สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่410 สาวใช้ตัวแสบ 314

ตอนที่410 สาวใช้ตัวแสบ 314
หลินหลิงเหลือบมองเซี่ยชีหรั่นอย่างเฉยเมย อันที่จริงในใจที่พูดต่อเธอ มีความชื่นชมอยู่บ้าง เธอแค่หวังว่าเธอจะไม่พูดอย่างทำอย่างก็พอแล้ว หากไม่รบกวนเธอ ไม่ให้คนรู้ว่าพวกเขาเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน ก็ยิ่งดี
ลูกพี่ลูกน้องของเธอนี้เป็นคำสั่งที่เอ่ยออกมาจากปากคุณเย่โดยตรง ไม่มีมีนิสัยละเมิดความหมายของเขา เซี่ยชีหรั่นก็เห็นความกังวลของเธอ และพูดเสียงเบา: “ถ้าหากคุณเย่ถามถึง เธอก็บอกว่าฉันเป็นคนขอร้องเธอ ไม่อยากให้ใครรู้สึกว่ามีอะไรเป็นพิเศษ ฉันก็รู้ว่าตำแหน่งของเธอในบริษัทนั้นสำคัญ หากมีคนรู้ว่าฉันเป็นน้องของเธอ จะต้องดูแลฉันมากเป็นพิเศษ ฉันไม่ต้องการการดูแลพวกนั้น”
“ก็ได้ เมื่อคุณยืนกรานแบบนี้ ก็ทำตามที่คุณบอก พรุ่งนี้เช้า คุณก็ไปที่กลุ่ม รายงานไปยังฝ่ายการตลาดของเครื่องประดับของฝู้ซื่อ ตำแหน่งของคุณคือผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายการตลาดผู้ช่วยของเซียวแย่ คุณเย่บอกว่าคุณมีความสนใจในการวางแผนการตลาด ที่คุณศึกษาอยู่ก็ด้านนี้ ดังนั้นตำแหน่งของคุณก็คือผู้ช่วยผู้จัดการเซียวแย่ทำวานด้านการวางแผนการตลาดเป็นพิเศษ การจัดการฝึกอบรมเฉพาะและข้อตกลงการทำงาน ผู้จัดการเซียวและฝายบุคคลจะจัดเตรียมให้คุณอย่างดี นี่ก็คืองานของฉัน”
“ค่ะ ขอบคุณมาก ลำบากคุณแล้วนะค” เซี่ยชีหรั่นพูดอย่างจริงใจ หลินหลิงไม่ได้แสดงอาการนอกเหนือจากนี้ เพียงพูดอย่างเย็นชาว่า: “ฉันจะไปทำธุระต่อ”
เดิมทีหลินหลิงมีความประทับใจต่อเซี่ยชีหรั่นเปลี่ยนไป แต่หากเธอขะไปทำงานที่ฝู้ซื่อ มันทำให้หลินหลิงรู้สึกว่าเธอมีความทะเยอทะยานมาก
คุณเย่มีผู้หญิงมากมาย ไม่มีผู้หญิงคนไหนกล้าเอ่ยปากว่าจะไปฝู้ซื่อ แม้ว่าจะเอ่ยปากพูดเขาก็ไม่ให้ไป เขาแยกแยะความเป็นสาธรณะและความเป็นส่วนตัวออกขนาดนี้ ทำไมถึงเอาเรื่องส่วนตัวมาไว้ในการทำงานได้
เซี่ยชีหรั่นยื่นข้อเสนอ เขากลับตอบตกลง เขาไม่เห็นความทะเยอทะยานของผู้หญิงคนนี้เลยเหรอ?
นี่ไม่ใช่เรื่องที่เธอต้องสนใจ แม้ว่าเธอจะรู้สึกไม่เป็นธรรม แต่ก็ไม่ต้องให้เธอมาพูด
เพราะวันถัดไปต้องไปทำงาน เซี่ยชีหรั่นนอนที่ห้องของตัวเองคนเดียว เธอรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย และนอนหลับไม่สนิทในเวลากลางคืน
รุ่งเช้าเธอตื่นขึ้นมาในยามเช้า นึกถึงเรื่องที่เย่เชินหลินบอกให้เธอไปออกกำลังกายตอนเช้ากับเขา รีบล้างหน้าแปรงฟันแล้วรีบไปห้องออกกำลังกาย
เมื่อเธอถึงห้องออกกำลังกาย เย่เชินหลินก็กำลังออกกำลังกายแล้ว
เธอเอาคำพูดของเขาเก็บไว้ในใจ แต่ว่าเมื่อเห็นเขาตั้งใจวิ่งออกกำลังกาย แม้ว่าเขาจะแค่พูดออกมา แต่เธอก็จริงจัง
เวลาที่เย่เชินหลินออกกำลังกาย ข้างกายมีสาวใช้ที่คอยดูแลอยู่ข้างกาย หากเธอเข้าไปแบบนี้เหมือนจะไม่เหมาะสม
เซี่ยชีหรั่นใช้โอกาสที่เขามองออกไปนอกหน้าต่าง หันตัวเดินไป กลับไม่คิดว่าเดินไปเพียงไม่กี่ก้าว ก็ถูกพ่อบ้านที่เพิ่งออกจากห้องออกกำลังกายเรียกไว้
“ชีหรั่น คุณเย่เรียกให้เธอเข้าไป”
เขาเห็นเธอแล้วเหรอ?
เซี่ยชีหรั่นกัดริมฝีปากอย่างเป็นนิสัย และก็เดินตามพ่อบ้านเข้าไปห้องออกกำลังกาย เมื่อเข้าไปแล้วเธอเพิ่งประหลาดใจพบว่า ลู่วิ่งที่อยู่ข้างกายของเย่เชินหลิน มีลู่วิ่งขนาดเล็ก
นอกจากนี้ยังมีเครื่องออกกำลังกายขนาดเล็กที่เหมือนกันอยู่ถัดจากเครื่องออกกำลังกายอื่นๆ สำหรับผู้หญิง
หลังจากที่เขาพูดเมื่อคืน สั่งให้ส่งมาให้โดยเฉพาะ?
เธอสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก่อนที่จะสามารถกลืนน้ำตาที่ไหลออกมาจากลมหายใจของเธอ
เหมือนว่าเขาจะไม่มองเธอ ยังคงมองไปข้างหน้าวิ่งต่อ เซี่ยชีหรั่นเหลือบมองขอบคุณเขา เดินอยู่ข้างลู่วิ่งขนาดเล็กภายใต้สายตาที่อิจฉาของสาวใช้หลายคน
เมื่อวานเงินเบิกเกินบัญชีติดต่อกันสองครั้ง บวกกับเธอที่หลับไม่สนิท เธอไม่มีแรงวิ่งอยู่แล้ว แต่ว่าความหมายของเขา เธอก็กัดฟันยืนหยัด แม้จะวิ่งไม่เร็ว แต่ก็ไม่หยุด
เมื่อเย่เชินหลินวิ่งเสร็จแล้ว แล้วหยิบผ้าจากสาวใช้มาเช็ดเหงื่อให้แห้ง และเดินไปข้างเธอ พูดเสียงเบา: “ออกกำลังกายครั้งแรก ความรุนแรงไม่ต้องมาก ค่อยๆมา กลับไปกับฉัน”
เขาใส่ใจในรายละเอียดมาก เซี่ยชีหรั่นมองเขาอย่างขอบคุณ ท่ามกลางสายตาที่อิจฉา ถือว่าเย่เชินหลินอ่อนโยนจับมือของเธอ จูงเธอลงมา
เธอเหงื่อออกมาก เย่เชินหลินหยิบผ้าจากถาดของสาวใช้และเช็ดให้เธอด้วยตัวเขาเอง
คนมากมายกำลังมอง เซี่ยชีหรั่นรู้สึกว่าสายตาพวกนั้นร้อนผ่าวด้วยความอิจฉาริษยา เธออยากจะเช็ดเอง ก็กลัวเขาไม่พอใจ ดังนั้นไม่ขยับ หลับตาและให้เขาเช็ดเหงื่อให้เธอจนแห้ง
เขารู้ว่าเธอเกรงใจ เขาจะค่อยๆให้เธอปรับตัวชินกับการที่มีคนมอง
เป็นผู้หญิงของเขา ไม่ว่าเดินไปที่ไหนมีแต่คนโฟกัส นี่เป็นเรื่องปกติ
หากเปลี่ยนเป็นผู้หญิงคนอื่น ที่เขาเช็ดเหงื่อให้ ถือว่าเป็นเกียรติอย่างยิ่ง เธออายมาก ไม่รักสวยรักงามเลย สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกว่าเธอน่ารัก
ไม่ใช่ว่าเซี่ยชีหรั่นไม่มีความรู้สึก ที่ถูกเขากระทำอ่อนโยนเช่นนี้ เธอจะไม่ใจเต้นได้ยังไง? ไม่เพียงแค่ใจเต้น ยังมีความหวาน หวานจนเลี่ยน
ก็หวังว่าจะไม่ใช่แมลงเม่าเพียงสั้นๆ เธอบอกกับตัวเอง เขาทำแบบนี้กับเธอ ต้องมีเหตุผล ไม่ต้องไม่สบายใจ จงมั่นใจในตัวเขาและตัวเอง บางทีหากมีวันนั้น เธอสามารถยืนเคียงบ่าเคียงไหล่กับเขา และยอมรับคำอวยพรจากทุกคน
วันนี้เธอต้องไปทำงานแล้ว เธอต้องพยายามทำงานเพื่อผู้ชายคนนี้
หากมีคนถามถึงเธอ ถามถึงผู้หญิงของเย่เชินหลิน เธอตอบให้คนยกนิ้วชื่นชม บอกว่าเธอคือผู้หญิงที่มีคุณค่า และมีความสามารถ มากกว่าที่จะถูกไล่ออกจากงาน
เย่เชินหลินได้สั่งการกับพ่อบ้านไว้แต่เนิ่นแล้ว จัดหาคนขับรถประจำให้เซี่ยชีหรั่นทุกวัน คนขับคนนั้นต้องมีประสบการณ์ พร้อมกับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด และสามารถปกป้องเธอได้
นอกจากนี้ ก็ใช้รถBMWคันสีดำดั้งเดิมเรียบง่ายในลานจอด
หลังทานอาหารเช้าเสร็จ เซี่ยชีหรั่นก็ออกเดินทาง เย่เชินหลินรู้ว่าเธอไม่อยากไปถึงที่ทำงานพร้อมกันกับเขา ดังนั้นเขาไม่รีบร้อนไปทำงาน
หลังจากเซี่ยชีหรั่นถึงที่ทำงาน เธอก็ตรงไปที่แผนกบุคคลรายงานตัว หลินหลิงได้จัดการอย่างเหมาะสม เมื่อเธอมา ก็ลงทะเบียนให้เสร็จสมบูรณ์ แผนกบุคลากรก็ไม่ได้ถามอะไรมาก เธอได้อนุญาตให้ใช้ระบบของบริษัท และประวัติความเป็นมาของการพัฒนากลุ่ม
“สัปดาห์ถัดไปเป็นการฝึกอบรม คุณเซี่ยจัดการเวลาให้ดี ทุกวันเวลาแปดโมงเช้าถึงเวลาห้าโมงครึ่งตอนเย็น ตอนเที่ยงทานอาหารที่โรงอาหารของกลุ่ม” หัวหน้าแผนกบุคคลกล่าว
หลังจากเซี่ยชีหรั่นขอบคุณแล้ว ก็เริ่มฝึกอบรมในวันเริ่มงาน
หนึ่งสัปดาห์ หลังจากเซี่ยชีหรั่นเสร็จจากการอบรม และผ่านการประเมินด้วยผลการประเมินที่ยอดเยี่ยม
คุณเย่รู้สึกเสียใจภายหลังที่ให้เธอมาทำงาน เพราะเธอจริงจังเหมือนเด็กมัธยมปลาย อยู่บนรถก็ดูเอกสาร กลับถึงวิลล่า กินข้าวเสร็จก็ดูเอกสาร
ประวัติการพัฒนาของกลุ่มสำหรับเธอ เหมือนจะรู้ชัดเจนดีกว่าประธานอย่างเขาเป็นหมื่นเท่า
ในทุกคืน ใครบางคนต้องการความสุข บอกเป็นนัยๆให้ชัดเจน ปากของเซี่ยชีหรั่นยังคงท่องกฎของตำแหน่ง เขาขมวดคิ้ว และสั่งเธอ: “ภายในหนึ่งนาทีหากเธอยังกล้าไม่ถอดเสื้อผ้าแล้วเข้ามาในผ้าห่ม พรุ่งนี้ก็ไม่ต้องไปทำงานแล้ว”
เซี่ยชีหรั่นใช้ความสนใจของเธอมุ่งไปยังหมาป่าผู้โหยหิว หลังจากวานเธอต้องคอยเอาใจ ใบหน้าของใครบางคนถึงจะถือว่าเปลี่ยนหมอกเป็นเมฆ ที่จะตอบรับเธอทำงานได้
หลังการฝึกอบรมเธอก็ไปทำงานอย่างเป็นทางการ แผนกการตลาดนำโดยผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด และประกอบด้วยสองแผนกคือฝ่ายการตลาดและฝ่ายการขาย
ตำแหน่งของเซี่ยชีหรั่นคือผู้ช่วยของผู้จัดการเซียวเย่ หลังจากที่เธอเข้าร่วมเธอก็ตระหนักว่าผู้จัดการฝ่ายการตลาดมีผู้ช่วยสองคน
ผู้ช่วยคนหนึ่งรับผิดชอบการรวบรวมข้อมูลและการวิจัยการตลาด ส่วนผู้ช่วยอย่างเธอรับผิดชอบด้านช่วยการวางแผนการตลาดที่เชี่ยวชาญ นอกจากนี้ฝ่ายการตลาดยังมีตำแหน่งเช่นเสมียนการตลาดและผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาด
ฝ่ายการตลาดทั้งหมดเซี่ยชีหรั่น ไม่ได้อยู่ในระดับล่างสุด อยู่ระดับเดียวกันกับหัวหน้างานฝ่ายการตลาด
สำหรับเด็กใหม่อย่างเธอ ไม่ได้เริ่มต้นด้วยผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาด แต่ได้เป็นผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายการตลาดทันที และยังอิจฉาพนักงานระดับล่าง
ระบบการจัดการของฝู้ซื่อค่อนข้างเข้มงวด แม้ว่าบางคนจะอิจฉาเซี่ยชีหรั่น “ตกลงมาจากสวรรค์” แบบนี้ สามารถเผยออกมาจากแค่ในดวงตาเท่านั้น
เซี่ยชีหรั่นไม่ค่อยมีโอกาสทำงานแบบนี้ ไม่สนใจอะไรเลย เพียงแค่งานของตัวเองให้ดี
รู้ว่าเซี่ยชีหรั่นต้องมีเส้นสายบ้าง แม้จะไม่รู้ว่าเธออยู่ที่ไหน อย่างไรก็ตามได้มาเป็นผู้ช่วยของเขาเลยทั้งที่เขาไม่ได้ตรวจเองนี่ถือว่าเป็นครั้งแรก
เขาเป็นผู้ชาย ยังคงมีความรักสำหรับผู้หญิงที่สวย แม้ว่าจะถูกบังคับให้เซี่ยชีหรั่นเป็นผู้ช่วยเขา แต่เขาก็ไม่ได้แสดงความรังเกียจ
บวกกับความกระตือรือร้นของเซี่ยชีหรั่นในการเรียนรู้ ไม่เข้าใจก็ถามเขาด้วยความตั้งใจ เรียกผู้จัดการเซียว ผู้อาวุโส เรียกแบบนี้ เขาจะไม่หวงวิชาเลย
เซี่ยชีหรั่นก็ประสบปัญหาในการทำงานอยู่บ้าง เธอพยายามอย่างดีที่สุด เพื่อจะไม่ท้อแท้
บางทีเย่เชินหลินก็จะถามเธอ งานราบรื่นดีไหม มีเรื่องที่ต้องให้หลินหลิงไปช่วยจัดการไหม เธอได้แต่ปฏิเสธ บอกว่าเธอสามารถจัดการเองได้
เงลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ใกล้ถึงวันเกิดพ่อของส้งหลิงหลิง วันนี้เป็นวันอาทิตย์พอดี เซี่ยชีหรั่นไม่ทำงาน
เธอไม่รู้ว่าเย่เชินหลินจะไปอวยพรวันเกิดพ่อของส้งหลิงหลิง เพราะช่วงนี้ รู้สึกว่าเธอทอดทิ้งเย่เชินหลิน เดิมคิดว่าวันอาทิตย์ เธอจะเสนออยู่ด้วยกันกับเขา
ไม่คิดว่าแม่ของเขาจะโทรเรียกกลับบ้านแต่เช้าตรู่ ฝู้เฟิ่งหยีรียกให้เขากลับไปหารองประธานส้ง—เพื่อเตรียมของขวัญให้พ่อตาในอนาคตของเขา
กี่วันมานี้เขากับเซี่ยชีหรั่นเข้ากัน ทั้งสองเข้ากันได้กลมกลืนมาก
หลังจากเย่เชินหลินได้พิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้ว คิดว่าอยากจะยุติความสัมพันธ์กับส่งหลิงหลิง
วันนี้เป็นวันเกิดพ่อของเธอ เพราะเป็นการนัดไว้กันของทั้งสองบ้านแต่แรกแล้ว ผิดนัดก็คงไม่ดี เขาก็ยังคงไม่ร่วมงานตามปกติ
ไม่ต้องคิด เขาก็สามารถเดาได้ว่ารองประธานส้งจะขอให้เขาตอบรับวันเวลาแต่งงานต่อหน้าแขกหลายคน ไม่ว่าจะแต่งหรือไม่แต่งงาน และจะแต่งเมื่อไหร่ ก็ไม่ใช่ตระกูลส้งจะเป็นคนพูดฝ่ายเดียว
“หลินเอ๋อร์ ลูกพิจารณารึยัง? คืนนี้ตระกูลส้งอสจขอฉันแม่และพ่อแกกำหนดวันแต่งงาน” ฝู้เฟิ่งหยีลากเย่เชินหลินไปที่ห้องของตัวเอง และถามเขาอย่างเข้มขรึม