สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่405 สาวใช้ตัวแสบ 309

ตอนที่405 สาวใช้ตัวแสบ 309
“อ้อ งั้นเหรอ?” เหมือนว่าท่าทางของโม่เสี่ยวจุนเฉยเมย ฟังอารมณ์ไม่ค่อยออกเท่าไหร่
แต่ในความเป็นจริงเซี่ยชีหรั่นสามคำนี้ ไม่ว่าจะเอ่ยออกจากปากของใคร ก็ไม่สามารถทำให้เขาสงบลงได้
“ใช่ ฉันยังถามเธอไปว่า นายกับเขาเป็นอะไรกัน นายเป็นอะไรของเธอ”
คิ้วของโม่เสี่ยวจุนขยับ แต่ก็ไม่ได้พูดต่อ ก่อนที่เขาจะเข้าใกล้ไห่ฉิงฉิง ได้เคยคิดปัญหานี้แล้ว วันก่อนเขายังดิ้นรนตามหาเซี่ยชีหรั่น ไห่ฉิงฉิงก็แค่เดา ยังไมพวกเขาก็มีความสัมพันธ์กันไม่มากก็น้อย
แต่คืนนี้เมื่อเห็นสถานการณ์ของเซี่ยชีหรั่นกับเย่เชินหลินอยู่ด้วยกันแล้ว เซี่ยชีหรั่นจะไม่พูดว่าเธอและโม่เสี่ยวจุนมีความสัมพันธ์กัน บอกว่าเขาเป็นพี่ชายของเธอมีความเป็นไปได้มากที่สุด
ไห่ฉิงฉิงยังคงคอยสังเกตปฏิกิริยาของโม่เสี่ยวจุน เมื่อเขาได้ยินเธอบอกว่าพวกเขาเป็นพี่น้องกัน เธอนั้นดีใจมาก แต่หลังจากนั้นเธอได้มาลองทบทวนดู กลับรู้สึกว่าตอนนั้นที่โม่เสี่ยวจุนตามหาเซี่ยชีหรั่น ความกระตือรือร้นในแววตาของเขานั้นไม่เหมือนความสัมพันธ์แบบพี่น้อง
โม่เสี่ยวจุนไม่ได้ตอบสนอง ไห่ฉิงฉิงอดไม่ได้ เลยพูดออกมาเองว่า: “เธอบอกว่านายเป็นพี่ชายของเธอ นายเป็นพี่ชายของเธอจริงเหรอ?”
“ฉันกับชีหรั่นเป็นเด็กกำพร้าที่ถูกเก็บมาเลี้ยงที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าพร้อมกัน ถูกเก็บมาเลี้ยงในบ้านเดียวกัน บ้านของพวกเขาอยากได้เด็กผู้ชาย ดังนั้นฉันเลยนามสกุลเดียวกับพวกเขา นามสกุลโม่ ชีหรั่นก็ยังคงใช้ชื่อในสถานที่เลี้ยงเด็กกำพร้า ยังคงนามสกุลเซี่ย นี่คือความสัมพันธ์ของเราสองคน” โม่เสี่ยวจุนไม่เคยอธิบายอะไรกับใคร แต่ตอนนี้เขาจะจีบเธอไห่ฉิงฉิง เพื่อบรรลุเป้าหมาย เขาเลี่ยงไม่ได้ที่จะอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างเขาและเซี่ยชีหรั่นได้
อย่างนี้นี่เอง ในใจของไห่ฉิงฉิงก็ไม่อาจคาดเดาได้ว่าเขาและเซี่ยชีหรั่นมีความสัมพันธ์อะไรกัน แต่เขาสามารถเริ่มอธิบายให้เธอก่อน ก็ถือว่าเขามีทัศนคติที่จริงใจต่อเธอ
เธอมีหนึ่งประโยคที่อยากถามเขามาก ว่าเขามีจุดประสงค์อะไรที่เข้ามาใกล้เธอ ไม่รู้ทำไม ทันใดนั้นเธอก็ไม่สามารถเอ่ยปากออกมาได้ มักรู้สึกว่าหากเอ่ยปากถามเขาไป สำหรับเขามันเหมือนทำร้าย

ด้านของเย่เชินหลินยังทานอาหารกันไม่เสร็จ ฝู้เฟิ่งหยีก็โทรมาถามว่าเหยนชิงเหยียนกับไห่ฉิงฉิงทั้งสองคนเป็นยังไงกันบ้าง ก็เรียกให้เย่เชินหลินช่วยจัดรถให้ลูกชายเล็กของเธอกลับบ้าน
“แม่ครับ มีลูกชายเล็กแล้ว ก็จะไม่สนใจลูกชายคนโตแล้วเหรอครับ?” เย่เชินหลินแกล้งคุณแม่ทุกครั้งที่ได้ยินน้ำเสียงที่ร่าเริงของคุณแม่ เขาก็จะมีอารมณ์แบบนั้น
เหยนชิงเหยียนคนนี้ไม่ต้องแสดงผลของดีเอ็นเอว่าพวกเขาเป็นพี่น้องแท้ๆ หากไม่ใช่พี่น้องแท้ เพียงแค่เขาสามารถนำความสุขมาให้คุณแม่ เขาจะไม่ทำลายตัวตนของเขาแน่นอน
ไม่ต้องพูดถึงหากเขาไม่ได้หวังสมบัติภายนอก ก็ไม่มีเหตุผลอื่นที่จะมีหลอกพวกเขา
“ลูกมีอะไรต้องสนใจ มีคู่หมั้นไม่ว่า อยู่ข้างนอกยังจะให้ฉันขายหน้า ฉันขี้เกียจสนใจแล้ว ยังไงก็แล้วแต่อย่าพาเสี่ยวห้านของฉันเสียคนก็แล้วกัน กินข้าวเสร็จ ก็ไม่ต้องไปเถลไถลที่ไหนอีก รีบให้คนส่งเขากลับมาให้ฉัน”
“ผมจะพากลับไปเอง โอเคไหมครับ?” เย่เชินหลินพูดต่อ และยิ้มเบาๆ
“ส่งด้วยตัวเองก็ส่ง เขาเป็นน้องชายของแก แล้วจะไม่ให้รบกวนแกรึไง? โอเคแล้ว แกอย่าลืมจับคู่พวกเขาล่ะ”
“รู้แล้วครับแม่ นี่ผมยังไม่จับคู่อีกเหรอ”
วางสายแล้ว เย่เชินหลินมองเหยนชิงเหยียนแล้วยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ และพูดว่า: “นายคอยดูเถอะ ฉันรับรองได้ทุกครั้งที่นายกลับถึงบ้านจะต้องถูกไล่ถามความคืบหน้าของฉิงฉิง แม่ไม่ง่ายเลยที่จะตามนายกลับมาบ้าน ไม่แน่นายคงได้แต่งงานมีหลานให้เขา”
ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ดูเหมือนจะกลมกลืน ในใจของเซี่ยชีหรั่นพูดไม่ออกถึงความขมขื่น และยังคงคิดว่าทำไมเย่เชินหลินถึงไม่สงสัยถึงผลการประเมินเลย เหมือนจะไม่มีความสงสัยถึงเย่จื่อห้านตัวปลอมเลย เขาเป็นคนขี้สงสัยไม่ใช่เหรอ? หรือว่าเขาจะสงสัยแค่กับเธอเซี่ยชีหรั่นเท่านั้น?
“พี่ชาย ผมรู้สึกว่าพี่จะมีหลานให้ท่านเร็วกว่า” เมื่อเหยนชิงเหยียนพูดเสร็จ ก็มองไปทางเซี่ยชีหรั่นโดยเฉพาะ
คนโง่ยังดูออกว่าเย่เชินหลินอยากเป็นเจ้าของเซี่ยชีหรั่น แต่เหยนชิงเหยียนก็ไม่เข้าใจ เขาชอบเซี่ยชีหรั่นมากขนาดนี้ ทำไมถึงมีคู่หมั้น
ต้องมีสักวันเขาจะสั่งสอนเขา ว่าผู้หญิงจะต้องดูแลรักษาให้ดี ไม่ควรให้เธอเสียใจนาน ไม่แน่เกิดเธอหนีไป เขานั้นแหละที่จะเสียใจภายหลัง
เหยนชิงเหยียนนมองไปที่เซี่ยชีหรั่น ความหมายในคำพูดของเขาทำให้เซี่ยชีหรั่นอดไม่ได้หน้าแดงขึ้นมา รีบก้มหัวลง
มุมปากของเย่เชินหลินก็โค้งขึ้น แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร
หลังจากทานข้าวกันเสร็จ เหยนชิงเหยียนยืนกรานว่าจะนั่งรถกลับเอง แต่เย่เชินหลินยืนกรานว่าจะไปส่งเขา เรื่องที่เขารับปากคุณแม่แล้วก็จะต้องทำให้ได้
สุดท้ายทุกคนก็ต้องขึ้นรถของเย่เชินหลินไปพร้อมกัน คืนนี้เย่เชินหลินนำแค่คนขับออกมาแค่คนเดียว ไม่ได้เรียกบอดี้การ์ด
เหยนชิงเหยียนนั่งอยู่ข้างคนขับ เย่เชินหลินและเซี่ยชีหรั่นนั่งเบาะหลัง
เมื่อเย่เชินหลินนึกถึงตอนที่นั่งแล้วได้ยินชื่อเชอเฮ่า เมื่อกลับถึงบ้านในใจก็ยังคงคิดถึงสิ่งนั้นอยู่ ดังนั้นเลยไม่คุยกับเซี่ยชีหรั่น แต่ก็ไม่ได้เย็นชาเป็นพิเศษ
เมื่อถึงบ้านตระกูลเย่ เย่เชินหลินสั่งให้คนขับรอที่เดิม เขานำตัวเหยนชิงเหยียนส่งให้ถึงตรงหน้าของฝู้เฟิ่งหยีด้วยตัวเอง
หลินเอ๋อร์ ทำไมมีแค่ลูกสองคน ไม่ได้พาหลินหลิงกับฉิงฉิงกลับมาให้ฉันเหรอ? เวลายังเช้า ฉันยังคิดว่าหากพวกเธอมา สามารถพูดคุยกัน” ฝู้เฟิ่งหยีพูด
เหยนชิงเหยียนมองไปที่เย่เชินหลิน ใบหน้าของเขาจางลง พูดเพียงแค่: “ผู้หญิงล้วนชอบเดินเล่น ไม่ชอบมาที่นี่เพื่อมาฟังแม่พูดเรื่องเก่าๆหรอกครับ”
“แม่ครับ ผมจะกลับแล้ว” เย่เชินหลินพูดจบ ยังไม่เข้าบ้านก็เตรียมจะออกไปแล้ว
ฝู้เฟิ่งหยีก็ไม่ได้ห้าม ยังไงเสียเสี่ยวห้านของเธอก็กลับมาแล้ว เธอพูดคุยกับลูกชายเล็ก จนเวลาล่วงเลยไปเท่าไหร่ก็ไม่รู้มองไปที่เย่เชินหลินก่อนที่จะเดินจากไปได้เหลือบมองเข้าไปในห้อง ฝู้เฟิ่งหยียิ้มอย่างรู้ทันแล้วพูดว่า: “พ่อแกคืนนี้มีสังสรรค์ ไม่กลับมา”
“ผมไม่ได้ถาม” เย่เชินหลินพูดอย่างเฉย แล้วหันหลังเดินจากไป
ฝู้เฟิ่งหยีส่ายหน้า และถอนหายใจ เด็กคนนี้ ติดนิสัยชอบโต้เถียงกับพ่อตั้งแต่เด็ก มักเก็บอารมณ์ตัวเองไว้ ไม่ชอบเปิดเผย ราวกับศักดิ์ศรีค้ำฟ้า
“แม่ครับ อย่ากังวลไปเลย ความสัมพันธ์ของพวกเขาต้องดีขึ้นเรื่อยๆ” เหยนชิงเหยียนพูดปลอบ
ลูกคนเล็กมีเหตุผลขนาดนี้ ก็ทำให้ฝู้เฟิ่งหยีมีความสุข
เมื่อเซี่ยชีหรั่นรอเย่เชินหลินอยู่ในรถ ความจริงในใจไม่พอใจ หากเธอเป็นคู่หมั้นของเขา เธอก็สามารถเข้าไปในบ้านของเขาได้
แต่เธอไม่ใช่ เธอทำได้เพียงรออยู่ด้านนอก
ไม่ใช่ว่าเย่เชินหลินจะพาเธอเข้าไปไม่ได้ เขาแค่ไม่ต้องการให้แม่ของเขาโกรธเคืองอะไร
หากวันหนึ่งในใจของเธอเหลือผู้ชายแค่เขาคนเดียวแล้ว เขาตัดสินจี่จะอยู่กับเธอไปตลอดชีวิต เขาจะให้ทั่วโลกได้รู้ว่าเธอเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวของเขา แต่ตอนนี้ ยังไม่ถึงเวลานั้น
เมื่อเย่เชินหลินลงมาชั้นล่างแล้วกลับมาขึ้นรถ เซี่ยชีหรั่นนั่งอยู่ในรถเงียบๆ ไม่พูดไม่จา
ทั้งสองคนไม่พูดตลอดทาง แต่มือของเย่เชินหลินยังคงโอบไหล่ของเซี่ยชีหรั่น
หลังจากกลับถึงวิลล่า เซี่ยชีหรั่นถูกเย่เชินหลินพาเข้าไปที่ห้องนอน เขาถึงถามเธอว่า: “เชอเฮ่าเป็นใคร?”
“เชอเฮ่าก็คือโม่เสี่ยวจุน หลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้น เขาก็ไม่ระบุตัวตน คงกลัวว่าหวีซานซานจะรู้ว่าเขายังมีชีวิตอยู่” เซี่ยชีหรั่นอธิบายอย่างช้าๆ
เย่เชินหลินมองท่าทางของเธอ เหมือนกับไม่มีอารมณ์อื่นๆ
ตั้งแต่เมื่อคืน เขาได้เริ่มคิด ต้องพยายามเชื่อใจและทะนุถนอมเธอรวมทั้งยอมรับความคิดของเธอบางส่วน
ความจริงแล้วเมื่อลองคิดทบทวนอย่างเงียบๆ โม่เสี่ยวจุนให้ทั้งใจกับเซี่ยชีหรั่นไป เขายังดูแลเธอมาตั้งนาน ให้เธอลืมเขาไปให้หมด แบบนั้นเธอคงต้องความจำเสื่อมเธอถึงจะลืมได้
แปลกมาก คำพูดนั้นของโม่เสี่ยวจุนได้มีผลกระทบต่อความคิดของเขาอย่างลึกซึ้ง โม่เสี่ยวจุนพูดว่า: “หากนายชอบเธอจริงๆ ทำไมไม่ไล่ตามจีบเธออย่างโจ่งแจ้ง ไม่คิดหาวิธีให้ได้ใจเธอมาล่ะ? ทำไมนายต้องคิดหาวิธีที่น่ารังเกียจเพื่อเก็บเธอไว้ นายคิดว่าแบบนี้เป็นสิ่งที่ลูกผู้ชายทำกันเหรอ?”
นอกจากได้รับอิทธิพลจากเขาแล้ว ตัวเขาเองก็เริ่มตระหนักช้าๆ ว่าเขาไม่ชอบเห็นผู้หญิงของเขาเพียงแค่กลัวเขา ทั้งหมดที่เชื่อฟังเขาเพียงเพราะความกลัว
เขาชอบเธอที่เธอมีต่อเขาจากก้นบึ้งของหัวใจ และความอ่อนโยน
ขณะที่เขาตรวจดูเธอ เซี่ยชีหรั่นก็ตรวจดูเขา เธอคิดว่าผู้ชายคนนี้ชอบโมโหมาก บอกว่าเธอพูดถึงโม่เสี่ยวจุนอย่างนั้นอย่างนี้
ทันใดนั้น อารมณ์ของเขาก็สงบลง
เซี่ยชีหรั่นอยากจะคว้าโอกาสถามเขา ทำไมถึงเชื่อผลตรวจดีเอ็นเอ ไม่ไปยืนยันหน่อยเหรอ?
เมื่อนึกขึ้นได้ตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงตอนนี้ ความเปลี่ยนแปลงของเย่เชินหลิน ความจริงแล้วยากมากเธอไม่ได้เอ่ยปากถามง่ายๆ ไม่อยากทำลายบรรยากาศสันติภาพที่หามาได้ยากแบบนี้
หากพูดอีกเธอก็เข้าใจ เรื่องแบบนี้ใจร้อนไม่ได้ หาเวลาที่เหมาะสมพูดไม่ได้ ก็จะยิ่งทำให้เขาไม่เชื่อ
“พักผ่อนเช้าหน่อย ฉันยังมีเรื่องของธุรกิจที่ต้องจัดการ” เย่เชินหลินพูดกับเซี่ยชีหรั่น น้ำเสียงถือว่าอ่อนโยนแล้ว
เซี่ยชีหรั่นพยักหน้า ก็ไม่ได้พูดอะไรมาก
เป็นเวลาหลายวัน ชีวิตสงบสุขมาก หลังจากเรื่องของเค้กทองคำ เซี่ยชีหรั่นสังเกตเห็นว่าอารมณ์ที่เย่เชินหลินที่มีต่อเธอเปลี่ยนไปอย่างชัดเจน
เขาไม่ได้สงสัยเธออย่างนั้นอีกแล้ว แม้ว่าเธอจะเหม่อลอยเป็นบางครั้ง เขาก็ไม่ได้ไล่ถามเธออย่างเอาเป็นเอาตาย
เขาคิดได้อย่างไร เธอไม่รู้ และก็ไม่ได้ถาม สถานการณ์แบบนี้ เธอรู้สึกว่ามีค่ามาก และหากเขาเห็นด้วยให้เธอไปทำงาน บางทีอาจจะยิ่งดี
ไม่กี่วันต่อมาในเวลาพลบค่ำ หลินต้าฮุยรีบกลับมาจากเมืองไห่ เพื่อนับคำสั่งจากเย่เชินหลิน เวลาแรกที่มาถึงวิลล่า นำผลรวจดีเอ็นเอฉบับใหม่ให้เย่เชินหลิน
ตอนนั้นที่จิ่วจิ่วเดินเล่นกับเซี่ยชีหรั่นที่สวนดอกไม้ และไม่ได้อยู่ในบ้าน
เย่เชินหลินมีเรื่องอะไรก็ไม่ได้ปิดบังหลินต้าฮุย ก็ เปิดเอกสาร นำผลตรวจออกมา ต่อหน้าเขา
“ใช่ไหมครับ คุณเย่?” หลินต้าฮุยก็ประหม่าเล็กน้อย
หากผลลัพธ์แสดงว่าเห็นว่าเย่เชินหลินกับโม่เสี่ยวจุนเป็นพี่น้องกัน อย่างนั้นก่อนหน้านั้นที่เขากับเหยนชิงเหยียนทำเป็นของปลอม ก็แสดงให้เห็นว่าหลินต้าฮุยทำงานได้ไม่ดี
แต่ไม่ว่าเขาจะทำงานได้ไม่ดี ก็ไม่ได้หวังให้เจ้านายของเขากับพี่น้องไม่รู้จักกัน
เย่เชินหลินเม้นริมฝีปากแน่น ส่ายหน้าอย่างหนัก เขาไม่รู้ทำไม ในใจถึงรู้สึกผิดหวัง หรือว่าเขาหวังอยากให้โม่เสี่ยวจุนเป็นน้องชายของเขาจริงๆเหรอ?

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset