สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 431 สาวใช้ตัวแสบ335

ตอนที่ 431 สาวใช้ตัวแสบ335
ไห่ลี่หมินมองดูโทรศัพท์ของโม่เสี่ยวจุน ส่ายหัวอย่างจนปัญญา
“อย่าเป็นกังวลไป นิสัยของฉิงฉิง ยกขึ้นได้ก็วางลงได้ ให้เวลาผ่านไปสักพักเธอไม่ได้เห็นไอ้เจ้าหนุ่มนั้นเดี๋ยวก็จะค่อยๆลืมไปเอง” เย่เชินหลินพูดปลอบ
ประจวบเหมาะพอดีในเวลานั้น โทรศัพท์ของโม่เสี่ยวจุนก็ดังขึ้นสองครั้ง พร้อมมีข้อความติดกันสองข้อความส่งมา ข้อความหนึ่งเป็นของไห่ฉิงฉิง อีกข้อความหนึ่งเป็นของจิ่วจิ่ว
ชื่อของผู้หญิงสองคนที่อยู่ในโทรศัพท์ของเขาแบ่งเป็นจิ่วจิ่วเพื่อนของชีหรั่น ไห่ฉิงฉิงก็คือพิมพ์ทั้งชื่อและนามสกุลมาพร้อมกัน
จากจุดนี้ก็ตัดสินได้แล้วว่า คนที่เขาสนใจหนึ่งเดียวในใจเขาก็คือเซี่ยชีหรั่น
ถ้าเขาตกหลุมรักไห่ฉิงฉิงจริงๆล่ะก็ ไห่ลี่หมินก็ไม่ใช่คนที่จะไปขัดขวาง รักจริงเขาก็สนับสนุน
เดิมทีเขาไม่อยากเปิดเข้าไปอ่านข้อความของจิ่วจิ่ว ก็แค่ข้อความนั้นแสดงให้เห็นคำไม่กี่คำที่แสดงบนหน้า : ฉันคือชีหรั่น
เขาเดา โม่เสี่ยวจุนหายไปอย่างกะทันหัน เซี่ยชีหรั่นรู้สึกตัวแล้วอย่างแน่นอน ดังนั้นเขาเลยคลิกเปิดอ่านข้อความนั้น
ฉันคือชีหรั่น เสี่ยวจุน ทำไมคุณไม่รับโทรศัพท์ รับโทรศัพท์ ฉันมีเรื่องจะคุยกับคุณ
น้ำเสียงรีบร้อนขนาดนี้ ไห่ลี่หมินคิดในใจว่า สิ่งที่เขาคิดถูกแล้ว
“เรื่องโม่เสี่ยวจุน เซี่ยชีหรั่นยังไม่รู้ซิน่ะ? เธออาจจะรู้สึกตัวแล้ว……” สิ้นเสียงไห่ลี่หมิน เย่เชินหลินแย่งโทรศัพท์ที่อยู่ในมือเขามา สายตามองไปที่ประโยคนั้น
เซี่ยชีหรั่นคนดี เขาไม่อนุญาตให้เธอเอาโทรศัพท์ของเธอติดต่อกับโม่เสี่ยวจุน เธอค่อยคิดหาวิธี ใช้ของจิ่วจิ่วติดต่อมา
เรื่องอย่างนี้ อาจจะไม่ใช่ครั้งนี้ครั้งเดียวซินะ?
สีหน้าของเย่เชินหลินเข้มขรึม พูดกับตัวเองในใจว่า เธอกับเขาก็หลายปีแล้ว ความรู้สึกลึกซึ้ง พบว่าติดต่อโม่เสี่ยวจุนไม่ได้อย่างฉับพลัน กระวนกระวายใจเป็นเรื่องธรรมดา อย่าหึงอย่างไม่มีเหตุผล
ถ้าเรื่องนี้เปลี่ยนเป็นเมื่อก่อน เขาต้องรีบไล่กลับไปอย่างทันที ซักถามด้วยน้ำเสียงตำหนิติเตียนกับผู้หญิงคนนั้นหรืออาจจะโยนเธอขึ้นบนเตียง ลงโทษเธออย่างโหดเหี้ยม
ครั้งนี้เขาอดทนไว้แล้ว แค่ทำหน้าขรึมมองไปแป๊บหนึ่ง หลังจากนั้นก็กดแป้นพิมพ์ ตอบกลับไป : เรื่องอะไร?
เซี่ยชีหรั่นรู้สึกเป็นห่วงโม่เสี่ยวจุนมากจริงๆ เมื่อเห็นเขาตอบข้อความนั้น เธอก็รู้สึกโล่งอกขึ้นมานิดหนึ่ง ปล่อยลมหายใจออกมายาวๆ คิดว่าตัวเองความรู้สึกไวไปหน่อย
ทันทีหลังจากนั้น เธอก็ส่งข้อความมาอีก : เสี่ยวจุน ทำไมคุณไม่ได้อยู่ที่นั่นกับเสี่ยวหนงอา? ฉันเพิ่งโทรไปหาเธอเมื่อกี้ เธอพูดว่าพวกเราไม่สนใจเธอ เธอเสียใจมาก ช่วงนี้เธออยู่ในช่วงเวลาพิเศษ คุณดูแลเธอเยอะๆ หน่อยอย่าไปสนใจว่าเธอจะพูดอะไร เธอเป็นคนเอาแต่ใจมาตั้งแต่เด็ก ไม่ใช่ว่าคุณก็ไม่รู้
เย่เชินหลินขมวดคิ้วนิดหน่อย ตอบกลับเธอไปอีก : รู้แล้ว ผมจะไปอยู่
หลังจากตอบกลับไปกลับมาอย่างนี้ เซี่ยชีหรั่นรู้สึกไม่แปลกๆ พวกเขาเกือบจะไม่เคยตอบข้อความสั้นๆ แบบนี้มาก่อน
ไม่ว่าโม่เสี่ยวจุนจะยุ่งมากแค่ไหน สายโทรศัพท์ของเธอเขาก็จะรีบรับทันที
ดังนั้นที่เธอวางใจไปเมื่อกี้ก็เริ่มกังวลขึ้นอีก กดแป้นโทรออกโดยตรง โทรศัพท์ในมือของเย่เชินหลินดังขึ้นอีกครั้ง เย่เชินหลินตัดสาย ตอบเธอ : มีธุระ ไม่สะดวกรับโทรศัพท์
ตอนดึกเขามีธุระอะไรที่ไม่สะดวกรับโทรศัพท์? ความหวาดระแวงในใจของเซี่ยชีหรั่นค่อยๆเพิ่มมากขึ้น ส่งข้อความหาโม่เสี่ยวจุนอีกครั้ง พูดกับเขาโดยตรงว่า : เสี่ยวจุน รับโทรศัพท์ ให้ฉันได้ยินเสียงคุณ
เย่เชินหลินขมวดคิ้วติดกัน เขาไม่อยากให้เธอรู้ แค่ไม่อยากให้เธอทำเรื่องให้มันแย่ไปมากกว่านี้
เธอต้องขอร้องเขาเพื่อโม่เสี่ยวจุน เขารู้ เธอต้องขอร้องแน่นอน เขาแค่ไม่อยากได้ยินเธอเรียกชื่อโม่เสี่ยวจุนและก็ไม่อยากให้เธอขอร้องเขาเพื่อเขา
เขากดปิดเครื่องโทรศัพท์ของโม่เสี่ยวจุน ถ้าเธอจะกังวลใจให้เธอไปกังวลคนเดียวเถอะ เขาไม่ใจอ่อนแน่นอน!
ไห่ลี่หมินก็ไม่อยากใช้นามของโม่เสี่ยวจุนดูไห่ฉิงฉิงแล้ว ทั้งสองล้วนไม่สนใจแล้วปิดเครื่องโทรศัพท์ต่างคนต่างนั่งดื่มเป็นเพื่อนกัน
“อันนี้ก็ให้นาย!” ดื่มเหล้าเสร็จ เย่เชินหลินเอาโทรศัพท์ของโม่เสี่ยวจุนโยนให้ไห่ลี่หมิน เขาไม่อยากเห็นข้อความใดๆที่เซี่ยชีหรั่นกระวนกระวายตามหาโม่เสี่ยวจุน
ทั้งสองคนไม่ง่ายที่จะมีสถานะแบบนี้ เขาไม่อยากจัดการเธอทุกวัน เอาความสัมพันธ์กลับไปที่จุดเริ่มต้น
เซี่ยชีหรั่นส่งข้อความอีกครั้ง เงียบหายไร้ร่องรอย โทรกลับไปอีกรอบ ปิดเครื่อง
เธอยิ่งคิดยิ่งเชื่อสิ่งที่เธอคิดไม่ผิด โม่เสี่ยวจุนมีเรื่องแล้วจริงๆ เกี่ยวข้องกับเย่เชินหลินแน่ๆ
ค่ำมืดดึกดื่นแล้ว เย่เชินหลินเพิ่งจะแยกจากไห่ลี่หมิน กลับไปที่บ้านพักตากอากาศ
เซี่ยชีหรั่นสวมใส่เสื่อคลุมชุดนอนนั่งรอเขาที่เตียง ในใจของเธอกระวนกระวายใจอย่างสุดขีด แต่ว่าตอนที่เย่เชินหลินเหยียบเข้ามาในห้องนั้น เธอควบคุมตัวเองให้สงบจิตสงบใจ
ถ้าเขารู้สึกลำบากใจเรื่องโม่เสี่ยวจุน ก็เป็นเพราะเธอแน่นอนปะ ถ้าสมมติว่าเธอแสดงออกชัดเจนเกินไป ยั่วโมโหเขา ผลลัพธ์จะแย่ขึ้นไปอีกไหม?
“หลิน คุณกลับมาแล้วเหรอ?” เซี่ยชีหรั่นยิ้มเล็กต้อนรับ ยืนอยู่หน้าเขา ยื่นมือไปช่วยเขาแกะกระดุมเสื้อนอกออก
เธอเหมือนกับภรรยาที่นุ่มนวลอ่อนโยน รอยยิ้มร่าเริง แต่ว่าถ้ามองดีๆ เขาก็ยังมองเห็นอารมณ์ความรู้สึกที่อึดอัดใจบนสีหน้าของเธอได้ เธอกังวลใจผู้ชายคนนั้น
เขาจับมือเล็กของเธอไว้ มองที่หน้าของเธอนิ่งนิ่ง ไม่พูดอะไร
เขาไม่พูด แต่ว่าสายตาของเขาเอาสิ่งที่ไม่พอใจพูดออกมาอย่างชัดเจนแล้ว และการกระทำของเขาอย่างนี้ทำให้ยืนยันการคาดคะเนของเธอไปอีก ในใจเธอไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ไม่กล้าถาม ไม่สามารถถาม แต่กลับอยากจะถามเขามากๆ ว่าโม่เสี่ยวจุนเป็นยังไงกันแน่
เธอคิดหาเหตุผลไม่ออกเลยจริงๆ เขาไม่มีเหตุผลที่จะรู้สึกลำบากใจแล้ว หรือว่าอยากจะทดสอบหยั่งเชิงเธอ?
หลังจากที่เซี่ยชีหรั่นพูดกับใจตัวเองให้สงบนิ่งจนนับไม่ถ้วนแล้วนั้น ถามเขาอย่างเสียงต่ำว่า : “เป็นอะไร? หลิน?”
“ไม่มีอะไร ผมจะไปแช่น้ำ คุณมากับผม” เย่เชินหลินพูดอย่างไม่ใส่ใจ เดินไปหยิบเสื้อคลุมชุดนอนในตู้เสื้อผ้าห้องนอนเอง เดินอยู่ด้านหน้า เซี่ยชีหรั่นเดินตามหลังเขา
เธอไม่ใช่คนรับใช้ของเขาอีกแล้ว แต่ว่าลักษณะท่าทางของเขาวันนี้ทำให้เซี่ยชีหรั่นรู้สึกห่างไกล
เขาไม่จำเป็นต้องพูดอะไร เขาแค่เย็นชานิดหน่อย เธอก็รู้สึกได้ว่าความสัมพันธ์ของพวกเขาก็กลับไปตอนเริ่มต้นแล้ว
โดยเฉพาะเขาสามารถที่จะลงมือกับโม่เสี่ยวจุนตอนไหนก็ได้ แต่เธอกับไม่มีความสามารถ แม้กระทั่งถามยังไม่กล้าถาม เธอเริ่มรู้สึกซึมเศร้าท้อใจ
ท้อใจก็แสดงความซึมเศร้าท้อใจออกมาไม่ได้ เธอยังคงต้องยิ้มต่อ ไม่สามารถให้เขาเห็นว่าเธอมีความไม่สบายใจอยู่
เธอเดินขึ้นบันไดไปเปิดน้ำในอ่างอาบน้ำให้เต็ม หมุนตัวกลับมา เห็นเย่เชินหลินยืนอยู่ที่นั่นไม่ขยับ เธอรู้ เดินไปด้านหน้าช่วยถอดเสื้อตัวบนให้เขา
เขาเหมือนจะไม่สบอารมณ์เอามากๆ แม้แต่ครึ่งบนของตัวเองก็ไม่ขยับ ก็ยืนอยู่นั้น พูดนิ่งนิ่งว่า : “ช่วยถอดให้ผู้ชายของคุณหน่อยเถอะ”
ใบหน้าของเซี่ยชีหรั่นแดงขึ้นมาทันใด มือที่สั่นยังช่วยถอดเสื้อให้เขา เย่เชินหลินไม่พูดอะไรมองที่ใบหน้าเล็กๆ ของเธอ
อารมณ์ความรู้สึกที่เธอเก็บกดอยู่ในใจไม่มีอะไรเทียบได้นั้นทำให้อาการใจร้อนไม่เป็นสุขของเขาทะลักออกมายึดดึงตัวเธอเข้ามา ถอดเสื้อคลุมชุดนอนของเธอออก ดึงเอวเธอเข้ามาแล้วอุ้มเธอไปวางไว้ในอ่างอาบน้ำ
……
การกระทำที่ร้อนแรงนั้นทำให้น้ำในอ่างอาบน้ำกระเพื่อมไม่หยุด น้ำล้นทะลัก เซี่ยชีหรั่นกัดฟันแน่น พยายามไม่แสดงความไม่พอใจของตัวเองออกมา และก็ไม่อยากแสดงความพอใจมากจนเกินไป
เขาเหมือนกับคนบ้า เหมือนอยากจะเอาความคิดที่อยู่ในใจของเธอออกไปให้หมด การกระทำเริ่มรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ
เขาไม่ชอบความรู้สึกที่ผู้ชายคนอื่นจ้องผู้หญิงของเขาตั้งแต่เช้าจนค่ำ ถึงแม้เขาจะรู้ว่าไม่มีใครสามารถแย่งเธอไปได้ก็ตาม แต่ว่าเมื่อคิดถึงไอ้ผู้ชายคนนั้นที่สามารถทำให้เธอได้ทุกอย่าง เขาก็จะรู้สึกไม่เป็นสุขมากๆ
ในอ่างอาบน้ำที่คับแคบ เซี่ยชีหรั่นทำได้แค่ยอมรับ ไม่สามารถปฏิเสธได้
“พูดว่ารักผม!” เขาพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น การกระทำที่บังคับเธอ
“ฉัน……” เซี่ยชีหรั่นกัดริมฝีปาก เธอไม่ใช่ไม่รักเขา แต่ว่าสภาพของเขาตอนนี้ให้เธอบอกรัก เธอรู้สึกพูดไม่ออก
“หือ?” น้ำเสียงเขาแสดงความไม่พอใจอย่างมาก
“ไอ้เด็กโง่ คุณรู้อยู่แล้วว่าฉันรักคุณ ยังจะถามอีกเหรอ?” เซี่ยชีหรั่นพูดเสียงเบา
……
ทั้งสองคนเอนตัวลงบนเตียง ไม่มีใครนอนหลับ เย่เชินหลินรู้ว่าที่เธอเป็นห่วงโม่เสี่ยวจุนนั้นเป็นเรื่องปกติ แต่ในใจกลับยึดถืออยู่
เซี่ยชีหรั่นยังคงคิดอยู่ว่าโม่เสี่ยวจุนหายไปไหนกันแน่ เธอไม่สามารถถามได้อย่างง่ายดาย ถ้าไม่ใช่เขาเป็นคนลงมือ เธอถามไป เขาต้องโกรธมากแน่ๆ
วันที่สอง วันที่สาม ทั้งสองคนต่างก็เหมือนมีเรื่องที่อยู่ในใจทั้งคู่ แต่ไม่มีใครพูดออกมา
ความสัมพันธ์ของพวกเขาเหมือนปกติ มองดูดีๆ ยังคงมีความห่างไกลนิดหน่อย
จิ่วจิ่วยังคงไปดูโม่เสี่ยวจุนที่ร้านนั้นอยู่ทุกวัน ทุกครั้งที่กลับมาก็จะส่งข้อความมาบอกเซี่ยชีหรั่นตลอด โม่เสี่ยวจุนยังไม่กลับมา ไม่กลับมาอีกเลย
วันนี้ฉวยโอกาสที่เย่เชินหลินไม่อยู่ จิ่วจิ่วถึงขั้นถามเธอว่าจะแจ้งตำรวจไหม
เวลายิ่งนาน เซี่ยชีหรั่นยิ่งตึงเครียด ยิ่งเป็นกังวล เธออยากแจ้งตำรวจ แต่ก็กลัว เธอทำการตัดสินใจ ถ้าพรุ่งนี้ยังไม่มีข่าวของโม่เสี่ยวจุนอีก เธอจะต้องถามเย่เชินหลินแน่นอน
เพราะว่าในใจเป็นกังวลเรื่องของโม่เสี่ยวจุนจริงๆ เซี่ยชีหรั่นเลยลืมเรื่องที่โม่เสี่ยวหนงจะกินโจ๊กที่เธอทำด้วยมือของเธอไปเลย
ผ่านไปสองวันทางเธอไม่มีความเคลื่อนไหวอะไรเลย โม่เสี่ยวหนงโทรเข้ามา ยังคงร้องไห้อยู่ในโทรศัพท์ ร้องไห้เสียใจอย่างสุดขีด
“พี่สาว พี่ไม่ต้องการฉันแล้วเหรอ? พี่ไม่ใช่เคยบอกฉันว่า ฉันเกิดมาพี่จะค่อยดูแลฉัน เหมือนแม่ของฉันไม่ใช่เหรอ? ฉันอยากกินโจ๊กที่พี่ทำ ฉันไม่อยากกินอาหารที่นักโภชนาการทำให้อีกแล้ว ฉันคิดถึงพี่แล้ว พี่ พี่มาหาฉันได้ไหม? ฉันขอร้อง ถ้าพี่ไม่มา ฉันจะเป็นบ้าแล้ว”
“ได้ พี่คิดหาวิธีก่อน เสี่ยวหนงอย่าร้องไห้ ช่วงนี้พี่มีเรื่องที่สำคัญต้องทำ เพราะฉะนั้นเลยไม่ได้สนใจน้อง ขอโทษพี่จะรีบคิดหาวิธี” โม่เสี่ยวหนงใช้น้ำเสียงร้องไห้ ทำให้ใจของเซี่ยชีหรั่นรู้สึกเป็นห่วง
เธอไม่สนแล้ว เธอจำเป็นต้องไปดูเธอ มิฉะนั้นถ้าเธออยู่ไฟไม่ครบจริงๆ ก็จะทำให้เป็นโรค ทั้งชีวิตของเธอคงจะรู้สึกเจ็บปวดมากแน่ๆ
“พี่ มีเรื่องอะไรที่สำคัญกว่าฉันอา? ฉันกินไม่ลง ทั้งยังปวดท้อง พี่ไม่มาดูฉัน ฉันอาจจะตายได้”
“อย่าพูดไร้สาระนะ! พี่ไม่ได้บอกแล้วเหรอว่าจะคิดหาวิธี? โอเค เอาอย่างนี้ก่อน พี่ลองไปพูดกับเขาก่อนนะ” เซี่ยชีหรั่นวางสายโทรศัพท์ ก็เดินออกไปเคาะที่ประตูห้องของเย่เชินหลิน
หลังจากอารมณ์อันเร่าร้อนในห้องอาบน้ำคืนนั้น พวกเขาไม่มีความสนิทสนมเกินเลยอีก เขาโทรหาหมอห่าวต่อหน้าเธอสั่งให้เขาเตรียมยาคลุม โทรศัพท์นั้นทำให้เซี่ยชีหรั่นรู้สึกเหมือนความสัมพันธ์ของพวกเขาเริ่มห่างกันไปอีก เธอรู้มูลเหตุนั้นมาจากลักษณะท่าทางของเธอ

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset