สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่347 สาวใช้ตัวแสบ251

ตอนที่347 สาวใช้ตัวแสบ251
แต่ทำไมเขาต้องมาห้ามเธอ?
“ฉิงฉิง เธอรับไหม?เวลานี้ ให้ทุกคนที่อยู่ที่นี่รู้เห็นกับความรักของเราสองคน ดีไหม?ขึ้นมาบนเวที!”นักร้องยังคงเรียกเธอ แขกต่างมองมาทางเธอ เธอมองขึ้นไปบนเวที แล้วมองผู้ชายที่ดึงข้อมือเธออยู่
“คุณปล่อยฉัน ฉันยอมรับปากเขา ฉันเชื่อเขา เขาไม่มีทางหลอกฉัน!”ไห่ฉิงฉิงมีความจะสะบัดมือผู้ชายออก แรงกลับสู้หนึ่งส่วนสิบของเขาไม่ได้
“ผู้หญิงมันเชื่อง่ายทุกคนจริงๆ!”ชายพูดออกมาอย่างเย็นชา ไม่พูดอะไรต่อ แล้วดึงเธอออกมาทางข้างนอก
ไม่ใช่ไม่มีคนมอง แค่สถานการณ์แบบนี้มักจะเกิดขึ้นในผับบาร์ เพราะฉะนั้นทุกคนก็ต่างเหมือนดูเรื่องราวเฉยเฉย ไม่มีใครสนใจว่าใครพาไห่ฉิงฉิงไป
ไห่ฉิงฉิงโดนผู้ชายหน้าดำพาออกจากผับบาร์ เธอโกรธแล้วตะคอกใส่เขา:“คุณเป็นบ้าหรือไง?ฉันเชื่อหรือไม่เชื่อเขา เกี่ยวอะไรกับคุณฉันไม่รู้จักคุณ!”แม้ใบหน้าแบบนี้ เธอเหมือนคุ้นเคยเล็กน้อย แต่เธอก็มั่นใจว่าเธอไม่รู้จักเขา
โม่เสี่ยวจุนสะบัดมือเธอออก พูดอย่างเย็นชา:“หวังว่าเธอเห็นพวกนี้แล้ว ยังเชื่อเขาต่อ”
พูดจบ เขากดมือถือบนมือ กดไปที่ปุ่มเปิด อยู่หน้าเธอ มันเป็นคลิปคลิปหนึ่ง
ยังคงเป็น“เจ้าชายในฝัน”ของไห่ฉิงฉิง และอยู่ในผับบาร์ด้วย แค่เป็นผับบาร์อีกที่ เขาพูด:“หวังว่าอารมณ์เธอจะสดใสทุกวัน หยางหยาง ฉันรักเธอ….”
“ถ้าเธอยังคิดว่าไม่พอ ที่ฉันตรงนี้ยังมีคลิปอีกห้าคลิป”
ไห่ฉิงฉิงไม่อยากจะเชื่อเล็กน้อย เจ้าชายที่อยู่ในใจเธออย่างลึกซึ้ง เธอคิดที่จะยอมพันธนาการครอบครัวเพื่อเขา ไม่มีทางที่จะทรยศ
หลักฐานชัดเจนแล้ว เขาไม่ได้ทรยศ แต่เขาเป็นแค่พวกหลอก หลอกความรู้สึกของผู้หญิง เงินทองและร่างกาย เพราะคลิปพวกนี้ถ่ายมาไม่กี่วัน เขาพูดแบบนี้กับผู้หญิงหลายคน ที่ไม่เหมือนคือชื่อของผู้หญิงเท่านั้น
ไห่ฉิงฉิงไม่คิดว่าสักวันก็จะเจอเรื่องแบบนี้
เธอไม่มีน้ำตาสักหยด แค่เอามือถือออกมาจากกระเป๋าอย่างสงบ โทรไปยังเบอร์หนึ่งอย่างเคยชิน
“พี่เซิน เรื่องความรักหลอกลวงพี่สนไหม?”ชัดเจนแล้วว่าอีกฝ่ายกำลังหลับลึก และพึ่งเข้าใจว่าเธอพูดอะไร
เขาเป็นถึงคนที่อยู่ระดับสูงในฝ่ายความมั่นคงสาธารณะ จะมาสนใจเรื่องเล็กอย่างรักหลอกลวงแบบนี้ได้อย่างไร แต่อีกฝ่ายคือไห่ฉิงฉิง เขาจึงรีบรับปาก
“สน ต้องสน”
“บาร์เยี่ยหัว นักร้องชื่อห้าวหรัน”ไห่ฉิงฉิงพูดจบอย่างใจเย็น วางสาย ไม่ได้พูดขอบคุณ
จากนั้นไห่ฉิงฉิงก็มองโม่เสี่ยวจุนอย่างสงบ ถาม:“คุณคงไม่ใช่คนที่เดินผ่านแล้วอยากมาช่วยมั้ง มีเรื่องอะไรจะให้ฉันทำ?”
“แค่อยากสอบถามกับเธอคนหนึ่ง”โม่เสี่ยวจุนก็ไม่อ้อมค้อม เขาเป็นคนไม่ชอบการอ้อมค้อม
“พูดมา”
“ผู้หญิงคนหนึ่ง ชื่อเซี่ยชีหรั่น”
จนตอนนี้โม่เสี่ยวจุนยังหาเซี่ยชีหรั่นไม่เจอ เขาคิดในเมื่อเธอจะฟ้อง ถ้าเดินตามขั้นตอนปกติคงจะไม่มีทางออก เธอจึงเป็นไปได้ที่จะใกล้ชิดกับคนชั้นสูง
สมาชิกพนักงานชั้นสูงพวกนั้น โม่เสี่ยวจุนเคยแอบใกล้ชิด และเคยถามกับบางคน พวกเขาพูดว่าไม่เคยได้ยินสักคน เขาจึงค่อยๆนำเป้าหมายไว้ที่สมาชิกคนรุ่นใหม่ นั่นก็คือรุ่นที่สอง
เขาเล็งไห่ฉิงฉิง บังเอิญได้ยินสนทนาของนักร้องคนนั้นห้าวหรันกับผู้หญิงคนหนึ่ง พูดว่าช่วงนี้เขาจับปลาใหญ่ได้ตัวหนึ่ง คือหลานสาวของผู้บัญชาการทะเล ประธานหอการค้าจังหวัดเลขาเอาน้องสาวของไห่ลี่หมิน
มีตำแหน่งสูงเยอะขนาดนี้ คิดว่าเธออยู่ในวงรุ่นสองนี้ของมณฑลตงเจียงก็คงมีชื่อเสียงบ้าง เพราะฉะนั้นโม่เสี่ยวจุนออกจากเฟ่ยจื่อเถิงก็มาจัดการเรื่องนี้เลย
“รู้จักไหม?หรือว่าเคยได้ยินชื่อนี้ไหม?”โม่เสี่ยวจุนถามขึ้นมาอีกครั้ง
……
หลายวันติดต่อกัน บ้านตระกูลเย่เงียบสงบมาก เย่เชินหลินมีแค่ประชุมสำคัญถึงจะไปบริษัท อยู่ในบ้านมากกว่าเวลาปกติ
บางครั้งเขาก็จะอยู่เป็นเพื่อนเซี่ยชีหรั่นที่พาหรงหรงไปเดินเล่น มองสีหน้าเซี่ยชีหรั่นเวลาที่ดูแลหรงหรงอย่างอ่อนโยนและเป็นห่วงทำให้เขามีความภูมิใจ คิดว่าเธอน่าจะเป็นแม่ที่ดีคนหนึ่ง
ตอนเช้าของวันเย่เชินหลินมีความเหงาและว่าง มองเซี่ยชีหรั่นที่ป้อนอาหารให้ตัวเล็กอีกแล้ว จึงแกล้งเธอ:“ถ้าฉันบอกไม่ให้เธอเลี้ยงมัน ให้เธอทิ้งมัน เธอจะทำยังไง?”
เซี่ยชีหรั่นตกใจกับคำถามนี้ แต่ยังมองเขาอย่างตั้งใจ พูด:ท่านคงไม่ทำแบบนี้หรอก ท่านก็ชอบมันมากไม่ใช่หรอ?”
เย่เชินหลินขมวดคิ้ว พูดอย่างไม่อารมณ์เสีย:“ใครชอบมัน สกปรก”
“สกปรกตรงไหน สะอาดขนาดนี้ น่ารักขนาดนี้ ท่านคงจะเห็นด้วยที่ฉันจะเลี้ยงมันใช่ไหม?ฉันเคยพูดกับท่านในแชทข้อความ ท่านไม่ได้ห้าม หลังท่านกลับมาท่านก็ไม่ได้พูดห้าม เพราะฉะนั้น ท่านจะไม่ห้ามให้ฉันเลี้ยงมัน ใช่ไหม?”
เซี่ยชีหรั่นกังวลจริงๆ เธอมักลืมเรื่องฉิวฉิวไม่ลง ตอนนั้นเธอตัดสินใจกับชีวิตของฉิวฉิวไม่ได้ เธอไม่เชื่อว่าหลังจากหลายปีเธอก็ยังตัดสินใจชีวิตของสุนัขตัวเดียวไม่ได้
แต่ลองคิดละเอียด ตอนนั้นเธออยู่บ้านคนอื่น ตอนนี้เธอก็ยังอยู่บ้านคนอื่น ถ้าเย่เชินหลินไม่ยอม เธอก็ได้แค่ส่งมันไปอย่างทนเจ็บใจ ไม่มีทางเลือกอื่น 
เย่เชินหลินสำรวจใบหน้าเล็กของเธอ ตอนแรกก็แค่ล้อเล่นกับเธอ ไม่คิดว่าเธอจะจริงจังขนาดนี้ และตื่นเต้นขนาดนี้ หรือในใจเธอ คิดว่าแม้สิทธิอิสระที่เธอต้องการเลี้ยงสัตว์เขาก็จะยึดไปหรอ?
“ถ้างั้นต้องดูเธอว่าทำตัวดีหรือไม่ดี”เขาดึงสีหน้าตัวเองกลับไป พูดแค่คำนี้
หน้าเซี่ยชีหรั่นไม่หยุดที่จะแดงขึ้นมา เพราะทุกครั้งที่เขาพูดว่าทำตัวดี ก็บ่งบอกถึงเรื่องแบบนั้น 
เธอค่อยๆมองสีหน้าเขา เหมือนปกติ แปลว่าเขาไม่ได้โกรธอะไรขนาดนั้น แล้วที่เขาพูดแบบนี้หมายความว่า เขาต้องการให้เธอริเริ่มก่อน?
เซี่ยชีหรั่นกัดปากไปมา มองไปรอบข้างสวนดอกที่ไม่มีคน ก็รีบหอมแก้มของเขาอย่างเบาเบา
จูบของเธอมีความขี้อาย จากนั้นแน่นอนไม่มีใจจดใจจ่อ เขาก็โอบเธอแล้วกดจูบลงมาอย่างเอาแต่ใจอภิปรายนานนาน แม้แต่หรงหรงยังดูไม่ลง เห่าออกมาเตือนพวกเขา เขาถึงปล่อยออกอย่างเพียงพอ
เจ้าตัวเล็กนี้ คงจะวางยาพิษให้เขา แค่เขาโดนตัวเธอ การควบคุมตนเองของเขาเหมือนจะล่มสลาย
เซี่ยชีหรั่นก็ไม่ได้ดีไปถึงไหน เธอยิ้ม เหมือนอารมณ์ดี แม้แต่ความกล้าที่มองเขาโดยตรงยังไม่มี
เธอรีบยืนขึ้นอย่างรีบ อุ้มตัวเล็กแล้วเหมือนจะวิ่งหนี
“หรงหรงเหมือนชอบสวนดอกนี้มาก เธอนั่งอยู่ที่นี่เถอะ ฉันจะกลับไปจัดการเอกสารบางอย่าง”เย่เชินหลินพึ่งพูดจบ พ่อบ้านวิ่งมา บอกโม่เสี่ยวหนงคุณโม่อยู่หน้าประตู ให้เธอเข้ามาไหม?
“ยังต้องถามอีกหรอ?ที่นี่เป็นบ้านของเซี่ยชีหรั่น แน่นอนครอบครัวเธอสามารถเข้าออกได้ตามสบาย”
เย่เชินหลินพูดแล้ว บางทีในใจเขาก็คิดแบบนี้จริงๆ ยังไงเขาก็ไม่ใช่คนแบบนั้นที่เพื่อโปรดผู้หญิงจึงพูดคำพูดหวานหวาน เป็นเพราะแบบนี้ เธอ ได้ยินคำพูดของเขา ในใจเซี่ยชีหรั่นก็หวานขึ้นมาอย่างยิ่ง
แม้ที่นี่ไม่ใช่บ้านของเธอจริงๆ แม้เขาจะมีคู่หมั้นอยู่ที่นี่ แค่เขาสามารถพูดแบบนั้นเอง เธอก็ดีใจและขอบคุณแล้ว
เธอมองเขาอย่างไม่พูดอะไร แต่สีหน้าเขาซ่อนเร้นไม่แยแส 
แต่ในความเป็นจริงเขาสังเกตเห็นสีหน้าดีใจของเธอ ที่จริงที่เธอต้องการไม่เยอะ เขารู้
ตัวเล็ก เธอมันคิดไม่ได้จริงๆ หรือเธอไม่เข้าใจจริงๆ แค่เธอสามารถปล่อยวางคนคนนั้นได้ สิ่งที่เธอได้รับไม่น้อยไปกว่านี้แน่นอน
แต่ที่ทำให้เขาสบายใจ ช่วงนี้เธอไม่ค่อยเหม่อลอย โดยเฉพาะหลายวันนี้ เวลาอยู่กับเขา เธอก็จริงๆใจใจใจ แน่นอน ไม่ได้เกี่ยวกับเกี่ยวกับตอนดูแลหรงหรง
โม่เสี่ยวหนงเข้ามาบ้านวิวล่าอย่างเร็ว ได้ยินพ่อบ้านบอกว่าเซี่ยชีหรั่นอยู่สวนดอก เธอจึงรีบวิ่งมาทางสวนดอก แล้วเจอเย่เชินหลิน เรียกเขาอย่างมีความสุข:“:“พี่เขย!”
เธอไม่เรียกพี่เชินหลิน แต่เรียกพี่เขย คิ้วของเย่เชินหลินขยับไปมา ที่จริงแล้วในใจรู้สึกพอใจกับการเรียกแบบนี้ แต่สีหน้าไม่แสดงออกมา
“เสี่ยวหนง เธออย่าเรียกไปมั่ว เขา….”เขาจะไม่ดีใจ
เย่เชินหลินหันหลัง จ้องไปที่เซี่ยชีหรั่น มุมปากแขวนรอยยิ้มอันชั่วร้อยถามเธอ:“ฉันไม่ใช่พี่เขยเธอหรอ?”
คำนี้พูดเอาหน้าของเซี่ยชีหรั่นยิ่งแดงกว่าเดิม มีความอึดอัดเล็กน้อย ไม่รู้ควรพูดอะไร หรือว่าควรพูดว่าไม่ใช่ถ้าพูดว่าใช่ เหมือนเธอไม่เจียมตัว ถ้าพูดว่าไม่ใช่ ถ้าผู้ชายคนนี้โกรธขึ้นมาทำอย่างไร?
แต่ในใจเธอจะมีอารมณ์หลายแบบมากแค่ไหนก็คงไม่พ้นความดีใจ บางทีพูดจากใจเธอ เธอยิ่งอยู่ยิ่งคาดหวังให้ตัวเองเป็นผู้หญิงคนเดียวของเขา
“โห ฉิวฉิว!พี่ สุนัขตัวนี้คือฉิวฉิวหรอ?โห เหมือนฉิวฉิวจัง”โม่เสี่ยวหนงมองสุนัขตัวเล็กในมือเซี่ยชีหรั่น แล้วพูดออกมา เซี่ยชีหรั่นส่ายหัวเบาเบา สื่อให้เธอรู้ว่าอย่าพูดจาไปมั่ว
โม่เสี่ยวหนงก็สังเกตเห็นสีหน้าของเซี่ยชีหรั่น มีความแปลกแปลก เธอมองเซี่ยชีหรั่นแล้วมองเย่เชินหลิน ไม่เข้าใจว่าทำไมเซี่ยชีหรั่นไม่ให้เธอพูดคำว่าฉิวฉิว
เย่เชินหลินก็ไม่สังเกตุเยอะขนาดนั้น แค่พูดออกมาเบาเบา:“พวกเธอสองคนคุยกันเถอะ ฉันกลับไปทำงาน”
“ค่ะ!”เซี่ยชีหรั่นรีบตอบรับทันที มองเขาเดินไป
“พี่ ทำไมเมื่อกี้พี่ต้องสื่อสายตาให้ฉันเนี่ย?มันก็ดูเหมือนฉิวฉิวอยู่แล้วนี่ ทำไมถึงพูดไม่ได้?”
เพราะว่าเธอกลัวเขาคิดมากไป พูดถึงฉิวฉิว ก็จะค้นเรื่องเก่าออกมา ถ้าเย่เชินหลินคิดว่าเธอเลี้ยงสุนัขตัวนี้ก็เพื่อโม่เสี่ยวจุนที่จากไป เธอก็ไม่รู้จะพูดยังไงแล้ว
“ไม่มีอะไร มันไม่ใช่ฉิวฉิว มันคือหรงหรง คราวหลังอย่าเรียกผิด”
พูดถึงเรื่องฉิวฉิว เซี่ยชีหรั่นนึกถึงสุนัขน่าสงสารที่ตายอย่างอนาถ ก็รู้สึกว่าผิดที่โม่เสี่ยวหนงบ้าง

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset