สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่340 สาวใช้ตัวแสบ244

ตอนที่340 สาวใช้ตัวแสบ244
“ช่างเถอะ พูดกับแกแกก็ไม่รู้หรอก แกต้องไม่เคยเจอผู้หญิงสวยแบบนี้มาก่อน”
เชอเฮ่าก็ไม่ได้โต้กลับ แค่สูบบุหรี่เท่านั้น ใครบอกว่าเขาไม่เคยเจอผู้หญิงสวยมาก่อน ชีหรั่นของเขาก็เป็นผู้หญิงที่สวยมากกกกในโลกนี้
ในสายตาของเขา ผู้หญิงคนอื่นล้วนเทียบกับเธอไม่ได้ เขาชอบเธอ มองเธอสำคัญกว่าชีวิตตนเอง
เพียงแต่ตอนนี้เธออยู่ที่ไหน ทุกคืนเขาไปสถานที่ที่เต็มไปด้วยผู้คน ทำไมไม่เจอเธอเลยสักครั้ง
ทุกวันเพียงแค่มีเวลา เขาก็ไปหาเธอ แม้หน้าประตูของรัฐบาลก็ไปมาแล้ว แต่ก็ไม่เจอเธอ
ตอนคืน เขาก็นึกถึงเธอตลอด และโทษตนเองอยู่เสมอว่าเป็นเขาพัวพันเธอจนทำให้เธอเดินไปทางที่แก้แค้นให้เขา ถ้าตอนนั้นเขาสามารถให้เธอรู้ว่าเขายังมีชีวิตอยู่ งั้นเธอก็ไม่ต้องเหนื่อยขนาดนี้แล้ว
เขาไม่มีวันลืมไฟไหม้ครั้งนั้นได้ หลังที่เขารู้เกิดไฟไหม้แล้ว เพื่อนที่โตมาด้วยกันของเขาก็โดนเผาตายไปแล้ว
คนที่ถูกเผาตายชื่อว่าหลิวชิงซาน ก็เป็นเด็กในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ตอนหลังเขาได้หาเจอพ่อแม่ตนเอง พ่อแม่ของเขาเกิดอุบัติเหตุตายตอนออกไปทำงาน ต่อมาเขาก็อยู่กับย่า แต่ย่าเขาเป็นคนพิการ หูหนวก ตาบอด แต่เป็นคนที่มีความเข้าใจ ท่านมาอยากให้หลานตนเองทำไร่ทำนาในชนบท เลยไล่เขาไปทำงานในเมือง
ก่อนคืนที่เกิดเรื่อง โม่เสี่ยวจุนส่งเซี่ยชีหรั่นกลับถึงบ้าน ตอนที่กลับไปห้องที่เขาเช่าก็เจอหลิวชิงซาน เพราะเขาไม่มีเงิน เลยนอนที่ใต้สะพาน
ตอนนั้นมันมืดมาก โม่เสี่ยวจุนไม่ได้มองเห็นเขา ไม่ระวังเลยเตะโดนขาของหลิวชิงซานทำให้เขาตื่น
เขาเลยพึมพำว่า“ถือว่าฉันหลิวชิงซานซวยแล้วกัน”แค่คำพูดนี้ก็ทำให้พวกเขาจำแต่ละฝ่ายได้
ตอนที่โม่เสี่ยวจุนได้ยินว่าเขาจะหางาน เลยบอกว่าจะช่วยเขาหน่อย หลิวชิงซานก็ไม่มีที่อยู่ เขาเลยพาเขากลับมาพักที่ห้องเขา
และบอกเขาว่า“แกโทรกลับไปบอกคุณหญ้าหน่อยว่าแกปลอดภัยอยู่ และบอกว่าแกเจอฉันแล้ว ให้ท่านวางใจ รอฉันว่างแล้วก็พาแกไปซื้อโทรศัพท์ แกใช้โทรศัพท์ฉันไปก่อน ถ้ามีอะไรท่านก็สามารถโทรมาหาแกได้”
หลิวชิงซานเลยใช้โทรศัพท์ของโม่เสี่ยวจุนโทรไปหาเพื่อนบ้าน ให้เพื่อนบ้านเอาสถานการณ์ของเขาไปบอกคุณย่าและให้เขาช่วยจดเบอร์โทรของโม่เสี่ยวจุนไว้
ที่อยู่ของโม่เสี่ยวจุนมีเตียงใบเดียว เขาเห็นหลิวชิงซานเหนื่อยเกิน เลยอยากให้เขานอนได้ดีๆไม่อยากเปียกกันสองคน เขาเลยออกไปนอนที่โรงแรมคืนหนึ่ง
ตอนเช้าที่เขากลับมาก็เห็นบ้านที่เขาเช่าโดนเผาหมดแล้ว และหลิวชิงซานที่ร่างสูงคล้ายๆกับเขาโดนเผาจนดำบิ๊กบี๋ โดนพวกตำรวจใช้ผ้าสีขาวคลุมไว้
โม่เสี่ยวจุนนึกถึงคำขู่ของหวีซานซานในคืนนั้น เขาโกรธจนอยากไปลากเธอออกมาแล้วฆ่าเธอไป แต่เวลานี้เขาได้รับโทรศัพท์จากบ้านเกิดของหลิงชิงซาน บอกว่าย่าของหลิวชิงซานเป็นโรคเลือดออกในกระเพาะอาหารในเมื่อคืน คนในหมู่บ้านได้ส่งท่านไปโรงพยาบาลแล้ว
หลิวชิงซานตายไปแทนเขาแล้ว ตอนนี้หญ้าเขาป่วย เขาต้องไปดูแลท่านก่อน
ตอนนั้นเขาก็อยากโทรไปให้เซี่ยชีหรั่น บอกให้เธออย่ากลัว บอกเธอว่าเขายังไม่ตาย แต่ตอนนั้นเขาสิ่งที่เขาต้องกังวลมีเยอะ เขารู้ว่าเป้าหมายของหวีซานซานเป็นเขา ถ้าหวีซานซานรู้ว่าเขายังไม่ตาย คงจะลงมือต่ออีกหรือเปล่า หรืออาจจะไปลงมือกับเซี่ยชีหรั่นก็เป็นได้
เมื่อคิดแบบนี้เขาก็ตัดสินใจให้ทุกคนรู้สึกว่าเขาตายไปแล้ว อย่างนี้หวีซานซานจึงหยุดมือ เพื่อให้ทุกคนเชื่อว่าเขาตายแล้วจริงๆ เขาเลยไปเปลี่ยนซิมโทรศัพท์ไป
เขาคิดว่ารอย่าของหลิวชิงซานหายดีแล้วเขาค่อยกลับไปจัดการหวีซานซาน แต่ย่าของหลิวชิงซานย้ายโรงพยาบาลไปรักษาหลายที่แล้ว สุดท้ายก็ยังเสียชีวิตไป โม่เสี่ยวจุนเลยช่วยจัดงานศพให้ท่านแทนหลิวชิงซาน
หลังหนึ่งเดือนครึ่ง เขาแอบกลับมาที่บ้านเมื่อก่อน อยากจะรับเซี่ยชีหรั่นไป อย่างนี้เขาถึงจะไปจัดการหวีซานซานได้โดยไม่มีความกังวลอีก
ใครจะรู้เมื่อกลับไปแล้วที่นั่นไม่มีคนอีก เขาไม่อยากให้คนอื่นรู้ว่าเขายังมีชีวิตอยู่ อยากแอบไปจัดการกับหวีซานซาน ดังนั้นเขาเลยแอบไปตามหาคนของตระกูลโม่และเซี่ยชีหรั่น
โม่เสี่ยวหนงไม่ได้อยู่โรงเรียนเดิมแล้ว แต่เธอไปไหนแล้วก็ไม่มีใครรู้
เขาไปมหาลัยของเซี่ยชีหรั่น หาเพื่อนเรียนของเธอที่ไม่เคยเจอเขาไปถาม คนนั้นบอกว่าหลังญาติของเซี่ยชีหรั่นตาย เธอไปดึงแบนเนอร์ที่ประตูของรัฐบาล แถมยังคิดจะไปฟ้องกับผู้ชนชั้นสูง มหาลัยเลยไล่เธออกไป
ตอนนี้โม่เสี่ยวจุนรู้สึกเสียใจมาก เขายิ่งไปตามหาเซี่ยชีหรั่นจนจะบ้าคลั่ง หนึ่งปีมานี้ เขานอกจากจะทำงานหาค่าใช้ เวลาอื่นล้วนใช้มาหาเซี่ยชีหรั่นและเก็บหลักฐานที่ผิดกฎหมายของหวีหงทาว
เขาส่งหลักฐานที่ตนเองหาเจอไปที่หน่วยงานอัยการ เพียงแต่พวกคนในรัฐบาลปกปิดเรื่องนี้ไว้ ตอนนี้เขายังไม่เห็นหวีหงทาวโดนจับ
“แกคิดจะหลบคุณจิ่วจิ่วถึงเมื่อไหร่”คำถามของเฟ่ยจื่อเถิงได้ดึงสติของโม่เสี่ยวจุนกลับมา
“ฉันต้องไปแล้ว ฉันมีเรื่องสำคัญต้องไปทำ”โม่เสี่ยวจุนกดบุหรี่ให้ดับ แล้วค่อยๆพูดขึ้น
“ไปไหน ถ้าแกไม่อยากอยู่ที่นี่ก็ไปเปลี่ยนร้านอื่นสิ”
“ไม่ ฉันอยากพักช่วงหนึ่ง ต่อไปถ้ามีโอกาส ฉันจะกลับมา”
……
หลังกลับมาถึงบ้านตระกูลเย่ จิ่วจิ่วดูเหมือนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เซี่ยชีหรั่นเห็นเธอแบบนี้ก็รู้สึกกังวลมาก เซี่ยชีหรั่นคาดไม่ถึงแค่เจอหน้ากันไม่กี่ครั้ง จิ่วจิ่วกลับรักเขาได้ลึกซึ้งขนาดนี้ แถมยังร้องไห้ไปนานๆ เธอพูดว่า“ตายแล้ว ฉันพลาดผู้ชายที่ฉันรักไปแล้ว ชีวิตนี้คงหาผู้ชายที่ตนเองมีความรู้สึกไม่ได้อีก”
“ยัยโง่”เซี่ยชีหรั่นตบมือเธอเบาๆ จิ่วจิ่วเลยพิงไปที่ไหล่ของเธอ สะอื้นสะเอียนต่อ
“ตอนนี้หรงหรงยังอยู่ที่พ่อบ้าน ไม่รู้มันจะร้องหรือเปล่า ฉันกังวลมาก”เซี่ยชีหรั่นเปลี่ยนเรื่องคุย แต่จิ่วจิ่วกลับไม่พูดอะไรและร้องไห้ต่อ
หลังกลับมาถึงบ้านอีกหลายวัน จิ่วจิ่วยังดูไม่ดีใจเลย ดูเหมือนเธอรักคนที่ชื่อเชอเฮ่าไปแล้วจริงๆ
เธอไม่ได้โวยวายว่าออกไปอีก ทุกวันเธอก็ตามอยู่หลังเซี่ยชีหรั่น มาดูแลหรงหรงกับเธอ
“ชีหรั่น ยังกังวลกับเรื่องของจิ่วจิ่วหรอครับ”แม้พ่อบ้านก็มองออกแล้วว่าจิ่วจิ่วอกหัก เมื่อเห็นเซี่ยชีหรั่นมองแผ่นหลังของจิ่วจิ่วแล้วเหม่อลอย เขาเลยถามออกมา
“ใช่ค่ะ เด็กคนนี้ดื้อมาก ทำไมนึกไม่ออกแบบนี้ ถ้าเธอยอมออกไปเดินเล่นก็ดีแล้ว”
“ผมมาคิดหาวิธีครับ”พ่อบ้านพูด
“ขอบคุณคุณมากค่ะ”
วันต่อมา พ่อบ้านก็เรียกจิ่วจิ่วมา บอกว่าอยากให้เธอช่วยเรื่องหนึ่ง
ช่วงนี้อากาศเริ่มหนาวขึ้น ผ้าที่เอามาทำเสื้อกันหนาวของพวกคนรับใช้ยังไม่ได้คัดเลือกออกมา
“จิ่วจิ่ว สายตาเธอดี เธอก็ไปดูผ้ากับช่างตัดผ้าเลย เขาอายุมากแล้ว ไม่รู้ว่าพวกเด็กสาวอย่างเธอชอบใส่อะไร เธอก็ไปช่วยงานของผมเลย ผมไปหลายรอบ มองจนตาลายแล้ว”
จิ่วจิ่วเป็นคนใจดีอยู่แล้ว เห็นพ่อบ้านพูดแบบนี้ เธอก็รับปากไป
ช่วงนี้ความสัมพันธ์ระหว่างเซี่ยชีหรั่นและเย่เชินหลินดีขึ้น เมื่อจิ่วจิ่วต้องออกไปเธอก็ไม่ลืมไปกำชับเซี่ยชีหรั่นว่าให้เธออยู่ห่างกับส้งหลิงหลิง
“ได้เลย ฉันจะไม่ไปเข้าใกล้พวกเธอ”จิ่วจิ่วยอมออกไป เซี่ยชีหรั่นรู้สึกดีใจมาก
หลังจิ่วจิ่วไป เซี่ยชีหรั่นก็อุ้มหรงหรงไปสวนดอกไม้ เธอหาที่ที่มีแสงแดดแล้ววางหรงหรงลง ให้มันไปเล่นเอง
เธอเองก็นั่งลงไป อ่านบทกวีของจูจื่อชิง
“คุณน้า หมาตัวนี้น่ารักจังเลย หนูเล่นกับมันหน่อยได้ไหมครับ”เมื่อเซี่ยชีหรั่นกำลังอ่านหนังสืออยู่ ก็มีเสียงเด็กชายดังขึ้น เธอมองไปก็เห็นเป็นลูกชายของพ่อบ้าน เขาชื่อต้าจ้วง หน้าดูซื่อๆตรงๆ
.“ได้ หนูไปเล่นกับมันเลย แต่มันยังเล็กอยู่ หนูต้องระวังหน่อยนะ”เซี่ยชีหรั่นพูดอย่างอ่อนโยน
“ได้ครับคุณนะ”
เสียงของต้าจ้วงสั่นไปเล็กน้อย แต่เซี่ยชีหรั่นไม่ได้คิดมาก เด็กน้อยแบบนี้ ดูซื่อๆตรงๆ แถมยังเป็นลูกของพ่อบ้าน เธอเลยไม่ได้คิดไปด้านเลวร้าย
ต้าจ้วงอุ้มหมาน้อยขึ้นมา มือเขายังสั่นอยู่
“หนไม่ต้องกลัวหรอก มันยังเล็ก อุ้มไปไม่เป็นไหรหรอกนะ”เซี่ยชีหรั่นเพียงแค่รู้สึกว่าต้าจ้วงกลัวหมาเลยมือสั่น
“คุณน้า หนูอยากอุ้มมันวิ่งได้ไหมครับ”ต้าจ้วงถามอีก
“ได้ค่ะ หนูวิ่งเลย แต่อย่าไปฝั่งนั้นนะ ที่นั่นเป็นบ่อ มันอันตราย หนูไปชิงช้าที่นั่นเลย”
“ได้ครับ”ต้าจ้วงรับปากแล้วเดินไปที่ชิงช้า
เซี่ยชีหรั่นเห็นเขาเดินไปแล้วก็ก้มหัวอ่านหนังสือต่อ
หลัง10นาทีผ่านไป ต้าจ้วงยังไม่อุ้มหมากลับมา เธอนึกว่าเป็นเขาเล่นจนลืมเวลาไปแล้ว แต่หรงหรงยังเล็ก คงไม่มีแรงเล่นนาน เธอเลยลุกขึ้นไปหาหรงหรง
แต่ที่ชิงช้าไม่มีเงาของต้าจ้วงและหรงหรงเลย

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset