สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 432 สาวใช้ตัวแสบ336

ตอนที่ 432 สาวใช้ตัวแสบ336
แต่ว่าไม่รู้ว่าโม่เสี่ยวจุนไปอยู่ที่ไหนกันแน่ ถึงแม้เธออยากจะดีใจ เธอจะดีใจขึ้นมาได้ยังไงล่ะ? เธอไม่อยากถามเขาตลอดเวลา ใช่เขาที่เป็นคนลงมือกับโม่เสี่ยวจุนใช่ไหม ถ้าเขาเป็นคนทำ แล้วตอนนี้เขาเป็นยังไงกันแน่?
“เข้ามา!” เสียงเย็นชาของเย่เชินหลินสะท้อนออกมา เซี่ยชีหรั่นบิดประตูเข้าไป เห็นเขากำลังทำงานอยู่
เขาไม่ได้เงยหน้าขึ้นมา ขมวดคิ้วเล็กน้อย มองอีเมลที่อยู่บนคอมพิวเตอร์ไม่ละสายตา
เซี่ยชีหรั่นกัดฟันกรอด หมุนตัวจะเดินออกไป
“มีธุระอะไรก็พูด” เขาเสียงเย็นชาขึ้นอีก
เธอเดินไปข้างเขา มองไปที่เขา พูดด้วยเสียงเบาว่า : “ฉันอยากจะไปดูเสี่ยวหนง คุณให้ฉันไปดูเธอหน่อยเถอะฉันรู้สึกไม่ว่าใจเธอจริงๆ เธออยากจะกินโจ๊กที่ฉันทำ ฉันแค่ไปส่งโจ๊กให้เธอก็ได้ ฉันรู้ว่าคุณอยากจะให้ฉันรักษาระยะห่างกับเธอ คุณให้เวลาฉันหน่อย เธอยังอยู่ไฟอยู่นะ”
เขาคิดว่าในที่สุดเธอก็ทนไม่ไหว จะมาพูดเรื่องโม่เสี่ยวจุน ดีที่เธอพูดแค่เรื่องของโม่เสี่ยวหนง
เขามองตาทั้งสองข้างของเธอ พูดว่า : “เรื่องเกี่ยวกับคุณและโม่เสี่ยวหนง พวกคุณเป็นพี่น้องกัน เซี่ยชีหรั่นตอนนี้คุณมีเหตุผลที่จะไปมาหาสู่กับเธอ ผมไม่ให้คุณเจอเธอ มันเป็นสิ่งที่ดีต่อตัวคุณเอง ถ้าคุณอยากจะเจอจริงๆ ผมก็จะไม่ขัดขวาง หลังจากนี้ไม่ต้องพูดกับผมอีก”
เธอมีเหตุผลมากพอแล้วจริงๆ เหรอ? ถ้าสมมติว่าเธอพูดว่าเธออยากจะแยกจากเขา ได้ไหม? เขาจะยอมปล่อยไหม? เซี่ยชีหรั่นเข้าใจ ไม่ว่าเขาจะดีต่อเธอยังไง สถานะสภาพของเธอก็ไม่เปลี่ยนแปลง เขาก็ยังคงควบคุมบังคับเธอ ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขายังคงไม่มีความเสมอภาค
“ขอบคุณ! งั้นหลังจากนี้ฉันก็จะไปดูเธอบ่อยๆ อยู่เป็นเพื่อนเธอ ไม่ว่าหลังจากนี้จะเป็นยังไง อย่างน้อยตอนนี้ฉันก็ได้ดูแลเธอ ฉันถึงจะวางใจ” เธอพูดเสียงเบา
เขากระตุกคิ้วอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ในที่สุดก็ไม่ได้พูด
เซี่ยชีหรั่นอยากเปิดปากถามเรื่องของโม่เสี่ยวจุน ติดอยู่ที่ปาก แต่ก็กลั้นไว้ไม่พูดออกมา
เธอคิดว่าเย่เชินหลินไม่ได้บ้าเถื่อนขนาดนั้น เขาควรจะรู้ว่าถ้าเขาฆ่าโม่เสี่ยวจุน หรือทำให้เขาได้รับบาดเจ็บสาหัส เธอจะไม่ให้อภัยเขาแน่นอน
เธอรักเขา ไม่ผิด แต่รักคนคนหนึ่งก็ต้องมีขีดจำกัดความอดทน เธออาจไม่สามารถทำได้แม้ว่าเขาจะทำร้ายคนที่เธอใส่ใจ แต่เธอก็ยังรักเขาอยู่เสมอ
ตอนกลางคืนเซี่ยชีหรั่นเข้าครัวไปทำโจ๊กให้โม่เสี่ยวหนง เช้าวันต่อมาก็อุ่นแล้วเอาใส่กล่องเก็บความร้อนไว้
เธอไปเยี่ยมโม่เสี่ยวหนงที่โรงพยาบาล ไปพร้อมกับคนขับรถที่ทั้งควบตำแหน่งบอดี้การ์ดไปด้วย โม่เสี่ยวหนงดีใจสุดๆ เหมือนได้รับข่าวดีที่คาดไม่ถึง
ไม่กี่วันเซี่ยชีหรั่นไม่มาเลย ทำให้ใจเธอรู้สึกหวาดกลัว เธอไม่มีซุนตงหมิงแล้ว หลังจากนี้ก็มุ่งหวังเซี่ยชีหรั่นอย่างแน่นอน ดังนั้นเธอเลยแกล้งทำตัวน่าสงสารเพื่อเรียกให้เธอมา
“ช่วงนี้พี่ไม่ค่อยมีเวลามากมายมาดูเธอ เธอต้องดูแลตัวเองดีๆนะ” ก่อนที่เซี่ยชีหรั่นจะกลับไป ก็ยังเตือนกำชับเธอก่อน
“พี่ ถ้าพี่ยุ่งกับงานจริงๆ ก็มาหาฉันน้อยลงก็ได้ แต่ว่าพี่ต้องคิดถึงฉันนะ ฉันจะรอพี่มาหา” โม่เสี่ยวหนงทำท่าน่าสงสารจับที่มือของเซี่ยชีหรั่น ขอร้องเธอ
“อืม!” เซี่ยชีหรั่นพยักหน้า รู้สึกขัดจมูก
“เสี่ยวหนง วันนั้นเมื่อตอนที่เสี่ยวจุนไป ได้พูดอะไรไหม? พวกคุณทะเลาะอะไรกัน? เขาได้พูดว่าจะไปทำธุระอะไรไหม?” ถึงแม้ว่าเซี่ยชีหรั่นจะเดาว่าการหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยของโม่เสี่ยวจุนต้องมีความเกี่ยวข้องกับเย่เชินหลิน แต่เธอก็ไม่ยอมแพ้วิธีอื่น
ถ้าไม่ใช่เย่เชินหลินเป็นคนลงมือละ? ครั้งที่แล้วที่เขาแอบไปขโมยเงินตระกูลโม่ ได้ถูกเปิดโปงหรือยังนะ?
“ฉันไม่อยากพูดถึงเขา! เขาทำเกินไปแล้ว!” โม่เสี่ยวหนงพูดทำหน้ามุ่ย เธอโกรธโม่เสี่ยวจุนจริงๆ และก็อยากให้เซี่ยชีหรั่นรู้สึกว่าเป็นความผิดของโม่เสี่ยวจุน ไม่ใช่เธอโม่เสี่ยวหนงที่ผิด
“เสี่ยวหนง บางครั้งเสี่ยวจุนก็พูดแข็งๆ แบบนี้ ก็ไม่ใช่ว่าคุณไม่รู้ โอเคแล้ว ไม่โกรธนะ บอกพี่ วันนั้นก่อนที่เขาจะไปได้พูดอะไรกันแน่?”
“เขาไม่ได้พูดอะไร ก็แค่พูดว่าไม่ชอบที่เขาดูแล เขาไปก็ถูกแล้ว”
“ไม่ได้พูดว่าจะไปที่ไหน?” เซี่ยชีหรั่นไม่ยอมแพ้ถามต่ออีก
“ไม่ได้พูด ไม่ได้พูด ฉันพูดไปตั้งหลายรอบแล้วว่าไม่ได้พูด” โม่เสี่ยวหนงเริ่มไม่มีความอดทนแล้ว เซี่ยชีหรั่นก็ไม่ได้ถามเธออีก ในคำพูดเธอนั้นได้พูดไปแล้วเรื่องที่ไม่เห็นโม่เสี่ยวจุน แต่โม่เสี่ยวหนงกลับไม่ถามเธอสักคำทำให้เห็นว่าเธอไม่ได้สนใจโม่เสี่ยวจุนจริงๆ
ตอนนี้เซี่ยชีหรั่นไม่มีเวลาคิดมากมาย โม่เสี่ยวจุนหายไปไม่มีข่าวคราวหลายวันแล้ว เธอทนไม่ได้อีกต่อไปแล้ว
เดินออกจากแผนกแม่และเด็ก เซี่ยชีหรั่นไม่มีเวลาแม้กระทั่งกินข้าวเที่ยง รีบต่อสายโทรหาเย่เชินหลินทันที
“พูด” หลังจากรับสาย เย่เชินหลินพูดแค่คำเดียว เซี่ยชีหรั่นรู้ว่าเขาอาจจะรู้ว่าเธอจะถามอะไร ดังนั้นไม่กี่วันมานี้เลยทำท่าเย็นชา
เธอรู้ว่าถ้าเธอถามไปหลังจากนี้ เขาอาจจะโกรธมากกว่าเดิม ถึงกระทั่งสามารถทำป่าเถื่อนกับเธอได้
เขาอาจถอนสิทธิ์ในช่วงเวลาที่เขาให้กับเธอทั้งหมด ทำให้เธอไม่สามารถทำงานได้ กลับไปอยู่บ้านพักตากอากาศอีกครั้ง หรืออาจพูดว่าเขาไม่เอาเธอเป็นผู้หญิงคนเดียวของเขาอีกแล้ว เธอทำอะไรไม่ได้แล้ว เธอจำเป็นต้องรู้ว่าโม่เสี่ยวจุนเป็นยังไงกันแน่
“ฉันอยากเจอคุณ!” เซี่ยชีหรั่นพูดเสียงเบา
“ให้คนรถของคุณมาส่งที่ชั้นบนสุดเถอะ” พูดเสร็จ เย่เชินหลินก็ตัดสายไป
ในช่วงเวลานี้ เขาไม่มาหาเธอแน่ ดูเหมือนว่าเธอจะทนไม่ไหวแล้วจริงๆ
ตามที่เย่เชินหลินสั่ง คนขับรถของเซี่ยชีหรั่นมาส่งเธอที่จุดนัดหมาย ทั้งยังยื่นคอให้เธอใช้ลิฟต์เฉพาะขึ้นไปชั้นบนสุด
เซี่ยชีหรั่นเดินเข้าไปในห้องทำงานของเย่เชินหลิน ด้านในอบอวลเต็มไปด้วยควันบุหรี่ เป็นอย่างที่คิดไว้ เขารู้แล้วว่าเธอจะถามอะไร เพราะฉะนั้นทำให้ตอนนี้เขาอารมณ์ไม่ดี
ประตูถูกปิดโดยบอดี้การ์ด เซี่ยชีหรั่นรับสายตาที่เย่เชินหลินมองมาแล้วเดินเข้าไป มองเขาอย่างเงียบๆ พูดด้วยเสียงเบาว่า : “ฉันมีเรื่องหนึ่งอยากจะให้คุณช่วย ไม่กี่วันมานี้โม่เสี่ยวจุนหายไปแล้ว ทำยังไงก็ติดต่อไม่ได้ฉันรู้ว่าถ้าคุณจะหาใครสักคน เป็นเรื่องที่ง่ายมาก เพราะฉะนั้นฉันอยากจะขอร้องคุณ ช่วยหาเขาให้ฉันที”
“มานี้!” ใบหน้าของเย่เชินหลินเคร่งขรึม น้ำเสียงเย็นชา
เซี่ยชีหรั่นหายใจเข้าลึกๆหนึ่งครั้ง เดินอ้อมโต๊ะทำงานอันกว้างใหญ่ของเขาเดินไปข้างเขา
เย่เชินหลินดึงเซี่ยชีหรั่นมานั่งบนตัก เอาหน้าเข้าไปใกล้เธอ ถามเสียงเบาว่า : “เหมือนกับว่าไม่กี่วันมานี้คุณไม่ได้เป็นฝ่ายรุกมาคุยกับผมก่อน มาวันนี้ ก็ลุกลี้ลุกลนมาถามเรื่องผู้ชายคนอื่น?”
“ฉัน……” เซี่ยชีหรั่นกัดฟันกรอด ยังคงพูดเสียงต่ำไปว่า : “ขอโทษ คุณก็รู้ว่าฉันกับเสี่ยวจุนเราโตมาด้วยกันอยู่ดีๆเขาก็หายไปอย่างกะทันหัน มันเป็นเรื่องใหญ่สำหรับฉันมาก ยากที่จะอยู่นิ่งๆ จริงๆ อาจจะเป็นเพราะสองวันนี้ไม่ได้ใส่ใจคุณ ขอโทษ คุณอย่าโกรธฉันเลยนะ? ช่วยฉันหน่อย ไม่ได้ข่าวเขาฉันวางใจไม่ได้”
ถ้าเป็นแต่ก่อน เซี่ยชีหรั่นกล้าพูดอย่างนี้ เขาต้องจับเธอกดบนโต๊ะทำงานแน่นอน ใช้กำลังกับเธอ
ครั้งนี้ เขาแค่ใช่ใบหน้าเย็นชามองไปที่หน้าของเธอ หลังจากมองพิจารณาเธอแป๊บหนึ่ง พูดด้วยน้ำเสียงอบอุ่นว่า : “ได้ ผมช่วยคุณหา”
เขาพูดอย่างนี้ เซี่ยชีหรั่นไม่รู้ว่าควรทำยังไงเลย
ที่เธอไม่ถามเขาด้วยตรง เพราะเกรงว่าถ้าเขาไม่ได้เป็นคนทำ เขาก็จะเหมือนไม่ได้รับความเป็นธรรม ทำให้เขาโกรธขึ้นไปอีก
“ยังมีเรื่องอะไรอีกไหม?” เย่เชินหลินถามด้วยความเย็นชา
นี้ไม่ใช่คำตอบที่เธอต้องการ เธอไม่สามารถเพียงเพราะคำพูดนั้นของเขาขวางเธอ ดังนั้นคิดไปคิดมา เซี่ยชีหรั่นยังคงเลือกที่จะพูดในสิ่งที่เธอสงสัยออกมา : “หลิน คุณทำเหรอ?”
“คุณคิดว่าไงละ?” เย่เชินหลินถามกลับ
“เพราะว่าฉันไม่รู้ไงถึงถาม ที่จริงฉันคิดเหตุผลที่คุณทำร้ายเขาไม่ได้ แต่ว่าคืนนั้นก่อนที่คุณจะออกไปคุณมองฉันแป๊บหนึ่ง ฉันคิดว่าเรื่องที่คุณจะทำมันเกี่ยวกับฉัน ตามมาด้วยไม่สามารถติดต่อเขาได้ เพราะฉะนั้น……” เสียงของเซี่ยชีหรั่นเบาลงเรื่อยๆ ใบหน้าของเย่เชินหลินยิ่งเย็นชาขึ้นเรื่อยๆ
“หลิน ฉันรู้ว่าถ้าฉันถามแบบนี้ คุณอาจจะอารมณ์ดีไม่ดี ฉันแค่อยากจะรู้ว่าเขาปลอดภัยสบายดีไหม”
เย่เชินหลินเอามือที่วางอยู่บนเอวของเธอนั้นออก พร้อมกับพูดด้วยเสียงเย็นชาว่า : “ถ้าคุณมาเพื่อถามเรื่องนี้เรื่องเดียวก็ไปได้แล้ว”
เซี่ยชีหรั่นลุกขึ้นยืน มองเขาอย่างจนปัญญา สีหน้าค่อยๆเคร่งขรึมขึ้น
“หลิน คุณไม่บอกฉันว่าเป็นคุณทำหรือไม่ ก็ไม่เป็นไร ฉันแค่หวังว่าคุณจะไม่ได้ลงมือทำอะไรเขา ไม่อย่างนั้น……”
“ไม่อย่างนั้นทำไม?” เย่เชินหลินขมวดคิ้ว
“ก็ไม่ยังไง”
เซี่ยชีหรั่นคิด เขาน่าจะพอจะเข้าใจความหมายของเธอแล้ว เพียงพอแล้ว
เธอไม่หยุด เดินตรงไปที่ประตู เย่เชินหลินพูดตามหลังเธออย่างเย็นชา : “ก็จากไปแบบนี้เลยเหรอ? ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับโม่เสี่ยวจุนจริงๆ คุณก็จะเย็นชาแบบนี้ไปทั้งชีวิตใช่ไหม?”
เซี่ยชีหรั่นหันกลับมา รู้สึกทุกข์ระทมมองไปที่เขา เธอไม่อยากให้เป็นแบบนี้ เธอปรารถนาที่จะอยู่กับเขาทุกวันทุกคืนแบบไม่มีอะไรมาขวางกั้น
เธอปรารถนาความสุขนั้น ความอบอุ่นนั้น
แต่ว่าตอนนี้เสี่ยวจุนหายไปแล้ว เธอเข้าใจเขาดี ถ้าไม่เกิดอะไรขึ้นกับเขา เขาไม่มีทางที่จะไม่ติดต่อเธอ โดยเฉพาะหลังจากที่เกิดเรื่องครั้งก่อนนั้น ไม่ทันได้บอกเธอ ว่าเขายังไม่ตาย หลังจากที่เธอช่วยเขาคิดการแก้แค้นนั้น เขาก็ทุกข์ทรมานละอายใจเป็นอย่างมาก เขาจะไม่ทำเรื่องเหมือนตอนนั้นให้เธอเป็นกังวลอีกแล้ว
เธอไม่มีทางที่จะทำเป็นไม่รู้เรื่องกับการที่โม่เสี่ยวจุนหายไป มองดูเขายิ้มจอมปลอมให้ทุกวัน เธอทำไม่ได้
“ขอโทษ หลิน ตอนที่ยังไม่ได้ยินข่าวว่าเขาปลอดภัย ฉันยิ้มไม่ออกจริงๆ ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับฉัน เชื่อว่าเสี่ยวจุนก็เป็นเหมือนกัน”
ความสัมพันธ์ลึกซึ้งมากจริงๆ!
คิ้วของเย่เชินหลินเลิกขึ้น สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ถึงจะควบคุมอารมณ์ไปจับเธอได้ อยากถามเธอว่าใครเป็นแรงกระตุ้นผู้ชายของเธอกันแน่
“ดีมาก” เขาพูดแค่สองคำ ก็เลื่อนสายตามองไปที่หน้าจอคอมพิวเตอร์เหมือนเดิม
คำพูดว่าดีมากที่ลอยมานี้ กลับทำให้สันหลังของเซี่ยชีหรั่นเย็นวาบ
เขาหมายความว่ายังไง? ไม่ใช่จะลงมือกลับโม่เสี่ยวจุนใช่ไหม?
เซี่ยชีหรั่นเดินกลับไปข้างเขาอีกครั้ง จิตใจไม่สงบ มองเขาอย่างเศร้ารันทดอีกครั้ง : “หลิน ฉันขอร้องคุณ อย่าทำร้ายเขา ได้ไหม? เขาไม่มีอำนาจคุกคามอะไรคุณเลย ฉันเคยพูดกับคุณแล้ว เขาเป็นแค่พี่ชายของฉัน คุณต่างหากคือคนที่ฉันรัก เขาเป็นแค่เด็กกำพร้า ตั้งแต่เล็กจนโตเกิดขึ้นมาไม่ง่ายเลย โดยเฉพาะไฟไหม้ครั้งนั้น เขาหนีรอดความตายมาได้……”

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset