สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่376สาวใช้ตัวแสบ280

ตอนที่376สาวใช้ตัวแสบ280
เย่เชินหลินตัวแข็งไปหมด หยุดก้าวเท้าต่อทันที หันหลังไปมองเธออย่างอ้ำอึ้ง
“เธอพูดอะไรนะ พูดใหม่อีกรอบหนึ่ง!”
ในที่สุดเขาก็ยอมฟังเธอพูดแล้ว ในที่สุดเธอก็ได้พูดคำว่าโม่เสี่ยวจุนยังไม่ตายออกมาแล้ว
เซี่ยชีหรั่นวิ่งไปหาเขาอย่างตื่นเต้น พูดสิ่งที่เธอพูดออกมาเมื่อกี้อีกรอบ: “โม่เสี่ยวจุนยังไม่ตาย! เขา…”
เขาเห็นแสงแพรวพราวแห่งความสุขในดวงตาของเธอ ทันใดนั้นก็ได้เข้าใจแล้วว่าทำไมเมื่อเธอเห็นคลิปที่ตัดสินโทษของหวีหงทาวกลับมีท่าทางที่นิ่งเฉย ความจริงเธอควรจะดีใจ ควรจะร้องไห้ เธอไม่มีสักอย่างเลย เห็นเธอดูคลิปอย่างสงบ คำตอบเป็นแบบนี้นี่เอง
“เขายังไม่ตาย? เธอรู้ได้ไงว่าเขายังไม่ตาย เธอคงดีใจมากใช่ไหม”
“ฉันดีใจ ฉันดีใจอยู่แล้ว คุณก็ควรจะดีใจสิ เขาเป็นน้องชายของคุณ!”
สิ่งที่เธอเคยพูดโผล่ขึ้นมาในหัวของเขา เธอบอกว่าเธอมีคนที่รักมาก เธอรักเขามากกว่ารักชีวิตตัวเองอีก
เขาไม่รู้ว่าเขาเย่เชินหลินเป็นอะไรกันแน่ จนถึงขณะนี้แล้วเธอยังจะโกหกเพื่อโม่เสี่ยวจุนอีก เธอก็ไม่แคร์อารมณ์ของเขาสักนิดเลยเหรอ เมื่อก่อนเธอโกหกคือเพื่อที่จะแก้แค้นให้โม่เสี่ยวจุน แล้วตอนนี้เธอโกหกเพื่ออะไรอีก เพื่อที่จะขอความร่ำรวยในอนาคตให้โม่เสี่ยวจุนงั้นเหรอ
เย่เชินหลินไม่พูดไม่จา เซี่ยชีหรั่นไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่
ตั้งแต่เธอคิดว่าโม่เสี่ยวจุนอาจจะยังไม่ตาย เส้นประสาทของเธอก็ตื้นตันสุดฤทธิ์ตลอด เธอแทบอยากจะเล่าทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ในใจเธอออกมาให้เย่เชินหลินฟัง เธอหวังว่าเขาจะเชื่อเธอ หวังว่าเขาจะเชื่อว่าโม่เสี่ยวจุนคือน้องชายของเขา
“คุณเย่ คุณไม่ดีใจเหรอ เขาเป็นน้องชายของคุณจริงๆ! ทั้งครอบครัวของคุณสามารถมีโอกาสอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันได้สักทีแล้ว DNA ที่คุณไปตรวจครั้งที่แล้วเป็นของปลอม ตัวจริงของโม่เสี่ยวจุนยังมีชีวิตอยู่ แน่นอนว่าผลที่คุณได้คุณจะไม่พึงพอใจอยู่แล้ว คุณฟังฉันนะ ฉันไม่ได้โกหกคุณจริงๆ เขายังมีชีวิตอยู่แน่นอน แค่หาเขาเจอให้ได้ แล้วไปทำการตรวจอีกครั้งก็สามารถแน่ใจแล้วว่าเขาคือน้องชายของคุณ”
เซี่ยชีหรั่นพูดสิ่งที่เธออยากพูดออกมาทั้งหมดในครั้งเดียว เธอมองเขาด้วยสายตาคาดหวังอย่างร้อนแรง รอเขาพูดว่า ได้ เราจะรีบหาขาให้เจอ
ใครจะไปรู้สีหน้าของเขายังคงเย็นชาเหมือนเดิม แน่นอนว่าเธอไม่รู้เช้านี้เขาได้ผลการตรวจของเขาและเหยนชิงเหยียนแล้ว เขามีน้องชายแล้ว ไม่ว่าเธอจะบอกว่าโม่เสี่ยวจุนมีลักษณะคล้ายคลึงกันกับเขาจุดไหนบ้าง ก็ไม่ได้ชัดเจนกว่าผลที่เขาได้มา
“ความหมายของเธอคือ โม่เสี่ยวจุนยังมีชีวิตอยู่ แต่เธอไม่รู้ว่าตอนนี้มันอยู่ที่ไหน ใช่ไหม” เย่เชินหลินค่อยๆ พูดออกมา สีหน้าเฉยชา ดูไม่ออกว่าในใจของเขาโกรธแค่ไหน รู้สึกผิดหวังตัวในเธอแค่ไหน
เซี่ยชีหรั่นที่ทั้งใจแค่อยากจะเห็นความจริงทุกอย่างแจ้งชัด แค่อยากจะให้เขาได้เชื่อเธอ ซึ่งเธอก็ไม่ได้คิดอย่างอื่นอีกแล้ว พยักหน้าทันทีและรีบพูดว่า: “ใช่ ก็คืออย่างนี้ ฉันเดาว่าเขายังมีชีวิตอยู่ ไม่ใช่สิ เขาต้องยังมีชีวิตอยู่แน่นอน”
“ตอนนั้นเธอยังไม่ได้แน่ใจว่ามันตายหรือยังก็มาแก้แค้นให้มันแล้วเหรอ” เขาเอ่ยถามขึ้นอีก เมื่อเขาถามประโยคนี้ออกไปในใจของเขาเสียใจแค่ไหน เพื่อโม่เสี่ยวจุนแล้ว เธอซึ่งเป็นคนที่ไม่ใจร้อนกลับกลายเป็นคนประมาทและใจร้อนขนาดนี้
“คือตอนนั้นฉันนึกว่าคนที่ตายก็คือเขา ใครก็คิดว่าเป็นเขา ตอนนั้นเขาเช่าบ้านหลังหนึ่งใกล้ๆ ที่ทำงานของเขา ฉันกับเขาเจอหวีซานซานตอนที่เราออกไปเดินเล่น เธอบอกว่าจะทำให้เขาตาย เราก็ไม่ได้ไปสนใจอะไร นึกว่าหวีซานซานแค่มาขู่เราเฉยๆ หลังจากที่เราจากกันในคืนนั้น เขาก็ได้กลับไปบ้านเช่า เช้าวันถัดไปเมื่อฉันได้ข่าวก็รีบไปดูที่นั่นเลย บ้านหลังนั้นถูกเผาจนเหลือแค่โครง ส่วนศพของคนนั้นก็เละเทะจนไม่เห็นหน้าเห็นตาแล้ว…อันที่จริงก็ไม่เชิงเละเทะ แต่คือเผาจนหดตัว ผิวหนังก็ไม่เห็นแล้ว ตอนนั้นฉันเสียใจแทบตาย ในใจคิดว่าเขาอาศัยอยู่คนเดียว คนที่ตายต้องเป็นเขาแน่นอน ไม่มีทางเป็นคนอื่นหรอก โดยเฉพาะหลังจากนั้นหวีซานซานออกมาเรียกร้องให้ตำรวจรีบตัดสินคดี ยังมีการไปถึงบ้านตระกูลโม่ใช้เงินซื้อใจคนในครอบครัวตระกูลโม่อีก คุณลองคิดนะ หวีซานซานเป็นคนทำ เป้าหมายของเธอก็คือเสี่ยวจุน แล้วเขายังตายในบ้านเช่าที่เขาอาศัยคนเดียว เป็นใครก็ต้องเชื่อว่าคนที่ตายก็คือเขา ฉันไม่เคยสงสัยจุดนี้เลยสักนิด ศพนั้นไปถึงกองคดีอาญาตรวจสอบได้ไม่นาน ครอบครัวตระกูลโม่ก็ถูกเรียกร้องเอาศพนั้นไปเผา ฉันไม่เห็นด้วย แต่ก็ต้องยอมแม่ฉัน ในที่สุดก็ถูกเผาแล้ว หลังจากนั้นฉันก็ได้ไปยื่นคำร้อง ยังไงก็คือว่าผ่านอุปสรรคต่างๆ นาๆ มาหลายอย่าง แต่ก็ไม่มีข่าวของเขาสักอย่างเลย ดังนั้นฉันก็ไม่เคยคิดว่าเขายังมีชีวิตอยู่ตั้งแต่แรก”
ประโยคนั้นที่ว่ายังไงก็คือว่าผ่านอุปสรรคต่างๆ นาๆ มาหลายอย่างยิ่งทำให้ในใจของเย่เชินหลินเสียใจ ถึงแม้เธอจะพูดออกมาอย่างเฉยชา แต่เขารู้อย่างชัดเจนว่าเธออาจจะผ่านเรื่องอะไรมาบ้างแล้ว
เพื่อเขาเธอยอมทุกอย่าง ไม่ต้องพูดถึงอย่างอื่น แค่สุนัขตัวหนึ่งที่มีความเกี่ยวข้องกับโม่เสี่ยวจุนเธอก็จะช่วยมันโดยที่ไม่นึกถึงชีวิตตัวเอง แค่นี้ก็เห็นแล้วว่าเพื่อเขาเธอยอมทำทุกอย่างจริงๆ
ในใจเย่เชินหลินได้คิดอีกหลายๆ อย่าง สีหน้ากลับสงบเช่นเคย ถามเธอเบาๆ ว่า: “ช่วงนี้เธอป่วยอยู่ ไม่ได้ออกไปจากวิลล่า แล้วเธอรู้ได้ไงว่าเขายังไม่ตาย”
“คุณยังจำได้ไหมฉันเคยพูดถึงกับคุณว่าคณบดีบอกว่ามีคนนำเงินห้าหมื่นหยวนมาวางไว้ที่โต๊ะทำงานของท่าน วันนี้คณบดีโทรมาหาฉันอีกแล้ว บอกว่าในลิ้นชักโต๊ะทำงานมีซองเอกสารซึ่งข้างในมีเงินสองแสนห้าหมื่นหยวน เงินสองครั้งนี้บวกกันแล้วก็คือสามแสนพอดี จำนวนนี้ก็เท่ากับเงินที่หายไปของบ้านตระกูลโม่ สามแสนไม่ใช่จำนวนน้อยๆ เลยนะ ในเวลาเดียวกันฉันก็รู้สึกว่าไม่พอดีขนาดนั้นหรอก ตรงนั้นเพิ่งหาย ตรงนี้ก็ได้แล้ว มันไม่แปลกเกินไปเหรอ แล้วฉันก็ได้ฟังแม่ฉันเล่าว่าตอนนั้นที่ถูกขโมยไม่มีร่องรอยของการทำลายล็อกเลย หน้าต่างก็ปิดไว้ แสดงว่าคนนั้นมีกุญแจบ้านตระกูลโม่ คุณไม่รู้ แม่ฉันมีนิสัยอย่างหนึ่งก็คือชอบเอากุญแจไว้ที่ที่ประจำที่ที่หนึ่ง แต่ว่าเรื่องนี้ก็มีแค่คนในบ้านฉันเท่านั้นที่รู้ และอีกอย่าง เธอชอบเอาเงินสดเก็บไว้ในบ้าน นิสัยนี้ก็มีแต่คนในบ้านเรารู้ ทางสถานเลี้ยงเด็กกำพร้านั้นสามารถเข้าออกอย่างอิสระโดยที่ไม่มีใครเห็นเลยก็ไม่ใช่ง่ายๆ ดังนั้นฉันก็คิดว่าถ้าเงินที่หายไปของบ้านตระกูลโม่ก็คือเงินที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าได้ งั้นคนที่ส่งเงินก็มีแค่เสี่ยวจุนคนเดียวแล้ว คุณคิดว่าการคาดการณ์ของฉันสมเหตุสมผลไหม ยังมีอีกอย่าง คราวที่แล้วฉันได้เห็นเขาอยู่ตรงน้ำพุจริงๆ ฉันก็เลยวิ่งตามขึ้นไป ฉันรู้สึกว่าไม่ใช่ภาพหลอน แต่ตอนนั้นฉันก็นึกไม่ถึงว่าเขายังไม่ตาย ก็เลยบอกกับตัวเองตลอดว่านั่นคือภาพหลอน แล้วยังมีอีกเรื่องหนึ่ง ฉันเคยเห็นรูปตอนเด็กของเขา เหมือนของเย่จื่อห้านเป๊ะๆ เลย…”
“ได้แล้ว ฉันรู้แล้ว ก็คือว่าเธอมีเหตุผลเพียงพอพิสูจน์ได้ว่าเขายังมีชีวิตอยู่ ดังนั้นเธออยากให้ฉันช่วยเธอหาเขาออกมาใช่ไหม”
เพื่อบรรลุเป้าหมายของเธอที่ว่าให้เขาช่วยหาโม่เสี่ยวจุนให้เจอ จนถึงขณะนี้แล้วเธอยังจะปากแข็งบอกว่าโม่เสี่ยวจุนคือน้องชายของเขาอีก แบบนี้จะให้เขาไม่โกรธได้ไง
“ไม่ใช่ ไม่ใช่ช่วยฉันหาให้เจอ แต่คือพวกเราหาเขาให้เจอ เขาเป็นญาติพี่น้องของพวกคุณ” เซี่ยชีหรั่นฟังออกว่าความหมายที่แฝงอยู่ในคำพูดของเขา กลัวเขาเข้าใจผิดเลยรีบอธิบาย
“แล้วไงต่อ” เขาถาม
เงยหน้ามองเขา
“ไม่ใช่! ฉันไม่ได้คิดแบบนั้นเลย ฉันก็แค่อยากจะให้ทั้งครอบครัวของคุณได้อยู่ด้วยกันแค่นั้นเอง”
โกหกอีกแล้ว!
เย่เชินหลินโค้งปากขึ้นอย่างเยาะเย้ย ถามเธอว่า: “ยิ่งใหญ่ขนาดนี้เลยเหรอ แค่อยากให้ทั้งครอบครัวของเราได้อยู่ด้วยกัน แล้วเธอล่ะ เธอก็ไม่ได้อยากรีบเจอเขาเหรอ”
“ฉัน…ฉันก็อยากสิ! ฉันกับเขา เราใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันมายี่สิบกว่าปีแล้ว ฉันรู้ว่าเขายังมีชีวิตอยู่ก็อยากรีบเจอเขาให้เร็วหน่อย”
“ดังนั้นเพื่อที่จะได้เจอเขา เธอก็สามารถโกหกฉันต่อ บอกว่าเขาคือน้องชายของฉัน เซี่ยชีหรั่น ในใจของเธอเขาสำคัญขนาดนั้นเลยเหรอ” ในสายตาของเย่เชินหลินมีอารมณ์เจ็บปวดอย่าหนึ่งทิ่มดวงตาของเซี่ยชีหรั่นจนเธอเจ็บ
“ไม่ใช่! เย่เชินหลิน! คุณคิดมากเกินไปแล้ว ฉันไม่ได้โกหกคุณจริงๆ เรื่องนี้มันง่ายมาก แค่คุณหาเขาให้เจอ คุณก็จะรู้ว่าเขาเป็นน้องชายของคุณจริงๆ คุณเชื่อผลตรวจ DNA ไม่ใช่เหรอ พวกคุณไปตรวจเลย เขาต้องเป็นน้องชายของคุณแน่นอน ฉันไม่ได้โกหกคุณ!”
“จริงหรอ ดีมากเลย! หลิน พอหาเขาเจอและรอผลออกมาคุณก็จะรู้ว่าฉันไม่ได้โกหกคุณ ตอนนี้คุณอาจจะยังไม่เชื่อฉัน ถึงตอนนั้นคุณก็จะเข้าใจแล้ว” ในดวงตาของเซี่ยชีหรั่นปนด้วยน้ำตา ร้องไห้ไปยิ้มไปอย่างดีใจ
เย่เชินหลินยิ่งบีบเธอแรงเข้าไปอีก เอ่ยปากพูดด้วยสีหน้าเย็นชา: “อย่าคิดว่าเขายังมีชีวิตอยู่ ฉันหาเขาเจอเธอก็จะกลับไปอยู่เคียงข้างเขาอย่างสมหวังแล้วล่ะ เรื่องที่สัญญาในข้อตกลงฉันทำให้เธอเรียบร้อยแล้ว ไม่ว่ายังไงเธอก็ต้องอยู่ที่นี่กับฉันตลอดชีวิต ยอมก็ดี ไม่ยอมก็ดี เธอไม่มีวันหนีออกไปได้!”
“ฉันไม่เคยคิดที่จะหนี เย่เชินหลิน ตั้งแต่วินาทีที่ฉันเซ็นสัญญากับคุณ ฉันก็คือผู้หญิงของคุณแล้ว ถึงเขาจะกลับมา ถึงเขาจะใช่หรือไม่ใช่น้องชายของเธอ ฉันก็ไม่มีวันอยู่กับเขาอีกแล้ว”
ตอนแรกเธออาจจะยังไม่ทันคิดปัญหานี้ แต่พอเขาเตือนตอนนี้ เธอกลับมีคำตอบออกมาทันที โม่เสี่ยวจุนยังมีชีวิตอยู่ เธอก็ไม่มีทางกลับไปเป็นเหมือนเมื่อก่อนกับเขาอีกแล้ว ความจริงเธอเป็นผู้หญิงของเย่เชินหลินอย่างเต็มตัวแล้ว พวกเขาก็เป็นพี่น้องกันอีก เป็นไปได้ไงที่เธอจะกลับไปหาโม่เสี่ยวจุนอีก
เธอแค่หวังว่าโม่เสี่ยวจุนจะมีชีวิตที่ดี เจอผู้หญิงที่เขารักและรักเขา อยู่ด้วยกันจนแก่เฒ่า
ความจริงเธอก็ไม่ได้อยากได้เขามาก อาจจะเป็นเพราะความรักที่เธอมีต่อเสี่ยวจุนไม่ใช่ความรักที่เป็นผู้ชายผู้หญิงแบบนั้น เธอไม่ได้อยากจูบเขา และก็ไม่ได้อยากเป็นผู้หญิงของเขาจริงๆ ไม่รู้ว่าความรู้สึกที่เสี่ยวจุนมีต่อเธอเป็นยังไงบ้าง เขาจะอยากทำอะไรแบบนั้นกับเธอไหม เธอก็ไม่เคยคิดปัญหานี้เลย เสี่ยวจุนก็ไม่เคยแสดงออกเหมือนกัน
เขาอาจจะมีความรักแบบนั้นต่อเธอบ้าง แต่ถึงจะมี มันก็กลายเป็นอดีตไปแล้ว ต่อจากนี้ไปเธอก็จะคิดว่าเขาเป็นพี่ชาย เธอเชื่อว่าโม่เสี่ยวจุนก็จะคิดว่าเธอเป็นน้องสาวของเขาเหมือนกัน
เธอจะใช้ความรักทั้งหมดกับผู้ชายที่อยู่ข้างหน้าคนนี้ ก็เหมือนอย่างที่เขาพูด เรื่องที่เขาสัญญากับเธอเขาทำเรียบร้อยแล้ว อย่างนั้นเธอก็ต้องทำตามข้อตกลงแล้วเหมือนกัน
“เย่เชินหลิน ฉันรู้ว่าตอนที่คุณจัดการเรื่องหวีหงทาวกับหวีซานซานคุณยังไม่รู้ว่าโม่เสี่ยวจุนยังมีชีวิตอยู่ ดังนั้นสำหรับเรื่องนี้ฉันขอบคุณคุณมาก ฉันก็จะอยู่เคียงข้างคุณตลอดไป ไม่ว่าคุณกับคู่หมั้นของคุณจะเป็นยังไงบ้างก็ตาม ถึงแม้ว่าคุณจะแต่งงานแล้วฉันก็จะเป็นเมียน้อยของคุณ แค่คุณไม่ไล่ฉันไป ฉันก็จะทำตามข้อตกลงของเราต่อไป ฉันแค่หวังว่าคุณอย่าใจร้ายกับฉันเกินไป อย่างนั้นคุณก็จะมีความสุขกว่า ฉันด้วย”

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset