สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่378สาวใช้ตัวแสบ282

ตอนที่378สาวใช้ตัวแสบ282
“จริงเหรอคะ คุณน้า! หนูดีใจแทนท่านมากเลยนะคะ! ความจริงคราวก่อนตอนที่หนูอยู่ในวิลล่า หนูก็ได้บังเอิญรู้มาว่าบ้านตระกูลเย่ยังมีลูกอีกคนที่หายไป หนูยังบอกให้พ่อแม่และคุณในบ้านหนูช่วยไปสืบหน่อยอยู่เลย นึกไม่ถึงเลยว่าจะหาเจอเร็วขนาดนี้ ท่านไปหาเจอที่ไหนเหรอคะ ยินดีด้วยนะคะ! คราวนี้ท่านก็ดีใจมากแล้วสิคะ เชินหลินก็ดีใจแล้วเหมือนกัน หนู…หนูก็ดีใจอย่างบอกไม่ถูกเลยค่ะ”
คำพูดของส้งหลิงหลิงทำให้ฝู้เฟิ่งหยีนึกเรื่องหาลูกที่ลำบากมาหลายปีขึ้นมาอีกครั้ง แล้วยังนึกถึงความลำบากที่เหยนชิงเหยียนเคยผ่านมา น้ำตาก็ไหลออกมาอย่างควบคุมไม่ได้
“เรื่องมันยาวน่า ตอนน้าเจอหนูค่อยเล่าให้ฟังนะ” เธอไม่อยากให้ลูกสะใภ้ในอนาคตของเธอฟังออกว่าเธอร้องไห้อีกแล้ว ก็เลยหาข้ออ้างและคุยกับส้งหลิงหลิงเรื่อยเปื่อยจึงวางสายลง
หลังจากที่ส้งหลิงหลิงวางสายลงมุมปากก็โค้งขึ้นอย่างสมใจ ในใจคิดว่า เรื่องนี้เธอทำได้ไม่มีร่องรอยสักนิดเลยจริงๆ ไม่ว่าเป็นใครก็นึกไม่ถึงว่าคนที่หาลูกชายปลอมให้บ้านตระกูลเย่จะเป็นเธอ
เธอรู้นิสัยขี้สงสัยของเย่เชินหลินมาก ถ้าจ้างคนในสังคมจริงๆ แค่ครั้งเดียวพวกเขาก็มองออกว่าเป็นคนหน้าเงิน
คิดอยากจะหลอกใครคนหนึ่ง ก็ต้องใช้ปลอมแทนจริงสิ ดังนั้นเหยนชิงเหยียนคนนี้ คือเธอให้เซียวเสี่ยวลี่ใช้ข้อมูลคร่าวๆ ของเย่จื่อห้านหาเจอบนเว็บไซต์ค้นหาญาติเอง ไม่ใช่แค่หน้าตาที่คล้ายกับตอนเด็กของเย่จื่อห้านอย่างเดียว รวมทั้งอายุและเวลาที่หายตัวไปก็เหมือนกันมาก อีกอย่างประสบการณ์ของเขาก็มองร่องรอยตอนเด็กไม่ค่อยออกด้วย มันยากที่จะเปรียบเทียบ แค่ DNA อย่างเดียวผ่าน ก็ยากที่จะทำให้คนอื่นสงสัยแล้ว
และสิ่งที่สุดยอดไปกว่านั้นก็คือขนาดเหยนชิงเหยียนเองก็ไม่รู้ว่าคนที่เขาหาเจอไม่ใช่ครอบครัวจริงๆ ของเขา
ส้งหลิงหลิงก็ใช้หลายคนมาแล้วเหมือนกัน จึงมีคนบอกข้อมูลเรื่องเว็บไซต์ค้นหาญาติให้ฝู้เฟิ่งหยีอย่างกับไม่ได้จงใจบอก ให้เธอไปลองดูว่ามีเบาะแสอะไรบ้างไหม หลังจากที่ฝู้เฟิ่งหยีลงทะเบียนประกาศข้อมูลแล้ว ส้งหลิงหลิงก็ให้เซียวเสี่ยวลี่จับคู่ให้ฝู้เฟิ่งหยีกับเหยนชิงเหยียนอย่างไร้ร่องรอย ดังนั้นพวกเขาก็นึกว่าตัวเองก็คือคนที่อีกฝ่ายกำลังหาอยู่ ไม่มีร่องรอยของคนนอกเข้ามาร่วมด้วยเลย
อีกฝั่งกำลังหาลูก ส่วนอีกฝั่งก็กำลังหาพ่อแม่ คุณสมบัติก็คล้ายกันมาก เป็นไปได้ไงที่จะเข้ากันไม่ได้ เรื่องนี้ถึงจะถูกเปิดเผยออกมา ก็ไม่มีใครสามารถหาได้ว่าเธอส้งหลิงหลิงเป็นคนทำ
แต่พอเธอได้ยินว่าฝู้เฟิ่งหยีตื้นตันใจเช่นนี้ ดูออกเลยว่าไม่ถูกสงสัยแม้แต่นิดเลย
ก่อนที่จะต่อสู้กับเซี่ยชีหรั่น ส้งหลิงหลิงก็ไม่ค่อยได้ทำเรื่องชั่วร้ายอะไรมาก่อน แต่พ่อเธอใช้ความสามารถของตัวเองขึ้นมาที่ที่สูงขนาดนี้ ความนึกคิดละเอียดอ่อนก็สืบทอดทั้งหมดให้เธอแล้วจริงๆ
กลเล็กๆ น้อยๆ แค่นี้ ไม่ถือว่าเป็นเรื่องยากอะไรเลย
เย่เชินหลินน่า เพื่อให้ระหว่างเธอและยัยต่ำต้อยนั่นหมดความเชื่อใจกัน ฉันลงทุนมากเลยจริงๆ เธอก็อย่าให้ฉันต้องผิดหวังละกันนะ
ส้งหลิงหลิงยิ้มอ่อนๆ จับหน้าท้องและคิดว่า แค่เด็กน้อยอยู่ข้างในอย่างสงบ สุดท้ายเธอก็คือผู้ชนะ บนเซียมซีก็บอกแล้วไม่ใช่เหรอ “โบยบินออกไปหมื่นลี้ ไม่ว่าสัตว์ตัวไหนก็ไม่สามารถขัดขวางได้” เธอเชื่อความคิดของเธอ ถึงแม้ว่าตอนนี้เย่เชินหลินจะมีใจให้กับเซี่ยชีหรั่น แต่ความเชื่อใจระหว่างคนกับคนมีขีดจำกัด อีกอย่างเย่เชินหลินก็ไม่มีพื้นฐานของความเชื่อใจให้กับเซี่ยชีหรั่นอยู่แล้ว ยังไงเธอเข้าใกล้เย่เชินหลินก็เพื่อผู้ชายคนอื่น สำหรับนิสัยและความหยิ่งของเย่เชินหลินแล้ว เขาไม่อนุญาตให้เธอมีอีกคนหนึ่งอยู่ในใจเธอ นั่นก็คือหนามที่อยู่ในใจเขา
ถ้าให้เขายืนยันจริงๆ ว่าคนที่อยู่ในใจเธอคนนั้นก็คือน้องชายของเขา หนามที่อยู่ในใจเขาก็น่าจะต้องค่อยๆ อ่อนลง แล้วเธอส้งหลิงหลิงยังจะเล่นบทอะไรต่ออีกล่ะ
แต่มีหนึ่งจุดที่เธองงจริงๆ หัวหน้าศูนย์ตรวจบอกกับเธอว่า ตัวอย่างของโม่เสี่ยวจุนที่เย่เชินหลินส่งมาไม่ตรงกับของเขาเลย ไม่รู้ว่าข้างในนี้มีอะไรผิดพลาดไป หรือว่าจะเอาตัวอย่างมาผิดแล้ว ส้งหลิงหลิงไม่รู้ เธอรู้แค่ว่า ตอนนี้แน่ใจแล้วว่าเหยนชิงเหยียนก็คือเย่จื่อห้าน ความเชื่อใจที่เย่เชินหลินมีต่อเซี่ยชีหรั่นก็แตกสลายไปแล้ว ตอนนี้ถึงเวลาที่เธอโบยบินหมื่นลี้แล้ว
ฝู้เฟิ่งหยีวางโทรศัพท์ลง ก็บอกเรื่องคุณพ่อของส้งหลิงหลิงออกมาแล้ว เธอบอกว่าเธอตัดสินใจแล้ว ต้องไปทั้งครอบครัว
“ได้ ก็ทำตามที่ท่านวางแผนเลย” เย่เชินหลินตอบ
คืนนี้เย่เชินหลินไม่ได้กลับไปวิลล่า ก่อนที่ผลของเรื่องโม่เสี่ยวจุนจะออกมา เขาไม่อยากไปเจอเธอ
เซี่ยชีหรั่นยังคงจ้องมองเพดานอยู่ เดี๋ยวก็นึกถึงโม่เสี่ยวจุน เดี๋ยวก็นึกถึงเย่เชินหลิน จนกระทั่งเธอไม่กล้าหวังอีกว่าเย่เชินหลินจะรักเธอมากกว่านี้ รักคนคนหนึ่ง ก็จะเชื่อใจเขา ถึงแม้ว่าเย่เชินหลินจะดีกับเธอ แต่ไม่มีความเชื่อใจสักนิดเลย เธอก็เข้าใจ เธอพูดว่าเธอรักโม่เสี่ยวจุนมากกว่าชีวิตตัวเองต่อหน้าเขาหลายครั้งมาก สำหรับเขาแล้วนี่อาจจะเป็นหลุมที่มิอาจเดินข้ามได้
ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเย่เชินหลิน เธอก็ทำได้แค่รอเวลาจัดการแล้ว ตอนนี้เรื่องที่เธอหวังมากที่สุด ก็คือเจอโม่เสี่ยวจุนในเร็ววัน
เสี่ยวจุน เบอร์โทรศัพท์ที่ฉันให้ท่านคณบดีวางไว้บนโต๊ะเธอเห็นยัง หวังว่าเมื่อเธอเห็นแล้วจะรีบโทรมาหาฉันทันทีเลยนะ ต้องรีบหาฉันนะ!
แต่แล้วตอนนี้ คนที่เธออยากเจอที่สุดไม่อยู่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าตั้งนานแล้ว และก็ไม่อยู่ในหลินเจียงแล้วด้วย
เมื่อโม่เสี่ยวจุนรู้ที่อยู่ใหม่ของบ้านตระกูลโม่ เขาก็รีบกลับไปโดยไม่หยุดเลย แอบเข้าไปในห้องนอนของโม่เว้ยปิงและภรรยาของเขา ค้นหาโทรศัพท์มือถือและหนังสือที่ใช้จดเบอร์โทรศัพท์ของทั้งสองคนมาหมดแล้ว
ทั้งโทรศัพท์มือถือและหนังสือไม่มีชื่อของเซี่ยชีหรั่นสักอย่าง นิสัยของพวกเขาคือถ้ามีวิธีทางที่ติดต่อเธอได้ต้องจดลงมา หลังจากนั้นเขาก็ได้คิด เดาว่าพวกเขาอาจจะรู้ว่าเซี่ยชีหรั่นไปหาทางแก้แค้นให้เขาแล้ว สำหรับพวกเขาเธอคืออุปสรรคใหญ่ กลัวว่าจะทำให้พวกเขาโดนไปด้วย มีความเป็นไปได้ว่าทั้งสองฝ่ายไม่ได้ติดต่อกันแล้ว
สำหรับเงินก้อนนั้น เขารู้สึกว่าควรเอาให้สถานเลี้ยงเด็กกำพร้ามากกว่า เขาก็เลยเอาไปแล้ว เงินห้าหมื่นของครั้งแรกเขาก็แค่อยากลองดู เขากลัวว่าคณบดีนิสัยขี้กลัวจะแจ้งตำรวจ เลยไม่กล้าเอาให้เธอทีเดียวหมด พอเอาไปวางได้ไม่กี่วันไม่มีวี่แววอะไรเลย เขาก็ได้ไปอีกรอบ นำเงินสองแสนห้าหมื่นทั้งหมดเอาไปไว้ที่นั้นแล้ว
เขาก็เคยโทรไปที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าถามข่าวของเซี่ยชีหรั่น คนนั้นบอกว่าไม่เคยรู้คนนี้มาก่อน หลังจากที่เอาเงินไปให้ ที่นั่นก็ไม่ปลอดภัยอีกแล้ว เขาคิดว่าถ้าจะหาเซี่ยชีหรั่นต้องหาทางใหม่แล้ว
คืนวันนี้ไห่ฉิงฉิงไปดูหนังคนเดียว ออกมาจากโรงหนัง เธอไปเอารถที่ลานจอดรถ เดินไปถึงข้างๆ รถเบนซ์สีแดงของเธอ กำลังจะเปิดประตูออกก็ได้เห็นผู้ชายคนหนึ่งพิงที่รถของเธอกำลังสูบบุหรี่อย่างชิวอยู่
เธอตั้งตาดูดีๆ ผู้ชายคนนั้นเธอเคยเห็น ก็คือเชอเฮ่าที่หาเธอเพื่อถามหาเซี่ยชีหรั่นคราวก่อนไม่ใช่เหรอ
“ดูเสร็จยัง” โม่เสี่ยวจุนเอ่ยถามขึ้นช้าๆ เหมือนกับว่าเขากับไห่ฉิงฉิงเป็นเพื่อนเก่าอย่างนั้น
“นายมีเรื่องอะไรอ่ะ คราวก่อนฉันก็เคยบอกนายแล้วไม่ใช่เหรอ ชีหรั่นหรืออะไรที่นายบอก ฉันไม่เคยได้ยิน ไม่รู้จักด้วย นายจะมาตามอะไรนักกันหนาเนี่ย” ไห่ฉิงฉิงตะโกนใส่เขา
ที่นี่คือลานจอดรถ ใจจริงเธอก็รู้สึกกลัวอยู่ แต่ก็รู้สึกอย่างแปลกๆ ว่าคนนี้น่าจะไม่ทำร้ายเธอหรอก
“คราวก่อนคำพูดของคุณไม่ตรงกัน แสดงว่าคุณไม่ได้พูดความจริง ผมก็นึกว่าผมสามารถหาเจอเธอที่อื่นได้ ก็ไม่ได้ตามถามคุณต่อ แต่เสียดายมาก ผมหาเธอไม่เจอ ก็เลยต้องมารบกวนคุณอีกแล้ว”
ท่าทางของโม่เสี่ยวจุนดูไม่รีบ แค่กำลังจ้องมองเธออยู่และสูบบุหรี่ชิวๆ ไปด้วย
“นาย! นายรู้ไหมว่านายกำลังพูดอะไรอยู่ ออกไป! ถ้ายังไม่ออกไปฉันก็จะโทรหาตำรวจแล้วนะ!” ไห่ฉิงฉิงตะโกนออกอีกครั้ง โม่เสี่ยวจุนยังคงนิ่งอยู่กับที่
“คุณไม่อยากพูดก็ได้ ตั้งแต่คืนนี้ไป คุณก็ได้เพิ่มบอดี้การ์ดแล้ว ตั้งแต่คุณออกมาจากเขตพื้นที่ทหาร ผมก็รับหน้าที่ปกป้องคุณ จนถึงคุณกลับบ้าน ผมมีเวลาอยู่ ผมไม่รีบ คุณจะโทรหาตำรวจก็ได้ ผมหนึ่งไม่ได้ข่มขืนคุณ สองไม่ได้ลักพาตัวคุณ ไม่รู้ว่าคุณจะให้ตำรวจจับผมด้วยข้อหาอะไร” โม่เสี่ยวจุนทิ้งบุหรี่ลงไปและเหยียบให้ดับ พูดอย่างเฉยชา
“นาย!” ไห่ฉิงฉิงโกรธจนกัดฟันและเหยียบเท้าตลอด
อย่างน้อยเธอก็ยังเกิดออกมาในครอบครัวทหาร เขาจะเล่น งั้นเธอก็จะเล่นด้วย
โกรธไปสักพัก เธอหัวเราะออกอย่างเยาะเย้ย
“ไม่เป็นไร นายอยากตามก็ตามมาเลย เพิ่มบอดี้การ์ดหนึ่งคนก็เป็นเรื่องดีเหมือนกัน ช่างมันเถอะ อีกอย่าง นายก็ไม่ใช่ว่าจะตามฉันทันแน่นอน”
พูดจบ เธอใช้รีโมทเปิดประตูรถออก คิดไม่ถึงเลยว่าโม่เสี่ยวจุนเร็วมาก เธอขึ้นรถแล้ว เขาก็ขึ้นรถเรียบร้อยแล้วเหมือนกัน
“เฮ้ย! นายมาขึ้นรถฉันแบบนี้หมายความว่าไง” ในที่สุดไห่ฉิงฉิงก็โกรธจนระเบิดแล้ว
“ไม่หมายความว่าไง ก็คุณขาดบอดี้การ์ดไม่ใช่หรอ ผมไม่เอาค่าจ้าง อยู่กับคุณได้ตลอด ออกรถเลย ออ ไม่งั้นคุณจะให้ผมขับก็ได้นะ แต่ว่าผมไม่มีใบขับขี่” โม่เสี่ยวจุนเอามือออกทั้งสองข้าง จากนั้นก็พิงลงไปที่เบาะเก้าอี้หลับตาพักผ่อน ยังไงท่าทางอย่างนั้นของเขาก็คือจะรอจนถึงเธอจะพูดความจริงออกมา
ไห่ลี่หมิน เธอดูไว้เลยนะ ฉันเพื่อที่จะเก็บความลับให้เธอไว้ ฉันมาโดนเรื่องอะไรบ้าๆ อย่างนี้เนี่ย ไห่ฉิงฉิงแอบบ่นในใจ และก็กลัวว่ากลับไปดึกเกินแม่จะบ่นเธออีก ไม่กล้าเสียเวลาอีกก็ได้แต่ขับรถออกอย่างแค้นใจ
โม่เสี่ยวจุนไม่พูดคุยกับเธอตลอดทาง ได้แต่จ้องหน้าเธออย่างเดียว จ้องจนเธอรู้สึกแอบขนลุกในใจ
ไห่ฉิงฉิงรู้สึกแปลกๆ ตลอดเลยว่าที่มีผู้ชายแปลกหน้ามานั่งข้างเธอ โดยเฉพาะว่าเขายังหล่อโคตรๆ อีกด้วย เธอถูกจ้องมองแบบนี้ ไข้ขึ้นแม้กระทั่งใบหน้าเลย
ในที่สุดเธอก็ทนไม่ไหวอีกแล้ว พูดอย่างอารมณ์เสียว่า: “นายมองฉันทำไม ฉันไม่ใช่เซี่ยชีหรั่นอะไรนั่นของนายสักหน่อย นายมองฉันแล้วฉันก็จะกลายเป็นเธอหรือไง”
“ยังจะบอกว่าไม่รู้จักเธออีกหรอ ถ้าไม่รู้จักจริง แล้วคุณจะจำชื่อของเธอชัดเจนอย่างนี้ได้ไงทั้งที่เคยได้ยินชื่อนี้แค่ครั้งเดียวเอง” โม่เสี่ยวจุนขยับเข้าหาเธออีก
ลมหายใจของผู้ชายแปลกหน้าครอบคลุมไห่ฉิงฉิงไว้ในวินาทีนี้ เธอก็ไม่รู้ว่าเป็นอะไรไปแล้ว จู่ๆ ก็รู้สึกตื่นเต้นแปลกๆ
“ไปไกลๆ เลย นี่นายกำลังรังแกฉันอยู่นายรู้ตัวไหม อย่าคิดว่าตัวเองหล่อ ช่วงนี้ฉันกำลังมีภูมิต้านทานกับสัตว์ตัวผู้อยู่เลย” หน้าแดงของไห่ฉิงฉิงหลบไปที่หน้าต่างตรงนั้น
“คุณกลัวผมหรอ งั้นก็พูดความจริงออกมาสิ ถ้าคุณพูด ผมสัญญาได้ว่าอยากให้ไปไกลแค่ไหนผมก็ไป ไม่ให้คุณเห็นคนน่าเกลียดอย่างผมอีก” โม่เสี่ยวจุนยิ่งเข้าใกล้ไปที่ไห่ฉิงฉิงอีก มือของไห่ฉิงฉิงอ่อนแรงแล้ว
เชี่ย เธอก็ถือว่าเห็นผู้ชายมาเยอะแล้ว แต่ทำไมกลับมีความรู้สึกร้อนแรงกับผู้ชายแปลกประหลาดคนนี้เนี่ย
เฮ้อ! ช่วงนี้ฮอร์โมนของเธอต้องผิดปกติแน่เลย
“ฉันขอถามนายอะไรหน่อย นายกับเซี่ยชีหรั่นเป็นอะไรกันเหรอ ถึงแม้ว่าฉันจะไม่รู้จักเธอ แต่ฉันก็อยากรู้มากเหมือนกัน นายมาตามผู้หญิงโสดอย่างหน้าด้านๆ แบบนี้ คนที่นายต้องหาให้เจอเป็นอะไรกับนายกันแน่ แฟน? ภรรยา?”

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset