นนะ?
เชอเฮ่าหยุดการทำงานในมือ แล้วจิ้มไปที่หน้าอกของเฟ่ยจื่อเถิง และพูดขึ้นเสียงเรียบ: “เพราะว่านายเฟ่ยจื่อเถิง” (เฟ่ยจื่อเถิงในภาษาจีนแปลว่าเจ็บปอด)
เฟ่ยจื่อเถิงหัวเราะออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ ใช้ชื่อนี้มาหลายปี ทำไมเขาไม่นึกถึงแง่นี้เลยนะ
“ผู้หญิงคนนี้สนุกจริงๆ น่าสนใจกว่าผู้หญิงที่ฉันเคยเจอมาทั้งหมด” เขาพึมพำกับตัวเอง
เชอเฮ่าก็กลับไปยุ่งงานของตัวเองต่อ เฟ่ยจื่อเถิงเดินตามหลังเขาไป และถามเขาอย่างอยากรู้อยากเห็น: “นายไม่ชอบผู้หญิงจริงดิ? ผู้หญิงคนนั้นก็น่ารักออก นายไม่มีความรู้สึกอะไรเลยเหรอ?”
“มี” ในที่สุดเชอเฮ่าก็หยุดทำงาน และพูดออกมาอย่างจริงจัง
“ฉันว่าแล้วนายมันพวกเก็บความรู้สึก…….” ไม่ทันที่เฟ่ยจื่อเถิงจะพูดจบ เชอเฮ่าก็พูดขึ้นอย่างเย็นชา: “รู้สึกว่าเกลียดสุดๆเลย”
ผู้หญิงคนนั้นวิ่งตามเขา ทำให้เขานึกถึงผู้หญิงที่น่ารังเกียจที่สุดบนโลกนี้ เธอเคยวิ่งตามเขา แต่หลังจากนั้น…….
“มีบุหรี่มั้ย?” เชอเฮ่าขมวดคิ้วถาม หลังจากที่เฟ่ยจื่อเถิงยื่นบุหรี่ให้ เชอเฮ่าก็จุดมัน และดูดมันเข้าไปลึกๆ
วันนี้เสี่ยหรงฮัวก็ถูกเอาไปแล้ว ที่จริงเขาไม่อยากขาย สุนัขตัวนี้คือสิ่งเกี่ยวข้องสิ่งเดียวของคนที่เขาแคร์ เขาตามหาเธอมาตั้งนาน ไม่มีข่าวคราวของเธอเลย ตอนนี้เสี่ยหรงฮัวก็โดนพรากไปจากเขาอีก
จิ่วจิ่วอุ้มเสี่ยหรงฮัวกลับถึงบ้านตอนนั้นเป็นเวลาสิบโมงกว่าแล้ว เซี่ยชีหรั่นถือหนังสืออยู่เล่มหนึ่งนั่งอ่านอยู่บนชิงช้า โทรศัพท์ของเธอก็ใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อคลุมของเธอ คงกลัวว่าจะพลาดข่าวของเย่เชินหลิน
“คุณนายใหญ่ ชีหรั่น!” จิ่วจิ่วเรียกเซี่ยชีหรั่น
“เธอดูนี่ฉันเอาอะไรกลับมาฝาก? แท่นแทนแท๊น…….”
จิ่วจิ่วตั้งใจนำเสนอ เธอเอาเสี่ยหรงฮัวออกมาจากด้านหลัง พอเซี่ยชีหรั่นได้เห็น สีหน้าก็เต็มไปด้วยความสุข เธอมองลูกสุนัขตาไม่กะพริบ อยู่นานมาก
“ฮ่าๆ ฉันรู้ว่าเธอต้องชอบ งงเลยดิ?” จิ่วจิ่วพอใจอย่างมากกับปฏิกิริยาของเซี่ยชีหรั่น
“ชอบมั้ย?” จิ่วจิ่วถามอีกครั้ง
“อือ!” เซี่ยชีหรั่นพยักหน้าแรงๆ และยื่นมือออกไปลูบน้องหมา แล้วพูดเสียงเบา: “ทำไมมันเอาแต่มองรอบๆ หิวแล้วเหรอ?”
“มันมีชื่อนะ ชื่อว่าเสี่ยหรงฮัว!” จิ่วจิ่วพูดอวด แต่ว่าพอนึกถึงคนที่ตั้งชื่อให้น้องหมา เธอก็อดไม่ได้ที่จะโมโห
“เสี่ยหรงฮัว?” เซี่ยชีหรั่นเริ่มขมวดคิ้ว
เสี่ยหรงฮัว เสี่ยหรงหรง……ทำไมถึงเหมือนกันจัง?
“ใช่แล้ว เสี่ยหรงฮัว ชื่อฟังดูโรแมนติคใช่มั้ยล่ะ แต่น่าเสียดายที่เป็นเจ้าของร้านตายด้านตั้งให้”
“อ่อ!” เซี่ยชีหรั่นนั่งยองลง และลูไปที่ขนของเสี่ยหรงฮัวอย่างเหม่อลอย ทันใดนั้นความทรงจำฝุ่นเคอะก็ปรากฏขึ้น
เธอเคยเจอสุนัขตัวหนึ่ง สีขาวๆเหมือนลูกบอลเหมือนกัน วันนั้นเป็นวันที่หนาวเหน็บในฤดูหนาว ฤดูที่หิมะตก เธอกลับโม่เสี่ยวจุนเจอมันในระหว่างทางกลับบ้านหลังเลิกเรียน
“เธอดูสิ น้องหมาตัวนี้สวยมากเลย ขาวๆนุ่มๆ” เซี่ยชีหรั่นอุ้มหมาน้อยที่ตัวสั่นเทาขึ้นมา ให้ความอบอุ่นกับมัน
โม่เสี่ยวจุนไม่ค่อยอินกับสิ่งเล็กๆสิ่งนั้น แต่ว่าเซี่ยชีหรั่นชอบ เขาจึงออกความคิดเห็น: “ถ้าเธอชอบ ก็อุ้มมันกลับบ้านไปเลี้ยงสิ”

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset